หลายคนวางแผนมาเยือนเมืองนี้ ในช่วงเทศกาลศิลปะปลุกเมือง Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ที่ลากยาวไปจนถึงปลายเดือนเมษายน 2024 สำหรับนักเดินทางผู้หลงใหลงานศิลปะคงต้องใช้เวลาวันทั้งวันไปกับการตามหาผลงานในแต่ละจุด
แต่ถ้าอยากรู้จัก สัมผัสเมืองนี้ให้มากขึ้น ขออาสาพาไปตระเวนพิกัดเหล่านี้ ที่พร้อมจะเติมเต็มวันดีๆ กว่าจะรู้ตัวอีกทีคุณอาจจะหลงรักเมืองเชียงรายจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
‘สวรรค์บนดิน’ ดึงดูดด้วยกลิ่นหอมกรุ่นแก่นแท้ของชาหลากชนิดคู่ไปกับการทดลองไม่รู้จบของ ‘โต-ชูเกียรติ เวสารัชชพงศ์’ เพราะอยากให้ทุกคนได้ชิมชาที่เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ ขอบอกเลยว่า สวรรค์แห่งนี้มีชาดีๆการันตีรางวัลระดับโลก เป็น ‘ศูนย์การเรียนรู้ขนาดย่อม’ ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน มีมุมนั่งจิบชา คู่กับขนมไอศครีมโฮมเมดกับวัตถุดิบคุณภาพ ที่ไม่ยอมทิ้งรสชาติความอร่อยและมีเวิร์กช็อปการออกแบบรสชาติชาแบบพิเศษๆ เรียกว่าหลากมิติ สมกับที่เชียงรายเป็นเมืองชาและกาแฟเลยหละ
เริ่มต้นวันดีๆ กับชาสดชื่นสักแก้ว เคล้าไปกับกลิ่นถ่านไม้ลิ้นจี่ กลิ่นชาป่า และเสียงลำธารฟังดูดีไม่น้อยบาร์ชาเก๋ๆ ของขลุ่ยและมิ้ล ที่ตั้งใจส่งต่อวัฒนธรรมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนเชียงรายและเชียงตุงแบบเเท้ๆ บวกกับอาหารพื้นเมืองในแบบสมัยใหม่ที่ผสมผสานแบบดั้งเดิมมาจากสูตรของคุณแม่แสงดาวชาวไตเขิน อาทิ ข้าวเส้นน้ำจ๋าง ข้าวเหลืองไก่อุ๊บโรตีอบโอ่ง ข้าวกั๊นจิ๊น ด้วยที่มาของร้านเริ่มต้นจากครอบครัวที่ทำชาป่าบ้านไซเชียงตุงเต็มไปด้วยสตอรี่ แว่วมาว่า เร็วๆ นี้กำลังจะเปิดให้บริการโซนรีสอร์ท พ่วงกับ Wellness Spa แพทย์แผนไทยและแพคเกจท่องเที่ยวแบบ Culture Tourism ใครชอบแนวนี้ปูเสื่อรอเลยจ้า พิกัดอยู่ริมถนนทางไปน้ำตกขุนกรณ์
ตื่นตาตื่นใจกับ House of Opium Museum พิพิธภัณฑ์บ้านฝิ่น ที่มี ‘รงค์ วงษ์สวรรค์’ นักเขียนดังในตำนานเป็นผู้ตั้งชื่อให้ แม้ว่ากว่า 30 ปีที่เปิดมาส่วนใหญ่ 98% ผู้เข้าชมคือนักเดินทางต่างชาติ คนไทยแค่ 2% แต่เราขอเทใจให้ทั้งร้อย เพราะ สัมผัสได้ถึงความตั้งใจในการสร้างมิวเซียมส่วนตัวนี้ขึ้นมาในเชียงแสน ยิ่งได้ฟังเรื่องเล่าจากเจ้าของเองทั้งป้าพัชรีและคุณโอ๊ค ลูกชายที่พยายามอธิบาย วัฒนธรรมสูบฝิ่นเกร็ดความรู้และการเดินทางของฝิ่นที่เข้ามาสู่พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำกับเรื่องลับๆ ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน บางเรื่องถึงกับอึ้งอยู่เหมือนกัน
