About
BALANCE

Wim Hof Method

แช่น้ำแข็ง 0 องศา 2 ตัน! ทำแล้วได้อะไร สองกูรูศาสตร์ WHM แห่ง Breath Inspired จะมาตอบ

เรื่อง Nid Peacock ภาพ ฉัตรชัย มาตยภูธร Date 23-09-2024 | View 935
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • แก้ม – วริศรา กัญพันธ์ และสจ๊วต วิลสัน คู่สามีภรรยาเป็นผู้ฝึกสอนและเชี่ยวชาญ Wim Hof Method (WHM) ศาสตร์การหายใจ การใช้ความเย็น และการควบคุมจิตใจมาช่วยปรับกายใจให้สุขภาพดีขึ้น ทั้งคู่เปิด Breath Inspired สตูดิโอเดียวในไทยที่ได้รับการรับรองให้สอนศาสตร์ WHM

ช่วงนี้ดูเหมือนกระแสการแช่น้ำแข็งจะเป็นเทรนด์ฮิตในบ้านเรา โดยเฉพาะตามสตูดิโอโยคะหรือฟิตเนสหลายแห่งที่มีบริการนี้เพิ่มขึ้นมา ว่าแต่เขาลงแช่กันได้ยังไงนะ แค่ก้อนน้ำแข็งดูดมือเกาะติดนิ้ว หรือแค่จุ่มมือในถังน้ำแข็ง แค่นั้นก็แทบแย่แล้ว แต่นี่ลงแช่น้ำแข็งทั้งตัว! บรื่อว์

แต่ๆๆ ความสงสัยว่าเขาทนความเย็นกันได้ยังไง ยังไม่เท่าความอยากรู้ว่าทำแล้วได้อะไร

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

นั่นทำให้ชื่อของวิม ฮอฟ (Wim Hof) เจ้าของฉายามนุษย์น้ำแข็งผุดขึ้นมา ภาพเขานุ่งกางเกงขาสั้นและรองเท้าบู๊ตไต่เขาเอเวอเรสต์ หรือนั่งขัดสมาธิท่ามกลางภูเขาน้ำแข็ง และการลงแช่ในลำธารที่เย็นจัดจนเป็นน้ำแข็งด้วยขาสั้นตัวเดียว ทำให้เขากลายเป็นคนบ้าในสายตาคนอื่นอยู่หลายปี แต่หลังจากวิมเข้ารับการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่เขาฝึกปฏิบัติจึงกลายมาเป็นทฤษฎีการฝึกหายใจแบบ Wim Hof Method (WHM) ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

Wim Hof Method

ในเมืองไทยคงไม่มีใครอธิบายศาสตร์ WHM ได้ดีไปกว่า แก้ม – วริศรา กัญพันธ์ และสจ๊วต วิลสัน ผู้ฝึกสอนที่ได้รับการรับรองจาก WHM โดยสจ๊วตเป็นผู้นำศาสตร์นี้เข้ามาในเมืองไทย ส่วนแก้ม สาวเหนือผู้นี้เป็นผู้ฝึกสอน WHM คนไทยเพียงคนเดียวในโลกนี้ และประจำการอยู่ในแถบอาเซียน ถือเป็นโอกาสดีที่ทั้งคู่ตอบรับนัดหมายของเรา

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

รีเซ็ตชีวิต

จุดเริ่มต้นที่นำพาสจ๊วตให้ได้เจอศาสตร์ WHM ต้องย้อนกลับไปสมัยยังเป็นหนุ่มนักการเงินอยู่ที่ดูไบ การทำงานแสนเคร่งเครียดแม้ตอบแทนด้วยความมั่นคงทั้งอาชีพและชีวิตความเป็นอยู่ แต่กลับไม่ได้ทำให้สจ๊วตเอ็นจอยชีวิต เขาพยายามค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ทำไมถึงรู้สึกนิ่งๆ เนือยๆ อย่างหาสาเหตุไม่ได้

สจ๊วตหันไปกระโดดร่ม หวังว่ากิจกรรมเอกซ์ตรีมจะช่วยสร้างความตื่นเต้นและบูสต์เอ็นเนอจีให้ตัวเองกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาบ้าง แต่แม้จะกระโดดร่มทุกสัปดาห์ก็ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไร สจ๊วตจึงเปลี่ยนไปออกเดินทางท่องโลก ระหว่างนั้นมีคนแนะนำให้เขาลองฝึก WHM ดู

“ผมรู้จักว่าวิม ฮอฟคือไอซ์แมน เลยอยากลองฝึกดู ก็บินไปหาเขาที่โปแลนด์ วิมสอนผมฝึกหายใจ ตอนนั้นเป็นหน้าหนาว อุณหภูมิติดลบ น้ำในแม่น้ำเป็นน้ำแข็ง เขาชวนผมลงแช่ด้วยกัน” สจ๊วตเล่าพร้อมอมยิ้มเมื่อเห็นหน้าตาเหยเกของเราที่มโนตาม แล้วเล่าต่อว่า “ฝึกกับวิมอยู่ร่วมสัปดาห์ ผมก็กลับดูไบ รู้สึกเหมือนได้รีเซ็ตตัวเอง ได้รีเซ็ตความคิด และได้คำตอบแล้วว่า ก่อนหน้านี้ที่ผมเป็นมันคืออาการเบิร์นเอาต์”

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

ช่วง 2 ปีที่กลับไปดูไบ สจ๊วตยังฝึกฝนการหายใจและแช่น้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ เขาอินมากถึงขั้นไปสอบเป็นผู้ฝึกสอนขั้น Advance ของ WHM ด้วย แล้ววันหนึ่งเมื่องานไม่ตอบโจทย์ชีวิตแล้ว สจ๊วตตัดสินใจย้ายมาอยู่เมืองไทย แต่ไม่ได้มีแพลนจะเปิดคลาสสอน WHM เพราะไม่คิดว่าชาวต่างชาติที่หนีหนาวมาเที่ยวเมืองไทย หรือคนไทยเองจะสนใจลงแช่น้ำแข็ง ขนาดสาวแก้มที่อยู่ข้างกายยังเซย์โนเลย

Wim Hof Method

“เราฝึกหายใจด้วยกันทุกวัน แต่แก้มไม่แช่น้ำแข็ง เพราะเป็นคนขี้หนาวมากแล้วก็กลัวด้วยแหละ บอกเขาไปว่า โนเวย์ มีแต่เครซีฝรั่งเขาทำกัน”​ แก้มหันไปแซวหยอกสามีที่นั่งยิ้มอยู่ข้างกัน

แต่แล้วคนปฏิเสธเสียงแข็งก็มีเหตุให้ได้ลงแช่น้ำแข็ง

“ช่วงนั้นโควิดกำลังระบาด ต้องอยู่แต่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้เจอใคร แก้มรู้สึกว่าความรู้สึกมันดาวน์ลงๆ จนเริ่มเป็นซึมเศร้า คุณสจ๊วตเลยชวนให้ลองแช่น้ำแข็งไหม ทีแรกก็ไม่เอา แต่มันดาวน์มากจนไม่ไหวแล้ว เลยลองทำดู”

เราลุ้นรอฟังฟีดแบ็กการลงแช่น้ำแข็ง 0 องศาครั้งแรกของแก้ม “ชอบมากกกก (ย้ำเสียง) บอกคุณสจ๊วตว่า จะแช่น้ำแข็งทุกวัน ตั้งเป้าจะทำต่อเนื่องให้ครบ 100 วัน พอครบปุ๊บ เขาจัดปาร์ตี้ฉลองติดบอลลูนให้เลย (หัวเราะ) ถึงตอนนั้นแก้มรู้สึกว่าทั้งร่างกายและจิตใจเปลี่ยนไป จากเป็นคนเนือยๆ ก็กระปรี้กระเปร่าขึ้น จากที่อารมณ์อ่อนไหวง่าย ติดเศร้าอยู่ตลอดเวลา ก็สดใสอารมณ์ดีขึ้น ส่วนร่างกายก็แข็งแรงขึ้น เมื่อก่อนทุกต้นปีแก้มจะไอและเจ็บคอนานเป็นเดือน แต่หลังจากฝึก WHM แล้ว จำไม่ได้เลยว่าไม่สบายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

รู้จักลุงวิม ฮอฟ มนุษย์ Ice Man

ก่อนไปเรียนรู้ศาสตร์ WHM สจ๊วตพาเราไปรู้จักวิม ฮอฟ กันสักหน่อย

“วิมเป็นชาวดัตช์ เคยเป็นคนไร้บ้าน ต้องอาศัยตามตึกร้างสมัยเป็นวัยรุ่น เขาสนใจโยคะเลยใช้เวลาว่างฝึกโยคะ และศึกษาเรื่องปราณยามะ (เทคนิคการหายใจแบบโยคะที่เพิ่มพลังชีวิต) ซึ่งเขาทำได้ดีมากๆ วันหนึ่งขณะหิมะตก วิมออกไปเดินเล่นในสวน เขาเห็นลำธารกลายเป็นน้ำแข็ง แล้วนึกอยากกระโดดลงไป พอลงไปปุ๊บ วิมรู้สึกเหมือนร่างกายช็อกไป แต่สักพักก็ค่อยผ่อนคลายขึ้นและกลายเป็นความสงบนิ่งที่เข้ามา วิมประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันคล้ายกับความรู้สึกตอนฝึกโยคะเลย

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

หลังจากนั้นวิมลงแช่ในลำธารที่เย็นเยือกทุกวัน โดยไม่สนว่าใครจะมองว่าเขาบ้าหรือเพี้ยน รู้แค่ว่าแช่แล้วมีความสุขขึ้น ฝึกโยคะได้ดีขึ้น นอนหลับดีขึ้น และไม่เครียดเลย วิมเก็บความประหลาดใจนี้ไว้กับตัวเองอยู่หลายปี กระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อภรรยาเขาฆ่าตัวตาย วิมเยียวยาหัวใจที่แตกสลายด้วยการแช่น้ำแข็ง ช่วยให้เขาสามารถดูแลลูกๆ ทั้ง 4 คนได้”

ผลจากที่วิมฝึกฝนร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เขาทนต่ออุณหภูมิที่หนาวจัด/ร้อนจัดได้เกินขีดจำกัดของมนุษย์ทั่วไป วิมเป็นนักกีฬาเอกซ์ตรีมที่สร้างสถิติโลกในกินเนสส์บุ๊กมากถึง 26 รายการ และทำลายสถิติเดิมอีก 18 รายการ เช่น การแช่ในน้ำแข็งเกือบ 2 ชั่วโมง การวิ่งฮาล์ฟมาราธอนที่ขั้วโลกเหนือด้วยกางเกงขาสั้นและเท้าเปล่า! การวิ่งมาราธอนในทะเลทรายนามิบที่ประเทศนามิเบียโดยไม่สวมเสื้อและไม่ดื่มน้ำเลย ชื่อวิม ฮอฟกลายเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและสังคม

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

จากปรากฏการณ์นี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ที่เนเธอร์แลนด์ตั้งสมมติฐานว่า วิมอาจมี Genetic (พันธุกรรม) แตกต่างจากคนอื่นเลยทนความเย็นได้ผิดมนุษย์มนา ซึ่งวิมยินดีให้ทดลอง ค้นคว้า และวิจัยร่างกายเขาด้วยหลักวิทยาศาสตร์และหลักการแพทย์ ผลออกมาว่า การฝึกหายใจและการแช่น้ำแข็งของวิม ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากกว่าปกติ ส่งผลให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยลดการอักเสบของร่างกาย และลดความเครียดได้ด้วย

เดิมทีหลังการสูญเสียภรรยา วิมเคยคิดอยากเผยแพร่สิ่งที่ตัวเองค้นพบเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่เผชิญช่วงเวลาอันเจ็บปวดหรือกำลังทุกข์ใจอย่างที่เขาเคยประสบมา แต่ก็ไม่รู้จะบอกให้คนอื่นเข้าใจและเชื่อสิ่งที่เขาทำว่ามีประโยชน์ได้ยังไง จนเมื่อมีงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์มายืนยัน วิมจึงนำประสบการณ์ตัวเองมาพัฒนาวิธีการฝึกเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

“ผลการทดสอบร่างกายวิมทำให้คนเริ่มเชื่อว่าวิธีนี้เวิร์ก แต่หลายคนคงอดคิดไม่ได้ว่า จะเห็นผลเฉพาะวิม ฮอฟหรือเปล่า เพราะเขาฝึกมานานเลยทำได้ ซึ่งวิมยืนยันว่า ‘สิ่งที่ผมทำได้ ใครๆ ก็ทำได้’” สจ๊วตไม่ลืมส่งต่อสารสำคัญจากวิม

Wim Hof Method

Wim Hof Method

Wim Hof Method

ไม่ใช่ปาฏิหาริย์​แต่เป็นการฝึกฝนต่างหาก

ถึงตรงนี้ใครสนใจและนึกอยากลองฝึกศาสตร์​ WHM ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศแล้ว เพราะทั้งแก้มกับสจ๊วตเป็นผู้ฝึกสอนขั้น Advance 2 ทั้งสองคน ทั้งคู่เปิด Breath Inspired สตูดิโอสอนศาสตร์ WHM แห่งเดียวในไทย เพื่อส่งต่อองค์ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวให้คนที่สนใจ

“อย่างที่บอกไปว่า ผมไม่คิดว่าจะมีใครสนใจแช่น้ำแข็ง แต่กลายเป็นว่ามีนักธุรกิจที่เครียดจากการทำงานมาขอคำแนะนำ ผมเลยแชร์ประสบการณ์ตัวเอง เพราะอยากช่วยเขา ไม่ได้มองเป็นธุรกิจเลย ตอนเปิดเวิร์กช้อปครั้งแรกมีคนมาเรียนแค่ 3 คน” สจ๊วตหัวเราะ

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

แก้มเสริมว่า “แก้มเป็นครูสอนโยคะเลยมีสตูดิโออยู่แล้ว ตอนนั้นแก้มยังไม่เคยลงแช่น้ำแข็งเลย แต่คิดว่าน่าจะมีคนสนใจ เลยเชียร์ให้เขาเปิดคลาสสอนจริงจัง เพราะเรามีพื้นที่อยู่แล้ว”

Breath Inspired เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2019 แต่เปิดได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องเจอวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ต้องปิดยาวถึง 7 เดือน แต่ก็เป็นโอกาสให้แก้มได้เปิดใจลองลงแช่น้ำแข็งดู จากสารพัดความกลัวที่คิดมโนไปล่วงหน้า กลับกลายเป็นความทึ่งเมื่อได้ลงแช่จริงๆ

“เคยนั่งสมาธิไหม ใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะรู้สึกสงบ” จู่ๆ แก้มก็สลับบทบาทส่งคำถามให้เรา ก่อนเฉลยเหตุผลที่ถามว่า “แก้มชอบนั่งสมาธิมาตั้งแต่เด็ก แต่ต้องนั่งเป็นชั่วโมงเลยกว่าจะทำสมาธิได้ แต่แค่หย่อนเท้าลงไปในอ่างน้ำแข็งปุ๊บ แก้มต้องดึงสติกลับมาโฟกัสที่ลมหายใจให้ได้ นี่จึงเป็นการทำสมาธิที่ฉับไวมาก เราไม่สามารถปล่อยจิตหลุดไปที่อื่นได้เลย เพราะถ้าสติหลุดเมื่อไหร่ จะทนแช่ต่อไม่ได้ นี่คือเทคนิคที่เขาสอนเราและเราใช้สอนทุกคนที่มาเรียน”

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

แก้มแง้มเล่าถึงการใช้เวลาปีกว่าไปเรียนเป็น Instructor ของตัวเองหลังจากได้ลองลงแช่น้ำแข็ง สจ๊วตอยากให้เธอเข้าใจศาสตร์ WHM ได้กระจ่างแจ้ง ซึ่งนอกจากแก้มจะโชคดีได้ฝึกกับวิม ฮอฟตัวเป็นๆ เหมือนสจ๊วตแล้ว ความเป็นคนไทยเพียงคนเดียวในโลกนี้ที่ผ่านการเทรนเป็นผู้ฝึกสอน WHM ช่วยให้คนไทยได้เข้าถึงและเข้าใจศาสตร์นี้มากขึ้นโดยไม่มีกำแพงด้านภาษามาขวางกั้น

เราขอให้แก้มเล่าถึงการฝึกกับลุงวิม “ตอนเรียนทฤษฎี แก้มเรียนออนไลน์อยู่ที่เมืองไทยเพราะเป็นช่วงโควิด แต่ต้องฝึกทุกวัน เขาจะทดสอบว่าเราทำได้ไหม เข้าใจร่างกายตัวเองหรือเปล่า จะได้รู้ว่าเวลานักเรียนฝึกแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง และไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดกับนักเรียน เราจะรับมือยังไง ถ้านักเรียนมีคำถาม จะตอบได้ต้องเข้าใจ WHM อย่างลึกซึ้งก่อน เขาทดสอบทุกอย่าง เราต้องสอบให้ผ่าน ที่สำคัญต้องบินไปสอบปฏิบัติที่โปแลนด์ แก้มโชคดีได้ฝึกกับคุณวิม เจอกันครั้งแรกก็ยกแก๊งเดินขึ้นเขาเลย หิมะปกคลุมขาวโพลนเลยแต่ให้ใส่แค่ขาสั้นกับบิกินีนะ”

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

“จากที่ผมทำเวิร์กช้อปมาเยอะ ในไทยผมสอนไปเกือบ 3,000 คนได้ ผมมองว่าผู้หญิงที่มา ส่วนใหญ่จะขี้กลัว เพราะคิดว่าตัวเองอ่อนแอ แต่พอผ่านเวิร์กช้อปนี้ไป ได้ลองทำสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำได้ ผมเห็นเลยว่าหน้าตาพวกเธอภูมิใจมากแค่ไหน เป็นโมเมนต์ที่ผมชอบที่สุดเลย และที่ตลกคือ ผู้ชายฝรั่งที่คิดว่าแช่น้ำแข็งแค่นี้ ชิลล์ๆ ลงแช่แล้วกลับเกร็งและต่อสู้กับความหนาวเย็นอย่างมาก แต่ผู้หญิงที่ขี้กลัวกลับลงไปแล้วผ่อนคลาย แสดงให้เห็นว่า ถ้าเราควบคุมจิตใจและความคิดของตัวเองได้ ถ้าเชื่อว่าตัวเองแข็งแกร่ง จะช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้น ส่งให้มีพลังขึ้น”

Wim Hof Method

Wim Hof Method

เข้าคลาสพื้นฐาน ทำความรู้จักศาสตร์ WHM

ทั้งคู่ชวนเรามาเข้าคลาสพื้นฐาน WHM ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นคลาสของแก้มที่จะสอนเป็นภาษาไทย แยกกับคลาสของสจ๊วตที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนถึงวันนัดหมาย เราต้องตอบแบบสอบถามข้อมูลด้านสุขภาพที่แก้มส่งมาให้ก่อน เพื่อความปลอดภัยและให้มั่นใจว่าจะปราศจากความเสี่ยงจากโรคและภาวะซึ่งเป็นข้อจำกัดสำหรับการฝึก WHM ได้แก่ การตั้งครรภ์ โรคหลอดเลือดหัวใจ/สมอง ลมบ้าหมู ภาวะไตล้มเหลว ความดันโลหิตสูง ไมเกรน และผู้ที่เพิ่งผ่าตัด ส่วนใครมีโรคประจำตัวหรือมีอาการเจ็บป่วยใดๆ แก้มก็แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อนด้วยก็ดี

แม้จะเป็นคลาสพื้นฐานศาสตร์ WHM แต่มีเนื้อหาที่ต้องใช้เวลาเรียนจริงถึง 10 สัปดาห์ ซึ่งแก้มได้ย่อยเหลือเพียง 6 ชั่วโมง โดยช่วงเช้าเป็นการเลกเชอร์โดยเน้นหัวใจหลักของศาสตร์ WHM คือ การฝึกหายใจเพื่อดึงสติให้กลับมาอยู่กับตัวเองผ่านการควบคุมการหายใจ ที่เรียกว่า Conscious Breathing (การควบคุมลมหายใจ, การหายใจอย่างมีสติ)

สจ๊วตเสริมว่า “การฝึกหายใจแบบ WHM คือ การเปลี่ยนก๊าซในตัวเอง เราจะเข้าออกก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สลับกับออกซิเจน เป็นการเปลี่ยนผ่านสารเคมีในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้หลับหรือสลบได้ ฉะนั้น การฝึกหายใจแบบวิม ฮอฟ ห้ามทำตอนอยู่ใกล้น้ำหรือในน้ำเด็ดขาด ต้องฝึกในท่านอนและในที่ที่ปลอดภัยเท่านั้น”

สำหรับข้อดีของการฝึกหายใจแบบนี้ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากกว่าปกติ ช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น แล้วยังช่วยกระตุ้นอะดรินาลินให้หลั่งเพิ่มขึ้น ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้เป็นเหมือนเกราะในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยลดการอักเสบในเซลล์ได้อีกด้วย

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

คลาสในวันนั้นมีสมาชิกเยอะเลย ส่วนใหญ่มากันเป็นคู่ แต่ที่มาเป็นกลุ่ม เป็นครอบครัวก็มี หลังแก้มบรรยายจบ ก็ให้ทุกคนแช่มือในอ่างน้ำแข็ง เป็นการอุ่นเครื่องก่อนลงแช่ทั้งตัวในช่วงบ่าย จังหวะที่จุ่มมือลงไปแหวกกองน้ำแข็งในอ่างตรงหน้า เราทั้งตื่นเต้นและใจตุ๊มๆ ต่อมๆ เพราะในหัวก็เย็นมโนล่วงหน้าไปก่อนจุ่มมือซะอีก (ฮ่าๆ) แต่แค่แป๊บเดียว ใจก็หันไปโฟกัสกับลมหายใจได้ เลยแช่ได้จนครบ 3 นาทีตามที่แก้มกำหนดไว้ บอกเลยใจมาเป็นกองเลย รู้สึกพร้อมขึ้นสำหรับลงแช่ทั้งตัวในช่วงบ่าย

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

หลังพักเบรกกินของว่างรองท้องกันแล้ว ทุกคนได้ลองฝึกการหายใจแบบ WHM ซึ่ง 1 รอบการหายใจเป็นการหายใจ 30-40 ลมหายใจ คู่กับการกลั้นหายใจ อ่านแล้วอาจดูงงหรือยาก แต่พอทำจริง เรานอนหลับตา ได้ยินเสียงแก้มคอยไกด์ให้ว่าต้องทำยังไง ส่วนสจ๊วตก็คอยเคาะให้เสียงเป็นจังหวะ ช่วยให้ทำได้ง่ายขึ้น

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

แค่ 2 นาทีก็เพียงพอแล้ว

และแล้วก็มาถึงการลงแช่อ่างที่บรรจุน้ำแข็งมากถึง 2 ตัน เพื่อให้ได้อุณหภูมิ 0 องศา “ประโยชน์จากการแช่น้ำแข็ง เป็นการฝึกเทรนเส้นเลือดในตัวเราให้ได้ขยับ และการขยับเส้นเลือดก็ทำให้น้ำเหลืองได้ขยับด้วย ซึ่งเป็นขับของเสีย จึงช่วยลดการอักเสบและให้เราฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากการบาดเจ็บ และความเย็นจากการแช่น้ำแข็งทำให้หลอดเลือดหดตัว แต่เมื่อเราก้าวออกมาจากถังน้ำแข็ง เลือดก็จะกลับไปไหลเวียนปกติ” การอธิบายของแก้มช่วยให้เราเข้าใจได้กระจ่างขึ้น

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

“การแช่น้ำแข็งยังส่งผลต่อจิตใจและอารมณ์ของเราด้วยนะ” สจ๊วตหันมาบอกเรา “เพราะการแช่น้ำแข็งช่วยให้สารโดปามีน (Dopamine) หรือสารแห่งความสุข (สารเคมีที่สำคัญต่อสุขภาพจิต ต้องรักษาปริมาณให้อยู่ในระดับสมดุล) หลั่งตามธรรมชาติได้มากขึ้น เป็นเหตุผลที่ทำให้เรามีความสุขง่ายขึ้น ทำให้แช่แล้วมีสุขภาวะทางจิตที่ดี”

ไม่เพียงเท่านี้ การแช่น้ำแข็งยังกระตุ้นการหลั่งของสารออกซิโทซิน (Oxytocin) เป็นสารที่หลั่งเวลาเรามีความรัก เรียกกันว่าเป็น ‘Love Molecule’ ซึ่งมีการวิจัยว่าการสัมผัสความเย็นจะช่วยให้หลั่งสารนี้ออกมา แล้วยังมีสารเซโรโทนิน (Serotonin) เป็นสารแห่งอารมณ์ ความรู้สึก และสุขภาพ เวลาที่ร่างกายเราอักเสบ สารนี้จะถูกยับยั้งไม่ให้หลั่ง การแช่น้ำแข็งจะช่วยลดการอักเสบ เจ้าสารนี้เลยกลับมาหลั่งได้ดีขึ้นนั่นเอง

ปิดท้ายด้วยเจ้าไขมันสีน้ำตาล (Brown Fat) เป็นเซลล์ที่ช่วยเพิ่มพลังงาน ใช้ในการผลิตความร้อน การแช่น้ำแข็งจะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตไขมันสีน้ำตาลมาช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ที่สำคัญนอกจากเป็นตัวปรับอุณหภูมิในร่างกายเราแล้ว ยังปรับระดับน้ำตาลให้เราไปในตัวด้วย เพราะการผลิตพลังงานของไขมันสีน้ำตาลจะดึงกลูโคสในตัวเราไปใช้

Wim Hof Method

เครดิตภาพ : Breath Inspired

อัดสาระกันเต็มๆ แต่จะบอกว่าใช้เวลาแช่น้ำแข็งทั้งตัวแค่เพียง 2 นาทีเพียงพอที่จะได้รับประโยชน์ทั้งหมดที่ว่ามาแล้ว ว่าแล้วแก้มก็ถือโอกาสนี้ให้ข้อมูลเพราะเห็นคลิปที่คนแข่งกันว่าใครจะแช่น้ำแข็งได้นานกว่ากัน

“อันนี้เป็นหนึ่งในความกังวลของเราที่เห็นแข่งกันว่าใครจะทนแช่ได้นานกว่ากัน ซึ่งมันผิดวัตถุประสงค์ เราใช้ความเย็นเพื่อโฟกัสกับจิตและร่างกายตัวเอง ผลทางวิทยาศาสตร์บอกไว้ว่า เวลาแค่ 2 นาทีก็เพียงพอที่จะได้รับประโยชน์แล้ว เพราะประโยชน์ของความเย็นคือจังหวะการช็อกร่างกายตอนที่เราลงไปแช่ใหม่ๆ ต่างหาก แล้วค่อยแช่น้ำอุ่นให้นานกว่า ฉะนั้น การแช่น้ำแข็งนานไม่ได้ประโยชน์อะไรกับร่างกาย แต่จะให้ผลในการฝึกมายด์เซ็ตล้วนๆ เพราะถ้าแช่นานแล้วไม่โฟกัสกับตัวเอง จะไม่ได้ประโยชน์เลย ส่วนการแช่เพื่อลดการอักเสบของกล้ามเนื้อของนักกีฬา ใช้เวลาแค่ 20 วินาทีเท่านั้น”

Wim Hof Method

Wim Hof Method

อีกครั้งที่สจ๊วตขอให้ข้อมูลเสริมจากแก้ม “จากการศึกษาของ WHM ล่าสุด การฝึกหายใจช่วยลดเรื่องการอักเสบมากกว่าการแช่น้ำแข็ง เพราะเวลาที่เราแช่น้ำแข็ง โปรตีนด้านการอักเสบในร่างกายจะลดไปแค่ตัวเดียว แต่ถ้าฝึกหายใจจะช่วยลดไปได้หลายตัวมากกว่าการแช่น้ำแข็ง แต่ถ้าทำควบกัน มันจะลดทุกตัว และยังหลั่งโปรตีนที่ช่วยลดการอักเสบด้วย ฉะนั้น WHM จึงช่วยลดการอักเสบล้วนๆ”

Wim Hof Method

และที่ทั้งคู่อยากฝากเราย้ำตัวหนาตัวโตๆ ว่า ห้ามกลั้นหายใจแล้วดำลงไปใต้น้ำแข็งเด็ดขาด !!! เพราะอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตได้ ไม่เกี่ยวด้วยว่าจะฝึกมานานแค่ไหน หรือแข็งแรงเพียงใด อธิบายสั้นๆ ว่าเพราะจะเกิด Autonomic Nervous System Crash คือ ระบบประสาทซิมพาเทติก​ (Sympathetic) เป็นฝั่งความเครียดกับระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic) เป็นฝั่งรีแลกซ์ชนกัน จากการที่ร่างกายตอบสนองอัตโนมัติเวลาที่กลั้นหายใจแล้วดำลงไปใต้น้ำแข็ง

Wim Hof Method

สุดท้ายไม่ว่าจะอยากมาแค่แช่น้ำแข็งเพื่อเอาชนะใจตัวเอง หรืออยากมาฝึกหายใจเพื่อดูแลสุขภาพกายใจ จากประสบการณ์ที่เราได้มาเข้าคลาสพื้นฐาน WHM ด้วยตัวเอง สัมผัสได้ว่าทุกคนที่มา จากที่ต่างคนต่างนั่งนิ่งๆ ตอนต้นคลาส แต่ช่วงลงแช่น้ำแข็ง เราต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แม้จะเพิ่งมาเจอกัน ยิ่งตอนกลับทุกคนหน้าตายิ้มแย้ม ดูสดใส สดชื่น ได้รับความสุขกลับบ้านไป ทำให้เราเชื่อว่า มายด์เซ็ตทุกคนเปลี่ยนหลังจากได้เข้าคลาสนี้ และจะเป็นประโยชน์มากหากได้นำกลับไปฝึกฝนต่อที่บ้าน

อย่างที่สจ๊วตบอกไว้ว่า “ภายใน 20 นาทีของการฝึกหายใจและการแช่น้ำแข็ง เราได้รับประโยชน์มากมายต่อร่างกายและจิตใจ คุ้มค่ากับการสละเวลามากๆ”

Wim Hof Method

Breath Inspired
เลขที่ 30 สุขุมวิท 61 กรุงเทพฯ
www.breathinspired.com
facebook: Breath Inspired Bangkok

Tags: