About
BALANCE

Keep Calm

จิตตก หมดไฟ แวะไป Flow Teaspace คาเฟ่ชาสเปเชียลตี้ที่เติมพลังใจผ่านชาป่าอายุหลายร้อยปี

เรื่อง Nid Peacock ภาพ ฉัตรชัย มาตยภูธร Date 30-07-2024 | View 2334
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • แวะมาจิบชาที่ Flow Teaspace เพื่อคุยกับเจ้าของร้าน เชท – กิตติเชษฐ์ สิริศรีพรชัย ถึงไอเดียและแรงบันดาลใจในการเปิด Tea Bar แห่งแรกของไทยที่นำชามาผสานเข้ากับการบำบัดจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาป่าจากต้นชาที่มีอายุหลายร้อยปี

แม้ ‘ชา’ จะได้ชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีการบริโภคมากที่สุดในโลกรองจากน้ำเปล่า แต่ถ้าไม่ใช่ ‘ชานมไข่มุก’ เห็นทีว่าหลายคนคงส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะชาในภาพจำคือน้ำร้อนรสขมฝาดที่คนมีอายุชอบดื่มกัน

แต่ถ้าบอกว่าเป็นชาป่าจากต้นชาโบราณอายุหลายร้อยปี คัดสรรโดยผู้ศึกษาด้านพลังงานบำบัดแล้วว่ามีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และจิตวิญญาณล่ะ ชักน่าสนใจขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหม

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เรามาอยู่ที่ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ย่านรัชดา แม้เป็นวันทำงานกลางสัปดาห์แต่ที่นี่ก็พลุกพล่านอึกทึกพอตัว แต่พอลงมาชั้น G ที่ตั้งของร้าน Flow Teaspace ฝูงชนดูจะเบาบางลงถนัดตา ยิ่งเปิดประตูร้านเข้าไป เหมือนก้าวไปอีกโลกหนึ่งเลย

เสียงน้ำไหลรินยินเสียงนกร้องขับกล่อมเบาๆ หอมกลิ่นชาจางๆ ลอยมาเตะจมูก แสงไฟแบบ Warm White ให้ความสบายตาไม่สว่างจ้าเหมือนด้านนอก แอร์เย็นกำลังสบาย ทุกประสาทสัมผัสพาเราเข้าสู่ภวังค์แห่งความสงบได้ในชั่วเสี้ยวนาที นี่ขนาดยังไม่ได้จิบชาสักนิดเลยนะ

ท่าทางคาเฟ่ชาแห่งนี้จะไม่ธรรมดาละ

Flow TeaSpace

สู่โลกของชา

ช่วงล็อกดาวน์จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เชท – กิตติเชษฐ์ สิริศรีพรชัย ผู้ดื่มกาแฟมาทั้งชีวิต อยู่บ้านว่างๆ เลยหยิบชาที่ภรรยาสั่งมาลองชงดื่มดู ชารสเข้มแต่นุ่มละมุนจากมณฑลกวางตุ้งที่บรรจุมาในผลส้มไม่ได้ทำให้เขาประหลาดใจเท่ากับความรู้สึกที่ดื่มเข้าไปแล้วสัมผัสได้ถึงการรวมตัวของพลังงานที่กลับเข้าสู่ร่างกาย เขารู้เลยว่าชานี้ไม่ธรรมดา จึงสนใจและเริ่มศึกษาชานับตั้งแต่นั้นมา

ต้องบอกก่อนว่าเชททำงานด้านพลังงานบำบัด เป็นผู้ก่อตั้ง Ghittichate Spiritual Studio มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เขาเชี่ยวชาญด้านการใช้ญาณทัศนะ การบำบัดแบบองค์รวมด้วยศาสตร์เรกิและพลังจักรวาล ทั้งยังเป็นผู้ที่ทำสมาธิเป็นประจำอยู่แล้ว จึงสามารถอ่านพลังงานได้เมื่อดื่มชาเข้าไป

Flow TeaSpace

“ดื่มแล้วแทนที่พลังงานมันจะพุ่งออกไป แต่กลับรวมพลังเข้ามาในร่างกายเราได้ รู้สึกสงบ ช่วงโควิดผมว่างด้วย เลยชงชาดื่มทุกเช้า ชาทำให้ผมได้อยู่กับตัวเอง ได้พิจารณาตัวเอง แล้วชายังนำพามิตรภาพดีๆ มาให้ หลังโควิดคลี่คลาย ไปร้านชาที่ไหน เจอคนรักชาเหมือนกัน ก็จะหยิบชานั้นชานี้มาชงให้ลองดื่มดู ผมเริ่มฝึกดื่มชาหลายๆ ชนิดเพื่อศึกษาความแตกต่างของชาแต่ละตัว บางตัวดื่มแล้วสงบ บางตัวเหมือนพาเรากลับไปอยู่กับธรรมชาติ บางตัวดื่มแล้วหัวใจเบิกบาน ผมเลยคิดนำชามาใช้ในงานบำบัด”

เชทจัดเวิร์กช้อปชื่อ ‘ชา ชีวิตและจิตวิญญาณ’ ณ สตูดิโอของเขาย่านเอกมัย โดยใช้ศาสตร์เรกิและสมาธิเข้าไปปลดพันธนาการทางจิตใจด้วยการดื่มชาที่คัดสรรแล้วว่ามีคุณสมบัติในการปลอบประโลมร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และจิตวิญญาณได้ โดยจัดชาเป็นตัวแทนในแต่ละช่วงวัย งานนี้ประสบความสำเร็จเกินคาด ชาสามารถพาผู้ร่วมเวิร์กช้อปย้อนกลับไปปลดล็อกบางอย่างในชีวิต บางคนเกิด wisdom บางอย่างขึ้นมา แต่ที่ทุกคนสัมผัสได้คือความนิ่งสงบและผ่อนคลาย

Flow TeaSpace

เวิร์กช้อปนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้เชทมาเปิด Flow Teaspace คาเฟ่ชาที่รวบรวมใบชาคุณภาพดีที่เขาคัดสรรมาแล้วว่ามีพลังดี เสิร์ฟในบรรยากาศสบายและผ่อนคลายที่สุด เพื่อให้เข้าถึงรสชาติความเป็นชาและสัมผัสได้ถึงความสงบของจิตใจ ได้ผ่อนคลายกายจากความยุ่งเหยิงวุ่นวายในชีวิต

“ใครรู้สึกไม่สบายใจ ท้อแท้ หมดใจ หรือเบิร์นเอาต์ สามารถแวะมาดื่มชาและรับพลังงานบางอย่างไปสร้างกำลังใจและพลังที่สูงขึ้นให้ตัวเอง ที่นี่อาสาเป็นที่พักใจ ที่เติมพลังความสดชื่นสดใสให้ใจกลับมาอีกครั้ง”

Peace of Mind

‘ถ้าไม่ได้ฝึกฝนด้านจิตและสมาธิล่ะ จะรู้สึกถึงพลังงานที่ว่านั้นได้ไหม’

เชทพยักหน้ารับข้อสงสัยของเรา “อย่างแรกเลยที่จะได้รับ คือการได้อยู่กับตัวเอง ได้ความสบายใจจากสิ่งที่ผมแทรกผ่านบรรยากาศในร้าน แสงสีเสียงทุกอย่างผมตั้งใจเซ็ตมาเพื่อสร้างความผ่อนคลาย แสงไฟในร้านใช้หลอดไฟในช่วงความสว่างที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เปิดเพลงบรรเลงเสียงธรรมชาติให้รู้สึกสงบ สีเขียวของผนังก็เป็นสีของการเยียวยา”

ผนังสีเขียวที่เชทพูดถึงอยู่ด้านในสุดของร้าน มีภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่ประทับอยู่ “ท่านเป็นตัวแทนความเมตตา คาถาหัวใจของท่าน คือ ‘โอม มณี ปัทเม ฮุม’ คือการให้ทุกคนมีความรักความเมตตาต่อกัน ซึ่งเป็นพลังงานการเยียวยาที่ยิ่งใหญ่” เรามองไปที่มุมห้องมีแท่งหินควอตซ์จากธรรมชาติแท่งใหญ่วางอยู่บนเก้าอี้ “พลังของหินจะทำให้รู้สึกกลับมาเบิกบานได้อีกครั้ง ทุกคนรับพลังเหล่านี้ได้แต่จะรู้สึกมากน้อยต่างกัน อยู่ที่ความละเอียดของจิตใจซึ่งต้องฝึกฝน”

Flow TeaSpace

‘ก่อนอื่นคือต้องเชื่อถึงการมีอยู่ของพลังงานด้วย’

เชทไม่ได้ตอบคำถามที่มาในประโยคบอกเล่าของเรา แต่แชร์ประสบการณ์ให้ฟังว่า “ผมเป็นคนหนึ่งที่ทำงานกับครูบาอาจารย์มา ท่านบอกผมเสมอว่า ครูบาอาจารย์อาจช่วยเปิดทางให้ได้ แต่ถ้าเธอไม่เดิน แล้วมันจะยังไง หมายความว่าเราต้องฝึกฝนและพัฒนาตัวเองทุกวัน การอ้อนวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราอาจได้รับครั้งหนึ่ง แต่ถ้าขอเรื่อยๆ โดยไม่คิดพัฒนาตัวเองก็คงไม่ได้”

นอกจากเชทจะลงดีเทลองค์ประกอบทุกอย่างในร้านเพื่อสร้างบรรยากาศของความผ่อนคลายแล้ว เขาพยายามทำชาให้มีความร่วมสมัยขึ้น ด้วยการไม่ชงให้มีรสเข้มจนเกินไป เพื่อให้จิบได้เรื่อยๆ รวมถึงทำให้ขั้นตอนการดื่มชาสะดวก ง่าย และไม่ยุ่งยาก ด้วยการชงมาให้แบบพร้อมดื่มเลย ว่าแล้วเขาก็เดินนำไปที่เคาน์เตอร์ชงชา

Flow TeaSpace

“เรามีป้านชาหลายรูปทรงที่ทำจากดินหลายชนิด ป้านแต่ละอันสำหรับชงชาที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าชงแบบคนรุ่นใหม่จะใช้ Hario อย่างกาน้ำร้อน 3 อันที่เห็น น้ำข้างในกาจะคนละอุณหภูมิกัน เพราะชาแต่ละชนิดเหมาะที่จะชงในน้ำร้อนที่ต่างอุณหภูมิกัน อย่างชาขาวต้อง 85-90 ส่วนผู่เอ๋อร์ต้องเกือบ 100 องศาเซลเซียส ทุกอย่างเราวางดีเทลไว้หมดแล้ว ลูกค้าเลือกได้ตามชอบว่าอยากดื่มแบบไหน เพราะจะร้อนหรือเย็นก็ช่วยเรื่องการบำบัดได้เหมือนกัน”

ต่อให้ไม่ใช่สาวกชาอย่างเรา บอกเลยว่าเห็นอุปกรณ์ชงชาแล้ว มันน่าหยิบน่าจับน่าใช้ไปหมด แม้แต่กาชาถ้วยชาที่ดูเผินๆ ก็เหมือนของธรรมดาทั่วไปนั้น เชทเล่าว่าสั่งตรงมาจากไต้หวัน แล้วที่เห็นว่าวัสดุน่าจะเป็นเหล็กนั้น จริงๆ แล้วปั้นจากดิน เพราะดินจะช่วยให้เก็บอุณหภูมิได้ดีขึ้น ยิ่งได้มองถ้วยชาใกล้ๆ จะเห็นลวดลายในถ้วยที่เป็นการแตกลายงาจากการเผาด้วยความร้อนสูง สวยเท่ไปอีกแบบ

Flow TeaSpace

จิบชาฮีลใจ

มาดูเมนูชาที่ Flow Teaspace กันบ้าง เห็นร้านไม่ใหญ่แต่ก็มีเมนูชาให้เลือกพอสมควรเลย ลังเลอยู่นานว่าจะแนะนำอันไหนดี สุดท้ายขอเลือก Flow Tea Set ละกัน เราว่าความที่มีสุดยอดชาถึง 6 ชนิดซึ่งเชทคัดสรรมาแล้วว่าคุณภาพเกรดพรีเมียม แต่ละตัวก็มีความพิเศษแตกต่างกันไป สนุกตอนเลือกและก็ลุ้นรสชาติตอนชิมว่าจะเป็นยังไงบ้าง แล้วก็เสิร์ฟได้ทั้งร้อนเย็นด้วยนะ ประกอบด้วย

Deep Forest เป็นชาดำจากผืนป่าเชียงรายที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ เป็นชาที่เติบโตตามธรรมชาติ ดื่มแล้วเหมือนได้กลับไปสัมผัสธรรมชาติ

Gushu Pu’er ชาผู่เอ๋อร์จากชาป่าอายุ 400-750 ปี เป็นชารสเข้ม หอมกลิ่นดอกไม้ ที่มีพลังช่วยการหมุนเวียนพลังงานในร่างกาย ได้ยินว่าชาป่าอย่านึกกังวลไปก่อน เราชิมแล้ว ไม่ขมฝาดเลยสักนิด

Moring Dew หรือที่เรียกกันในชื่อ ชายอดน้ำค้าง ทำจากยอดชาคัดพิเศษที่นำไปทำชาอู่หลง ซึ่งเก็บยอดเฉพาะช่วงฤดูหนาว ผ่านการนวดและอบอย่างพิถีพิถัน รสชาตินุ่มนวล หอม หวาน ไม่มีรสขมฝาดบาดคอ มีกลิ่นหอมของน้ำผึ้งและมะลิอ่อนๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เย็น สดชื่น

Orange Pu’re เป็นชาผู่เอ๋อร์ที่นำมาบรรจุในผลส้มจากมณฑลกวางตุ้ง ดื่มแล้วได้กลิ่นชาผสมกลิ่นส้ม รสเข้มแต่นุ่มละมุน เป็นชาที่พาเชทเข้าสู่โลกของชา เราเริ่มด้วยการจิบแบบร้อน อืม…รสเข้มแต่ไม่ขม จิบได้เรื่อยๆ ระหว่างที่จิบไปคุยกันไป ชาก็เริ่มเย็นลง เชทเลยให้น้องพนักงานมานำไปชงเป็นชาเย็นมาให้เราชิม โอ้…ไม่น่าเชื่อว่ารสชาติที่ชิมตอนเป็นชาร้อนไม่ดร็อปลงเลยเมื่อชงแบบเย็น ทั้งกลิ่นและรสยังอยู่ครบเหมือนเดิม

เชทที่นั่งอมยิ้มมองความตื่นเต้นปนแปลกใจของเรา แล้วบอกว่า “ชาดี ชงหลายน้ำ ชงร้อนหรือเย็น รสกลิ่นก็ไม่เปลี่ยน”

Flow TeaSpace

Dan Cong ชาอู่หลงชนิดพิเศษจากเฟิ่งหวงซานในมณฑลกวนตงของจีน เป็นชาที่อยู่บนเทือกเขาสูง ได้กลิ่นหอมของดอกไม้และน้ำผึ้ง ได้รับฉายาว่าเป็นน้ำหอมแห่งชา (Perfume of Tea) ดื่มแล้วชื่นใจสุดๆ แถมได้กลิ่นหอมๆ ด้วย จิบเพลินแก้วต่อแก้วได้เลย เราแอบเทใจให้เลย

Red Orchid เป็นชาแดงที่ได้จากไร่ชาที่ใช้กระบวนการผลิตที่มีรางวัลระดับโลกการันตีคุณภาพ ให้กลิ่นหอมของดอกไม้และผลไม้สุก มีรสชาติหอมหวานเป็นเอกลักษณ์มากๆ

ส่วนเซ็ต Spiritual Tea Set เป็นชาที่เชทคัดแล้วว่ามีพลังงานช่วยในการบำบัด ส่วนมากเป็นชาป่า หรือชาที่ได้จากต้นชาอายุหลายร้อยปีที่ต้องเข้าไปเก็บกันในป่าที่เชียงราย ความที่ต้นชาอยู่มานาน รากหยั่งลึกลงในดิน จึงเก็บสะสมทั้งสารต่างๆ และพลังงานในพื้นที่นั้นเอาไว้มากมาย จึงเป็นชาที่เหมาะนำมาช่วยบำบัด เราคิดว่าแต่ละคนดื่มแล้วน่าจะรู้สึกต่างกัน เลยอยากให้มาลองชิมกันเอง นอกจากนี้ ยังมีเมนูชากลุ่มมัทฉะที่ใช้ผงมัทฉะเกรดพิธีการ (Ceremonial Grade) จากเมืองอุจิ (Uji) แหล่งกำเนิดชาเขียวของญี่ปุ่น ที่ให้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

แล้วยังมีชากลุ่ม Fun เชทเล่าว่า ได้ไอเดียจากชามะนาว เลยนำมาดัดแปลงเป็นชาไทยสูตรของทางร้านที่เติมเครื่องเทศอย่างโป๊ยกั๊กและกระวานที่มีสรรพคุณดีต่อระบบย่อยอาหาร ช่วยลดการอักเสบของลำไส้ได้ ส่วนรสชาติเข้มข้น หอม อร่อย เป็น base แล้วไปชงผสมกับส่วนผสมอื่น เช่น ส้มยูสุ มะพร้าว เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ สนุกและอร่อยไปอีกแบบ ปิดท้ายด้วยชาดอกไม้ ได้แก่ กุหลาบ เก๊กฮวย และคาโมมายล์ แน่นอนว่าชงได้ทั้งร้อนและเย็นได้ทุกเมนู

Flow TeaSpace

นอกจากชาแล้ว เราไม่อยากให้พลาดขนมของที่นี่ แม้จะมีน้อยเมนูแต่เด็ดทุกอัน โดยเฉพาะเค้กที่เชทได้ลูกศิษย์ที่จบพาสทรีเชฟจากอเมริกามาช่วยออกแบบขนมให้เข้ากับชาของ Flow Teaspace มี 3 แบบ (ไล่จากซ้ายไปขวาในรูป) ได้แก่ Hive ชูกลิ่นและรสความเป็นเลม่อน แต่เป็นความเปรี้ยวที่กินแล้วจะค่อยๆ ปรากฏรสให้รู้สึก กินกับชา Moring Dew หรือชาดอกไม้ Golden ข้างในเป็นส้มกับดาร์กช็อกโกแลตได้รสหวานของส้มที่ตัดกับความเข้มของช็อกโกแลต กินกับชาผู่เอ๋อร์รสเข้มๆ ได้เลย ส่วน Harmony เป็นสตรอว์เบอร์รี่ ให้ทั้งความหอมของผลไม้ผสมครีมนม เข้ามากๆ กับชาบอดี้เบาๆ อย่างชาขาวหรือ Dan Cong

Flow TeaSpace

สำหรับช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ทั้งหลาย เราอยากให้ลองกินช็อกโกแลตกับชาดู มันเข้ากันมากอย่างที่คิดไม่ถึงเลย ยิ่งเป็นชาเข้มๆ ความเข้มข้นของช็อกโกแลตจะช่วยให้รสชาหอมเข้มชัดเจนขึ้น หรือใครที่คิดว่าเค้กจะหนักไป ลองสั่งเป็นนูกัต หรือขนมตังเมของไต้หวัน ที่ได้ครอบครัวเพื่อนของเชทที่ไปฝึกปรือฝีมือจากต้นตำรับถึงไต้หวันมาทำให้ ได้ยินว่าเป็นตังเมแต่ไม่ต้องนอยด์เรื่องความหวาน เพราะคนทำตั้งใจให้บาลานซ์กับรสชา แถมยังได้เทกซ์เจอร์กรุบๆ จากถั่ว ส่วนตัวเราว่าเข้ากับชาได้ทุกเมนูนะ โดยเฉพาะชาร้อน

Flow TeaSpace

ธุรกิจเชิงจิตวิญญาณ

สนทนากันมาได้พักใหญ่ แม้จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการบ้างแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ได้คึกคัก จนเราก็อดนึกห่วงในแง่ธุรกิจไม่ได้ เลยแปรความกังวลเป็นคำถามส่งไป เชทยังคงยิ้มรับแล้วตอบเราว่า “ถ้ามองเรื่องกำไร ผมว่าเปิดยาก ถ้าจะกำหนดว่าต้องรันแบบนั้นแบบนี้ มันทำไม่ได้ เพราะนี่ไม่ใช่ Slow Bar นะ แต่ Very Slow Bar (หัวเราะ) กว่าจะชงชาได้สักกา ใช้เวลาเป็น 10 นาที เราไม่ได้คิดไว้ว่าจะต้องมีลูกค้าต่อคิวรอซื้อชา อันนั้นไม่ได้ตอบโจทย์การเปิด Flow Teaspace ไม่งั้นต้องทำอีกแบบหนึ่ง แต่นี่ผมทำเอามัน (หัวเราะ)

“เวิร์กช้อปที่สตูดิโอผมรองรับคนเรียนได้รอบละไม่กี่คน แถมยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงประมาณหนึ่งเลย ผมเลยคิดว่าถ้าใครมีโอกาสได้มาเจอผมที่นี่ หรือต่อให้ไม่ได้เจอตัว แต่ได้เข้ามารับพลังงานดีๆ ในนี้กลับไป ถือว่ามีคุณค่ากับผมที่ได้ช่วยผู้อื่น เป็นธุรกิจเชิงจิตวิญญาณที่ผมไม่ได้ตั้งเป้าในแง่ตัวเลขผลกำไร เพราะผมกับแฟนก็ไม่ได้มีลูก เราเป็นคนไม่ใช่จ่ายอะไรเยอะ คือถ้าทำแล้วได้กำไร เติบโตได้ ก็ถือเป็นทุนให้เรานำไปทำอย่างอื่นได้ แต่ถ้าแค่พอประคองไปได้ ผมก็ไม่ติดอะไร

Flow TeaSpace

“ทุกเดือนผมจะเนรมิตที่นี่ให้เป็นเหมือนห้องรับแขกเพื่อจัดกิจกรรมในช่วงหัวค่ำหลังปิดร้าน ที่ผ่านมาเคยจัดกิจกรรมสมาธิผ่านการจิบชา พร้อมรับฟังคลื่นเสียงจากขันหิมาลายัน เป็นกิจกรรมที่ไม่มีค่าใช้จ่าย แค่สนับสนุนเครื่องดื่มในร้านก็เข้าร่วมได้ พอเคลียร์โต๊ะเก้าอี้ออก ก็รองรับคนได้ 30-40 คนเลยนะ ทำให้ผมทำงานด้านพลังงานบำบัดได้ในวงกว้าง ถ้ามองในมุมนี้ กว่า 6 เดือนที่เปิดร้านนี้มา มันตอบโจทย์ผม โดยให้สตูดิโอเป็นรายได้หลัก แล้วที่นี่เป็นกึ่งงานอดิเรกกึ่งแพสชั่นส่วนตัวของผมที่จะได้ตอบแทนสังคม

“ผมบอกอย่างจริงใจเลยว่า อยากให้คนได้มาสัมผัส ได้มาใช้ประโยชน์จากที่นี่ แค่มาแล้วรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ ผมแฮปปี้แล้ว บางคนอาจมองว่าราคาชาเราสูง (ตั้งแต่ 125-1,800 บาท) ผมก็จะถามว่า ‘คุณให้ราคาความสบายใจกี่บาทดีละ’ หรือ ‘ทุกข์ที่สลายไปนี้กี่บาทดี’ ฉะนั้น กระบวนการบางอย่างของที่นี่ดึงคุณออกมาจากความทุกข์ได้โดยที่ประเมินค่าไม่ได้ อาจจะแค่ชาแก้วเดียว ผมอธิษฐานในวันที่สถาปนารูปวาดพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ฯ นี้ไว้ว่า ‘ผู้ใดมีทุกข์ ขอให้มาที่นี่ แล้วให้ทุกข์ทั้งหลายจงมลายสลายไป’

Flow TeaSpace

“ผมเป็นคนสุราษฎร์ฯ โตมาในครอบครัวที่พอมีฐานะ ไม่ได้ลำบากอะไร ตระกูลผมทำป่าไม้ ซึ่งคนสมัยก่อนในต่างจังหวัดเมื่อสัก 30-40 ปีก่อน รู้จักกันดีในนาม ‘5 เสือสุราษฏร์ฯ’ ใช้ชีวิตสุขสบายมาตลอดกระทั่งผมไปเรียนต่อที่อเมริกา แล้วเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ เราเก็บเงินลูกค้าไม่ได้ ทำให้เราต้องล้มตาม แม่ผมที่เป็นซิงเกิลมัมเลี้ยงผมกับน้องชายมาโทร.ไปบอกว่าส่งต่อไม่ไหวแล้ว แต่ผมก็ฮึดสู้ไม่ยอมกลับเมืองไทย พยายามหางานทำเพื่ออยู่ต่อให้ได้ จนกลายเป็นโรคเครียด นอนมองเพดานอย่างสิ้นหวังในชีวิตมาก

“แต่แล้วผมก็ได้หนังสือธรรมะของท่าน ว.วชิรเมธี ดึงสติให้กลับมา อีกส่วนหนึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเสียงธรรมะตามสายของท่านพุทธทาสสมัยที่ผมอยู่สุราษฎร์ฯ ที่ขัดเกลาจิตใจโดยที่ผมไม่รู้ตัว ผมเอาชีวิตรอดมาได้ เพราะธรรมะ ให้คำตอบทุกความสงสัยของชีวิตให้ผมได้ เชื่อไหมว่า แม่โทร.หาเพื่อขอเงินผมแต่ไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้น ผมตัดสินใจโอนเงินที่มีซึ่งเป็นหนทางที่จะช่วยให้ชีวิตผมดีขึ้น ยกให้แม่ทั้งหมด มารู้ทีหลังว่า ถ้าวันนั้นผมไม่โอน แม่อาจจะฆ่าตัวตาย ซึ่งผมเองก็เคยคิดจะฆ่าตัวตายเหมือนกัน แต่นึกในใจว่ายังไม่ได้กลับมาหาแม่เลย ส่วนแม่ก็ไม่กล้าทำเพราะรอที่จะเจอผมอยู่เหมือนกัน นี่คือพลังความรักของผมกับแม่ที่พาให้เรารอดมาได้ ผมถึงศรัทธาในความรักความเมตตาว่ามีพลังให้เราหลุดพ้นปัญหาได้”

Flow TeaSpace

เชทถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตเขาเพื่อบอกเราว่า นี่คือเหตุผลที่เขาปวารณาตัวช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ เพราะได้รู้ซึ้งถึงความทุกข์ด้วยตัวเอง “หลายคนท้อทำดีแล้วไม่ได้ดี ทำไมชีวิตยังลำบาก ผมเชื่อว่าการสร้างบารมี ถ้ามันง่าย ใครๆ ก็ทำได้หมด แต่คุณจะเลือกอะไร ชีวิตที่ลำบากแต่ยังพอช่วยคนอื่นได้ เผื่อแผ่ได้ ผมว่านี่คือการสร้างบารมีอย่างหนึ่ง ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย มีผลของการกระทำ อาจจะไม่มาหาเราในวันนี้ แต่อะไรที่ออกไป วันหนึ่งจะกลับมา ทุกอย่างมีจังหวะของมัน

“ผมบอกทุกคนเสมอว่า ‘จงมีชีวิตที่อยากมี’ เพราะชีวิตมันสั้นมาก สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับผม คือเวลาในชีวิต ฉะนั้น อย่ามัวไปเสียเวลากับความทุกข์อยู่เลย”
 จำได้ไหมที่เราบอกในตอนแรกว่า แค่เข้าร้านมาก็รู้สึกสงบและผ่อนคลายจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ยิ่งได้สนทนากับเชท จากเรื่องชาขยับไปเรื่องชีวิตและจิตวิญญาณ จนเวลาผ่านไปร่วม 2 ชั่วโมงอย่างไม่รู้ตัว

เอาเป็นว่า อยากให้เปิดใจมาลองสัมผัสดูด้วยตัวเอง อย่างน้อยแม้ว่าจะสัมผัสไม่ได้ถึงพลังงานใดๆ เราว่าแค่จิบชาที่นี่ก็คุ้มแล้ว…จริงๆ นะ

Flow Teaspace
ชั้น G ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ถนนรัชดาภิเษก
เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-20.00 น.
โทร.064-552-9541
FB. Flow.teaspace

Tags: