• Not too Virgin

แม้สภาพอากาศวันนี้ดูครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่ทันทีที่เรามาถึงยังสตูดิโอแห่งนี้กลับได้รับความสดใสจากรอยยิ้มและเสียงเจื้อยแจ้วจากผู้เป็นเจ้าของที่ออกมาทายทัก ก่อนเราจะเข้ามานั่งคุยกันแบบกึ่งจริงจังท่ามกลางผลงานออกแบบชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ทำจากเจสโมไนท์ (Jesmonite) เพื่อฟังทั้งสองเล่าถึงความคิดในวันริเริ่มธุรกิจ โดยมีเสียงฝนช่วงบ่ายเป็นซาวด์ประกอบ

“เราเรียนจบด้าน Communication Design เหมือนกันแต่คนละสถาบัน แล้วบังเอิญไปเจอกันครั้งแรกที่อังกฤษ ตอนนั้นต่างคนต่างไปเรียนต่อ แต่ที่ได้คุยกันจริงๆ จังๆ เพราะเพื่อนของพวกเรารู้จักกันก็เลยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น” ไอซ์เริ่มเล่าทวนความหลัง

เก้อธิบายเพิ่มว่า “มีอยู่วันหนึ่งที่เราไปเดินเล่นกัน แล้วเห็นเขากำลังทำเวิร์กชอปกันอยู่ เราก็เดินเข้าไปดู แต่ไม่ได้เข้าไปทำนะ ทีนี้กลับมาคืนนั้นเราก็ลองเสิร์ชหาชื่อคนที่สอนทำเวิร์กชอปพอเราเข้าไปดูงานของเขา เลยเห็นว่ามีชิ้นงานที่ทำจากวัสดุที่เรียกว่า ‘เจสโมไนท์’ เลยเข้าไปในเว็บไซต์เจสโมไนท์แล้วหาวิธีสั่งซื้อเลย แต่ประเด็นคือตอนนั้นชุดเล็กที่เขาขายมันหมดเราเลยต้องสั่งชุดใหญ่ 10 กิโลมา ก็เลยได้เริ่มลองทำและเรียนรู้ตัววัสดุ ตอนนั้นไม่รู้หรอกทำยังไง เปิดดูยูทูบทำตามที่เขาสอนไปเรื่อยๆ พอลองทำไปสักพักแล้วตัววัสดุเหลือเลยลองเปิดร้านขายในแฟลตฟอร์มออนไลน์ ปรากฏว่ามีคนซื้อ มีลูกค้ามาจากอเมริกาบ้างยุโรปบ้าง เราก็เลยเริ่มทำขายตั้งแต่ตอนนั้น”

เราสัมผัสร่องรอยความดีใจได้จากแววตา น้ำเสียง และรอยยิ้มขณะเล่า เมื่อความสนุกและความสนใจสามารถทำเงินได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เก้และไอซ์เริ่มคุยกันว่า อยากนำเจสโมไนท์กลับมาเป็นวัสดุทางเลือกเพื่อผลิตผลงานภายใต้แบรนด์ ‘นอททูเวอร์จิ้น’

• ทำไมต้องเจสโมไนท์

“ด้วยความที่ material ของเราล้วนผ่านการใช้งานมาแล้ว คือ มันไม่เวอร์จิ้น ก็เลยเป็น Concept ของชื่อ Not too Virgin Design Lab” มากกว่านั้นที่นี่ยังเป็น Design Lab ที่ศึกษาด้าน Material ทางเลือกใหม่ๆ ที่ดีกับโลกใบนี้มากขึ้นอีกด้วย

Not too Virgin จึงเลือกใช้วัสดุอย่าง ‘พลาสติกรีไซเคิล’ และ ‘เจสโมไนท์’ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าวัสดุใกล้เคียงอื่นๆ ในการสร้างสรรค์ดีไซน์ เพราะมีเป้าหมายที่จะนำเสนอวัสดุทางเลือก ให้ตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ งานทุกชิ้นจึงไม่เพียงคำนึงถึงความสวยงาม แต่ยังคำนึงถึงการใช้งานและสิ่งแวดล้อมร่วมด้วย นั่นคือสิ่งที่เก้และไอซ์ตั้งใจบอกกับเรา…หัวใจสำคัญของแบรนด์เองก็สะท้อนให้เห็นถึงจิตสำนึกและความรับผิดชอบของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างดี

“เราอยากให้คนอื่นๆ ได้ลองใช้ดูบ้าง ไม่ว่าจะคนที่อยากสตาร์ตธุรกิจใหม่ๆ หรือว่าเด็กมหาลัยที่กำลังทำโปรเจกต์กับวัสดุก่อสร้างอย่างคอนกรีต ซึ่งเรามองว่าพวกผงมันค่อนข้างเป็นอันตราย แล้วอย่างเราที่ทำงานอยู่ในห้องนอน เรารู้เลยว่าเราไม่สามารถอยู่กับสารเคมีได้” พวกเธอเล่าถึงเหตุผลหลักในการเลือกใช้ Material ทางเลือกที่แม้ราคาสูงกว่า แต่กลับคุ้มค่าหากเทียบกับผลกระทบระยะยาวด้านสุขภาพในอนาคต

ส่วนในมุมของการทำแบรนด์ทั้งสองบอกกับเราว่าด้วยความที่พวกเธอไม่ได้จบด้านโปรดักส์มาโดยตรง เลยอยากเน้นเรื่องของวัสดุเป็นสำคัญ

• ในความเรียบง่ายมีความสนุกซ่อนอยู่

ไม่นาน ชื่อของ Not too Virgin ก็เริ่มโดดเด่นเป็นที่รู้จักภายในระยะเวลาปีกว่า ทั้งยังได้เป็น Official Distributor ของ Jesmonite เจ้าแรกในไทย นั่นเพราะพวกเธอไม่เคยหยุดสร้างมาตรฐานให้ชิ้นงาน และสวมบทนักทดลองอยู่ตลอดเวลา

“แล้วอินสปายของแต่ละชิ้นงานมากจากอะไร” เราถามเพราะความเคยชินแม้รู้อยู่แล้วว่าในบางครั้งชิ้นงานก็ไม่ได้ผูกติดอยู่กับสิ่งอื่นเสมอไป บางคนก็ทำเพียงเพราะอยากทำ บ้างก็ทำเพราะขณะอยู่กับสิ่งนั้นช่วยให้มีสมาธิ บ้างก็ทำเพราะมันสนุกจนลืมความเครียดก่อนหน้าไปได้ชั่วครู่ สำหรับไอซ์และเก้เองดูจะเป็นอย่างหลังมากกว่า

“อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้มีความรู้เรื่อง Product Design ขนาดนั้น ทุกอย่างเลยดีไซน์มาจากความง่ายเพราะเราทำยากๆ ไม่เป็น ชิ้นงานของเราเลยไม่ได้ Maximal แบบสุดๆ หรือ Minimal แบบสุดๆ”

“แล้วอะไรคือความเป็น Not too Virgin” เราอยากรู้ว่าในมุมของคนทำงานพวกเธอนิยามการดีไซน์ข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้ว่ายังไง

“เรามีความเรียบแต่เราสนุก” เก้ตอบคล้อยจากที่เราถามแบบทันควัน

ส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์ขายดีและเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว คงเพราะทางแบรนด์รับผลิตชิ้นงานตามโจทย์ของลูกค้าเป็นส่วนใหญ่ “เราให้ลูกค้าดีไซน์เองได้เลย ว่าอยากได้สีอะไร รูปทรงแบบไหน บางคนอยากได้สีม่วงแบบตุ๊กตา Barny หรือสีเหลืองมะนาวเราก็ทำให้ได้”

จึงไม่สามารถฟันธงได้ว่าสไตล์ของ Not too Virgin เป็นแบบใดได้ เพราะพวกเขาได้รับโจทย์ใหม่ๆ จากลูกค้าอยู่เสมอ…ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว

ระหว่างรอเจสโมไนท์เซ็ตตัวในถาดพิมพ์ เราชวนทั้งสองคุยถึงมุมมองเรื่องความยั่งยืน เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่แบรนด์ให้ความสำคัญ

“เราพยายามทำในสิ่งที่เราทำได้…อะไรก็ตามที่รู้สึกว่าไม่เหนือบ่ากว่าแรง” ไอซ์ตอบ

เก้เสริมทันทีว่า “อีกอย่างอย่าไปมองว่าขยะไม่สวยงาม เพราะฝาขวดน้ำที่ไม่ใช้แล้วยังทำออกมาให้สวยได้ อย่างพลาสติกรีไซเคิลที่เราใช้ แผ่นเมตรคูณเมตรของเราก็เซฟฝาขวดไปได้หมื่นฝาเลยนะ แล้วเอาเข้าจริงก็ยังมีคนตั้งคำถามว่า เป็นขยะเป็นงานรีไซเคิลทำไมถึงราคาแพง” เธอพูดถึงปัญหาที่พบเจอบ่อยครั้ง ก่อนทิ้งท้ายคำตอบว่า ของเหล่านี้มีราคาสูงเพราะมันมีคุณค่า มันผ่านกระบวนการที่คำนึงถึงผลกระทบในอนาคตมาแล้ว อยากให้ทุกคนลองมองย้อนกลับไปถึงต้นทางการผลิตดูสักครั้ง

Not too Virgin ทำให้เราเห็นภาพว่าต่อไปการคิดถึงสิ่งแวดล้อมจะอยู่ในชีวิตประจำวัน แบรนด์เองก็ต้องคิดถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนใครที่สนใจอยากลองทำชิ้นงานดีไซน์จากวัสดุทางเลือกอย่างเจสโมไนท์ ทางแบรนด์มีเปิดกิจกรรมให้ได้ร่วมทำเวิร์กชอปอีกด้วย ติดตามได้จากแฟนเพจของพวกเขากันนะ