เคทีซีจับมือ 4 พันธมิตรจัดแพ็คกิฟท์การ์ดสุดพิเศษพร้อมเผยเทรนด์ทุกเรื่องสุขภาพและความงามปี 2568 ที่น่าจับตา

ชีวิตที่ดีคืออะไร?
เชื่อว่าแต่ละคนคงให้คำนิยามไม่เหมือนกัน บางคนอาจให้คุณค่ากับการมีการงานดี บางคนให้คุณค่ากับเรื่องการมีเพื่อน มีครอบครัวที่อบอุ่น บางคนให้คุณค่ากับการมีชีวิตที่เป็นอิสระ ทำอะไรก็ได้อย่างที่อยากทำในสิ่งที่มีความหมาย แต่ไม่ว่าจะคำตอบจะเป็นแบบไหน สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลย นั่น คือเรื่องสุขภาพ

และ 2568 เป็นปีที่น่าจับตามองในวงการสุขภาพ เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะพลิกโฉมการดูแลสุขภาพให้มีประสิทธิภาพ แม่นยำและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ขณะที่ Global Wellness Institute GWI คาดการณ์ว่า ปี 2568 เศรษฐกิจเพื่อสุขภาพทั่วโลก Global Wellness Economy จะมีมูลค่าประมาณ 7ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 230 ล้านล้าน

นอกจากนั้น GWI ยังคาดการร์ด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2563-2568 ธุรกิจสปาจะเติบโตเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ 17.2 % ส่วนการท่องเที่ยวสุขภาพจะเติบโตเฉลี่ยที่อัตรา 20.9%

รวมถึงผลสำรวจหลายแพลตฟอร์มของตลาดสุขภาพและความงาม ยังพบว่าคนไทยเริ่มโฟกัสสู่สุขภาพองค์รวม จากภายในสู่ภายนอกมากขึ้นมากกว่าความงามเพียงอย่างเดียว Beauty Standard สู่ Health Standard

ล่าสุด เคทีซี ซึ่งมีเครือข่ายพันธมิตรด้านตลาดสุขภาพและความงามมากกว่า 20 ปี มีเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจกว่า 5,200 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นกลุ่มโรงพยาบาลกว่า 500 แห่ง และสถาบันความงามกว่า 4,700 แห่ง ระบุว่า พบข้อมูลการใช้ชีวิตที่การใช้จ่ายผ่านออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมของผู้ใช้บัตรเคทีซี ในปี 2567 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีในหมวดสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึง 12% คิดเป็นมูลค่า 25,000 ล้านบาท หรือหากเทียบการเติบโตปี 2567 กับช่วงก่อนการเกิดโควิด-19 คือในปี 2561 มีจำนวนสมาชิกใช้จ่ายในหมวดนี้เติบโตถึง 75%

พร้อมกันนี้เคซีที ได้จับมือกับ 4 พันธมิตร โรงพยาบาลพญาไท 1, 2 และ 3 รวมถึงโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธินและโรงพยาบาลพญาไทนวมินทร์ พรเกษมคลินิก วีสแควร์ คลินิก และเอชดี มอลล์ (HDmall) จัดทำชุดบัตรของขวัญ (Gift Card) ตอบแทนให้กับสมาชิกเคทีซีอีกด้วย โดยที่บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี สำหรับการจัดกิจกรรมการตลาดตลอดปี 2568 นี้ คาดว่าจะช่วยให้การใช้จ่ายในหมวดสุขภาพและความงามเติบโตได้ 15% และจะขยายพันธมิตรร้านค้าในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ วันแถลงข่าวยังได้มีการร่วมแชร์เทรนด์สุขภาพที่น่าสนใจจากผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน โดย เรืออากาศเอกหญิง แพทย์หญิงอัจฉราวดี มหัตนิรันดร์กุล แพทย์ประจำศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์ โรงพยาบาลพญาไท 2 ให้ความเห็นกับ ​5 เทรนด์ที่น่าจับตา ดังนี้

1. Personalized Medicine (Precision Medicine) การรักษาที่เน้นความเฉพาะบุคคลจะได้รับความนิยมขึ้น
2. Mental Health การดูแลสุขภาพจิตที่จะได้รับความสำคัญเพิ่มขึ้น
3. Gut Health & Microbiome การดูแลลำไส้เป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพองค์รวมและไมโครไบโอม (จุลินทรีย์ในลำไส้) ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างสมดุลและส่งเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย
4. Sustainable & Ethical Wellness การดูแลสุขภาพแบบยั่งยืน
5. Longevity & Biohacking การใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายเพื่อการมีอายุยืนยาวและสุขภาพดี ผ่านการใช้ข้อมูลการตรวจสอบสุขภาพและเปลี่ยนวิถีชีวิตเพราะบ้านเราเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มตัว

นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรสตาร์ทอัพด้าน Health Tech อย่าง ‘HDmall’ อีกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการสุขภาพซึ่งมีฐานให้บริการกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยและอินโดนีเซียกำลังจะมีแผนขยายไปยังประเทศเวียดนาม

โดยคุณรายา จันทรมังกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด HDmall ยังให้ความเห็นด้วยว่า คนยุคใหม่สนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น และแพลตฟอร์มได้มีการขยายช่องทางโดยการนำ “จิ๊บ AI ตอบไวเรื่องสุขภาพ” มาช่วยให้คำแนะนำและบริการ 24 ชม. ช่วยให้ลูกค้าเปรียบเทียบราคาและเลือกบริการที่เหมาะสมได้มากขึ้น อีกทั้งในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า ข้อมูลของกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการ HDmall 3 อันดับแรกนิยมซื้อแพ็กเกจตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน HPV และตรวจคัดกรองมะเร็งในผู้หญิงมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ พร้อมกับเผย 5 แนวโน้ม Health Tech ที่อาจจะเกิดขึ้นในไทยในปี 2568 อาทิ เช่น โรงพยาบาลจะเจอแรงเสียดทานจากการปรับตัวสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น การแข่งขันในตลาดโรงพยาบาลเอกชนจะสูงขึ้น การท่องเที่ยวเชิงจิตแพทย์จะเติบโตมากขึ้น และการแข่งขันที่สูงขึ้นจะกระตุ้นให้เหล่าโรงพยาบาลเร่งเพิ่มการเข้าใจห้องพักและห้องผ่าตัดมากขึ้น