อินบาวด์ไทยฟื้นตัวแรง

นอกจากกรุงเทพฯ จะเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของโลกของนักเดินทาง Airbnb ในไตรมาส 3 ปีที่แล้ว และติดอันดับ 5 เมืองท่องเที่ยวระดับโลกบนแพลตฟอร์มการจองห้องพักออนไลน์ชื่อดังในปีนี้ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมายังเห็นการฟื้นตัวครั้งสำคัญของตลาดอินบาวด์ในประเทศอย่างชัดเจน

อมันพรีท บาจาจ ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฮ่องกง และไต้หวัน ของ Airbnb บอกว่า นักเดินทางจากทั่วโลกต่างก็ตื่นเต้นมากขึ้นที่จะได้สัมผัสกับภูมิประเทศ ทางธรรมชาติอันสวยงามของประเทศไทย มรดกทางวัฒนธรรม อาหารท้องถิ่นแสนอร่อย การบริการและต้อนรับอันอบอุ่นระดับโลก ซึ่งเป็นพลังสำคัญอย่างยิ่งในการกระตุ้น และส่งสัญญาณการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง

ยืนยันได้จากข้อมูลจาก Airbnb ระบุว่า จำนวนคืนของการจองที่พัก (Nights Booked) บน Airbnb ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าหรือเกือบ 240% ในปี 2022 เมื่อเทียบกับปี 2020

นับเป็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างแข็งแรง โดยมีกรุงเทพฯ เป็นเดสทิเนชั่นในไทยที่มีการจองที่พักมากที่สุด (2022) ตามด้วยเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ และเกาะสมุย ในจำนวนนี้นักเดินทางจากสหรัฐคืออันดับต้นๆ ที่เดินทางเข้ามาในปีที่ผ่านมา รองลงมาคือสหราชอาณาจักร ยุโรป และประเทศในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและจีน

โดยเฉพาะประเทศหลังสุด ถือเป็นแรงกระเพื่อมสำคัญของตลาดอินบาวด์ เพราะภายใน 24 ช.ม.หลังรัฐบาลจีนประกาศยกเลิกข้อกำหนดการกักตัวขาเข้าเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2022 ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางต่างประเทศยอดนิยมอันดับ 1 ที่ชาวจีนค้นหามากที่สุดบน Airbnb และคาดว่าจะยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องในปีนี้

เทรนด์เที่ยวแบบกลุ่มโต

ปีที่แล้วการเดินทางคนเดียว (Solo Travel) ถือเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่โดดเด่นอย่างชัดเจน แต่ในปี 2023 การจองแบบกลุ่มและความต้องการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กลายเป็นเทรนด์การเดินทางที่น่าจับตามอง

จากรายงาน Airbnb พบว่า หลังวิกฤตโควิด-19 ผู้คนจำนวนมากเดินทางเพื่อสานสัมพันธ์กับเพื่อน คนรัก และครอบครัว ทำให้การเดินทางแบบกลุ่มสู่ประเทศไทยด้วย Airbnb เพิ่มขึ้นประมาณ 300% ในปี 2022 เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่ Family Travel บน Airbnb ทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 60%

นอกจากความต้องการสร้างความสัมพันธ์ พวกเขามองถึงความคุ้มค่าและพื้นที่ใช้สอย เนื่องจากกว่า 90% ของที่พักบน Airbnb เป็นที่พักที่มีห้องครัว และ 25% ระบุว่า มี 3 ห้องนอน หรือมากกว่านั้น และอีกกว่า 1 ล้านแห่งระบุว่า มีเปลสำหรับเด็กเล็ก

ในขณะที่การท่องเที่ยวคนเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตมากกว่า 2.6 เท่า การท่องเที่ยวแบบกลุ่ม (Group Travel) เติบโตมากกว่า 3 เท่า ในปี 2022 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ถือเป็นข่าวดีสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งหลาย

เน้นพักระยะยาว

ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวแบบกลุ่มเท่านั้นที่เติบโต ผลการสำรวจจากหลายสำนักยังชี้ตรงกันว่า พฤติกรรมของนักเดินทางในปีนี้จะพักในระยะยาวมากขึ้น เนื่องจากความคล่องตัวในการทำงานและการเดินทางมากขึ้น

ในปี 2022 ระยะเวลาการเข้าพักบนแพลตฟอร์ม Airbnb ในประเทศไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 คืน และเข้าพักระยะยาวมากกว่า 28 วัน เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบเป็นปีต่อปี

แรงจูงใจมากที่สุดสำหรับการเดินทางระยะยาวน่าจะเป็นเรื่องของเวลาที่เสียไปกับการไม่ได้เดินทางในปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับโอกาสในการเดินทางสำหรับคนทำงานทางไกล หรือ Digital Nomad ซึ่งเมื่อต้นปีแพลตฟอร์มชื่อดังนี้ได้ร่วมกับ ททท. เปิดตัวคู่มือดิจิทัล Live and Work Anywhere เพื่อสนับสนุนการเติบโตของนักเดินทางกลุ่มนี้ในประเทศไทย รวมถึงความคุ้มค่าในเรื่องค่าใช้จ่ายการเดินทาง

ข้อมูลล่าสุดของ Airbnb ยังบอกว่า การเดินทางท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฟื้นตัวแรง พร้อมสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับทุกชุมชนในแต่ละประเทศ เมื่อดูจากจำนวนคืนของการจองที่พักบน Airbnb ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจาก 3 ปีก่อนถึง 2 เท่า

หนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม คือ ทริปสิงคโปร์ – ไทย ที่กำลังอยู่ในความสนใจของนักเดินทางชาวสิงคโปร์ ส่วนคนไทยไปเที่ยวเกาหลีใต้มากที่สุด ตามด้วย สหรัฐ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และญี่ปุ่นตามลำดับ โดยเมืองที่ชาวไทยได้มีการจองที่พักมากที่สุด ได้แก่ โซล ลอนดอน ปารีส เมลเบิร์น และนิวยอร์ก

นับเป็นสัญญาณที่ดีว่าอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังกลับสู่เส้นทางอีกครั้ง และ UNWTO คาดว่า ปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะสูงถึง 80- 95% ของระดับก่อนโควิด-19 ระบาดเมื่อปี 2019 แต่สิ่งสำคัญคือการเป็นเจ้าบ้านที่ดี หากมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดี นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเยือนไทยเกินเป้าหมายที่วางไว้แน่นอน