

Bloom Within
Bach Flower Remedies ศาสตร์เกือบร้อยปี ช่วยแก้นอนไม่หลับ 6 เดือนของ นัด – ชวณัฏฐ์ ด้วยพลังชีวิตดอกไม้ป่า
- ทำไมสถาปนิกที่ไม่ค่อยเข้าโรงพยาบาล ถึงเชื่อมั่นในพลังของดอกไม้ป่า 38 ชนิด อะไรทำให้การนอนไม่หลับถึง 6 เดือนจึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตที่พาเขาไปค้นพบศาสตร์ Bach Flower Remedies ได้ และการค้นพบของศัลยแพทย์อังกฤษเมื่อศตวรรษที่ 19 ทำไมถึงยังใช้ได้ในปัจจุบัน นัด – ชวณัฏฐ์ ล้วนเส้ง Bach Flower Remedies Practitioner จะมาเล่าเรื่องราวศาสตร์นี้ จากประสบการณ์ตรงให้ได้รู้กัน
ใครไม่เคยนอนไม่หลับคงไม่รู้ซึ้งถึงความทุกข์นี้ที่ส่งผลทั้งทางกายและใจ ยิ่งเป็นคนที่เคยหลับดีและดูแลสุขภาพมาตลอด แล้วกลับนอนไม่หลับต่อเนื่องนานถึง 6 เดือน ถ้าเป็นเราคงรีบแจ้นไปหาหมอเพื่อหาสาเหตุ แล้วก็คงต้องได้ยาขนานใดมากินเพื่อบรรเทาอาการ และก็อาจจะหลับได้ในคืนแรก แต่นี่ไม่ใช่ทางเลือกสำหรับ นัด - ชวณัฏฐ์ ล้วนเส้ง ผู้เชื่อในการดูแลและเยียวยาตัวเอง เพราะเป็นคนแพ้ยาง่ายตั้งแต่เด็กจึงไม่อยากใช้ยาสมัยใหม่ และนั่นทำให้เขาไม่ค่อยเข้าโรงพยาบาล
ด้วยอาชีพทำให้นัดมีประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลาย ตั้งแต่การทำงานระหว่างประเทศ เป็นสถาปนิกชุมชน ครูสอนโยคะ ไปจนถึงการค้นพบโลกแห่งการเยียวยาด้วยธรรมชาติจากศาสตร์การแพทย์องค์รวม Homeopathy และ Bach Flower Remedies จนเขากลายเป็นคนที่ใช้ดอกไม้ป่า 38 ชนิดรักษาตัวเอง และช่วยให้คนอื่นเข้าใจตัวเองและเยียวยาจิตใจได้
จากเด็กป่วยง่ายสู่การเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเอง
“ตอนเด็กป่วยง่าย แพ้ยาง่าย ที่บ้านก็พยายามไม่ใช้ยาสมัยใหม่ เน้นเรื่องการป้องกัน การกิน การใช้ชีวิต ใช้ยาสมุนไพรบ้าง แล้วก็ใช้กำลังใจเป็นหลัก” นัด-ชวณัฏฐ์ ล้วนเส้ง เล่าย้อนไปถึงวัยเด็กที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่โลกแห่งการเยียวยาแบบธรรมชาติ การที่เป็นเด็กแพ้ยาทำให้นัดรู้สึกได้ว่า “ร่างกายมีศักยภาพในการเยียวยาตัวเอง” ความเชื่อนี้เองที่กลายเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการแสวงหาความรู้ด้านการแพทย์องค์รวมในอนาคต
“ผมมักจะใช้โอกาสที่ป่วยเป็นการเรียนรู้ที่จะหาหนทางทำความเข้าใจตัวเองแบบองค์รวมและเรียนรู้จากความทุกข์ทางกายทางใจ ดูว่าแนวทางไหนที่ไม่มีผลข้างเคียง ไม่ลดทอนความตระหนักรู้ของเรา ไม่เป็นการค้าเชิงหากำไร เอาเปรียบโลก สังคม และสิ่งแวดล้อม ผมก็จะทดลองใช้ ศึกษาอันไหนดับทุกข์เราได้จริง ก็ศึกษาลงลึกเพื่อมาใช้กับตัวเอง เพราะร่างกายและจิตใจกำหนดความอยู่ดีมีสุข ความคิดสร้างสรรค์ และศักยภาพที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ตัวเราและสิ่งรอบตัว เลยลงทุนให้เวลากับการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาตลอด ลึกๆ ก็มีคำถามว่า ชีวิตคืออะไร เกิดมาทำไม เกิดขึ้นมาตลอดระหว่างใช้ชีวิต และการเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆ ที่เป็นธรรมชาติและให้เรากลับมาเชื่อมโยงกับร่างกายจิตใจก็ให้คำตอบกับเราได้”

บรรยากาศการจัดคลาสสอนและแนะนำการใช้ Bach Flower Remedies
จนกระทั่งอายุ 27 ปี ช่วงนั้นนัดยอมรับว่า การทำงานหนักและความเครียดทำให้เขาเสียสมดุลชีวิต เริ่มมีอาการกระดูกคอเคลื่อนมาทับเส้นประสาท ก็รักษาด้วยการกายภาพบำบัด และหมอกายภาพก็แนะนำให้ลองฝึกโยคะ เลยหันไปฝึกโยคะต่อเนื่องมาตั้งแต่นั้น ความทุกข์ทางกายที่นำพานัดไปเจอโยคะ นอกจากช่วยบรรเทาความเจ็บป่วยให้เขาได้จริงแล้ว ยังได้ผลพลอยได้ที่ยิ่งใหญ่มาด้วย นั่นคือ..
“โยคะเริ่มทำให้เห็น ให้การรับรู้ที่ละเอียดขึ้น เห็นอารมณ์ เห็นความคิด เห็นว่ากายกับจิตไม่ได้แยกจากกัน พออยู่ในปัจจุบันขณะ เริ่มตระหนักรู้ว่าเราฝึกโยคะอยู่ ตรงนี้ปวด ตรงนี้สบาย เป็นการรู้แบบเดียวกับการภาวนา เพียงแต่ว่าเราให้ความใส่ใจกับกายกับลมหายใจ แล้วก็เห็นความคิดไปด้วย ก็นึกสงสัยนะว่า ความคิดที่อยู่ในหัวเรามาจากไหน สิ่งที่รับรู้กาย ความคิด และความรู้สึกนี้คืออะไร มันเหมือนเราเริ่มเห็นละเอียดมากขึ้นในกระบวนการของชีวิต แต่ก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร รู้แค่ว่ามันช่วยให้เท่าทัน มีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น”

“อยากให้คนกลับมาเรียนรู้การเยียวยาตัวเองด้วยแนวทางที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย”
ปี 2014 นัดตัดสินใจไปเรียนโยคะที่อินเดียเพื่อหาคำตอบในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ที่นั่นเขาได้เจอครู เจอเพื่อนที่สนใจและศึกษาโยคะ และได้คุยกันถึงความหมายของชีวิต ในระหว่างนั้นเขาก็ยังทำงานเครือข่ายสถาปนิกชุมชนในเอเชีย ซึ่งต้องเดินทางเยอะ ความสนใจเรื่องการแพทย์องค์รวม อยากเน้นการป้องกันและดูแลตัวเอง นัดเลยเริ่มศึกษา Homeopathy ไว้ใช้ดูแลตัวเอง
ประสบการณ์กับ Homeopathy
นัดเล่าว่า เขาเคยป่วยหนักเพราะอาหารเป็นพิษช่วงที่เดินทางอยู่ในอินเดีย ประเทศซึ่งมีการใช้ศาสตร์ Homeopathy ที่คิดค้นขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 ในเยอรมนี โดยนายแพทย์ซามูเอล ฮาห์เนมันน์ ซึ่งถือเป็นแพทย์ที่หัวก้าวหน้ามากในสมัยนั้น ศาสตร์นี้แพร่หลายและเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก และได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขให้ใช้รักษากันมายาวนานในอินเดีย เพื่อนชาวอินเดียจึงให้ยา Homeopathy มาตำรับหนึ่งมารักษาอาหารเป็นพิษในครั้งนั้น
“ผมกินยาเม็ดเล็กๆ ไป 2 ครั้งแล้วก็หลับไป 1 คืน ตื่นมาก็หายดีเลย มีเรี่ยวแรงเหมือนปกติ ผมประหลาดใจมาก เลยเริ่มศึกษาศาสตร์นี้” อีกครั้งที่นัดให้เวลาและทุ่มเทศึกษาสิ่งที่เขาสนใจ หลังจากกลับเมืองไทยได้ทราบว่า คุณหมอราโดมีร์ ฮิลค์ จากประเทศเชกจะบินมาสอน Homeopathy ที่บ้านเราเกือบทุกปี นัดเลยได้เรียนคลาสนี้ต่อเนื่องมาตลอดหลายปี “เป็นศาสตร์ที่มีรายละเอียดเยอะมาก ผมก็เรียนไปอ่านไป ศึกษาด้วยตัวเองกับครูหลายคนด้วย เอามาใช้ตลอด 15 ปี”
ดูเหมือนชีวิต…สุขภาพ…ร่างกาย…และจิตใจของนัดน่าจะเข้าที่เข้าทาง เพราะได้รับการดูแลจากเขาผู้เป็นเจ้าของด้วยความใส่ใจอย่างดี แต่แล้วทำไมเขาถึงกลับนอนไม่หลับนานถึง 6 เดือน เราแอบแปลกใจกับผลลัพธ์ที่ดูจะสวนทางกับสิ่งที่เขาทำ จนต้องขอถามถึงสาเหตุของการนอนไม่หลับที่ต่อเนื่องครั้งนั้น
“เป็นคำถามที่ดีนะ เพราะผมก็ถามตัวเองเหมือนกันตอนนั้น (หัวเราะ) ผมไม่เคยป่วยหนักๆ ขนาดต้องนอนโรงพยาบาลเลยนะตลอด 25 ปีมานี้ มีบ้างเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตาอักเสบที่ไปหาหมอเพราะไปดูว่าเป็นอะไรมากไหม จะลุกลามหรือเปล่า แล้วก็หาหมอฟัน แค่นี้ แต่ช่วงนั้นผมอายุ 40 เป็นช่วงชีวิตการทำงานที่หนักที่สุด เพราะต้องดูแลงาน 2 องค์กร เป็นองค์กรระหว่างประเทศกับองค์กรในไทย เป็นงานที่ต้องดูแลหลายโครงการ ความรับผิดชอบเยอะ ปกติผมจะทำงานในระดับที่รักษาสมดุลชีวิตได้ แต่ครั้งนั้นยอมรับว่ามันค่อนข้างหนักไปหน่อย แต่ที่ตัดสินใจทำเพราะคิดว่าตัวเองน่าจะช่วยองค์กรทั้งสองได้ ซึ่งจะก่อเกิดประโยชน์กับคนจำนวนมากได้ ก็เลยทำ แต่พอทำแล้วกลายเป็นมาเดี้ยงเอง (หัวเราะ) และคงมีความเครียด การเก็บกดอารมณ์ที่เรายังไม่เข้าใจตัวเองต่างๆ สะสมมาด้วย
“การนอนไม่หลับของผมคือการนอนหลับๆ ตื่นๆ เป็นการนอนที่ไม่มีคุณภาพ พอเป็นอย่างนี้นานร่วมครึ่งปี เริ่มรู้สึกร่างกายไม่ไหว ไม่ค่อยมีแรง ความคิดไม่แล่น ผมเลยนึกถึงศาสตร์การดูแลตัวเองอันหนึ่งขึ้นมา”

บรรยากาศในบ้านหมอบาค
รู้จักหมอบาค : ความสมดุลคือการกลับสู่ธรรมชาติที่แท้จริงของเรา
ศาสตร์ที่นัดทิ้งท้ายไว้ก็คือ Bach Flower Remedies เขาเล่าว่า คนที่ศึกษา Homeopathy ก็มักจะต้องรู้จัก Bach Flower Remedies ด้วย เพราะหมอบาค (Dr.Edward Bach) ศัลยแพทย์ชาวอังกฤษก็เป็นแพทย์ Homeopathy ที่มีชือเสียงระดับโลก ผู้คิดค้น Bach Nosode ก่อนที่จะคิดค้นศาสตร์ Bach Flower Remedies ได้จากความช่างสังเกตที่เกิดขึ้นจากการเป็นแพทย์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
“หมอบาครู้สึกแปลกใจว่า ทำไมคนที่ป่วยเหมือนกัน อาการเหมือนกัน วัยเดียวกัน แต่คนที่หายเร็วกว่ามักจะเป็นคนที่มีความสมดุลทางอารมณ์จะหายเร็วกว่าเสมอเลย 100% เลย ฉะนั้น การเจ็บป่วยก็น่าจะเกี่ยวกับสมดุลของจิตใจด้วย การสังเกตนี้ทำให้เขาตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘หรือระบบการแพทย์ในยุคนั้นผิดพลาดที่เราไปโฟกัสเรื่องทางกายอย่างเดียว โดยไม่ได้สนใจการรักษาดูแลทางอารมณ์เลย’ และนั่นคือจุดกำเนิดของ Bach Flower Remedies”
เรากำลังคุยกันถึงการค้นพบทางการแพทย์เมื่อช่วงปี ค.ศ.1928-1936 ที่หมอบาคตั้งสมมติฐานว่า อารมณ์ที่ไม่สมดุลอาจส่งผลต่อสุขภาพกายที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหรือเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น ดังนั้น เราจึงควรใส่ใจที่จะรับฟังเมสเสจจากร่างกายและจิตใจ ความรู้สึกของตัวเอง เป็นที่มาของระบบการแพทย์ที่เน้นการเยียวยาตัวเองที่มุ่งให้เราบำบัดร่างกายและจิตใจได้เองโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
ก่อนที่จะทำความรู้จักและเข้าใจสิ่งที่หมอบาคคิดค้นไว้เมื่อเกือบร้อยปีมาแล้ว เรานึกอยากเคลียร์ความเข้าใจของตัวเองก่อนว่า นิยามอารมณ์ที่ไม่สมดุลคืออะไร นัดยิ้มและพยักหน้ารับคำถามเรา “เป็นคำถามที่ดีและผมคิดว่าทุกคนควรถามตัวเองด้วยว่า นิยามความสมดุลของตัวเองคืออะไร ใครเคยเป็นแบบนี้ไหม ขับรถอยู่แต่หัวเรามีเรื่องต้องคิดเต็มไปหมด สุดท้ายสติเราไม่ได้อยู่กับการขับรถ ก็เลี้ยวผิดซอยบ้าง ลงทางด่วนผิดบ้าง แต่ถ้าอารมณ์เราสมดุล มีสติ ไม่ต้องตั้งใจขับรถอย่างเดียว ต่อให้ฟังเพลงไปด้วย หรือคุยโทรศัพท์ไปด้วย คิดอะไรไปด้วย ก็ไปถึงที่หมายได้ ไม่หลงทาง

หนังสือของครูท่านหนึ่งเกี่ยวกับการใช้ Bach Flower Remedies เยียวยาอารมณ์แมว
“ผมกำลังจะบอกว่า ความไม่สมดุลทางอารมณ์มันปรากฏออกมาเป็นความรู้สึกที่เข้มข้นและมาควบคุมความคิด การกระทำของเรา เช่น ความเศร้า ความเครียด ความโกรธ ความกลัว หรือความกังวล ทำให้เราสูญเสียสติ การตัดสินใจที่มีปัญญาของเราไป หมอบาคเชื่อว่า อาการเจ็บป่วยทางกายไม่ใช่ต้นเหตุ แต่เป็นผลสะท้อนจากความขัดแย้งในจิตใจ เช่น ความกลัว ความกังวล ความโกรธ ความรู้สึกผิด ความสิ้นหวัง เมื่อจิตใจเต็มไปด้วยความคิดและความรู้สึกที่ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของจิตวิญญาณ มันจะรบกวนร่างกายให้เจ็บป่วย ความสมดุลคือการกลับคืนสู่ธรรมชาติที่แท้จริงของเรา
“หมอบาคเชื่อว่า แต่ละคนเกิดมาพร้อมกับภารกิจทางจิตวิญญาณ (Soul’s Purpose) ถ้าเราใช้ชีวิตตรงกับธรรมชาติภายใน เช่น ความรัก ความกรุณา ความซื่อตรง ความกล้าหาญ ร่างกายและจิตใจก็จะสมดุล มีพลังสร้างสรรค์ เพราะฉะนั้นในมุมมองของหมอบาค ความสมดุลไม่ใช่การกดอาการ หรือการกำจัดสิ่งที่เราไม่ชอบแต่คือการปรับให้กลมกลืน หมอบาคไม่ได้มองว่าความรู้สึกอย่างความกลัว ความเศร้า เป็นสิ่งที่ผิดต้องกำจัด แต่ท่านเห็นว่าเราควรรับรู้ เข้าใจ และแปรเปลี่ยน เรียนรู้จากอารมณ์เหล่านั้น ไปสู่ธรรมชาติด้านบวกที่แท้จริง เช่น ความกลัวบอกเราให้เรียนรู้ที่จะไว้วางใจ ความโกรธมาบอกเราให้เรียนรู้ถึงพลังในการปกป้องสิ่งที่ถูกต้อง หมอบาคพูดไว้ว่า สมดุลคือการท่ีคนเราได้อยู่ในความกลมกลืนกับธรรมชาติของจิตวิญญาณตัวเอง”

ดอก Rock Rose เจอที่ตุรกี ใช้ช่วยเยียวยาอาการช็อก แพนิก กลัวจนทำอะไรไม่ถูกและหมดสติ
ดอกไม้ป่าเป็นยา…ความลับแห่งธรรมชาติ
“คำถามที่ทุกคนที่มาเรียนศาสตร์นี้กับผม ถามผมบ่อยมากว่า ทำไมดอกไม้มีผลกับจิตใจเรา ? ผมค่อนข้างประหลาดใจที่ทำไมไม่มีใครตั้งคำถามกับยาสมัยใหม่ วัคซีนต่างๆ ที่ดูมีผลข้างเคียงระยะยาวกับเราที่เพิ่งคิดค้นไม่กี่ปี เช่น ไม่มีใครกลัวยานอนหลับและวัคซีนที่แม้มีงานวิจัยมากมายบอกถึงผลข้างเคียงที่มีต่อร่างกายและจิตใจของเราในระยะเวลายาว แต่กลับกังวลกับดอกไม้ที่มาจากธรรมชาติ และร่วมวิวัฒนาการกับเรามากว่าร้อยล้านปี
“แทนที่จะตอบว่า ดอกไม้ช่วยเยียวยาเราอย่างไร มีพลังงานจริงหรือเปล่า ผมอยากเชื้อเชิญให้เราใช้เวลาอยู่กับดอกไม้ในธรรมชาติสักดอก นั่งเงียบๆ เฝ้ามองรับรู้รูปทรงสีสัน กลิ่น การดำรงอยู่ของเขากับเราสัก 2-3 นาที โดยไม่ต้องคิด ไม่ต้องวิเคราะห์ หายใจเข้าออกไปกับดอกไม้ แล้วรับรู้คำตอบในใจในกายเราว่า เรารู้สึกอย่างไร ผมเชื่อว่า หลายๆ คนจะรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจขึ้น มีชีวิตชีวาขึ้น สงบขึ้น หรือแม้แต่ยิ้มและร้องไห้ออกมาเมื่ออยู่กับธรรมชาติอันอ่อนโยนและบอบบาง เป็นอนิจจังของดอกไม้ ดอกไม้มาปลุกเร้าธรรมชาติบางอย่างในหัวใจเรา สิ่งนั้นคือความเปิดกว้าง ความกรุณา และความอ่อนโยน”

ดอก Wild Rose ที่นัดไปเจอที่ตุรกี เยียวยาภาวะซึมเศร้าที่ไม่มีสาเหตุ รู้สึกเฉยชาซึม ไม่อยากทำอะไร
แล้วทำไมต้องเป็นดอกไม้… “ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า อะไรคือวัตถุประสงค์ที่หมอบาคอยากค้นหาระบบการเยียวยาแบบใหม่ขึ้นมา ที่ท่านยอมอุทิศตนตลอด 8 ปีสุดท้ายของชีวิตและยอมทิ้งชื่อเสียง คลินิก งานวิจัยการค้นพบในอดีตของท่านทั้งหมด ออกเดินทางค้นหาไปทั่วอังกฤษ พวกเราเป็นหนี้บุญคุณหมอบาคและผู้คนมากมายที่ร่วมกันสร้างระบบนี้
“ตอนนั้นท่านอยากค้นหาระบบการเยียวยาที่ให้คำตอบว่า สาเหตุของการเกิดโรคทางกายทางใจที่แท้จริงคืออะไร และการเยียวยาที่ทุกคนสามารถเยียวยาตัวเองได้อย่างปราศจากผลข้างเคียง และได้ผลดีในระยะยาวและเรียบง่ายจะทำได้อย่างไร เพื่อที่สุดท้ายเราจะเข้าใจว่า การมีชีวิตมีสมดุลความหมาย มีความสุขสงบเป็นอย่างไร
“นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจหมอบาคตอนเริ่มค้นหาระบบการเยียวยาแบบใหม่ ผมว่าคำถามเหล่านี้ทุกคนควรถามและเรียนรู้นะ เพื่อช่วยกันสร้างระบบการเยียวยาที่กระจายอำนาจสร้างการเรียนรู้ร่วมกันใหม่เป็นองค์รวมขึ้น และลดภาระให้ระบบหลักได้ตั้งหลักปรับตัวเข้าหาการเยียวยาองค์รวมมากขึ้น ไม่ใช่แค่กายใจของคนแต่รวมถึงสังคมและโลกธรรมชาติที่เราอยู่อาศัยด้วย

ดอก Impatiens ที่ช่วยให้ใจที่เป็นกังวลของหมอบาคกลับสงบนิ่งแค่เพียงได้อยู่ใกล้ๆ
“หลังจากเจอสมมติฐานเรื่องความรู้สึกส่งผลต่อสุขภาพ หมอบาคก็ร้อนใจอยากรีบค้นให้เจอวิธีเยียวยา เพราะไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอีกนานเท่าไหร่ วันหนึ่งไปยืนใกล้ดอก Impatiens (ดอกไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในเทือกเขาหิมาลัยในอินเดีย มีการนำไปปลูกในอังกฤษและแพร่กระจายไปทั่ว) สีชมพูอมม่วงที่ขึ้นอยู่ริมน้ำ แล้วใจที่ร้อนรนเป็นกังวลกลับรู้สึกสงบลง ท่านประหลาดใจ รู้สึกว่า ดอก Impatiens มีพลังงานที่นำมาปรับสมดุลทางอารมณ์มนุษย์ได้ ก็เลยลองนำดอก Impatiens มาสกัดแบบ Homeopathy ในครั้งแรก แล้วนำมาใช้กับตัวเองและคนไข้ที่มีอาการวิตกกังวล ปรากฏว่าได้ผลดี

ดอก Red Chestnut เยียวยาความกังวล ความเครียด ทุกข์ใจจากการห่วงใยคนที่รักมากเกินไป
ต่อมาหมอบาคก็คิดว่า แล้วจะนำพลังงานของดอกไม้ออกมาใช้ยังไงให้อ่อนโยนมากขึ้น เรียบง่ายขึ้น และมีพลังชีวิตมากขึ้น “ต้องบอกก่อนว่า พื้นเพหมอบาคเติบโตในชนบท วิ่งเล่นในป่า อยู่กับธรรมชาติมาตลอด ฉะนั้น ต้นทุนจริงๆ คือท่านรู้จักธรรมชาติ รู้จักต้นไม้ เช้าวันหนึ่งเห็นหยดน้ำค้างบนกลีบดอก Impatiens แล้วมีแสงแดดส่องไปที่หยดน้ำค้างนั้น แกก็รู้สึกว่า นี่แหละวิธีตามธรรมชาติที่พลังงานจากดอกไม้ถ่ายไปเก็บไว้ในน้ำ” หมอบาคนำ Dropper ไปเก็บหยดน้ำค้างบนดอก Impatiens มาผสมกับบรั่นดี แล้วลองใช้กับตัวเองและคนไข้ ผลลัพธ์ออกมาดียิ่งขึ้น
แต่วิธีการนั้นอาจได้ปริมาณที่จำกัดมาก หมอบาคจึงคิดค้นระบบการเก็บพลังงานดอกไม้ที่เรียกว่า Sun Method ด้วยการตัดดอกไม้ป่าในธรรมชาติที่บานเต็มที่มาลอยในถ้วยแก้วใสที่ใส่น้ำแร่จากธรรมชาติที่หาได้จากในละแวกนั้น แล้วนำไปตากแดดเช้า 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้พลังงานแสงแดดถ่ายเทพลังชีวิตของดอกไม้ไปไว้ในน้ำแร่ แล้วค่อยนำมาผสมกับบรั่นดีเพื่อให้เก็บไว้ได้นาน และเป็นการฆ่าเชื้อโรคแล้วค่อยนำไปใช้ ต่อมาก็คิดวิธีการต้มเพิ่มเติมเข้ามาใช้ร่วมด้วย

บ้านเดิมของหมอบาคที่ Oxfordshire อังกฤษ ต่อมาเป็น Bach Center สถาบันวิจัยและสอน Bach Flower Remedies
“ดอกไม้ของหมอบาคทั้ง 38 ชนิดเป็นดอกไม้ป่าในอังกฤษ ยุโรป หลายตำรับไม่ได้ถูกใช้เป็นยาสมุนไพรมาก่อน หลายๆ ตำรับคนส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นดอกไม้ที่มีสรรพคุณทางยา แต่หมอบาคให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมของดอกไม้ ธรรมชาติโดยรอบ เพราะต้องการพลังงานที่ดีจากดอกไม้มาช่วยให้เรารับรู้ธรรมชาติภายในที่อ่อนโยน เราต้องใช้ดอกไม้ด้วยความเคารพ และขอบคุณต่อธรรมชาติที่ช่วยเราในการเยียวยา” ”

Bach Flower Remedies ศาสตร์เก่าแก่ที่มานานเกือบร้อยปี
กลับมาที่การรักษาอาการนอนไม่หลับของนัดด้วยศาสตร์ Bach Flower Remedies “ใช้ไปสัก 2-3 วัน จริงๆ ก็ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม เพียงแต่รู้สึกว่า โอเคที่จะนอนไม่หลับ รู้สึกโล่งๆ วางใจ สบายใจมากขึ้น นอนไม่หลับก็กลับมาดูความรู้สึกทางกายแบบที่ฝึกวิปัสสนา กายได้พัก ใจได้พัก ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนจะหงุดหงิด กังวล คิดวนเวียนที่นอนไม่หลับสักที นี่คือสิ่งที่น่าสนใจของ Bach Flower Remedies มันไม่ได้ทำให้อาการหายไปทันที แต่ช่วยให้เราอยู่กับอาการได้อย่างสงบ
“พอเราเริ่มเห็นตัวเองลึกลงไปว่า เหตุเกิดจากอะไร เราเห็นว่าแบกภาระไว้คนเดียวมากเกิน ไม่กล้าร้องขอความช่วยเหลือจากทีม สิ่งนี้คือเหตุให้เกิดความเครียด ความกังวลที่ทำให้นอนไม่หลับมาหลายเดือน ผมเริ่มลองปรับเปลี่ยนการทำงานเป็นกล้าแชร์ความกังวลให้ทีมงานฟังมากขึ้น ร้องขอความช่วยเหลือและปฏิเสธสิ่งที่ทำไม่ไหวมากขึ้น การนอนหลับก็ค่อยๆ กลับมาปกติ และเกิดความเข้าใจในการทำงาน ในมิตรภาพกับผู้คนแบบใหม่ที่เราไม่ต้องแบกไว้ และรับผิดชอบคนเดียว
“สิ่งนี้น่าสนใจมากเมื่อใช้ Bach Flower Remedies เยียวยาการนอนไม่หลับในช่วง 2 เดือน เกิดความเข้าใจใหม่ๆ การเห็นสาเหตุลึกๆ ในใจ และได้ทดลองปรับเปลี่ยนความคิด การกระทำ ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการเยียวยาที่มาจากความรู้สึกส่วนลึกว่า เรารักตัวเองและเราห่วงใยความรู้สึกคนรอบๆ ตัวด้วย ด้วยพลังที่อ่อนโยนจากธรรมชาติของดอกไม้มีส่วนช่วยให้เรากลับมาโอบอุ้มตัวเองอย่างอ่อนโยน จนมันค่อยๆ กลับมาเป็นท่าที่เป็นธรรมชาติของเรา”

photo credit : ชวณัฏฐ์ ล้วนเส้ง
นัดอธิบายเพิ่มเติมว่า “Bach Flower Remedies ไม่ใช่ยากำจัดโรค แต่เป็นตัวช่วยสนับสนุนให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น มีสติเปิดรับอารมณ์ที่เราไม่ชอบ หรือที่เก็บกดไว้ และเรียนรู้จากอารมณ์เหล่านั้นได้ ความเข้าใจและการยอมรับคือความกรุณาในใจเราที่ถูกพัฒนาขึ้นจากกระบวนการเห็นยอมรับในความจริงในความทุกข์ของเรา
“จริงๆ แล้ว ความกรุณา ความอ่อนโยน ความเป็นมิตรสำหรับพวกนี้ไม่ได้แบบจำกัดสภาวะความวนเวียน

นัดไปเรียน Bach Flower Remedies ช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2023

ดอก White Chestnut เยียวยาการแพนิกจากการคิดวนเวียน ความเครียดจากการคิดมาก

ถ่ายกับครู Lynn MacWhinnie ครูผู้สอน Bach Flower Remedies และใช้เยียวยาผู้คนมากว่า 40 ปี เจ้าของหนังสือ Emotional Wisdom with Bach Flower Remedies
คืนสมดุลสู่ชีวิต
“ผมไปเรียน Bach Flower Remedies เพื่อตัวเอง อยากรู้ อยากเดินดูดอกไม้ แล้วก็อยากรู้อยากคุยกับครูที่เขารักษาคนมา 40-50 ปี ไม่คิดว่าจะมารักษาใคร แต่อาจเพราะว่าผมสอนหนังสือด้วย เจอนักเรียน แล้วก็ได้มีโอกาสทำงานกับคนหนุ่มสาว รู้สึกได้เลยว่าภาวะซึมเศร้าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ยิ่งหลังโควิดมันเป็นปัญหาที่มีมากขึ้น แล้วผู้คนที่อยู่รอบข้างครอบครัวก็ได้รับผลไปหมดเลย… ยังไม่สามารถเข้าใจวิธีที่จะรับมือสิ่งนี้ได้อย่างมีทางเลือก
“ล่าสุดผมรักษาผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นซึมเศร้ามา 6-7 ปี เธอใช้ยาจิตเวชและยานอนหลับมาตลอด จนต้องออกจากมหาวิทยาลัย เพราะอาการไม่ดีขึ้น แล้วอยากค่อยๆ เลิกใช้ยา หลักการสำคัญของ Bach Flower Remedies คือสามารถใช้ร่วมกับการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันได้ ผู้ป่วยรายนี้รู้จักกับคนไข้เก่าที่ผมเคยรักษาจนหายดี จึงติดต่อมาขอความช่วยเหลือ ผลการรักษาน่าประทับใจมาก ภายในเวลาเพียง 3 เดือน ใช้ Bach Flower เพียง 2 ครั้ง เธอสามารถเลิกยานอนหลับได้สิ้นเชิง และเริ่มค่อยๆ ลดยาจิตเวช กลับมาทำธุรกิจกับเพื่อน กลับสู่ชีวิตปกติ และค้นพบความสุขใหม่จากการเดินป่าและงานศิลปะ ส่วนหนึ่งผมเชื่อว่าการตั้งใจแน่วแน่ของผู้ป่วย ร่วมกับประสิทธิภาพของ Bach Flower Remedies เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การรักษาประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว”
หมอบาคเชื่อว่าโรคทางกายและใจเกิดจากความไม่สมดุลภายในจิตใจและจิตวิญญาณ อาการเจ็บป่วยจึงไม่ใช่สิ่งผิดปกติ แต่เป็นสัญญาณที่เตือนให้เรากลับมารับฟังร่างกาย ใจ และจิตวิญญาณของตนเอง การกลับมาอยู่กับตัวเองอย่างอ่อนโยนและใส่ใจ จะช่วยให้เราเข้าใจความขัดแย้งภายในและธรรมชาติที่แท้จริงของกายใจ นี่คือจุดเริ่มต้นของการเยียวยาและคืนสมดุลให้ตนเอง
การหันกลับมาโอบรับความเจ็บปวดต้องใช้ทั้งความกล้าหาญและความอ่อนโยน ซึ่งเป็นธรรมชาติพื้นฐานที่มีอยู่ในทุกคน เหมือนเวลาที่เราเห็นเด็กหรือสัตว์เจ็บป่วย แม้เขาจะร้องไห้หรือต่อต้าน เราก็ยังอุ้มเขาไว้ด้วยความรัก และในที่สุดเขาก็จะค่อยๆ สงบลง ความทุกข์เป็นความจริงของชีวิต การเข้าใกล้ความทุกข์อย่างเข้าใจ จะเปิดโอกาสให้เราปรับความคิด เปลี่ยนพฤติกรรม และเรียนรู้ที่จะรักและดูแลตัวเองมากขึ้น มันพาเราไปสู่ความสัมพันธ์ที่เหมาะสม การเยียวยาที่แท้จริง และพลังปัญญาจากภายใน
ใน Bach Flower Remedies อารมณ์ที่ไม่สมดุลเปรียบได้กับดอกไม้แต่ละดอก มีความงาม ความเปลี่ยนแปลง และข้อความที่อยากจะบอกเรา เพียงแค่เราหยุดตัดสิน แล้วอยู่กับความรู้สึกเหล่านั้นอย่างอ่อนโยน เหมือนเรามองดอกไม้ดอกหนึ่งด้วยความใส่ใจ เราจะเริ่มเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน
ธรรมชาติของการรัก เข้าใจ และเยียวยาตัวเองมีอยู่แล้วในตัวเรา แต่เรามักลืมมันไป เพราะเคยชินกับการมองออกไปข้างนอกและฝากพลังนั้นไว้กับสิ่งภายนอก ทั้งที่จริงแล้ว นี่คือสิ่งพื้นฐานที่เราควรมอบให้ตัวเอง เมื่อเราฝึกวางใจในชีวิต ในผู้คน และในธรรมชาติของความเปลี่ยนแปลง เราจะคืนสมดุลให้ชีวิต มีความสุขมากขึ้น และสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่งดงามให้กับโลกได้ เพราะเมื่อเรามีความรักและความกรุณา ความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงก็จะผลิบาน
แม้เราจะยังไม่ได้ศึกษาศาสตร์ Bach Flower Remedies จริงจังอย่างนัด แต่การได้คุยกับเขา ได้ฟังเขาถ่ายทอดความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ในช่วงเวลาชั่วโมงกว่า ก็รู้สึกได้ว่าใจมันเบาสบายแปลกๆ ใครสนใจและอยากศึกษาเพิ่มเติม นัดเปิดคลาสสอนศาสตร์นี้ ติดตามได้ที่ Art of living https://www.facebook.com/share/16ZRWpzFQY/
ขอบคุณสถานที่ https://www.facebook.com/malibarnecoflorist