เวลาเจอสเปซที่ถูกใจก็อยากใช้เวลาในพื้นที่นั้นให้นานขึ้น ทั้งๆ ที่คาเฟ่นี้อาจเป็นเพียงจุดแวะพักระหว่างทางของใครบางคน ตั้งอยู่ในอำเภอเวียงป่าเป้า ถึงจะไม่ใช่คาเฟ่ใหม่เอี่ยมแต่คาแรกเตอร์ชัด นั่งสบายทุกมุม ตู้ไม้กรุกระจกเรียงรายข้าวของกระจุกกระจิก มีงานอาร์ต ของสะสม งานศิลปะ เซรามิก สคัลเจอร์ (บางชิ้นก็ขายด้วยถ้าคุณแอบมีใจให้) ส่วนเครื่องดื่มก็ไม่ธรรมดา พิถีพิถันสุดๆ ในการเลือกวัตถุดิบ พร้อมเบเกอรี่โฮมเมดและอาหารจานเดียวให้เลือกเน้นใช้ผักปลอดสารปลูกเองมาใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุง ผ่านมาผ่านไปแวะเถอะไม่ผิดหวัง
ในงานไทยแลนด์เบียนนาเล่ เชียงราย 2023 ถ้าใครได้ไปไร่เชิญตะวันจะเห็นประติมากรรมที่คนเดินทะลุได้ ในชื่อ “นิพพานเมืองแก้ว” กับ 4 เสาสื่ออริยสัจ 4 วิธีดับทุกข์ในพุทธศาสนา ผลงานของ “ชาตะ ใหม่วงค์” ศิลปินผู้สร้างสรรค์ศิลปะคืนชีวิตให้เศษไม้ทุกชนิดได้อย่างหน้าทึ่ง ถ้าอยากรู้จักเขามากขึ้นแนะนำให้ลองแวะไปที่ ‘ควายดินดาก อาร์ทเฮ้าส์’ อาณาจักรที่เป็นทั้งบ้าน คาเฟ่ แกลเลอรี่ พื้นที่เวิร์กชอปสำหรับคนรักงานศิลปะ นอกจากจะได้นั่งพักชิลๆ ชมผลงานอาจารย์แล้ว แบ่งเวลาไถฟีดในมือถือมาลองทำงานศิลปะเล็กๆ น้อยๆ สักชิ้นก็น่าภูมิใจดีนะ
เปิดมาแค่ชื่อก็ทัชใจแล้วที่ คอฟฟี่แอนด์อาร์ตสเปซใหม่ถอดด้ามย่านบ้านดู่ บรรยากาศดิบเท่ด้วยโครงสร้างอาคารกรุด้วยแผ่นโปร่งแสง เชื่อมต่อกับพื้นที่เอาท์ดอร์ใต้ร่มไม้ รายล้อมด้วยงานศิลปะชวนถ่ายรูปได้ทุกมุม เหมาะนั่งล้อมวงคุย นั่งมีทติ้ง พักผ่อนคลาย เล่นเกมส์ มีบางมุมชวนเพื่อนๆ เข้าได้มาจอยฝากข้อความฝากผลงานร่วมกัน เติมพลังกับเครื่องดื่มเย็นสดชื่น มีขนมให้เลือก ทีเด็ดน่าจะเป็นครัวซองต์เนยรูปทรงสี่เหลี่ยมทวิสต์ ผิวครัวซองต์เป็นสีเหลืองทอง ผสานรสชาติกับไส้ครีมเห็ด หอมกลิ่นทรัฟเฟิลโชยมาแต่ไกล สายหวานดาร์คช็อกบราวนี่ท็อปด้วยไวท์ช็อค กลิ่นชาเขียวก็น่าลอง
หนึ่งในบาร์ค็อกเทลสุดคลาสสิกในย่านไนท์บาร์ซาร์ข้างพีดีทัวร์ ทางเข้าโรมแรมวังคำ(ฝั่งป้ายใหญ่สีน้ำเงิน) ติดกับเอดิสันเก่า จุดนัดพบยามค่ำคืนสายดื่มต้องเช็กอิน แน่นอนว่าที่นี่เสิร์ฟความสร้างสรรค์ มีค็อกเทลประจำเดือนให้ได้ลิ้มลอง เช่น ค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประเพณี ‘ยี่เป็ง’ นำเสนอเครื่องดื่มที่มีกลิ่นอายของความเป็นไทย ความหอมได้มาจากน้ำมะพร้าวและกลิ่นหอมอ่อนๆ จากใบเตย สีม่วงอมน้ำเงินที่สวยงามตามธรรมชาติจากดอกอัญชัน เหมาะสำหรับใครที่ชื่นชอบค็อกเทลที่ดื่มง่าย รสชาติหอมหวาน ปล่อยใจปล่อยจอยไปกับจังหวะราตรีของเมืองเชียงราย
โรงแรมที่เดินผ่านแล้วต้องแอบขอเข้าไปอินสเปก ดีไซน์ที่ช่วยแต่งแต้มหลังกำแพงอิฐกลางเมืองโบราณเชียงแสนให้กิ๊บเก๋เพิ่มขึ้นเป็นกอง ยกความดีทั้งหมดให้กับสถาปนิกที่เข้าใจออกแบบให้ทุกอย่างกลมกลืนกับพื้นที่ ที่ตั้งของโรงแรมซึ่งอยู่ในทำเลที่หันเข้าหาด้านหน้าของวัดอาทิต้นแก้ววัดโบราณ เป็นการจัดการความน้อยที่ได้คุณภาพทั้งห้องพัก ล็อบบี้ ห้องอาหารขนาดกะทัดรัด มีตัวเลือกพูลวิลล่าบ้านไม้ที่ตกแต่งแบบโมเดิร์นล้านนาเชียงแสน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว แจมกิจกรรมต่างๆ กับชุมชนได้ด้วย เช่น พิมพ์ผ้าเฮือนตั๋วเปิ้ง นวดแบบล้านนาดั้งเดิม ล่องเรือแม่น้ำโขงชมวิถีชีวิต 3 ประเทศ ฯลฯ
ร้านอาหารท้องถิ่นเสมือนห้องต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองขนานแท้ บรรยากาศรัสติก เสิร์ฟเมนูท้องถิ่นที่ได้รับการยกระดับจัดใส่ภาชะและนำเสนอผ่านพรีเซนเทชั่นสุดปราณีต ไม่ว่าจะชุดขันโตกกับความครีเอทีฟของคุณน้ำผึ้งและทีมงาน จานฟิวชั่นประดับด้วยดอกไม้สุดเก๋ เน้นใช้วัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาล รสชาติก็ไม่เป็นรอง ใส่ใจเรื่องบริการสุดๆ อยากลองแวะไปได้ตัวร้านแทรกตัวอยู่ด้วยกันกับ ‘ขัวะศิลปะ’ จุดนัดพบศิลปินของเมืองนี้
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมคนต่างชาติและต่างถิ่นจึงลงทุนบินมานั่งกินอาหารเหนือล้านนาในเวลา 2.5 ชั่วโมงแล้วบินกลับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นยังไม่เท่าการได้ลองไปสัมผัสด้วยตนเอง ชวนไปชิมอาหารเหนือร่วมสมัยในแบบของ เชฟก้อง – ก้องวุฒิ ชัยวงศ์ขจร ก่อนไปอย่าลืมจองและสำรองที่นั่งล่วงหน้านะ ปีนี้เปิดให้จองคอร์สแล้วในรูปแบบ Poralis 2024 กับ ‘11 coursestasting menus’ อาหารร่วมสมัยที่เข้าใจง่าย มีเกร็ดสาระน่ารู้แทรกไว้ตลอดทั้งคอร์ส พิเศษสุดๆ เสิร์ฟพร้อมภาชนะถ้วยชามเซรามิกจากอาจารย์สมลักษณ์ ดอยดินแดง แก้วไวน์ทำมือจากออสเตรียพร้อมขบวนไวน์ลิสต์มากกว่า 120 ฉลาก
สำรองและจ่ายเงินเพื่อยืนยันการจองด้วยตัวเองได้ทั้งหมดทาง www.locusnativefoodlab.com
นี่คือความคลาสสิกที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นของแท้กับตำนานร้านซีเปียวพาณิชย์ ร้านเบเกอรี่เก่าแก่แห่งแรกๆ บนถนนธนาลัย ทายาทรุ่นหลานทั้ง ‘ใบยา’ ‘ใบตอง’ ‘ใบไผ่’ 3 พี่น้องพากันกลับบ้านชุบชีวิตธุรกิจคาเฟ่ บรรยากาศร้านเดิมๆ เพิ่มเติมด้วยโต๊ะอาหารปูผ้าลายสวยราวๆ 5-6 โต๊ะ ที่ช่างเข้ากันเหลือเกินกับอาคารไม้เก่าแก่ นำเสนอคอนเซ็ปต์ร้านอาหารเช้าเลยเถิดไปยามสาย มีเมนูที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ทั้งไข่กระทะเสิร์ฟกับน้ำมันซอสพริก ขนมปังโฮมเมด ไข่กระทะชักชูกา โยเกิร์ตผลไม้เสิร์ฟกับกราโนล่าทำเอง ราดน้ำผึ้งธรรมชาติ ฯลฯ สารพัดเครื่องดื่มร้อน-เย็น มีโดนัทอบเชย คุกกี้เนยสด ฟรุตเค้กเหล้ารัม เค้กคัสตาร์ด ชวนซื้อกลับติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย
ไหนใครมองหาความสงบอยู่บ้างยกมือขึ้น ถ้าเชื่อว่าธรรมชาติสามารถบำบัดความเหนื่อยล้าได้ เชื่อว่าต้นไม้ ใบหญ้า แสงแดดและสายลมมีชีวิต เราขออาสาพาไปทำความรู้จักกับ Akano (อะ-คะ-โน ที่หมายถึง “สักครู่” ในภาษาอาข่า) บ้านพักตากอากาศ 4 หลังสไตล์เซน ท่ามกลางบรรยากาศสวนกาแฟและแมคคาเดเมียบนดอยช้าง ตื่นขึ้นมาชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าและร่ำลาแสงอาทิตย์ตกยามเย็น โอบกอดด้วยภูเขาและสายลม เพราะที่นี่ยึดคอนเซ็ปต์ที่ว่า “เพราะที่นี่เราไม่รีบ ไม่เร่ง มีเวลาให้ตัวเอง”
ต้องขับรถลัดเลาะเข้าไปผ่านทางเล็กๆ ของหมู่บ้าน ผ่านนาข้าว ผ่านไร่สับปะรดจนมาถึง ร้านกาแฟเล็กๆ แห่งบ้านนางแล ใครชอบงานออกแบบต้องว้าว โครงสร้างที่เรียบง่ายน้อยแต่มาก ล้อมร้านด้วยบานเกล็ดไม้กลมกลืนกับสถาปัตกรรมพื้นถิ่น มีที่นั่งให้เลือกชั้นล่างและชั้นสองเปิดโล่ง ไฮไลท์เครื่องดื่มและขนมก็ไม่น้อยหน้า เน้นเสิร์ฟเมนูกาแฟสับปะรดนางแลเครื่องดื่มขึ้นชื่อจากวัตถุดิบในชุมชน และหลายเมนูที่ทำจากสับปะรดสดใหม่ อาทิเช่น น้ำสับปะรดสกัดเย็น ชีสเค้ก และทาร์ตสับปะรดเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน
ที่พักวิวดีชวนสัมผัสถึงบรรยากาศเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ ใครที่กำลังมองหาพื้นที่ส่วนตัว ชาร์จแบตเติมพลัง เลือกได้ว่าอยากจะพัก The BC2 Glamping zone เต็นท์กระโจมขาวที่มี 3 เต็นท์ (ห้องน้ำส่วนตัว) หรือจะพัก The BC2 Cottage’s บ้านพักระท่อมแบบอาข่าประยุกต์ที่มีอยู่ 4 หลัง ดื่มด่ำไปกับความเป็นธรรมชาติ ยามเช้าจะมีอะไรดีไปกว่าตื่นมาสูดอากาศดีๆ เริ่มต้นวันด้วยการชงกาแฟร้อนๆ เคล้าไปกับวิวตรงหน้า ขี้เกียจออกไปไหน ที่นี่ก็มีบริการอาหารเช้าเย็นและมีข้าวปุ๊กเสิร์ฟด้วยนะ
เคยให้รางวัลตัวเองบ้างไหมหลังจากเนื่อยมาทั้งปี ถ้ายังคิดไม่ออก ขอแนะนำ Bala villa ที่พักสไตล์ glamping 5 ดาว วางตัวอยู่บนสันเขาที่ระดับความสูง 1,200 เมตร อากาศหนาวตลอดทั้งปี ทั้ง 10 หลัง แฝงตัวอย่างกลมกลืนและเป็นส่วนตัวบนพื้นที่ 15 ไร่ มีหลาย Type เหมาะทั้งพักเดี่ยว Work from anywhere พักคู่ฟีลแฟน ฟีลครอบครัวสุขสันต์ หรือจะมากับกลุ่มเพื่อนสนิท จัดเต็มทั้ง afternoon tea มื้อเช้า มื้อเย็นสุดหรูปิ้งยางบนกองไฟ มีจุดแลนด์มาร์คสุดชิคกับมุมถ่ายรูปกับเปียโนสีขาวนวลท่ามกลางหมอกขาว แถมยังเป็น Pet friendly ด้วย
บ้านฝรั่งกลางเวียงเชียงราย มีเก๊าไม้ใหญ่ปกคลุมแสนร่มรื่น เคยผ่านร้อนผ่านหนาวจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวมาหลายครั้ง อดีตเคยเป็นบ้านพักของมิชชันนารี ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้นานนับ 10 ปี แต่คนรุ่นหลังรู้จักในชื่อ “บ้านสิงหไคล” ได้รับการบูรณะใหม่ให้เป็นที่ตั้งของมูลนิธิมดชนะภัย พื้นที่ส่งเสริมงานศิลปะทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามวาระ เป็นแกลเลอรีศิลปะ สตูดิโอออกแบบ บ้างครั้งก็มีจัดเวิร์กช็อป มีร้านกาแฟบ้านมดอยู่ด้านหน้าทางเข้า เปิดต้อนรับให้แวะมานั่งชิล นั่งพัก นั่งคุยงานอย่างกันเอง
หนีความวุ่นวายจากตัวเมืองขยับออกมาอำเภอแม่จัน แถวๆ ตีนดอยแม่สลอง บนพื้นที่ 85 ไร่ รายล้อมด้วยผืนนา ป่ายาง พื้นที่เลี้ยงสัตว์ กับฟาร์มสเตย์มีบ้านพักแค่ 3- 4 หลังที่เริ่มมาจากกองไม้เก่าๆ จากบ้านโน้นบ้านนั้น จากร้านไม้เก่า ผ่านความคิดของผู้เป็นเจ้าของที่ไม่อยากตัดไม้ใหม่ ใช้เทคนิคโบราณเพื่อทำบ้านขึ้นใหม่เสนอความเป็นอยู่แบบชาวบ้านตามมาตรฐานโรงแรม ชวนเสพย์ความสงบวิถีความเรียบง่ายบ้านๆ ได้ลองเก็บผัก ทำนา มีศาลาเป็นเซ็นเตอร์จุดเรียนรู้การทำอาหาร ทำกับข้าวกินเอง เอาจริงๆ หลายกิจกรรมชวนคิดถึงอดีต ดีต่อใจอยู่เหมือนกันนะ
ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แม้แต่ทายาทเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจากโรงเรียนเตรียมอนุบาลศรีพันธุ์ของคุณย่า วันหนึ่งจะถูกแปลงโฉมเป็น‘บ้านนอนเพลิน’ ที่พักครึ่งปูนครึ่งไม้ขนาดกะทัดรัดใจกลางเมืองที่นักเดินทางอยากจะพักนอนสักครั้งเพราะแอบเบื่อโรงแรมแพทเทิร์นเดิมๆ ห้องนอนแบ่งเป็นสัดส่วนทั้งชั้นบนและชั้นล่างของบ้าน มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับวางขนม เครื่องดื่ม มีมุมโต๊ะนั่งกลางบ้าน และใต้ร่มสวน ตอนเช้าใครอยากจิบกาแฟอุ่นๆ เดินออกมาไม่ถึงสิบเก้า เจอคาเฟ่ ‘Laan-Tim’s Cafe’ & Gallery’ พร้อมเปิดเครื่องชงเสิร์ฟให้เพราะอยู่ในรั้วเดียวกัน
คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่มีองค์ประกอบของบ้านเก่าร้อยปี มอบประสบการณ์ทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ ขนมเค้กและบรรยากาศในคอนเซ็ปต์ ‘Healthy and organic concept’ เผลอแพ้บเดียวร้านย่างเข้าปีที่ 4 แล้ว ตั้งใจเลือกวัตถุดิบคุณภาพทั้งชาเบลนด์และชามัทฉะที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มีเมล็ดกาแฟหลาย Process เบลนด์เมล็ดกาแฟในโปรไฟล์ที่ลึกขึ้นให้มีบอดี้เหมาะสำหรับเมนูกาแฟสูตร เอาเป็นว่า ถ้ากำลังมองหากาแฟแก้วแรกของวัน หรือชาเขียวดีๆ สักแก้ว พร้อมยกกระดกแบบไม่เร่ง ลองแวะมา ไม่ผิดหวังแน่นอน
ใครที่หลงรักงานไม้ต้องมา เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงปีแต่ดีเทลอย่างเนี้ยบ คาเฟ่ร่วมสมัยที่สร้างจากไม้เก่าทั้งหลังเอามารียูส ฝีมือการออกแบบของ ‘เก่ง’ ผู้เป็นเจ้าของที่ตั้งใจสุดๆ ทุกเม็ด รวมถึงงานคราฟท์จากไม้และเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดในร้านที่มาจากฝีมือช่างไม้ในตำนานของเชียงราย โต๊ะ ตู้ เก้าอี้ ม้านั่งกับงานทำมือพร้อมขายทุกชิ้น ส่วนเครื่องดื่มใช้กาแฟจากดอยช้าง ปางขอน และแม่จันใต้ มีทั้ง Speed Barแว่วมาว่า ใช้เครื่องชงกาแฟ Black Eagle Maverick ของ Victoria Arduinoซึ่งเป็นเครื่องเดียวกับที่ใช้แข่งขันการประกวด World Barista ปี 2023 และเป็นเครื่องแรกในจังหวัดเชียงรายอีกด้วย ส่วนใครที่ชอบสโลว์บาร์ก็มีให้ลิ้มลอง
สตูดิโองานคราฟท์สุดคิ้วท์ พร้อมต้อนรับทุกคนที่สนใจอยากลงมือทำงานศิลปะด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นเพนท์ติ้งบนแคนวาส หรือจะลองปั้นดินเซรามิกที่ขึ้นรูปด้วยมือแบบต่างๆ ทั้ง Hand Forming ทาน้ำดินสี ปั้นดินปั๊มลายดอกไม้ เพ้นท์สีใต้เคลือบเซรามิกก็มีคอร์สให้เลือก ไม่ว่าจะวัยไหน ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็ลงมือทำได้ แค่มีใจก็พอ ถ้าสนใจแนะนำให้จองคอร์สล่วงหน้านะ
กิ๊บเก๋เซย์กู้ดกับไวบ์ของคาเฟ่ที่มาจากอาคารคริสจักรเก่า สู่การรีโนเวตใหม่กลิ่นอาย Farmhouse แบบร่วมสมัยอีกความรื่นรมย์ริมแม่น้ำกก ที่ทำเอาลืมไปเลยว่านี่เรานั่งชิลอยู่ที่เชียงราย เต็มไปด้วยลูกเล่นและดีไซน์โค้งสร้างมิติ มุมหนึ่งคือ ไฮไลท์น้ำพุสุดจึ้งได้รับแรงบันดาลใจมาจากมุมหนึ่งของสนามบินชางงี สิงคโปร์ มีที่นั่งทั้งโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์ แถมยังเป็น Pet Friendly ด้วย พร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารพื้นเมืองข้าวซอยไก่ ลาบหมูคั่วและเมนูจานเดียวแบบฟิวชั่น ส่วนเครื่องดื่มหลากหลาย เหล่าบาริสต้าพร้อมครีเอทเมนูให้เลือก มีส่วนผสมของกาแฟ และเมนูที่เป็น non-coffee สุดคูล
พาออกมาต่างอำเภอบ้าง ซ่อนตัวอยู่ในอำเภอพาน รอยต่อเชียงรายไปจังหวัดพะเยา Daynin อ่านว่าเดย์นิน ถ้าพูดเร็วๆ ก็กลาบเป็น ดิน โฮมคาเฟ่บนต้นไม้ที่มีกาแฟให้จิบ มีพิซซ่าเตาถ่านทำแบบโฮมเมดร้อนๆ หลายหน้าให้เลือกแป้งบาง กรอบ ชีสเยิ้มๆ มีมุมนักพักกายพักใจท่ามกลางสวนเขียวร่มรื่น กาแฟดี เบเกอรี่ทำเองอร่อยหมุนเวียนไปแต่ละวัน และยังเป็นสตูดิโองานคราฟท์เซรามิกด้วย ขับรถผ่านมาทางนี้อย่าลืมแวะ