K-Experience Your Way เมื่อการเที่ยวเกาหลีไม่ใช่แค่เช็กลิสต์

พาไปสำรวจเทรนด์เที่ยวเกาหลีแบบ Solo Travel เมื่อคนไทยชอบออกแบบทริปด้วยตัวเอง…

เมื่อเกาหลีใต้ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของผู้คนเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็น Lifestyle Destination ที่ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการประสบการณ์ที่มีความหมาย เป็นตัวของตัวเอง ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถนำกลับมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ การเดินทางแบบอิสระไปเกาหลีใต้จึงไม่ใช่แค่ทริป แต่ยังเป็นช่วงเวลาดีๆ สำหรับการพัฒนาตัวเอง ผ่านประสบการณ์ที่หลากหลายด้วย…

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่หลงรักวัฒนธรรมเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น K-pop, K-drama หรือ K-beauty คุณไม่ได้เป็นคนเดียว เพราะตัวเลขล่าสุดเผยว่า นักท่องเที่ยวไทยไปเกาหลีกว่า 323,000 คน ในปี 2567 และที่น่าสนใจคือ 82% ของพวกเขาเลือกที่จะออกแบบการเดินทางด้วยตัวเอง แทนที่จะไปทัวร์แบบเดิมๆ

เมื่อความเป็นตัวของตัวเองคือคำตอบ คนรุ่นใหม่ยุคนี้ต้องการประสบการณ์ที่ตรงกับความสนใจเฉพาะตัว ไม่อยากถูกจำกัดด้วยกำหนดการทัวร์ที่ตายตัว พวกเขาอยากเลือกสิ่งที่ชอบ กินที่อยากกิน ไปที่อยากไป ใช้เวลาตามที่ใจต้องการ และการเดินทางแบบอิสระทำให้สามารถ ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าการเดินทางแบบรีบเร่งตามกรุ๊ปทัวร์ ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางได้ตามสถานการณ์จริง

4 เสน่ห์หลักที่ดึงดูดใจคนไทยไปเกาหลี

1. K-pop Culture : มากกว่าแค่ฟังเพลง
ไม่ใช่แค่ไปดูคอนเสิร์ต แต่คือการเดินทางไปยังบ้านเกิดของไอดอลที่ชอบ เยี่ยมชมสถานที่สำคัญในชีวิตพวกเขา หรือแม้แต่ไปเรียนเต้นที่ Dance Studio เดียวกับที่ไอดอลเคยฝึก

2. K-drama Pilgrimage : เดินตามรอยละครโปรด
จากซีรีย์ดังอย่าง “Crash Landing on You” หรือ “Squid Game” ที่ทำให้สถานที่ถ่ายทำกลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของแฟนละคร การได้ยืนในจุดเดียวกับที่นักแสดงคนโปรดเคยยืน คือความสุขที่เหนือคำบรรยาย

3. K-beauty Experience : ดูแลตัวเองแบบสาวเกาหลี
ตั้งแต่การทำ Personal Color เพื่อหาสีที่เหมาะกับตัวเอง ไปจนถึงการเข้ารับบริการสกินแคร์ระดับคลินิก ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกพิเศษและดูแลตัวเองได้อย่างครบครัน

4. K-food Adventure : ล่าของอร่อยตามภูมิภาค
ไม่ใช่แค่กิมจิกับบูลโกกิ แต่คือการไปลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่แต่ละภูมิภาคมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างจอนจูที่เป็นเมืองแห่งอาหารดั้งเดิม หรือปูซานที่มีซีฟู้ดสดใหม่จากทะเล

นอกจากโซลจะยังเป็นจุดหมายหลักแต่เทรนด์ใหม่คือการขยายไปยังเมืองรองที่มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน เช่น ปูซาน เชจู แทกู และอุลซัน

ข้อมูลล่าสุด เผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนไทยในเกาหลี โดย Beauty & Wellness ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของการใช้จ่าย โดยเฉพาะการเข้ารับบริการคลินิกเสริมความงาม รองลงมาคือช้อปปิง โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าและแฟชั่น ทำให้ผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ เติบโตมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับปีก่อน สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยไม่ได้ไปเกาหลีเพื่อแค่ท่องเที่ยว แต่เพื่อลงทุนกับตัวเอง และสร้างประสบการณ์ที่จะนำกลับมาใช้ในชีวิตประจำวันผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีศึกษาชี้ให้เห็นว่า เกาหลีใช้ “ซอฟต์พาวเวอร์” ของตนเองอย่างชาญฉลาด ผ่านอุตสาหกรรมความบันเทิง อาหาร และความงาม ที่เชื่อมโยงไปสู่การท่องเที่ยวและการศึกษา ดังนั้น การท่องเที่ยวจึงกลายเป็นวิธีการเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีที่เห็นภาพชัดเจนที่สุด ทำให้หลายคนตัดสินใจเรียนภาษาเกาหลี หรือแม้กระทั่งไปศึกษาต่อที่เกาหลี

สำหรับเทรนด์ใหม่ซึ่งเป็นการเดินทางแบบ “Experience-Focused” คนไทยรุ่นใหม่ไม่ได้อยากไปแค่ถ่าย เช็กอิน แล้วกลับ แต่ต้องการประสบการณ์ที่สามารถเล่าต่อได้ และเทรนด์การเดินทางแบบ DIY (Do It Yourself) ทำให้เกิดแพ็กเกจใหม่ๆ ที่ให้ความยืดหยุ่น เช่น แพ็กเกจประสบการณ์ที่สามารถเลือกกิจกรรมได้ตามใจชอบ อาทิ

• ประสบการณ์ทำน้ำหอมบุกชอนฮันอก
• Painters Show งานแสดงศิลปะสุดตระการตาที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก
• KPOP K town4u K-pop Vocal Class 1 วัน + ประสบการณ์ถ่ายวิดีโอ
• ทัวร์เดินชมตลาดแบบดั้งเดิมของโซลและทำอาหารเกาหลีกับ Class OME Cooking Lab
• สัมผัสสปาแลนด์ เซ็นทัมซิตี โรงอาบน้ำสไตล์เกาหลีสุดหรูหรา
• นั่งรถไฟ Sky Capsule (รถไฟปุ๊กปิ๊ก) สาย Haeundae Blue Line Park รถไฟลอยฟ้าที่ให้คุณชมวิวเมืองปูซานเลียบชายทะเลจากมิโปถึงซองจอง
• สำรวจ “LunaFall” ในซอกวิโพ เกาะเชจู สวนสนุกกลางแจ้งที่มีธีมศิลปะสื่อที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดวงจันทร์และความปรารถนา ฯลฯ