Home Delight
เจาะลึก 5 ซีรีส์ในคอลเลกชัน AUTUMN 2025 ของ Jim Thompson กับ วิชดา สีตกะลิน
- ONCE ชวน ดาว-วิชดา สีตกะลิน Creative Director Home Furnishing ของ Jim Thompson มาแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์การออกแบบคอลเลกชันล่าสุดอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกในคอลเลกชันผ้าตกแต่งบ้านฤดูใบไม้ร่วง 2025 หรือ AUTUMN 2025
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า Jim Thompson ไม่ได้มีแค่แฟชั่นและผ้าไหม เพราะ Jim Thompson คือแบรนด์ที่ส่งออก Home Textile มาแล้วทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรป แต่อะไรทำให้ Jim Thompson เป็นแบรนด์ผ้า Home Furnishing ที่ส่งออกได้ทั่วโลกกันนะ? ONCE พาไปมองงาน Home Textile ของ Jim Thompson ผ่านคอลเลกชันล่าสุด โดย ‘ดาว-วิชดา สีตกะลิน’ Creative Director Jim Thompson ในบทความนี้กัน
“Jim Thompson ให้ความสำคัญแบบ 360 องศาในการออกแบบผ้า นั่นคือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้แบรนด์ Jim Thompson เป็นแบรนด์ที่มี Heritage, Legacy และ Craftsmanship อยู่ในตัวเองเสมอ” ดาว-วิชดา สีตกะลิน Creative Director Home Furnishing ได้แบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ในการออกแบบคอลเลกชันล่าสุดอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกให้ Jim Thompson ในคอลเลกชันผ้าตกแต่งบ้านฤดูใบไม้ร่วง 2025 หรือ AUTUMN2025
ก่อนหน้าการเข้ามาร่วมงานกับที่นี่ ดาวจบสาขา Interior Architecture จาก Rhode Island School of Design ในสหรัฐฯ ทำงานในวงการออกแบบภายในมากว่า 30 ปี เคยทำงานที่อเมริกาอยู่ 5 ปี ทำงานในบริษัทออกแบบภายในที่บอสตัน 3 ปี และที่นิวยอร์กอีก 2 ปี ก่อนจะนำประสบการณ์ทั้งหมดมาแชร์ให้กับ Jim Thompson ซึ่งดาวได้ย้ำให้เราฟังว่า นี่คือแบรนด์ผ้าที่ไม่แพ้ใครในโลกเลยจริงๆ
🍂คอลเลกชันผ้าตกแต่งบ้านฤดูใบไม้ร่วง 2025 (Jim Thompson Autumn 2025 Collection)
คอลเลกชันผ้าตกแต่งบ้านฤดูใบไม้ร่วง 2025 ของ Jim Thompson คือการหวนคืนกลับสู่ธรรมชาติ เน้นพาเลตต์สีเอิร์ธโทนแต่ใส่ความสนุกสนานเข้ามาอย่างลงตัว ทั้งการสร้างมิติจากการเลือกใช้ผ้าที่มีผิวสัมผัสหลากหลาย มีการผสมผสานเส้นใยหลายรูปแบบ พร้อมกับลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากต้นไม้และองค์ประกอบในธรรมชาติ
คอลเลกชันนี้มีทั้งหมด 5 ซีรีส์ ได้แก่ Earthly Elation, Flora & Fauna, Warm Days I & II, Sasina (ผ้าไหมไทยทอมือ) และ Terra Reverie Wallcoverings
🤎 01 Earthly Elation
ถ่ายทอดเสน่ห์ของธรรมชาติที่ไร้การปรุงแต่ง ซีรีส์นี้ดึงเอาสีสันและผิวสัมผัสจากหิน เปลือกไม้ มอส และใบไม้ มารังสรรค์เป็นลวดลาย เน้นสีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น ผสมผสานกับรูปร่างเรขาคณิตจากธรรมชาติ และลวดลายจากวัฒนธรรมการทอแบบดั้งเดิม เช่น ลายถัก ผ้าสีพื้น ลายทาง และลายตาราง
“ในคอลเลกชันนี้ก็จะมีเรื่องของผิวสัมผัส อยากให้คนเห็นว่า Jim Thompson มีผ้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่ผ้าไหม ไม่ได้มีแค่ความหรูหรา เรามีทั้งจูด คอตตอน ไหมป่า หรือไหมดิบที่มันมีปมๆ ของมัน ซึ่งปมที่ว่าไม่ใช่ Defect แต่มันคือความตั้งใจ เป็นความ Imperfect ซึ่งเป็นเสน่ห์ของงานมือ เพราะ Jim Thompson อยากบอกว่า เราเป็นแบรนด์ Home Textile ไม่กี่แบรนด์ที่ยังเน้นผ้าจากงานมือจริงๆ”
🤎 02 Flora & Fauna
ซีรีส์ที่ให้พลังความสดใสของชีวิตและภูมิทัศน์อันงดงามตามธรรมชาติ ผ่านผ้าทอที่มีผิวสัมผัสเป็นเอกลักษณ์ งานปักที่เปี่ยมชีวิตชีวา ลวดลายสวนเมืองร้อน และลายปรินต์สุดประณีตบรรจง ผ้าทอที่มีผิวสัมผัสหลากหลายช่วยเติมความเป็นธรรมชาติให้สเปซ ส่วนลวดลายเรขาคณิตจากธรรมชาติในซีรีส์นี้ ก็เสริมลูกเล่นในการตกแต่งพื้นที่ได้อย่างน่าสนุกด้วย
เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของทุกคน โดยเฉพาะเหล่าคนที่ชอบการเลเยอร์ และ Mix & Match เพราะในซีรีส์นี้มีการออกแบบลายผ้าบุที่นำลายใหญ่มาย่อให้เป็นลายเล็ก ทำให้เกิดความน่าสนใจในรูปแบบใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังมีมีผ้าลินิน 100% ที่ทำเป็นลายเหลือบแบบออมเบร เป็นผ้าหน้ากว้างที่ไม่มีรอยต่อ ทำให้เหมาะกับการมาทำผ้าม่านมากๆ
🤎 03 Warm Days I & II
ซีรีส์ที่เชิดชูเอกลักษณ์ของผ้าทอมือคุณภาพโดยช่างทอมือท้องถิ่น พร้อมนำเสนอโทนสีเรียบง่ายและโทนอบอุ่นที่สามารถนำไปใช้เป็นผ้าม่านและผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวสัมผัสแบบพิเศษ โดยผ้าทั้งหมดในซีรีส์นี้เป็นใยธรรมชาติ มีทั้งใยไหม คอตตอน ลินิน และจูด (หรือปอของบ้านเรา) ความพิเศษของผ้าธรรมชาติคือผิวสัมผัสและการทิ้งตัว เพราะผ้าประเภทนี้ในท้องตลาดมักทิ้งตัวได้ไม่สวยนัก แต่จริงๆ แล้วผ้าประเภทนี้ทำให้ทิ้งตัวสวยได้จริงๆ ถ้าอยากรู้ว่าการทิ้งตัวอย่างสวยงามและเหมาะกับการแต่งห้องแบบไหน ต้องลองเดินเข้ามาดูซีรีส์นี้ที่โชว์รูม Jim Thompson สาขาสุรวงศ์ได้เลย
🤎 04 Sasina (ผ้าไหมทอมือ)
Sasina เป็นซีรีส์ผ้าไหมไทยทอมือที่ผลิตขึ้นจากโรงทอในจังหวัดนครราชสีมา นำเสนอ 25 เฉดสีสำหรับผ้าม่าน โดดเด่นด้วยสีสันเฉพาะตัวของผ้าไหมทอมือของ Jim Thompson เกิดจากการจับคู่สีเส้นพุ่งและเส้นยืน จนได้เป็นสีเหลือบสวยงามเมื่อมองจากมุมต่างๆ กลายเป็นองค์ประกอบพิเศษที่เติมความงดงามให้ทุกสเปซ
และยังตอกย้ำความพิเศษของผ้าไหม Jim Thompson คือหน้ากว้าง 130 เมตร เหมาะกับการนำไปทำผ้าม่าน หรือไปทำผ้าตกแต่งต่างๆ อย่างหมอนก็ได้เช่นกัน
🤎 05 Terra Reveries Wallcoverings
ซีรีส์วอลเปเปอร์ Terra Reverie Wallcovering คือนำเสนอลวดลายสุดไอคอนิกที่ตีความใหม่จาก Archive ของ Jim Thompson พิมพ์ลงบนวัสดุที่ทอจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น หญ้าหรือป่าน อาทิ Tiger’s Dream, Pineapple, Palm Leaves, Lush Leafscape และ Royal Fern เพื่อสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครให้ทุกห้อง
🧶 Fun Fact เกี่ยวกับโรงงานทอผ้า Jim Thompson
จากซีรีส์ Sasina (ผ้าไหมทอมือ) ที่ใช้ผ้าไหมจากโรงงานในจังหวัดนครราชสีมา จริงๆ แล้วในอดีต Jim Thompson เคยทำงานร่วมกับชุมชนบ้านครัวในการทอผ้าไหม แต่เมื่อความต้องการสูงขึ้น จึงได้เปิดโรงงานของตนเองที่ปักธงชัยในปี ค.ศ.1989 โดยมีกี่ทอผ้าถึง 500 ตัวเลยนะ!
แต่ความน่าเสียดายคือเมื่อเวลาผ่านไป จำนวนกี่ทอผ้าได้ลดลงอย่างมาก จาก 500 ตัวในปี 1989 เหลือเพียง 50 ตัวในปัจจุบัน เพราะความต้องการผ้าไหมที่ลดลงในท้องตลาด รวมถึงการที่คนรุ่นใหม่ไม่ได้สานต่อวัฒนธรรมการทอผ้าอีกต่อไปแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น Jim Thompson เองก็ยังมีพยายามอนุรักษ์และสืบสานการทอผ้าไว้ จึงยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษากี่ทอผ้า 50 ตัวที่เหลืออยู่ และพยายามจะเป็น “ศูนย์การเรียนรู้” สำหรับการทอผ้า ตัวอย่างเช่นในช่วงโควิด-19 ที่รุ่นลูกของป้าๆ ช่างทอได้กลับมาเรียนทอผ้าที่โรงงาน ทำให้ช่วยเพิ่มจำนวนแรงงานได้ชั่วคราว ทำให้ Jim Thompson นึกถึงนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของวัฒนธรรมการทอมากขึ้น
Jim Thompson ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความคงทนและการดูแลรักษาผ้าไหมที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องยาก อย่างการนำเส้นยืนที่เป็นไนลอนมาผสมผสาน แต่ยังคงรักษารูปแบบและความรู้สึกของผ้าไหมไว้ ทำให้ผ้ามีความคงทนมากขึ้น และมีคุณสมบัติกันน้ำ (น้ำกลิ้งได้ ไม่ซึม) นวัตกรรมนี้ช่วยให้ผ้าไหมสามารถนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายขึ้น เช่น การบุเฟอร์นิเจอร์เพื่อการส่งออก เมื่อมีการใช้งานที่หลากหลายขึ้น อาจทำให้ผ้าไหมกลับมามีความต้องการในตลาดมากขึ้นได้นั่นเอง
Jim Thompson จึงไม่ใช่แค่แบรนด์แฟชั่น แต่กำลังดำเนินงานบนจุดสมดุลระหว่างการรักษามรดกงานฝีมือผ้าไหมไทยที่หายาก กับการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เพื่อความคงทนและตอบสนองความต้องการของตลาดโลก ควบคู่ไปกับการรักษาเอกลักษณ์และคุณค่าของแบรนด์ ตามที่ดาวได้ย้ำกับเราว่า นี่คือแบรนด์ที่มีทั้ง “Heritage, Legacy และ Craftsmanship”
