เมื่อหนังไทยกลายเป็น Soft Power – 4 มุมมองสำคัญจาก BKKIFF 2025 ที่คนวงการต้องรู้
หนังไทยวันนี้ไม่ได้แค่ทำให้เราหัวเราะ ร้องไห้ หรือหลับในโรง แต่มันกำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศ และในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ 2025 เราได้เห็นภาพชัดขึ้นว่า… อนาคตของวงการหนังไทยกำลังจะไปทางไหน เทศกาลฯ ปีนี้ไม่ใช่แค่เวทีฉายหนังดีจากทั่วโลก แต่ยังเปิดพื้นที่สำคัญให้ร่วมถกอนาคตของวงการหนังไทย ทั้งด้านซอฟต์พาวเวอร์ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และโอกาสใหม่ๆ ที่รออยู่
Beyond the Screen — หนังไทยกับโอกาสทางเศรษฐกิจที่ประเทศไทยต้องจับตา
พิมพกา โตวิระ คนดูแล “ตลาดหนัง” บอกว่า ปีนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะเราไม่ได้แค่ฉายหนัง แต่เปิดพื้นที่ให้คนทำหนังไทยได้เจอนักลงทุนและผู้จัดจำหน่ายจากทั่วโลกแบบตัวต่อตัว เป็นก้าวสำคัญในการผลักดันหนังไทยสู่เวทีนานาชาติอย่างเป็นรูปธรรม
ส่วน ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล จาก THACCA เน้นย้ำเลยว่า หนังไม่ใช่แค่ศิลปะ — มันสร้างงาน สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจได้มหาศาล
ยงยุทธ ทองกองทุน อดีตผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ Netflix Thailand เห็นว่า แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งคือช่องทางสำคัญที่เปิดให้หนังไทยเข้าถึงผู้ชมทั่วโลก พร้อมย้ำบทบาทของ CEA ในการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
Thailand as Film Destination — เมื่อ Hyper Local Content พาไทยสู่หมุดหมายของโลกภาพยนตร์
อนุชา บุญยวรรธนะ จากสมาคมผู้กำกับหนังไทย บอกชัดว่า “ความเป็นไทย” ที่จริงใจ ไม่แต่งตัว ไม่หลอก — นั่นแหละคือจุดแข็งที่ทำให้คนทั่วโลกเชื่อมต่อกับเราได้ สอดคล้องกับ กฤษดา วิทยาขจรเดช Executive Producer ค่าย Be On Cloud ที่เสริมว่าการผสมวัฒนธรรมกับเรื่องร่วมสมัยทำให้หนังไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวบนเวทีโลก
ธิติ ศรีนวล ผู้กำกับภาพยนตร์ สัปเหร่อ และจักรวาล ไทบ้าน พร้อมด้วย ศราวุธ แก้วน้ำเย็น Production Designer และ CEO บริษัท พันธุ์ทาง อาร์ตเวิร์ค ต่างเห็นพ้องว่า ความภูมิใจในรากเหง้า และการใช้โซเชียลมีเดียอย่างเข้าใจ คือกุญแจสำคัญในการพาเนื้อหาไทยไปไกลระดับโลก
When Movies Move Brand Impact — เมื่อ ‘แบรนด์เจอหนัง’ คือการสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จบ
ชวนา แพร่ศรีสกุล Chief Strategy and Services Officer จาก BrandThink มองว่า หนังไม่ใช่แค่พื้นที่โฆษณา แต่มันคือที่ๆ แบรนด์กับผู้ชมสามารถสร้าง “คุณค่าร่วม” กันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืน ไม่แปะป้าย
ภาคย์ วรรณศิริ Chief Creative Officer จาก VML Thailand เชื่อว่า หนังเล่าเรื่องได้ลึกกว่าการตลาดแบบเดิม และในอนาคต แบรนด์จะมีบทบาทตั้งแต่ขั้นตอนคิดบทไปจนถึงการออกแบบประสบการณ์ร่วม
Roundtable: Next Chapter – ภาพยนตร์จะเป็นอย่างไร เมื่อการฉายในโรงภาพยนตร์ลดน้อยลง
ปิดท้ายด้วยเวทีเสวนาว่าภาพยนตร์ไทยจะเดินหน้าอย่างไรในยุคที่การฉายในโรงลดน้อยลง ทุกคนเห็นตรงกันว่า ช่องทางฉายไม่สำคัญเท่าคุณภาพเนื้อหา — ถ้าหนังดี ผู้ชมจะตามไปดูไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน พร้อมเสนอให้สนับสนุนผู้สร้างรายย่อยเพื่อเพิ่มความหลากหลายและความเท่าเทียมในวงการ
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า อุตสาหกรรมหนังไทยไม่ได้แค่เติบโต แต่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นพลังเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่สำคัญของประเทศ
