About
TRENDS

Woof-cation พาน้อนท่องโลก

เพราะเรา(ต้อง)เที่ยวด้วยกัน นี่เลย! Woof-cation ได้เวลาพาน้อนท่องโลก

เรื่อง เปรมวดี ปานทอง ภาพประกอบ ANMOM Date 21-06-2022 | View 1479
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • บริษัทรถไฟญี่ปุ่นนำร่องไอเดีย Woof-cation บริการให้เจ้าของพาสัตว์เลี้ยงเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นอย่างอิสระโดยไม่ต้องอยู่ในกรงตลอดระยะทางเป็นครั้งแรก ตามคำขอของผู้โดยสารที่ต้องการมีโมเมนต์ผ่อนคลายกับเจ้าตัวโปรดระหว่างทาง
  • สายการบินนกแอร์ตามรอย ประกาศบริการเที่ยวบินพิเศษเช่าเหมาลำ ‘Pet on Board’ พาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องนั่งด้วยกันโดยไม่ต้องใส่กรงหรือโหลดใต้เครื่องเส้นทางไปกลับกรุงเทพ-เชียงใหม่ เดือนสิงหาคมนี้

ทุกวันนี้หันไปทางไหนก็มักเจอธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอยู่มากมาย ไม่ว่าจะอาหาร ของใช้ของเล่น แฟชั่นเสื้อผ้าเครื่องประดับหรือสปาคาเฟ่ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกระแส Pet Humanization ซึ่งเป็นพฤติกรรมการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเสมือนลูกหรือเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ปีนี้อุตสาหกรรมประเภทนี้จึงมีมูลค่าสูงถึง 2.61 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.1 ล้านล้านบาท) จากข้อมูลของ Global Market Insights และจะพุ่งสู่ระดับ 3.5 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 12.2 ล้านล้านบาท) ในปี 2570

ด้วยเหตุนี้ล่าสุดเกิดไอเดีย ‘Woof-cation’ ก่อตัวเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงจากญี่ปุ่นเอาใจคนรักสัตว์โดยเฉพาะ กับบริการรถไฟเที่ยวพิเศษอนุญาตให้เจ้าของสามารถพาลูกๆ แสนรักขึ้นรถไฟชินคันเซ็นไปด้วยกันโดยไม่ต้องถูกขังตลอดเส้นทาง เติมเต็มความฝันของพ่อแม่สายเที่ยวที่อยากพาเจ้าตัวโปรดออกเดินทางท่องโลกกว้างไปด้วยกันแบบไม่เครียด

woo 1

Good idea จากญี่ปุ่น

‘Woof-cation’ มาจากการรวมคำระหว่าง woof ที่สื่อถึงเสียงเห่าของสุนัข กับ Vacation วันหยุดพักร้อน หมายความถึงการท่องเที่ยวพักผ่อนของน้องหมา

คำนี้ถูกนิยามขึ้นมาเพื่อเป็นชื่อโปรโมตแพ็คเกจทัวร์ของทาง JR East บริษัทรถไฟในญี่ปุ่นที่หวังเปิดโอกาสให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงพาสุนัขแสนรักขึ้นรถไฟชินคันเซ็นแบบเช่าเหมาตู้ไปเที่ยวด้วยกันได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องให้ลูกรักของพวกเขาอึดอัดอยู่ในกรงตลอดเส้นทางเหมือนเคย

นี่เป็นครั้งแรกเจ้าตูบทั้ง 21 ตัวได้รับอนุญาตให้เดินทางด้วยการนั่งตักเจ้าของหรือจะนั่งบนเบาะข้างๆ ก็ได้ตามแต่สะดวกตลอดระยะทางประมาณ 1 ชั่วโมงจากสถานีอุเอโนะในโตเกียว ไปยังเมืองตากอากาศคารุอิซาวะ ซึ่งเจ้าของสามารถเลือกค้างคืนหนึ่งในสองโรงแรมที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง

หากไม่นับรวมการเดินทางโดยรถส่วนตัวแล้ว การพาขึ้นเครื่องก็เป็นอีกทางเลือกของคนรักสัตว์ซึ่งมี 2 แบบสำหรับการเดินทางไปด้วยกัน คือ การพาขึ้นเครื่องแบบ PETC (Pet In Cabin) พาเจ้าสัตว์เลี้ยงนั่งไปในห้องโดยสารด้วยกันได้ แต่ต้องมีเอกสารสำคัญและใบรับรองสุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ รวมทั้งต้องงดอาหารก่อนเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อป้องกันอาเจียนระหว่างทาง โดยน้ำหนักรวมตะกร้าหรือกรงไม่เกิน 10 กก.แต่ปัจจุบันไม่มีสายการบินในประเทศที่ให้บริการรูปแบบนี้แล้ว

อีกแบบคือการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแบบ Check Baggage (AVIH) โหลดไว้ที่ห้องบรรทุกสัมภาระพิเศษใต้ท้องเครื่องบินที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยง ส่วนรถไฟปกติ การนำสัตว์เลี้ยงเดินทางไปด้วยได้ต้องอยู่ในกรงตลอดระยะทางและน้ำหนักรวมไม่เกิน 10 กก. เช่นกัน เป็นข้อจำกัดที่ทำให้ทาสแมว-หมาหลายคนเลือกที่จะให้น้องอยู่บ้านแทนไปเที่ยวด้วยกันเพราะไม่อยากเครียดหรือเป็นกังวลระหว่างทาง

woo 2

ขนส่งสาธารณะเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง

หลายปีมานี้วงการสัตว์เลี้ยงเติบโตเป็นธุรกิจใหญ่ในญี่ปุ่น ซึ่งคาดการณ์กันว่ามูลค่าจะสูงถึง 1.7 ล้านล้านเยน (ราว 4.4 แสนบาท) ในปีนี้ จากการเปิดเผยของ Statistica พร้อมกับความต้องการให้การเดินทางของเจ้าตัวโปรดของพวกเขาสะดวกมากขึ้น และไอเดียนี้ก็เกิดขึ้นตามคำร้องขอจากผู้โดยสารว่า อยากมีโมเมนต์ดีๆ กับสุนัขของพวกเขาระหว่างเดินทาง

“เราต้องการสร้างบรรยากาศที่ผู้คนอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวได้ นี่คือก้าวสำคัญที่จะทำให้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงได้จริง” ชิโนะ ฟุรุกาวา เจ้าหน้าที่ JR East Start Up บริษัทในเครือของ JR East เล่าถึงที่มาของไอเดียที่มองจากเรื่องใกล้ตัวตามแบบฉบับของญี่ปุ่น

เพราะในความรู้สึกของเจ้าของบางคน การต้องขังสัตว์เลี้ยงแสนรักของพวกเขาไว้ในกรงขนาดเล็กที่ห้ามมีน้ำหนักเกิน 10 กก.ดูจะโหดร้ายไปหน่อย หนึ่งในนั้นคือโยโกะ โอคุโบะ ทุกครั้งที่เธอพาเจ้าตูบคอร์กี้เดินทางไปด้วยกันก่อนหน้านี้ต้องคอยตรวจดูหมาน้อยที่อยู่ในกรงตลอดว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ครั้งนี้เธอไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว เพราะเห็นหน้ากันตลอดและสามารถเดินทางได้สะดวกสบายขึ้นด้วยวิธีนี้

เช่นเดียวกับ ยูคาริ เซอิโนะ บอกว่า ที่ผ่านมาพวกเขาเดินทางด้วยกันมาแล้วหลายครั้ง แต่รู้สึกแย่กับการต้องให้สุนัขแสนรักไว้ในกรงต่างจากครั้งนี้ที่ไม่เครียดเลย ปกติการเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นไม่ค่อยสนุกและน่าเบื่อ แต่รอบนี้สนุกมาก

woo 3

กระแสลามถึงไทย

อย่างที่รู้กันดีว่ารถไฟชินคันเซ็นที่มีความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม. ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดมากพอๆ กับความเร็ว นอกจากเบาะนั่งที่หุ้มด้วยพลาสติกทุกตัวในตู้พิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยง เจ้าหน้าที่ยังวางเครื่องฟอกอากาศไว้ด้วย พร้อมทําความสะอาดภายหลังอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าขจัดร่องรอยขนสุนัขทั้งหมด

ทัวร์นี้จัดไปแล้วเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาในราคาเริ่มต้นที่ 106,000 เยนต่อ 1 คู่ (เจ้าของกับเจ้าตูบ) หรือ 67,000 เยนต่อคน นอกจากการเปลี่ยนบรรยากาศในการเดินทางให้กับเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงแล้ว โรงแรมที่เข้าพักยังมีกิจกรรมมากมาย อาทิ ตัดเล็บ ทำความสะอาดหู ทำทรีตเมนต์ การฝึกอบรมสำหรับสุนัข และมีสัตวแพทย์คอยดูแล เป็นต้น

ไม่เพียงเป็นโครงการนำร่องที่ทางบริษัท JR หมายมั่นปั้นมือจะจัดให้มีการเดินทางที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้นในอนาคต แต่ยังเป็นไอเดียอันชาญฉลาดที่หลายชาติสามารถนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจหลังยุคโควิดได้สบาย เพราะบรรดาคนรักสัตว์เลี้ยงที่อยากพาเจ้าตูบท่องโลกนั้นบอกเลยว่ามีอยู่ทั่วโลก และเป็นจำนวนไม่น้อยด้วย

woo 4

สำหรับประเทศไทยไม่ต้องรอนาน ล่าสุดนกแอร์ประกาศให้บริการ ‘Pet on Board’ จัดเที่ยวบินพิเศษแบบเช่าเหมาให้เหล่าทาสสามารถนำสัตว์เลี้ยงขึ้นไปนั่งด้วยกันบนเครื่องโดยไม่ต้องใส่กรงหรือโหลดใต้ท้องในเส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ในราคา 12,999 บาท สำหรับผู้โดยสาร 2 ท่าน พร้อมสัตว์เลี้ยง 1 ตัวจำกัดน้ำหนักรวมกระเป๋าไม่เกิน 10 กก. และคาดว่าจะให้บริการช่วงเดือนส.ค.นี้ โดยยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ

การขยับครั้งนี้ได้รับความสนใจไม่น้อย ส่วนหนึ่งใครๆ ก็อยากพาเจ้าตูบที่รักของตัวเองไปเปลี่ยนบรรยากาศ สร้างประสบการณ์ใหม่ร่วมกัน ยิ่งหากมีการจัดการที่ดีมีความชัดเจนตั้งแต่เนิ่นๆ อีกไม่นาน Woof-cation ก็คงกลายเป็นศัพท์ใหม่ยอดฮิตของยุคนี้แน่นอน!

Tags: