About
Homebodies

Artist’s Sanctuary

‘Blue Dean’ กับโลกใบเล็กๆ ในบ้านที่เป็นทุกสิ่งตั้งแต่รวมงานอาร์ต เล่นดนตรี ยันที่ปีนผาจำลอง

Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • รู้จัก ‘Blue Dean’ หรือ ‘ดีน- ธนกร ศิริรักษ์’ ศิลปินนักวาดภาพ เจ้าของลายเส้นอบอุ่นเคล้าสีเอิร์ธโทน ผ่านห้องทำงานในบ้านอายุกว่า 60 ปี ย่านอารีย์ ซึ่งเป็นเสมือน “ที่พักหายใจ” และฮับรวบรวมงานอดิเรกสะท้อนตัวตน อย่างการปีนผาจำลอง เล่นดนตรี วาดภาพ และทำของ D.I.Y.

‘ดีน- ธนกร ศิริรักษ์’ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในนาม ‘Blue Dean' คือศิลปินนักวาดภาพเจ้าของคาแรคเตอร์สีฟ้า ที่มีความสามารถในการกระจายความอบอุ่นละมุนละไมผ่านลายเส้นของเขาไปสู่ผู้ชม หลายครั้ง งานของดีนมักเกี่ยวกับเรื่องการทำงานภายในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการ ‘ให้อภัยตัวเอง’ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว หรือนิทรรศการภาพวาดที่เพิ่งจบลงไปหมาดๆ อย่าง ‘หัดใช้ความรู้สึก’ ที่ชวนทุกคนมาสำรวจตัวเองผ่านคำถามเบสิกๆ ว่า ‘เราใช้ความรู้สึก-จริงๆ ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?’

ในบทความนี้เราเลยขอพาทุกคนมาสำรวจโลกภายในของดีนกันบ้าง “ภายใน” ที่ไม่ได้แปลว่าแค่ภายในจิตใจ แต่คือพื้นที่ส่วนตัวภายในบ้านของเขาที่อยู่มาตั้งแต่เกิด พื้นที่ในการวางความคิดและพักหายใจ ซึ่งสะท้อนความเป็นตัวเองของดีนในทุกๆ มิติ

เราเดินทางมาถึงที่นัดหมายเวลาบ่าย 2 โมงตรงเป๊ะๆ

มอเตอร์ไซค์หยุดจอดหน้าบ้านทรงจั่วแบบไทยกลางซอยอารีย์ที่ดูเหมือนบางส่วนจะยังต่อเติมและซ่อมแซมไม่เสร็จดีนัก ดีนเปิดประตูออกมาต้อนรับเราด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะพาเราเดินตามเสียงเจ้า ‘หมอนข้าง’ ปอมเมอเรเนียนประจำถิ่น เข้าบ้าน และนำทางขึ้นสู่ชั้น 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องทำงาน

Blue Dean

Home is where the Heart is

“คำว่า ‘บ้าน’ สำหรับดีนคืออะไร?” เราเริ่มต้นบทสนทนากับดีนด้วยคำถามที่คลาสสิกสุดๆ แต่ก็เชื่อว่าคงเป็นคำถามที่จะถอดรหัสความสัมพันธ์ของคนตรงหน้ากับห้องไร้ฝ้าหลังคาสูงที่ตกแต่งด้วยภาพวาด เครื่องดนตรี อุปกรณ์ช่าง และหินผาจำลองออกมาได้ไม่มากก็น้อย

“คือที่พักหายใจ รู้สึกว่าเป็นที่เดียวที่ได้พักจริงๆ”

ดีนนิ่งคิดไปสักพักก่อนจะตอบออกมา พร้อมกับเผยเรื่องราวสภาพจิตใจที่พังอย่างไม่เป็นท่าเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว เนื่องจากบ้านไทยทรงจั่วอายุกว่า 60 ปีที่อยู่มาตั้งแต่เกิดต้องได้รับการรีโนเวตระบบภายในต่างๆ ใหม่

“ปกติเวลาไปเจอเรื่องแย่ๆ จะมีที่ให้ได้พักหายใจ แต่ช่วงที่ไม่มีบ้าน เหมือนกับว่าเราไม่มีที่ตรงนั้น ต้องแบกทุกอย่างไว้ตลอดเวลา เหมือนเฟอร์นิเจอร์ที่ยังไม่มีที่ลงอะไรอย่างนั้นแหละในความรู้สึก”

Blue Dean

หนำซ้ำการรีโนเวตครั้งแรกยังเกิดความผิดพลาด ทำให้บ้านเสียหายในหลายๆ จุด ปัญหานี้รบกวนจิตใจดีน จนถึงขั้นเกือบจะเอาเรื่องบ้านไปเป็นคอนเซปต์นิทรรศการศิลปะ! ตอนนี้เลยย้ายกลับเข้ามาอยู่ ทั้งที่บางส่วนของบ้านยังไม่เสร็จดี เพื่อให้ทุกความเป็นไปของบ้านอยู่ในสายตาตลอด

ดีนยอมรับกับเราตรงๆ ว่า “ยึดติด” กับบ้านหลังนี้มากๆ แบบที่ไม่มีแล้วจะทุกข์ เขาอิจฉาคนที่ย้ายไปนู่นนี่ได้แบบไม่มีห่วง และที่ยึดติดไปมากกว่านั้นก็คงจะเป็นห้องทำงานที่เรานั่งสัมภาษณ์กันอยู่ตอนนี้ ซึ่งจะเรียกว่า “ห้องทำงาน” ก็คงไม่ถูกซะทีเดียว เพราะสเปซนี้เต็มไปด้วยความทรงจำตั้งแต่ดีนเกิด ทั้งยังเคยเป็นห้องนอนของพ่อแม่ ก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนฟังก์ชันไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา

ในตอนนี้ ที่นี่เป็นทั้งห้องเล่น ห้องออกกำลังกาย ห้องตัดงานไม้ ฯลฯ จะเรียกว่า เป็น ‘อาณาจักรความสนใจ’ ของอินโทรเวิร์ตคนหนึ่งที่ยกทุกอย่างเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของตัวเองก็ได้

Blue Dean

เขาแชร์ตารางชีวิตที่สัมพันธ์กับห้อง ซึ่งไม่ได้ซับซ้อน แต่ก็ไม่ได้เหมือนกับคนทั่วๆ ไป ให้เราฟังว่า “เราเป็นคนนอนตอนเช้า เพราะว่าตอนกลางวัน จะรู้สึกว่าต้องให้คนอื่น ถ้าเกิดยังมีคนอยู่ข้างล่าง เราจะรู้สึกว่าไม่สามารถอยู่ในห้องแล้วทําอะไรของตัวเองโดยที่ไม่สนใจเขาได้ พอทุกคนนอน เราค่อยมีเวลาของเรา แล้วด้วยความที่ต้องการเวลามาก ก็เลยอยู่จนถึงเช้าอะไรอย่างนี้”

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าดีนไม่เอนจอยกับการมีแขกหรือการใช้เวลากับครอบครัวนะ ตัวเขาเองนี่แหละที่จะเป็นคนชอบชวนคุยและถามนู่นถามนี่ถ้ารู้สึกคอมฟอร์ทกับคนที่มาเยือน ส่วนงานศิลปะก็ยกมาทำในตอนกลางคืนที่บรรยากาศเงียบและนิ่งสงบกว่าแทน

Blue Dean

Space fuels the Art

เราถามดีนถึงความเป็นไปในช่วงนี้ เขากำลังอยู่ในระหว่างการจัด Solo Exhibition ‘หัดใช้ความรู้สึก’ นิทรรศการที่เกิดจากการ “เขินที่จะเต้น” ฟังดูแล้วตลก แต่ดีนอธิบายให้เราฟังว่า “มีคนมาบอกว่าเราไม่ค่อยใช้ความรู้สึก ซึ่งเรากลับมาทบทวนแล้วก็จริง เราเป็นเเบบนี้กับหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะกับอะไรที่ต้องแสดงความรู้สึกจริงๆ อย่างการเล่นคอนเสิร์ตหรือการเต้น เพราะเป็นคนใช้ความคิดเยอะ คิดว่าคนข้างนอกจะมองเข้ามาแล้วจะรู้สึกยังไงกับเราอยู่ตลอดเวลา”

Blue Dean

“คิดว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ชอบอยู่บ้านหรือเปล่า? เพราะว่าเป็นพื้นที่ที่เราจะเป็นตัวเองได้ 100 เปอร์เซ็นต์” เรายิงคำถามไป หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราว ก็เริ่มจับต้นชนปลายที่มาของความติดบ้านนี้ได้

“ใช่” ดีนตอบ พร้อมชูนิ้วโป้งขึ้นมาพร้อมกันทั้งสองมือ “เรารู้สึกว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง มันเหนื่อย เพราะเวลาอยู่ข้างนอกตัวเปล่าๆ คนเขาไม่รู้จักเรา ทำให้เราต้องทำอะไรเยอะหน่อย แต่ถ้าเขามาอยู่ในพื้นที่ของเรา ซึ่งก็คือห้องเราเนี่ย ทุกอย่างมันพูดเเทนเราหมดเลย เราไม่ต้องพิสูจน์”

Blue Dean

นอกจากบ้านจะอธิบายความเป็นตัวดีนได้ดีแล้ว บ้านยังกำหนดทิศทางงานศิลปะของดีนอีกด้วย ใครที่เคยเห็นภาพวาดของ Blue Dean คงจะคุ้นตากับภาพสีเอิร์ธโทนที่มักจะมีคาแรคเตอร์สีฟ้าหลับตาพริ้มเป็นองค์ประกอบหลัก มองแล้วรู้สึกอบอุ่นเบาสบายอย่างบอกไม่ถูก ห้องของดีนที่เรามาเยือนวันนี้ก็ให้ความรู้สึกในแบบเดียวกัน ผนังไม้อัดและเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ซะส่วนใหญ่ รวมไปถึงการเผยให้เห็นสัจจะวัสดุ อย่างคานบ้านปูนแบบลอฟต์ๆ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ แม้จะไม่ใช่บ้านมินิมัลแบบโล่งๆ แต่ร่องรอยการใช้ชีวิตและของสะสมที่ไม่ได้ถูกจัดเก็บแบบเนี้ยบมากนักนี่แหละ ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ได้มาเยือนห้องนี้ก็มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อบอุ่น” ดีนเล่า

ผนังไม้อัดที่เล่าไปเมื่อกี้ก็ไม่ได้มีไว้เพื่อสร้างบรรยากาศอย่างเดียวนะ ดีนใช้เป็นตัวช่วยในการทำงานศิลปะด้วย “ผนังนี้ทําขึ้นมาเพื่อที่เราจะได้ติดเฟรมวาดภาพลงไปได้ แถมยังเคลื่อนย้ายงานได้ง่ายโดยไม่ทำลายกำแพงจริงอีกต่างหาก สมมติทํางานเซ็ตนึง เราก็จะทําทุกชิ้นพร้อมๆ กันได้”

Blue Dean

ในส่วนของกระบวนการครีเอตงานชิ้นหนึ่ง ดีนเล่าถึงอิทธิพลที่สภาพแวดล้อมมีต่อผลงานว่า “พอเราเอาเฟรมวาดภาพไปวางปุ๊บ เราไม่ได้เห็นแค่เฟรมสีขาวตรงหน้า แต่เรามองเห็นรอบๆ ห้องด้วย เหมือนกับว่า ถ้าเกิดเราวาดอะไรที่ไม่เข้ากับห้อง มองยังไงก็จะรู้สึกว่าภาพนี้ยังไม่สวยสักที เราจะชอบคิดว่างานชิ้นนี้จะสวยที่สุดได้ยังไงในบรรยากาศประมาณนี้ เพราะฉะนั้น ถ้าเราไปอยู่ในที่ที่มันรกมาก มีสีสันมาก เราอาจจะวาดอะไรที่ดูเบาตาหน่อย เพราะว่าสิ่งที่อยู่รอบๆ ดูเยอะมากแล้ว

อย่างช่วงที่เราย้ายไปบ้านเช่า ก็รู้สึกว่าช่วงนั้นงานไม่ค่อยเหมือนที่ทําตอนอยู่ที่นี่เท่าไหร่ ที่นู่นบ้านจะขาวๆ คลีนๆ หน่อย งานช่วงนั้นก็เลยออกมารกๆ ได้บ้าง”

ย่านที่อาศัยอยู่ก็มีผล อย่างที่รู้กันว่าอารีย์เป็นย่านฮิปๆ ของคนที่มีใจสุนทรีย์มาแต่ไหนแต่ไร การเติบโตท่ามกลางคอมมูนิตี้นี้นี่แหละที่ทำให้ดีนกลายมาเป็น Blue Dean ในทุกวันนี้ นอกจากดีไซน์การตกแต่งบ้านจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากร้านในตำนานของอารีย์ที่เพิ่งจะปิดตัวไปได้ไม่นานอย่าง ‘ปลาดิบ’ เเล้ว ย่านนี้ยังเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้ดีนชอบทำงานศิลปะมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า ไม่ว่าจะผลิตผลงานอะไรออกไป ชาวอารีย์ที่หัวใจเต็มไปด้วยความรักในศิลปะจะต้องมองเห็น

Blue Dean

Everything is in the Making

ไหนๆ ก็เรียกว่า “อาณาจักรความสนใจ” แล้ว จะมัวมาพูดถึงแต่ศิลปะซึ่งเป็นอาชีพหลักของเจ้าตัวก็คงไม่ได้

ดีนเป็นคนที่มีงานอดิเรกเยอะมาก เเละน่าสนใจที่เขารวมทุกสิ่งทุกอย่างมาไว้ในห้องห้องเดียวได้ แม้แต่ ‘ผาจำลอง’ ที่ใครๆ ก็ต้องแบกกระเป๋าเข้ายิมและจ่ายเงินแลกชั่วโมงเพื่อไปปีน เขาก็ยกมาไว้ที่นี่ได้ เพียงเพราะว่าชอบปีนคนเดียวมากกว่า

Blue Dean

Blue Dean

หินผาจำลองถูกขันสกรูติดไว้ตามผนังไม้อัด ตั้งแต่โซฟา ยาวขึ้นไปจนถึงห้องใต้หลังคา ดีนเล่าว่า บางชิ้นเขาก็ไปรับมาจากยิมที่กำลังจะปิดตัวลง จากคนรู้จักที่ชอบทำงาน D.I.Y. ไปจนถึงแบรนด์ไทยที่ทำกันอย่างจริงจังอย่าง VOLA

Blue Dean

นี่ก็เข้าปีที่ 10 แล้วที่ดีนใช้เวลาว่างไปกับกิจกรรมนี้ แน่นอนล่ะ ประโยชน์ของการปีนผาคือการทำให้เราได้ใช้กล้ามเนื้อมัดที่ไม่ค่อยได้ใช้ แต่การที่ต้องวางแผนอยู่ตลอดว่า ก้าวต่อไปจะไปแตะหินก้อนไหน ก็ทำให้เขาได้พบข้อดีอีกอย่าง “โมเมนต์ที่อยู่ตรงกลางหน้าผา โมเมนต์ที่ลอยอยู่ตรงนั้น เราต้องบริหารจิตใจเราให้ดีที่สุด และพยายามควบคุมความตื่นเต้นของเรา เพราะไม่มีใครช่วยเราได้ และเราก็ไม่สามารถหันกลับไปคุยกับใครได้ เลยเป็นการได้ฝึกสมาธิไปในตัว”

Blue Dean

อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนน่าจะพอจับได้ว่า ของในห้องนี้ ดีนคิวเรตมาเองอย่างดี และประกอบสร้างด้วยมือตัวเองไปเกินครึ่ง! นอกจากจะมีห้องตัดไม้เล็กๆ แยกออกไป ติดกับห้องทำงานแล้ว เลื่อย สว่าน และอุปกรณ์ช่างทั้งหลายแหล่ที่แขวนอยู่บนมุมหนึ่งของกำแพงห้อง ก็ทำให้รู้ได้ทันทีเลยว่า การประดิษฐ์ของเป็นสิ่งที่ดีนทำอย่างจริงจังอยู่ประมาณหนึ่ง

Blue Dean

Blue Dean

“อันนี้เราทำเอง” ดีนพูดก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกลองทำมือจากกลองไม้ชุดใหญ่มาโชว์ให้เราดู สเกตบอร์ดไม้ที่วางพาดอยู่บนกลอง ชั้นวางของในห้องน้ำ หรือชั้นไม้ใต้โต๊ะทำงานเองก็ล้วนเป็นงานฝีมือของดีนทั้งนั้น

“ข้อดีการทำของใช้เองคืออะไร?” เราถามออกไป ในระหว่างที่ดีนพาเราไปรู้จักข้าวของของเขาทีละชิ้น

“แต่ก่อนเราเป็นคนที่ไม่ยอมแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ต้องขุดเข้าไปรื้อให้เข้าใจว่าต้นตอคืออะไรเพื่อที่จะได้ไม่เจอปัญหานั้นอีก แต่ว่าบางวันก็ขุดไม่ไหวจริงๆ ไม่มีแรงขุด เลยต้องเพิ่มความสุขแบบเฉพาะหน้าไปก่อน

การได้ประดิษฐ์โน่นประดิษฐ์นี่ การได้ทําอะไรเป็นรูปธรรมที่เห็นผลสำเร็จได้แบบง่ายๆ คือความสุขนั้น

อารมณ์เหมือนที่ใครเคยบอกว่าให้ตื่นมาแล้วทําอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้สําเร็จสักอย่างนึง อย่างเช่นการเก็บเตียงให้เรียบร้อย แล้วมันจะช่วยทําให้มีกําลังใจในการทำสิ่งอื่นที่ใหญ่ขึ้นได้” ดีนอธิบาย

Blue Dean

Breath and Grow with it

ดีนพาเราเดินผ่านโซนเก็บเสื้อผ้า (ที่อีกครั้ง บางชิ้นเขาก็ทำเอง) ไปพบกับประตูบานหนึ่งที่ริมซ้ายสุดของห้องทำงาน ก่อนจะเปิดไปเจอห้องผนังไม้อัดเพดานสูงโปร่งอีกห้องหนึ่ง ที่มีงานศิลปะเรียงรายอยู่หลายแถว

“ตรงนี้ตั้งใจทำให้เป็นแกลเลอรี เวลาคนมาดูงาน ที่เก็บงานมันจะซ้อนๆ กัน ทำให้ดูลําบาก แล้วด้วยความที่เหมือนเป็นอาชีพหลักของเรา ก็เลยว่าจะหาที่ติด เลยทํากําแพงเยอะๆ ไว้ แต่ยังไม่มีเวลาติดนะ” ดีนเล่า นอกจากโชว์งานตัวเองแล้ว เขาตั้งใจให้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่โชว์งานเพื่อนๆ และเป็นพื้นที่ในการสอนศิลปะด้วย

Blue Dean

แม้ในวันที่เราไปพูดคุยกัน แกลเลอรีจะยังไม่เสร็จดี แต่ก็พอจะจินตนาการออกว่าจะต้องสวยงามมากแน่ๆ ถ้างานศิลปะมาเติมพื้นที่ผนังไม้อัดในห้องที่ดีนต่อเติมออกจากตัวบ้านจนเต็ม

เอเลเมนต์ที่เยอะจนพูดออกมาได้ว่า ‘ถ้ามีห้องแบบนี้จะไม่ออกไปไหนแล้ว’ ชวนให้คิดว่าสเปซนี้เติบโตไปพร้อมกับดีนแค่ไหน ตั้งแต่วันแรกจนถีงวันนี้ “ห้องนี้มีหลายเวอร์ชันมาก” ดีนพูดพร้อมเปิดรูปห้องสมัยที่ยังไม่ทุบฝ้าให้เราดู ก่อนจะแซวขำๆ ว่า เมื่อก่อนห้องนี้เหมือนตลาดนัดมือสอง “ตอนที่เห็นห้องเดิมก่อนที่จะรีโนเวต เราก็รู้สึกว่า เนี่ยใช่เราที่สุดละ ถ้าทำอีกรอบนึงก็ไม่น่าจะดีเท่านี้ แต่ว่าตอนนี้ทำแล้วดันดีกว่า เลยคิดว่าอนาคตก็เป็นไปได้ที่ถ้าทำใหม่อีกครั้งจะดีกว่านี้”

Blue Dean

Blue Dean

ก่อนจะจากกันไป เราได้มีโอกาสลองปีนขึ้นไปบนห้องใต้หลังคา เพื่อมองทั้งห้องทำงานนี้จากมุมท็อป (แม้มองดูด้วยตาเปล่าจะดูไม่สูงมากนัก แต่พูดได้เลยในฐานะคนที่เคยขึ้นไปว่า ถ้าตกลงมาก็คงมีเจ็บอยู่เหมือนกัน) เรากวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง มองหินผาจำลองใต้หลังคาที่ชวนให้เข้าไปเล่นเหลือเกิน ก่อนจะสรุปได้ว่า “นี่มันห้องในฝันของเด็กๆ ทุกคนชัดๆ!” มีทั้งห้องใต้หลังคา มีที่ให้ปีนป่าย โซนงานประดิษฐ์​ และโซนงานศิลปะที่ยกมาทั้งงานอาร์ตเเละดนตรี

“ใช่” ดีนตอบพร้อมหัวเราะ “ตอนทำห้องนี้ก็คิดว่าเด็กทุกคนต้องอิจฉาเราแน่ๆ”

ติดตามผลงานของ Blue Dean และสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในห้องทำงานแห่งนี้ได้ที่
Facebook: Blue Dean, Instagram: blue_ _dean

Tags: