About
BALANCE

Breathwork

ตามหมอแมว – พ.ญ.พจนี ประดิษฐสุวรรณ ไปรู้จัก ‘การหายใจ’ กุญแจสำคัญกุมความลับชีวิตเรา

เรื่อง Nid Peacock ภาพ ฉัตรชัย มาตยภูธร Date 23-04-2024 | View 1851
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • ‘ลมหายใจ’ นอกจากบ่งชี้การมีชีวิตอยู่ ด้วยการนำออกซิเจนเข้าร่างกายและขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาแล้ว ยังมีศักยภาพอย่างที่คาดไม่ถึง ทั้งการนำพลังชีวิต มอบความสุข ความสดชื่น และความผ่อนคลายให้เรา ที่สำคัญการหายใจยังกุมความลับชีวิตเจ้าของเอาไว้ หากไม่ได้ฝึกฝนการสังเกต แม้แต่เจ้าตัวก็อาจไม่รู้จักตัวเองในมุมนั้น

บางครั้งชีวิตเราอาจมีบางเรื่องราว บางอารมณ์ความรู้สึก หรือสภาวะทางกายใจบางอย่างที่อยากเก็บไว้ไม่ให้ใครรู้ แต่ไม่ว่าจะพยายามซุกซ่อนไว้ลึกสุดใจสักแค่ไหน ทุกอย่างจะถูกเปิดเผยโดย ‘การหายใจ’ เพราะลมหายใจเป็นกุญแจสำคัญที่กุมความลับของชีวิตไว้

เอ๊ะ...อะไร...ยังไง...ทำไม...กันนะ

และแพตเทิร์นการหายใจของแต่ละคนยังบอกถึงชีวิตคนคนนั้นอีกด้วย

เอ้า...ยิ่งสงสัยเข้าไปกันใหญ่

หมอแมว - พ.ญ.พจนี ประดิษฐสุวรรณ แพทย์ผิวหนังผู้หลงใหลในความมหัศจรรย์ของการหายใจ และเป็นคนไทยคนแรกที่จบหลักสูตร Certified Breathwork Facilitator จาก Alchemy of Breath ประเทศอิตาลี รวมถึงเป็นเจ้าของเพจ Miracle of Breath จะมาช่วยอธิบายให้กระจ่างแจ้ง แต่ก่อนอื่นขอทำความรู้จักหมอแมวกันก่อน

ดูเหมือนเพียบพร้อมสมบูรณ์ แต่ไม่มีความสุขที่แท้จริง

หมอแมวเล่าย้อนชีวิตส่วนตัวให้ฟังว่า ความที่มีพ่อเป็นหมอประกอบกับตัวเองเป็นคนเรียนดี จึงต้องเป็นหมออย่างที่พ่อหวังไว้ ทั้งที่สนใจและชอบศิลปะมากกว่า แม้ที่สุดจะได้เป็นหมอสมใจ (พ่อ) แต่ลึกๆ รู้สึกเหมือนความเป็นตัวตนหายไป

ช่วงเป็นนักศึกษาแพทย์ เธอทดแทนความรู้สึกนั้นด้วยการทำกิจกรรมที่ชอบ ทั้งการเล่นสารพัดกีฬา เต้นรำ ร้องเพลง ท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่ยามที่ความสนุกสนานเพลิดเพลินจากกิจกรรมที่ทำนั้นหมดลง ความรู้สึกไม่มีตัวตนก็ยังหวนกลับมาเสมอ เหมือนลึกๆ มีเสียงเรียกให้ตามหาบางสิ่งในชีวิตที่ขาดหายไป

กระทั่งแต่งงาน เธอกับสามีที่เป็นหมอเหมือนกันย้ายไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศเพื่อศึกษาต่อ หมอแมวยังสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พร้อมกับเดินทางท่องเที่ยวในต่างแดน จนกลับมาอยู่เมืองไทย เธอตั้งใจเตรียมตัวเป็นแม่อย่างจริงจังเพื่อหาคุณค่าและความหมายมาเติมเต็มชีวิตตัวเอง แต่ยิ่งตั้งใจมากก็กลายเป็นเครียดมาก กว่าจะได้ลูกสาวมาเป็นขวัญตาขวัญใจ พ่อแม่ก็เกือบถอดใจกันไปแล้ว

หมอแมวสวมหมวก ‘แม่’ อีกใบพร้อมความมุ่งมั่นว่าจะเลี้ยงลูกสาวคนนี้ให้มีความสุข พยายามเข้าคลาสต่างๆ เพื่อเรียนรู้วิธีเลี้ยงลูกยังไงให้มีความสุข แต่สิ่งที่ตอบโจทย์นี้อย่างแท้จริงคือการเข้าคลาสอบรมเรื่องนพลักษณ์ (Enneagram ศาสตร์ที่ใช้ทำความเข้าใจผู้คนจากลักษณะ บุคลิกภาพ 9 แบบที่แตกต่างกันตามกลไกจิตใจที่เป็นแรงขับเคลื่อนของแต่ละลักษณ์) ซึ่งเน้นให้ทำความเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง เพื่อจะได้ดูแลตัวเองให้มีความสุขอย่างแท้จริงก่อน แล้วจึงจะสามารถสอนลูกให้มีความสุขตามได้

เราขอให้หมอแมวช่วยยกตัวอย่าง เธอจึงเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งช่วงสัมภาษณ์ในการอบรมนพลักษณ์

“มีน้องร่วมคลาสคนหนึ่งกังวลและเป็นห่วงลูกที่ปล่อยให้สามีดูแลอยู่ที่บ้าน อาจารย์ถามเขาว่า ‘รักลูกใช่ไหม’ ‘ใช่ค่ะ’ ‘แล้วเคยรักตัวเองให้ลูกเห็นไหม’ เราได้ยินแล้วถึงกับหายใจไม่ได้เลย ทั้งที่ไม่ได้ถูกถามเอง ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนสิ่งที่ทำมาทั้งหมดพังทลายลงด้วยคำถามนั้น ที่ผ่านมาสนใจแต่จะทำให้ลูกให้สามีมีความสุข เพื่อให้ตัวเองรู้สึกมีคุณค่า แต่ไม่เคยทำให้ตัวเองมีความสุขอย่างที่ใจต้องการเลย

การทำให้ตัวเองมีความสุขอาจเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนอื่น แต่ไม่ใช่สำหรับหมอแมว

Breathwork

Breathwork

“เราเป็นภรรยาที่ดี เป็นแม่ที่เยี่ยมยอดมาก เพราะดูแลทุกอย่าง ความใส่ใจไปอยู่กับลูกและสามีทั้งหมดเพื่อให้เขามีความสุข แต่ไม่เคยมีเวลาให้ตัวเองเลย ลึกๆ เราไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้คุณค่าตัวเอง เลยไม่รู้ว่าจะมีความสุขได้ยังไง จึงไม่เคยเป็นแบบอย่างของการรักตัวเองและทำให้ตัวเองมีความสุขให้ลูกเห็นเลย”

หมอแมวเป็นมนุษย์ลักษณ์ 2 เรียกกันว่าผู้ให้ (Helper) เป็น People Pleaser ที่จะเอาใจคนอื่นและจะยิ่งเป็นพิเศษกับคนที่ตัวเองให้ความสำคัญ โดยไม่สนใจตัวเองและเก็บกดความต้องการของตัวเองไว้เพื่อพยายามทำให้คนอื่นมีความสุขและพึงพอใจอยู่เสมอตามคำนิยามในศาสตร์นพลักษณ์

เธอเล่าว่า รู้สึกเหมือนมีแรงผลักดันให้ต้องทำเพื่อคนอื่นตลอดเวลา แล้วเรียกสิ่งนั้นว่าความสุข ถ้ามีใครเอ่ยชมจะยิ่งอยากทำให้มากขึ้นต่อไปอีก

“เหมือนเป็นหนูถีบจักรที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย รู้แต่ว่าหยุดทำไม่ได้ อยู่นิ่งๆ ไม่เป็น ไม่รู้ตัวเลยว่าไม่เคยให้ความสำคัญกับตัวเองเลย ต่อให้ป่วย พอเริ่มทุเลา ก็จะรีบกลับมาทำหน้าที่ดูแลคนพิเศษตามเดิม”

Breathwork

ที่สุดก็ได้ตื่นรู้ (สักที)

แล้วอะไรกันที่ทำให้หมอแมวรู้ตัว

หมอแมวยกกิจกรรมในคลาสนพลักษณ์ที่ว่าด้วยการเติบโต ที่ให้แบ่งกลุ่มแสดงละคร เธอได้รับบทเอกเป็นคนลักษณ์ 2 “แค่แสดงว่าชีวิตตัวเองในแต่ละวันที่อยู่กับลูกเป็นยังไง คนดูพากันซาบซึ้ง เพราะเห็นถึงความรัก ความใส่ใจ และความทุ่มเทที่เรามีให้ลูก แล้วก็ชื่นชมกันยกใหญ่”

แต่แล้วคำชมในครั้งนั้นที่หมอแมวเคยปรารถนามาตลอดกลับทำให้ได้เห็นอีกแง่มุมที่เป็นโทษภัยของคำชมที่ตัวเองไม่เคยเห็นมาก่อน!

Breathwork

“กลางคืนนอนไม่ได้เลย ใจมันฟูวาบๆ พร้อมกับเสียงชื่นชมที่วนก้องอยู่ในหัวเราทั้งคืน แสดงว่าเรากระหายมันมาก การที่เรารอกินคำชมจากคนอื่น แปลว่าเรามีความสุขด้วยตัวเองไม่ได้ ชีวิตที่ผ่านมาอยู่ได้ด้วยการหล่อเลี้ยงจากสิ่งนี้ ช่วงหลังถึงสังเกตเห็นว่า ถ้ามีคนชม ใจเราจะวูบวาบ แขนขาจะร้อนๆ อยากก้าวไปประจบเพื่อให้เขาชมมากขึ้น เมื่อก่อนไม่เคยเห็น เพราะความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นไวมาก และทำจนเป็นนิสัย จึงไม่เคยรู้ตัวและไม่เคยตั้งคำถามว่า อะไรผลักดันให้เราต้องทำ แล้วทำไปทำไม ทำเพื่ออะไร แต่สิ่งเหล่านี้นพลักษณ์บอกไว้หมด

Breathwork

“ที่ผ่านมาทุ่มเวลาทั้งหมดเกินความจำเป็นให้สามีและลูกด้วยการดูแลทุกกระเบียดนิ้ว แต่ลืมดูแลความต้องการของตัวเองที่ถูกเก็บกดไว้มากๆ โดยไม่เคยได้รับการตอบสนอง บางครั้งจึงระเบิดออกมาเป็นความโกรธ แต่ก่อนลูกเคยพูดว่า เวลาแม่โกรธแล้วเหมือนอาฬวกยักษ์ ได้ยินแล้วทั้งตกใจและเสียใจ เลยค่อยๆ ปรับเปลี่ยนชีวิตใหม่ ให้อิสระตัวเองก่อนถึงจะให้อิสระคนอื่นได้”

หมอแมวค่อยๆ เริ่มกลับมารักตัวเอง ด้วยการจัดเวลาสัปดาห์ละชั่วโมงอยู่กับตัวเอง (Self-appointment) เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการ จากที่เคยคิดว่าความหมายของชีวิตคือการทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด ก็เริ่มเปิดใจเรียนรู้ เข้าใจ และตอบสนองความต้องการที่ลึกลงไปของตัวเองมากขึ้น

Breathwork

ค่อยๆ รักกัน…เบาๆ

หมอแมวนิวเวอร์ชันค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีความสุขขึ้น พลังงานที่เคยทุ่มเทให้ครอบครัวทั้งหมด ก็เฉลี่ยมาเป็นพลังชีวิตที่เติมความเข้มแข็งให้ตัวเอง กล้าที่จะเป็นอิสระ อยู่เองได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงทางจิตใจจากคนอื่น ไม่ต้องอาศัยคำชมจากคนอื่นในการขับเคลื่อนชีวิต เพราะนั่นคือการฝากคุณค่าตัวเองไว้กับผู้อื่น

หมอแมวเริ่มค่อยๆ ใช้เวลาทำในสิ่งที่ชอบและมีความสุข ด้วยการเรียนโยคะ เรียนพิลาทีส เรียนร้องเพลง และเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่ตัวเองชอบเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ไม่ต้องคอยการตอบสนองและรอคำชื่นชมจากคนรอบข้างเหมือนแต่ก่อน เป็นการเห็นคุณค่าและให้เวลาตัวเองที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อย ชีวิตเริ่มมีความสุขและเป็นอิสระมากขึ้น ที่สุดคนใกล้ตัวก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนี้

Breathwork

“บ้านเราจะไปเข้าคลาสนพลักษณ์ด้วยกันตลอด แต่ช่วงหลัง ลูกพูดถึงเราในคลาสว่า ‘เมื่อก่อนหนูเหมือนต้นไม้ในครอบแก้วของแม่ ทำให้หนูเติบโตได้ระดับนึง แต่เดี๋ยวนี้หนูมีอิสระมากขึ้น แม่ไม่ได้ใส่ใจหนูมากจนเกินไป แม่หันไปสนใจบำรุงต้นไม้ของตัวเอง จนต้นไม้แม่เติบโต แม่รู้แล้วว่า หนูก็ต้องการแสงในการเติบโตเหมือนกัน แล้วแม่ก็เอาครอบแก้วนั้นออก ตอนนี้หนูจึงโตแล้ว และเราทุกคนก็เป็นต้นไม้ที่กำลังเติบโตไปด้วยกัน’ คำพูดที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ทำให้รู้ว่าลูกมีความสุข และนั่นแหละคือความสุขที่เราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน”

ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอย้ำว่า ทุกอย่างต้องอยู่บนจุดสมดุล

Breathwork

“จุดสมดุลคือทางสายกลาง พอดีเขา พอดีเรา เมื่อก่อนคิดแต่อยากให้ลูกมีความสุข แต่ไม่ได้ดูว่าลูกสุขจริงไหม รู้แต่ว่าถ้าลูกยังไม่สุข แสดงว่าเรายังทำให้ลูกไม่พอ ก็จะดูแลลูกยิ่งขึ้นอีก กลายเป็นลูกกลับยิ่งไม่มีความสุข สุดท้ายลงเอยด้วยการทุกข์ทั้งคู่ แต่ไม่มีใครกล้าพูดหรือบอกเรา เขากลัวเราจะเสียใจ เพราะแค่เขาไม่ยินดีกับสิ่งที่เราตั้งใจทำให้ แค่นั้นเราก็เสียใจแล้ว แต่ถ้าเรามีสติและรู้ตัวมากพอ จะค่อยๆ เจอจุดพอดีที่สมดุล เรายังทำหน้าที่เหมือนเดิม แต่ในแบบพอดี อย่างอาหารก็ยังทำบ้าง แต่ไม่ละเมียดละไม พิถีพิถัน สรรหาที่เกินจำเป็นจนดึงเวลาส่วนตัวเราไป เอาแค่ใส่ใจคุณภาพอาหารให้ถูกสุขอนามัยตามหลักโภชนาการก็พอ เดิมที่เคยมีแต่ของโปรดลูกกับสามี หลังๆ จะถามตัวเองด้วยว่าแล้วเราล่ะอยากกินอะไร เรากล้าที่จะบอกความต้องการของตัวเองซึ่งกันและกันมากขึ้น ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้น เป็นความเบา เราเบา เขาเบา ลูกเบา เบากายเบาใจ”

Breathwork

เครดิตภาพ : Miracle of Breath

กว่าจะหายใจได้เต็มปอด ก็อายุ 58 แล้ว!

“เป็นคนหายใจเข้าสั้น หายใจออกแรงมาก เหมือนบังคับลมให้พุ่งออกไป” หมอแมวพูดพลางหายใจให้ดู ให้นึกภาพตามการหายใจเข้าที่ดูสั้นและลำบาก กับการหายใจออกที่คล้ายกับการถอนหายใจแต่พุ่งแรงกว่า

“หายใจเข้าคือการหายใจให้ตัวเอง ที่เราหายใจเข้าลำบาก เพราะกดความต้องการของตัวเองไว้มาตลอด ส่วนหายใจออกที่แรง เพราะใจมันพุ่งไปด้วยพลังเต็มเปี่ยมเพื่อส่งให้คนที่เรารัก เมื่อก่อนไม่เคยสังเกตเห็นการหายใจของตัวเอง เลยนึกย้อนเวลาเล่นพิลาทีส เทรนเนอร์เคยพูดว่า ‘พี่เอาแต่หายใจออก ไม่หายใจเข้า แล้วจะเอาแรงจากไหน’ หรือแม้แต่ตอนไปปฏิบัติธรรมที่ต้องใช้จิตจับที่ลมหายใจ เราเคยหายใจเข้าไม่ได้ มันอึดอัดมาก เหมือนจะตายให้ได้ ตอนหลังถึงมาเข้าใจกลไกการป้องกันตัวเองที่เรากดความต้องการตัวเองมาตลอด กดไม่ยอมหายใจเข้า เพื่อเก็บแรงไปหายใจออกให้คนอื่น”

Breathwork

เครดิตภาพ : Miracle of Breath

แล้วหมอแมวแก้ไขการหายใจเข้าสั้นของตัวเองยังไง

ที่ผ่านมาช่วงปลายปีหมอแมวจะเข้าอบรมคอร์สนพลักษณ์กับการปฏิบัติธรรม มีอาจารย์สันติกโรเป็นเหมือนครูใหญ่ของวงการนพลักษณ์ ท่านจะสอนการรู้ตัวอยู่กับลมหายใจ (อานาปานสติ) พร้อมๆ กับการภาวนาแง่มุมต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับศาสตร์นพลักษณ์
“มีปีหนึ่งอาจารย์สอนเรื่องพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) โดยให้รู้ตัวอยู่กับลมหายใจขณะที่ภาวนากับคุณธรรมแต่ละอัน ตอนภาวนาเรื่องเมตตาและกรุณา ก็ยังรู้สึกว่าหายใจเข้ายังสั้นและหายใจออกแรงและยาวจนอึดอัด ซึ่งเป็นตามแนวโน้มของลักษณ์ตัวเองที่จะใส่ใจคนอื่น และหายใจเพื่อส่งใจออกไปช่วยให้คนอื่นมีความสุขและพ้นทุกข์ ภาวนาเท่าไหร่ ก็ไม่หลุด การหายใจยังคงไม่สมดุล จนกระทั่งเริ่มฝึกเรื่องมุทิตา”

เอาละสิ…ความงงชักจะเข้าครอบงำคนฟังอย่างเรา จนต้องขอเบรกด้วยความสงสัยว่า เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น

หมอแมวยิ้มรับข้อสงสัยและอธิบายว่า “ตอนฝึกภาวนาเรื่องมุทิตา อาจารย์ให้หายใจเข้าแล้วนึกชื่นชมขอบคุณทุกสรรพสิ่งที่นำพาเรามาที่นี่ แล้วหายใจออกส่งคำขอบคุณนั้นออกไป ก็ทำตามไป จู่ๆ ก็มีเสียงดังจากข้างในว่า หายใจเข้าชื่นชมและขอบคุณตัวเองที่พามาถึงวันนี้ แล้วหายใจออกขอบคุณทุกสรรพสิ่งที่เกื้อหนุน นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าเราหายใจเข้าได้เต็มปอด และหายใจออกสมดุลกันและเบาสบาย เป็นการรู้สึกเห็นความสำคัญและเห็นคุณค่าตัวเองอย่างแท้จริง”

Breathwork

เครดิตภาพ : Miracle of Breath

สีหน้าประหลาดใจและการทวนคำถึงสิ่งที่ได้ยินของเรา ทำให้หมอแมวส่งยิ้มใจดีให้อีกครั้งก่อนย้ำชัดว่า “ใช่ เป็นครั้งแรกที่หายใจเต็มปอด ตอนนั้นอายุ 58 แล้ว การที่เราไม่ได้ใส่ใจแพตเทิร์นการหายใจของตัวเอง กลายเป็นการลดทอนศักยภาพลมหายใจที่ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตเราตามธรรมชาติ”

ว่าแล้วหมอแมวก็ขยายความต่อ “แพตเทิร์นการหายใจจะบอกชีวิตของคนคนนั้น เป็นกลไกร่างกายที่จะเผยเรื่องราวที่เกิดกับเจ้าของลมหายใจ เช่น ใครกำลังเครียด สูญเสียคนที่รัก หรือครอบครัวล้มละลาย สิ่งที่ต้องทำคือการฮึ้บแล้วไปต่อ ก้อนความเครียดที่เก็บไว้ทำให้เราเสียพลังชีวิต กลายเป็นคนเบิร์นเอาต์ ซึมเศร้า หรือเป็นแพนิก

“ส่วนคนที่กลั้นหายใจบ่อยๆ เวลาที่ไม่รู้ตัว เป็นคนที่มีอะไรเก็บซ่อนไว้ในใจ หรือคนที่พยายามข่มอารมณ์เวลาที่รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ ก็จะกลั้นหายใจ กลายเป็นเก็บก้อนอารมณ์นั้นไว้กับตัว พลังงานพวกนี้ไม่หายไปไหน ยังอยู่ข้างในตัวเรา ลมหายใจจึงเป็นเหมือนผู้กำความลับของเรา ถ้าใครที่เรียนรู้เกี่ยวกับการหายใจ ฝึกฝนการสังเกต ก็จะรู้ถึงแพตเทิร์นการหายใจของตัวเองได้”

Breathwork

เครดิตภาพ : Miracle of Breath

หมอแมวยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวอย่างการหาวและการถอนหายใจ

“ใครที่หาวบ่อย แสดงว่าการหายใจไม่ดี เพราะการหาวคือการนำอากาศเข้าร่างกายในปริมาณมากกว่าปกติ เพราะร่างกายต้องการออกซิเจน ทำให้รู้ว่าคนนั้นกำลังอ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการถอนหายใจก็เป็นกระตุ้นระบบประสาท ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย” ทั้งการหาวและการถอนหายใจจึงเป็นกลไกร่างกายที่ส่งสัญญาณบอกเจ้าของให้ ‘พักก่อน’ อย่างที่สาว Milli แร็ปเปอร์สุดปังร้องไว้นั่นแล

Breathwork

เครดิตภาพ : Miracle of Breath

Breathwork…ลมหายใจเพื่อการเริ่มต้นใหม่

หลังจากหมอแมวเติมพลังชีวิตด้วยการเติมความสุขให้ตัวเองได้อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว จังหวะชีวิตและความเป็นคนชอบเรียนรู้ ทำให้เธอได้เข้าเรียนคลาสออนไลน์ The Breathwork Summit 2021 มีโอกาสเรียนกับ Anthony Abbagnano หนึ่งในครูผู้สอนหลักของคลาสนั้นที่ทำให้หมอแมวได้รู้จักกับ‘Breathwork’ เป็นครั้งแรก

“Breathwork อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ได้ว่า คือ กระบวนการที่ใช้การหายใจด้วยเทคนิคพิเศษอย่างต่อเนื่อง (Conscious Connected Breathing) ทางปาก โดยใช้เสียงเพลงและเสียงไกด์ของกระบวนกรช่วยนำพาให้ร่างกายผู้เข้าร่วมมีโอกาสได้ปลดปล่อยความเครียดที่สะสมอยู่ออกไปตามกลไกและศักยภาพที่มีอยู่แล้วในร่างกายทุกคนได้อย่างเต็มที่

คลาสนั้นจริงๆ เป็นการประชุมออนไลน์ของผู้ที่ทำงาน Breathwork จากทั่วโลก แค่การนำของ Anthony ที่ให้เราลองทำ Breathwork เชื่อไหมว่า แค่ครั้งแรกครั้งนั้นครั้งเดียว จากที่เคยนอนหลับลึกประมาณชั่วโมงครึ่งก็กลายเป็นหลับลึกยาว 4 ชั่วโมง ชักติดใจ รุ่งขึ้นเลยลองเข้าคลาสอีกวันหนึ่ง ผลลัพธ์ชัดเจนมาก เลยตัดสินใจปรึกษาครอบครัวเพื่อลงทะเบียนเรียนอย่างจริงจัง”

Breathwork

เครดิตภาพ : Miracle of Breath

หลักสูตร Certified Breathwork Facilitator Training Program ของสถาบัน Alchemy of Breath (AoB)ที่ Anthony เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นนั้น เป็นคอร์สที่สอนถึงการใช้ศักยภาพของลมหายใจเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับต่างๆ โดยผู้เรียนต้องใช้เครื่องมือที่เรียนมาฝึกกับตัวเองจนเชี่ยวชาญก่อน แล้วถึงใช้ทักษะที่ได้ไปจัดกระบวนการ Breathwork ความยากของคอร์สนี้ นอกจากเรียนเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ศัพท์เกี่ยวกับการทำงานภายในยังมีความเฉพาะมากๆ ชนิดที่หมอแมวที่น่าจะคุ้นเคยกับศัพท์แสงทางการแพทย์ยังยอมรับว่าไม่ใช่ภาษาธรรมดา ไหนจะต้องเก็บเคส ต้องอ่านหนังสือ ต้องอัดคลิปวิดีโอส่ง เพราะเป็นการเรียนออนไลน์ ที่สำคัญใช้เวลาเรียน 8 เดือน ความที่หมอแมวเป็นคนไทยคนแรกที่เรียน ฉะนั้น จึงไร้รุ่นพี่ร่วมชาติไว้คอยนำทางหรือเป็นที่ปรึกษา ต้องอาศัยตนเป็นที่พึ่งแห่งตนโดยแท้

Breathwork

หมอแมวในวัย 60 ปี ณ ขณะนั้น ส่งใจไปลงทะเบียนเรียนล่วงหน้าก่อนแล้ว เพราะรู้สึกคลิกและอยากเรียนมาก ยืนยันเป็นมั่นเหมาะกับสามีที่ไม่ได้กังวลเรื่องค่าเรียนที่ค่อนข้างสูงเลย แต่เป็นห่วงเกรงภรรยาจะเรียนไม่ไหวมากกว่า “สามีเป็นรองคณบดีฝ่ายการศึกษา เขาดูรายละเอียดคอร์สนี้แล้วบอกว่า‘หลักสูตรจริงจังเลย เอาเรื่องมากนะ ไหวไหม ยังกับเรียน Resident (แพทย์ประจำบ้าน) เลย’
หมอแมวยังจำคำพูดที่ตอบสามีได้แม่นจนถึงวันนี้ว่า

“รู้ว่ามันจะหนัก จะยาก แต่พร้อมที่จะไปลองเสี่ยงดู ดีกว่าอยู่โดยไม่มีพลังชีวิตแบบนี้” และแล้วเธอก็ได้เรียนสมใจและเป็นคนไทยคนแรกที่เรียนจบหลักสูตรนี้อย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2022 ทว่า ดูเหมือนว่า Calling ข้างในของเธอจะดังชัดเจนให้เจ้าตัวอยากนำความรู้ที่ได้มาทำประโยชน์บางอย่างกับโลก หมอแมวจึงขอไปต่อด้วยคอร์สเรียนเพื่อเป็น Mentor (ครูพี่เลี้ยง) สำหรับผู้ที่เรียนในหลักสูตร Certified Breathwork Facilitator รุ่นต่อมา ซึ่งเธอเพิ่งจบหลักสูตรนี้เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2023 และกำลังจะบินไปสอบภาคปฏิบัติที่อิตาลีในเดือนกันยายน ปี 2024 ที่จะถึงนี้

เป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ ที่บ้านเราได้มีหมอแมวยืนหนึ่งในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน Breathwork ขอปรบมือให้หมอแมวคนเก่งไว้ ณ ที่นี้ด้วย

Breathwork

เครดิตภาพ : Miracle of Breath

ก่อนเอ่ยคำลา เราขอให้หมอแมวเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองหลังจากทำงานเรื่อง Breathwork

“รู้สึกมีความสุขและมีพลังชีวิตมากขึ้น ได้ทำงานที่ตัวเองรักและเป็นประโยชน์กับคนอื่นไปพร้อมๆ กัน รู้สึกเหมือนชีวิตอิ่มเต็มและมีความหมายมากขึ้น เลยอยากให้กำลังใจคนที่กำลังมองหางานที่ตัวเองรักและเป็นงานที่มีความหมาย ที่จะมาเติมเต็มพลังชีวิตให้ชีวิตตัวเองและเป็นประโยชน์กับโลกใบนี้ ขอเพียงเปิดใจ คอยรับฟังเสียงเรียกจากข้างใน และค่อยๆตามเสียงนั้นไป”

ที่สำคัญหมอแมวเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า อายุไม่ใช่อุปสรรคของการเรียนรู้ เพราะเธอในวัย 60 ปีเพิ่งค้นพบงานที่รักและได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มีความสุข มีคุณค่า และมีความหมาย เป็นการค้นพบความสุขที่แท้จริงและเป็นสมดุลในชีวิต

แม้การหายใจและลมหายใจจะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนดูคุ้นเคยจนอาจหลงลืมที่จะให้ความสำคัญ ทั้งที่ลมหายใจเป็นความสุขแสนเรียบง่ายจากร่างกายที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมา หากเราได้รู้จักลมหายใจแล้ว รู้ซึ้งถึงพลังและศักยภาพของลมหายใจ จะสามารถนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับร่างกายได้อย่างน่าทึ่งเลยเชียวล่ะ

Breathwork การทำงานกับลมหายใจที่เป็นเครื่องมือแสนมหัศจรรย์อันทรงพลังที่ทุกคนมีอยู่กับตัว ซึ่งจะพาเรากลับมารู้ตัวอย่างเต็มที่ในปัจจุบันขณะ เพื่อให้ได้พบ ได้เรียนรู้ และค้นเจอความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง แล้วตอบสนองความต้องการนั้นได้อย่างสมดุล จนเกิดความเปลี่ยนแปลงจากภายในที่เป็นประโยชน์กับตัวเรา

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากทำเวิร์กช้อปกับหมอแมวแบบตัวเป็นๆ ติดตามรายละเอียดได้ที่เพจ Miracle of Breath

Tags: