01 ASAVA

ถ้าบอกว่า ASAVA เติบโตมาพร้อมกับรันเวย์ BIFW ก็ไม่เกินจริงเลย เพราะนี่นับเป็นปีที่ 18 ของ ASAVA พร้อมกับปีนี้ก็เป็นปีที่ 18 ของ BIFW เช่นกัน โดย ‘หมู อาซาวา’ หรือ ‘พลพัฒน์ อัศวะประภา’ ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ ASAVA มองว่า โชว์ครั้งนี้เหมือน ASAVA ได้ Coming Home แต่ก็ยังอยากเสิร์ฟความตื่นเต้นและความใหม่ให้กับแฟนๆ ของแบรนด์ด้วย The Sentiment of Autumn คอลเลกชัน Autumn/Winter 2025 ที่สื่อให้เห็นถึงแก่นแท้ของความสง่างามเหนือกาลเวลาตามแบบฉบับ ASAVA โดยถ่ายทอดความละเมียดละไมของฤดูกาลแห่งการเปลี่ยนผ่าน เพื่อสะท้อนภาพผู้หญิงยุคใหม่ที่ไม่เพียงมุ่งไขว่คว้าความสำเร็จ แต่ยังเคารพในตัวเอง

ปีนี้ ASAVA หันมาเล่นกับเรื่อง Color Pallete หรือกลุ่มสี ความลดหลั่นของสีที่มีความกลมกลืนกันแต่ก็มีความละเมียดละไม ในขณะเดียวกันก็เล่าเรื่องการผสมกลมกลืนกันของเทกซ์เจอร์ผ้าที่แตกต่างกัน ถ้าใครไปดูรันเวย์ในวันที่ 18 ก็จะเห็นว่า ชุดนางแบบไม่ใช่การทำให้เป็นลายผ้า แต่เป็นแพตเทิร์นที่สร้างขึ้นมาใหม่ โดยการนำ Conservative Pattern มาผสมผสานกับเทคนิคแพตเทิร์นใหม่ๆ

ทุกโชว์และทุกคอลเลกชันของ ASAVA ตั้งใจนําเสนอให้กับสาวๆ แฟน ASAVA รู้สึกยังตื่นเต้นกับการช้อปปิง ในทุกซีซัน ASAVA มักมองหาสิ่งที่แฟนๆ จะได้ตื่นเต้นไปกับการจับจองเสื้อผ้าของ ASAVA

“อยากทำให้เขาตื่นเต้นในการจับจองเสื้อผ้าของเรา แต่ในขณะเดียวกันในความตื่นเต้นนั้นต้องไม่ใช่สิ่งที่ฉาบฉวย ต้องเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับตู้เสื้อผ้าของเขาได้ บางคนที่เป็นแฟนเป็น Friend of ASAVA ก็ยังเอาชุดราตรีเมื่อ 10 ปีที่แล้วมาใส่ไปงานแต่งงาน เราพูดเสมอว่า ASAVA ทำงานในเชิงดิ่งด้วยการรู้จักไลฟ์สไตล์ของแฟนๆ ASAVA เพราะเราไม่ได้เชื่อในฟาสต์แฟชั่น อยากให้เสื้อผ้าเราอยู่ในตู้เสื้อผ้าเขาแล้วต้องใส่แล้วใส่อีก เอาไปมิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าอื่นๆ ในตู้ของเขาได้ เพราะฉะนั้น สําหรับ ASAVA เชื่อว่า การซื้อของที่ดีมีคุณภาพไม่จําเป็นต้องมีของเยอะ อาจจะมีน้อยแต่ว่าอยู่กับเขาได้นานๆ และอยู่ในหลายๆ โอกาสพิเศษของชีวิต”

02 Greyhound

หลังห่างหายจากรันเวย์กว่า 1 ปี รอบนี้ Greyhound กลับมาพร้อมความใหม่ที่ยังอยากคง DNA ของ Greyhound เอาไว้อย่างชัดเจน เอกบุตร อุดมผล New Creative Director ของ Greyhound เผยถึงคอลเลกชัน AUTUMN / WINTER 2025/26 ‘BODY OF WORK’ ว่า เป็นคอลเลกชันที่ถ่ายทอดความงามใน “ความไม่สมบูรณ์แบบ” ผ่านการยกย่องกระบวนการสร้างสรรค์ตั้งแต่ร่างสเกตช์ เศษรอยฉีกขาด ไปจนถึงร่องรอยการทดลองที่มักถูกมองข้าม​ กลายเป็นคอลเลกชันที่ตีความออกมาได้อย่างไร้ที่ติ

Greyhound คือหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่คู่กับคนไทยมานานถึง 45 แล้ว เอกบุตรจึงอยากให้คอลเลกชันนี้เป็นการต่อยอด DNA ของแบรนด์ให้เหมาะสมกับ Everyday Look และอยากนำเสนอ Greyhound ในยุคปัจจุบันให้คนรุ่นใหม่ด้วย

03 FUNDAO

ครั้งแรกบนรันเวย์ BIFW ของแบรนด์กระเป๋า FUNDAO (ฝันดาว) ที่ออกแบบโดย ฝันดาว แบ้สกุล เปิดตัวในคอลเลกชัน FUNDAO : Through the New Era ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งธรรมชาติ ผ่านกระเป๋าที่ออกแบบให้มีความงดงามเรียบง่าย พิถีพิถันในทุกรายละเอียด เพื่อเฉลิมฉลองให้กับแฟชั่นที่ไร้กาลเวลา

โดยคอลเลกชันนี้ยังมาในธีมที่สื่อถึงแสงแห่งอนาคต และยังคงลายเซ็นของ FUNDAO ที่ต้องมีลาย Double Cross บนกระเป๋า โดยออกแบบให้กระเป๋ามีความคลาสสิกและ Timeless แต่ยังคงมองเรื่องความยั่งยืนของกระเป๋าตั้งแต่กระบวนทำ จนถึงความยั่งยืนในมือผู้ใช้กระเป๋าด้วย

“นอกจากคงให้คอลเลกชันนี้มีความพิเศษเข้ากับรันเวย์ และต้องยังคงความ Timeless ตามสไตล์ของแบรนด์ FUNDAO แล้ว FUNDAO ยังเชื่อมั่นเรื่องการใช้วัสดุอย่างคุ้มค่าและคงทนที่สุด FUNDAO ใช้หนังทุกผืนอย่างคุ้มค่า โดยการใช้เทคนิคสาน เพราะจะทำให้หนังเหลือขยะหนังน้อยมาก FUNDAO ยังคงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมาเสมอค่ะ”

04 PAINKILLER Atelier Presented by CITIZEN

PAINKILLER Atelier Presented by CITIZEN ออกแบบโดย สิริอร เฑียรฆประสิทธิ์ อีกแบรนด์ที่อยู่คู่กับรันเวย์ BIFW ในทุกๆ ปี โดยปีนี้มาในคอลเลกชัน Embrace of Gaia ที่ออกแบบโดยผสานความอ่อนโยนเข้ากับความมั่นคง เปรียบเสมือนการกอดตัวเอง และการเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้อย่างแยบยล

Embrace of Gaia เป็นคอลเลกชันที่สื่อถึงคนเมืองที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติ อรมองว่า บางครั้งคนเมืองเองก็สูญเสียตัวตน เพราะอยู่กับเทคโนโลยีหรือความเร็วบางอย่างมากเกินไป จนขาดหายจากการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ คอลเลกชันนี้จึงเป็นการทำให้คนเมืองได้กลับไปเชื่อมโยงกับธรรมชาติมากขึ้น

ปีนี้ PAINKILLER Atelier ทำคอลเลกชันที่มีการทดลองมากกว่าปีก่อนๆ โดยการใช้ผ้าที่เหลือใช้ของแบรนด์มาผลิตชุด ความท้าทายคือการใช้เศษผ้าให้เป็นประโยชน์ เพราะว่าผ้าที่เหลือจากการทําในทุกๆ คอลเลกชันมีเยอะมาก ซึ่ง PAINKILLER Atelier ได้นํามาปะติดปะต่อจนได้นิวลุคในคอลเลกชันนี้ เรียกได้ว่าเป็นการรักษ์โลกโดยใช้วัตถุดิบที่มีอยู่แล้ว และนั่นคือความยากเพราะข้อจํากัดในการใช้งาน แต่ PAINKILLER Atelier ก็ยังอยากส่งต่อเสื้อผ้าดีๆ ที่เชื่อมต่อกับคนเมืองได้ และยังใส่ใจสิ่งแวดล้อมในวัฏจักรของงานผ้าด้วย

“นิยามของแฟชั่นที่ยั่งยืนสำหรับอรคือ Happy Together คือคนทําก็ต้องมีความสุข คนขายก็มีความสุข ลูกค้าเองก็ต้องมีความสุข มันคือการที่ไม่โกงกันเอง เพราะเราก็ทําสิ่งที่เราเชื่อ แล้วส่งต่อเสื้อผ้าที่มีตัวตนของแบรนด์พร้อมกับตัวตนของลูกค้าไปด้วย ก็หวังว่าลูกค้าจะมีความสุข เพราะความสุขของลูกค้าคือความยั่งยืนที่หมุนเวียนสำหรับแบรนด์เรา”

05 Leisure Projects

คอลเลกชัน Leisure Projects Fall Winter 2025 : Terra Mare ธารามหาสมุทร ออกแบบโดย ณัฐพล กนกวลีวงศ์ ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ Leisure Projects โดยคอลเลกชันนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการเชื่อมโยงระหว่างความแข็งแกร่งมั่นคงของผืนดิน และความอิสระพลิ้วไหลของท้องทะเล การผสมผสานทั้งทะเลและภูเขาเข้าด้วยกัน คือการเปรียบเปรยถึงผู้ชายว่า มีความแข็งแกร่งแบบภูเขาและแต่ก็พลิ้วไหวเหมือนสายน้ำได้เช่นกัน แบรนด์ Leisure Projects คือแบรนด์เสื้อผ้าที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติมาอยู่แล้ว ในคอลเลกชันนี้จึงโฟกัสไปที่การใช้พื้นผิวของผ้าให้ล้อไปกับคลื่นน้ำ และใช้ผ้าแนวเอิร์ธโทนเพื่อสื่อถึงดิน

ในปีนี้  Leisure Projects ได้ทำงานกับ Jaar Studio แบรนด์เครื่องประดับจากเครื่องปั้นดินเผาทำมือ ดีเทลต่างๆ ในคอลเลกชันนี้จึงโดดเด่นที่การเป็นงานแฮนด์คราฟต์ โดยเฉพาะงานโครเชต์จากเชียงใหม่ เครื่องปั้นดินเผาจากอุดรธานี โดยทั้งหมดยังเน้นให้มีความ Ready to Wear มากขึ้น

“จริงๆ แล้วแฟชั่นสร้างความตื่นเต้นให้ชีวิต เราอยากให้ทุกโชว์ของเราน่าจดจำ น่าตื่นตาตื่นใจ ความท้าทายไม่ค่อยมีหรอก ทำมาหลายปีแล้ว และเราเองก็อยากให้แบรนด์ไม่หยุดนิ่ง ยังอยากพัฒนาทุกปี อยากโตไปกับลูกค้า ซึ่งในทุกปีๆ เราก็มั่นใจในจุดยืนของตัวเองเสมอครับ”