

Impressionist Memoirs
‘chubbybrushh’ นักบันทึกความทรงจำผ่านการสะบัดทีแปรงเก็บภาพงานแต่งแบบ Impressionism
- คุยกับเอ่เอ๊-อิสริยา ศรนรินทร์ กับอีกหนึ่งบทบาทในฐานะศิลปินวาดภาพสดงานแต่ง (Live Wedding Painting) ผ่านการใช้เทคนิคทีแปรงสไตล์ Impressionism ที่พัฒนาต่อยอดจากสิ่งที่หลงใหล จนกลายเป็นศิลปินผู้เก็บโมเมนต์สำคัญในอีเวนต์ต่างๆ
“เราชอบงานแต่งมากๆ อินกับการแต่งงาน เคยบอกเพื่อนเหมือนกันนะ พอจบงานแต่งของตัวเองแล้ว ยังรู้สึกอยากจัดงานแต่งให้ใครอยู่เลย (หัวเราะ) คือไม่ได้มองว่าตัวเองต้องเป็นคนสำคัญในงานนั้นนะ แค่อยากจัดงานแต่งให้ใครสักคนแค่นั้นเอง พูดง่ายๆ คือเราแค่อยากอยู่ตรงนั้น”
เอ่เอ๊-อิสริยา ศรนรินทร์ นอกจากเป็นผู้ก่อตั้ง ‘Sariya Studio’ ที่นำขยะจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาแปรสภาพเป็นศิลปะรูปแบบใหม่แล้ว เธอยังมีอีกตัวตนในฐานะ ‘chubbybrushh’ ศิลปินวาดภาพสดงานแต่ง หรือถ้าเป็นต่างประเทศจะคุ้นหูในชื่อ ‘Live Wedding Painting’ เป็นการวาดภาพสดในพิธีแต่งงาน เพื่อเก็บโมเมนต์สำคัญและบรรยากาศรอบข้าง เสมือนเป็นการบันทึกความทรงจำผ่านสายตาศิลปินสู่ภาพวาด
เอ่เอ๊บอกเราว่า งานนี้เริ่มต้นจากความชอบล้วนๆ พัฒนาสู่การลองลงมือทำ หลังจากค้นพบว่า มันเป็นความสุข เป็นสิ่งที่เธอรักและอยากทำต่อไป จนกลายมาเป็นศิลปินวาดภาพสดงานแต่ง ที่ภายหลังก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่งานแต่งงานเท่านั้น บางครั้งเธอไปสเก็ตช์ภาพในอีเวนต์ต่างๆ รวมไปถึงเธอยังเคยวาดภาพสดในงานวันเกิดลูกค้าอายุ 80 ปีที่เพื่อนๆ รุ่นน้องร่วมกันมอบเป็นของขวัญ ประทับใจจนลืมไม่ลง
แค่เปิดมาเรื่องราวก็น่าสนใจขนาดนี้ เราจะไม่กลับมาพูดคุยกับเธออีกครั้งได้ยังไง ดังนั้น เราขอเปิดประเดิมคอลัมน์ Second Self ด้วยการพามารู้จักอีกตัวตนเอ่เอ๊ให้มากขึ้นในฐานะ Live Wedding Painting Thailand กันดีกว่า
Our Wedding Day
เอ่เอ๊พาเล่าย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน จุดเริ่มต้นการเป็นศิลปินวาดภาพสดงานแต่งนั้น เริ่มขึ้นจากจุด ‘เอ๊ะ’ จุดหนึ่งในช่วงที่วางแผนจัดงานแต่งของเธอเอง ทันทีที่สายตากวาดไปเห็นศิลปินวาดภาพสดระหว่างพิธีแต่งงานของงานหนึ่ง มันก็ตรึงใจเธออยู่หมัดทันที เอ่เอ๊ฝันอยากมีศิลปินมาวาดภาพสดในงานแต่งของเธอแบบนี้บ้าง แต่เมื่อหาข้อมูลก็พบว่าประเทศไทยยังไม่มีศิลปินเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ กระทั่งเธอที่จบจากคณะมัณฑนศิลป์ คร่ำหวอดในวงการศิลปะมาตลอด ก็ยังมองไม่ออกว่าใครจะสามารถมาทำหน้าที่นี้ได้
“แม้กระทั่งเพื่อนเราเอง ก็ยังไม่มั่นใจ ถ้าวาดออกมาแล้วจะเป็นยังไง คือรูปแบบและสไตล์ของแต่ละคนก็ยังไม่ชัดเจนขนาดนั้น สุดท้ายก็พับโปรเจกต์นี้ลงไป ไม่ได้มีศิลปินมาวาดภาพสดงานแต่งตัวเอง ถึงแม้งานแต่งของเราจะจบลงไปแล้ว แต่สิ่งนี้ก็ยังคงติดอยู่ในใจ”
แม้ไร้สิ่งที่เธอฝันไปในบางส่วน แต่ขณะเล่าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“พอจบงานไป ความรู้สึกของการแต่งงานก็จบลง รู้สึกโหวงเหมือนกันนะ เราเตรียมงานมาเป็นปี แต่จบภายใน 3 ชั่วโมง คือประทับใจแหละ แต่แค่รู้สึกว่าสิ่งที่เหลืออยู่คือความทรงจำผ่านภาพถ่ายแค่นั้นเลย”

เครดิตภาพ : chubbybrushh
เมื่อสิ่งที่ติดอยู่ในใจยังไม่ได้รับการแก้ไข วนเวียนเวียนวนอยู่ในความคิด ประกอบกับความชื่นชอบในการแต่งงาน เอ่เอ๊เลยปิ๊งไอเดียทดลองเป็นศิลปินวาดภาพสด เธอเล่าทั้งเปื้อนรอยยิ้มเคล้าเสียงหัวเราะ เพราะไม่ได้คาดคิดว่าผลตอบรับจะเยอะขนาดนี้ จากที่อยากให้มีศิลปินมาวาดภาพสดในงานแต่งของตัวเอง มาผสานกับความชื่นชอบในบรรยากาศงานแต่งงาน หญิงสาวพัฒนาสู่การทดลองเป็นนัก (อยาก) วาดภาพสด โดยเวทีแรกของเธอเริ่มต้นจากการโพสต์ใน X (อดีตชื่อทวิตเตอร์) ว่า มีไอเดียอยากทดลองวาดภาพสดแบบนี้ ซึ่งเธอขอคิดแค่ค่าอุปกรณ์เท่านั้น
เรามองแววตาแน่วแน่ของเอ่เอ๊ พร้อมยิงคำถามกลับไปว่า เมื่อความฝันพานพบกับความจริง จะยังใช่สิ่งที่ฝันอยู่ไหม เมื่อต้องลงมือปฏิบัติ มีปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ มาหยุดยั้งให้รู้สึกท้อถอยหรือไม่
“เริ่มจากเราชอบอีเวนต์งานแต่งอยู่แล้ว เราโฟกัสที่ความสุขกับการไปงานแต่งเป็นหลัก ก็เลยชอบมาก (หัวเราะ) สำหรับงานแรกคือตื่นเต้นมากนะ ด้วยระยะเวลาจำกัด ทำให้ต้องเข้าใจภาพรวมก่อน แต่พอผ่านงานแรกไปก็เข้าใจมากขึ้น จากความตื่นเต้นเป็นความเคยชิน สนุกขึ้น และไม่กดดันเลย”
แต้มต่อของเอ่เอ๊คือการจบจากคณะมัณฑนศิลป์ เรียนผสมผสานระหว่าง Fine Art กับ Fuction อยู่แล้ว ตลอดการเรียนนั้น ก็ออกไปสเก็ตช์ภาพนอกสถานที่ภายในระยะเวลาที่กำหนด เธอฝึกฝนมาตลอดจนสะบัดพู่กันแบบรวดเร็วไล่ตามทันสิ่งที่คิดในหัว นี่จึงเป็นทักษะที่ค่อนข้างตรงกับความหลงใหลในบรรยากาศของการแต่งงาน นำมาหยิบจับ ฝึกฝน พัฒนา และต่อยอดจนกลายมาเป็นสิ่งที่รัก

เครดิตภาพ : chubbybrushh
Live (Wedding) Painting Thailand
‘chubbybrushh’ แรกเริ่มเป็นแอ็กเคานต์สำหรับวาดภาพประกอบควบคู่กับการทำงานประจำ โดยทำมาหลายอย่าง ตั้งแต่วาดภาพตามสั่ง (Art Commission) มีโปรดักส์ขายในรูปแบบผ้าใบแคนวาสและเคสโทรศัพท์ ออกแบบโลโก้และแพตเทิร์นลายเสื้อ หรือแม้แต่จิตรกรรมดิจิทัล (Digital Painting) ก็มี เรียกว่าเป็นแอ็กเคานต์ที่สร้างมาเพื่อรองรับการทำงานด้านศิลปะ ก่อนจะพัฒนากลายมาเป็นพื้นที่สำหรับวาดภาพสดงานแต่งโดยเฉพาะ ถ้าช่วงไหนว่างก็รับคอมมิชชันวาดภาพงานแต่งด้วยเช่นกัน
“จุดที่เหมือนกันระหว่าง Live Wedding Painting กับ Event Sketch Painting คือ มีระยะเวลาจำกัด และมีรูปแบบการทำงานคล้ายกันตรงที่เราจะถ่ายรูปก่อนแล้วค่อยมาวาด”

เครดิตภาพ : chubbybrushh
ส่วนความแตกต่างของ Event Sketch Painting คือ การให้ความสำคัญกับจำนวนแขกที่มาเข้าร่วมงาน เพื่อเตรียมทีมให้รองรับกับจำนวนแขกและต้องสอดคล้องกับระยะเวลา โดยสมาชิกภายในทีมก็ต้องทำงานเข้าขากัน เคยมีประสบการณ์การวาดภาพสดเหมือนกัน เข้าใจภาพรวมของการสเก็ตช์ภาพในงานอีเวนต์ ที่สำคัญคือต้องรักในการทำงานด้านนี้ เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลาเป็นอย่างมาก
โจทย์ของการสเก็ตช์ภาพฉบับ chubbybrushh คือจะทำยังไงให้แขกได้ภาพแบบที่ต้องการ ต้องวางสไตล์ไว้ประมาณไหน ควบคู่กับการทำงานออกมาให้รวดเร็วแข่งกับเวลา โดยกำหนดไว้ว่า 1 คนจะวาดภาพแขกไม่เกิน 30 ภาพต่อ 1 อีเวนต์ และจะวาดไม่เกิน 6 ชั่วโมงซึ่งก็ขึ้นอยู่กับหน้างานด้วย

เครดิตภาพ : chubbybrushh
ขณะที่ Live Wedding Painting เป็นการลุยงานเดี่ยวของเอ่เอ๊ มีระยะเวลาประมาณ 3-5 ชั่วโมง โฟกัสที่คู่แต่งงาน ความยากง่ายขึ้นอยู่กับรายละเอียดของงานเป็นหลัก โดยปกติแล้วเอ่เอ๊จะไปเตรียมตัวก่อนประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อมองภาพรวมฉากหลังของงาน
“มันไม่ใช่แค่การวาดอย่างเดียวนะ เราต้องเข้าใจ ต้องไปซึมซับบรรยากาศก่อน จากนั้นก็ถ่ายทอดออกมาให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด อยากให้เขามองเห็นแล้วรู้ว่า นี่คือฉากของเขา นี่คือภาพงานแต่งของเขา เหมือนต้องหาจุดตรงกลางระหว่างความเร็วกับสไตล์ด้วย การมีเวลาน้อยก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องวาดเร็วๆ ให้มันเสร็จไวๆ เป็นงานรีบหรืองานเผา ก็ต้องทำให้งานเป็นงานที่สมบูรณ์งานหนึ่ง”
“ความจริงแล้วลูกค้าไม่ได้กำหนดขนาดนั้นว่า ต้องเสร็จภายใน 3 ชั่วโมงหรือ 4 ชั่วโมงเท่านั้น ลูกค้าก็อยากได้งานที่สมบูรณ์ เต็มไปด้วยรายละเอียด และเป็นสไตล์เรามากที่สุด ถ้าไม่ได้ส่งมอบให้วันนั้นเลยก็ไม่เป็นไรด้วยซ้ำ บางครั้งเราก็กลับไปเก็บรายละเอียดเล็กๆ แต่ส่วนใหญ่เราจะวาดให้เสร็จในเวลา เพื่อส่งมอบให้วันนั้นเลย”
เอ่เอ๊โชว์ภาพวาดคอมมิชชันงานแต่งให้ดู ชี้รายละเอียดบางส่วนพร้อมเล่าให้ฟังด้วยความภาคภูมิใจ ทุกรายละเอียดเสื้อผ้าและสิ่งของรอบข้าง ตั้งแต่สีที่ใช้เสริมองค์รวมของบรรยากาศ รอยยิ้มแห่งความสุขของคู่บ่าวสาว เธอสะบัดพู่กัน แต่งเติมทีแปรง ถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงาม แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นหนึ่งในแขกที่เข้าร่วมงานแต่งครั้งนั้น ไม่ได้รู้จักเจ้าบ่าว ไม่เคยเห็นหน้าเจ้าสาว แต่เมื่อมองภาพวาดคอมมิชชันนี้ กลับทำให้เรายิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
แล้วทำไมต้องเป็น chubbybrushh ชื่อนี้ได้มาจากไหนกันนะ
“คำว่า Chubby มันน่ารักดี คล้ายรูปลักษณ์เราอยู่แล้วด้วย รู้สึกมองเห็นคาแรกเตอร์เราชัดเจนดี ก็มีหลายคนมาแซวนะว่าใช่ chubbybrushh ไหม ใช่เจ้าแปรงอ้วนหรือเปล่า” เอ่เอ๊พูดพร้อมรอยยิ้ม
ถ้าใครเคยเข้าไปส่อง chubbybrushh จะเห็นลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ คือการถ่ายทอดโมเมนต์สำคัญผ่านการใช้ศิลปะแบบลัทธิประทับใจ (Impressionism) ทำให้ภาพมีเสน่ห์ สะดุดตา ชวนให้หันกลับไปมอง และยังคงทิ้งคาแรกเตอร์บางอย่างของทั้งบ่าวสาวไว้ ทำให้มองออกทันทีว่า นี่คือใคร ผสมกับการใช้ทีแปรงเข้ามาเพิ่มรายละเอียดบางส่วนให้มีมิติ สมจริงมากขึ้น มวลรวมในภาพจึงให้ความรู้สึกฟุ้งละมุน ถ่ายทอดบรรยากาศของการแต่งงานผ่านสายตาของศิลปิน ที่มองเข้าไปในพิธีด้วยห้วงบรรยากาศแห่งความรัก

เครดิตภาพ : chubbybrushh
Her Moment
ผ่านมาแล้วปีกว่าในฐานะศิลปินวาดภาพสด จากตอนแรกตั้งใจวาดภาพสดในงานแต่งงานโดยเฉพาะ สู่การวาดภาพสดเก็บโมเมนต์สำคัญในเหตุการณ์ต่างๆ ผลงานหลากหลายมากมายจนนับไม่ไหว เชื่อว่าต้องมีสักภาพที่น่าสนใจแน่นอน
“มีงานอีเวนต์วันเกิดครบรอบ 80 ปี จัดโต๊ะแบบ Long Table แขกทุกคนนั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกัน พูดคุยหยอกล้อกันบ้าง ทีนี้เขาอยากให้ไปวาดภาพสด เก็บภาพรวมบรรยากาศ งานนี้เราต้องเข้าไปแอบอยู่ในห้อง พอวาดเสร็จปุ๊บก็เดินถือภาพวาดออกไปเซอร์ไพรส์ ภาพวาดชิ้นนี้จึงเป็นเหมือนของขวัญวันเกิดให้คุณยาย”
“งานแต่งที่บ้านสายลมแสงแดด เจ้าสาวเห็นภาพครั้งแรกแล้วก็ร้องไห้ น้ำตาไหล เราเห็นก็ตกใจ เขามาบอกทีหลังว่า ตอนเห็นปุ๊บ เขารู้สึกว่าเป็นภาพที่ฝันไว้เลย ประทับใจมากๆ ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่า งานที่เราทำมันไม่ใช่แค่ทำแล้วจบไปเนอะ แต่มันยังคงทำงานกับความรู้สึกเราหลังจากนั้นด้วย เหมือนเราทำให้ความฝันของคนหนึ่งคนเป็นจริง ด้วยความที่เราเคยแต่งงานมาก่อน ก็ค่อนข้างเข้าใจความรู้สึกของการเป็นเจ้าสาวมากๆ เป็นโมเมนต์เดียวในชีวิตที่รู้สึกแบบนี้”

เครดิตภาพ : chubbybrushh
เมื่อกาลเวลาหมุนพัดพาแปรเปลี่ยน การบันทึกความทรงจำไม่ได้จำกัดอยู่แค่บันทึกผ่านกล้องถ่ายรูปและวิดีโอเท่านั้น กรอบของภาพวาดถูกขยับขยายออกไปมากขึ้น กำลังกลายเป็นเครื่องมือบันทึกความทรงจำในอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งนี้ การมีศิลปินมาวาดภาพสดเก็บโมเมนต์สำคัญต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เหตุการณ์บางอย่างที่ไม่อาจหวนกลับคืนมาได้ เราอาจจะจำบรรยากาศ ความรู้สึกโดยรวม สถานการณ์ที่ประทับใจได้เป็นบางฉาก เพราะสมองของมนุษย์ไม่ได้อนุญาตให้เราจดจำบางสิ่งได้นานขนาดนั้น แม้จะเป็นเรื่องประทับใจเรามากก็ตาม
ครั้งหนึ่งในชีวิตจะมีจัดอีเวนต์สำคัญเยอะเพียงใดกันเชียว ถ้าจะบันทึกความทรงจำผ่านเครื่องมือหลากหลาย ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ เราจึงอยากบันทึกความทรงจำต่อเหตุการณ์ที่ประทับใจไว้ให้มากที่สุด

เครดิตภาพ : chubbybrushh

เครดิตภาพ : chubbybrushh
“ภาพวาดคือเสน่ห์ที่ไม่มีวันตาย ทั้งเทกซ์เจอร์ ดีเทลต่างๆ เป็นงานศิลปะอีกรูปแบบหนึ่ง ขณะที่ภาพถ่ายก็ให้ความรู้สึกอีกแบบ ปกติเราจะจำมวลความรู้สึกผ่านการมองรูปภาพ แม้ว่าจะเป็นซีนเดียวกันแต่ความรู้สึกขณะมองสองสิ่งนี้ ไม่ว่าจะทั้งภาพวาดหรือภาพถ่าย ก็ให้ความรู้สึกที่ต่างไปคนละแบบ”
ภาพถ่ายอาจต้องโพสท่าเพื่อเก็บซีนบางฉาก ขณะที่ภาพวาดสด คือความรู้สึกจริงในขณะนั้น ที่ถูกบันทึกผ่านสายตาของศิลปิน ตลอดจนถ่ายทอดออกมากลายเป็นภาพวาดแบบที่เราเห็น ดังนั้นทั้งภาพถ่ายและภาพวาดก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับบันทึกความทรงจำเช่นกัน
จากความฝันของเอ่เอ๊ที่อยากมีศิลปินมาวาดภาพสดในพิธีแต่งงานของตัวเอง สู่การนำความฝันนั้นมาต่อยอด ฝึกฝน และพัฒนา จนวันนี้เธอกลายเป็นศิลปินวาดภาพสดผู้บันทึกโมเมนต์แห่งความทรงจำที่ฟุ้งละมุนและนุ่มนวล
ชักอยากเห็นผลงานของเธอครั้งหน้าแล้วสิ…
ติดตามเธอได้ที่:
IG: chubbybrushh
TikTok: chubbybrushh