การผลิตหนังสือเล่มนี้ถือเป็น One Man Show โดยแท้ เพราะนอกจากเจ้าของผลงานซึ่งเป็นอดีตช่างภาพแฟชั่นแมกกาซีนผู้หญิงชื่อดังในยุค 80 จะรับหน้าที่วาดภาพและเขียนเทกซ์ประกอบแล้ว ยังจัดอาร์ตเวิร์ก และเป็นบรรณาธิการเองด้วย สมกับที่นิยามตัวเองว่าเป็นนักผลิตหนังสืออิสระ
ความน่าสนใจของเล่มนี้ ไม่เพียงมีภาพวาดสีน้ำสวยๆ ให้ชมกันจุใจเท่านั้น ด้วยประสบการณ์ในวัยเกษียณของเจ้าของผลงาน ถ้อยคำที่ใช้ประกอบภาพจึงมีความลุ่มลึก และกลั่นกรองจากชีวิตที่ตกผลึก ส่วนตัวอ่านแล้วชวนให้คิดตาม และรู้สึกนึกชื่นชมมุมมองการมองโลกที่ไม่เพียงสร้างกำลังใจให้ตัวเองแต่ยังเติมพลังให้คนอ่านอีกด้วย
อย่างเช่น การเป็นผู้สูงอายุที่คนส่วนมากจะมองเป็นข้อจำกัดในชีวิต แต่เจ้าตัวกลับมองเป็นความได้เปรียบ ทั้งการมีเวลามากกว่าวัยอื่น มีจิตใจที่นิ่งสงบ มีสมาธิสูง และยังเป็นวัยที่ควรสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น อ่านแล้วอดรู้สึกไม่ได้ว่าช่างเป็นวัยเกษียณที่สำราญจริงๆ
พลิกหนังสือ
นี่คือบันทึกความทรงจำจากการเดินทางท่องโลก ถ่ายทอดผ่านภาพวาดสีน้ำที่ใช้เวลาวาดสะสมนานถึง 15 ปี พร้อมข้อเขียนจากประสบการณ์ชีวิตจริงที่ผ่านร้อนผ่านฝน (และผ่านหนาวบ้างเล็กน้อย) มาหลายฤดูของเจ้าของผลงาน
การผลิตหนังสือเล่มนี้ถือเป็น One Man Show โดยแท้ เพราะนอกจากเจ้าของผลงานซึ่งเป็นอดีตช่างภาพแฟชั่นแมกกาซีนผู้หญิงชื่อดังในยุค 80 จะรับหน้าที่วาดภาพและเขียนเทกซ์ประกอบแล้ว ยังจัดอาร์ตเวิร์ก และเป็นบรรณาธิการเองด้วย สมกับที่นิยามตัวเองว่าเป็นนักผลิตหนังสืออิสระ
ความน่าสนใจของเล่มนี้ ไม่เพียงมีภาพวาดสีน้ำสวยๆ ให้ชมกันจุใจเท่านั้น ด้วยประสบการณ์ในวัยเกษียณของเจ้าของผลงาน ถ้อยคำที่ใช้ประกอบภาพจึงมีความลุ่มลึก และกลั่นกรองจากชีวิตที่ตกผลึก ส่วนตัวอ่านแล้วชวนให้คิดตาม และรู้สึกนึกชื่นชมมุมมองการมองโลกที่ไม่เพียงสร้างกำลังใจให้ตัวเองแต่ยังเติมพลังให้คนอ่านอีกด้วย
อย่างเช่น การเป็นผู้สูงอายุที่คนส่วนมากจะมองเป็นข้อจำกัดในชีวิต แต่เจ้าตัวกลับมองเป็นความได้เปรียบ ทั้งการมีเวลามากกว่าวัยอื่น มีจิตใจที่นิ่งสงบ มีสมาธิสูง และยังเป็นวัยที่ควรสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น อ่านแล้วอดรู้สึกไม่ได้ว่าช่างเป็นวัยเกษียณที่สำราญจริงๆ