Aviva Spirit

ร้านตึกแถวซ่อนตัวอยู่ในถนนแฉล้มนิมิตร ย่านบางคอแหลม แปลกตาไปหน่อยสำหรับการเดินทางมายังร้านขายศาลเจ้า ที่ปกติจะต้องเห็นศาลเจ้าวางเรียงรายในร้านโกดังติดถนนใหญ่ให้เราเลือกซื้อกลางแดดร้อนเปรี้ยง กลับกัน เมื่อเข้ามาในร้าน Aviva Spirit เรารู้สึกได้ถึงความสบายตา สบายใจ มองเห็นทั้งศาลพระภูมิ ทั้งตี่จู้สีเรียบ สไตล์โมเดิร์นวางเต็มทางเดินในบ้านออฟฟิศแอร์เย็นฉ่ำ

อ.สุภชัย วิวัฒนะประเสริฐ ผู้เป็นซินแสฮวงจุ้ยมากว่า 11 ปี ก่อนจะมาเป็นผู้ก่อตั้ง Aviva Spirit และลูกชาย แมค-ณัฐพงศ์ วิวัฒนะประเสริฐ ทั้งคู่เปิดออฟฟิศให้เราได้เข้าไปทำความรู้จักกับ Aviva Spirit อย่างเป็นกันเอง

ศาลเจ้านี้มีลิขสิทธิ์(นะ)

ธุรกิจศาลเจ้าจีนโมเดิร์นได้ริเริ่มจากการที่ลูกศิษย์ลูกหาของ อ.สุภชัย มาดูดวงฮวงจุ้ย และปรึกษาว่าต้องการตี่จู้เอี๊ยะที่มีดีไซน์เรียบง่าย เข้ากับบ้านสมัยใหม่ได้ดี แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจ จึงขอให้ทาง อ.สุภชัย ช่วยออกแบบพัฒนาให้ จึงเป็นที่มาของการริเริ่มแบรนด์ Aviva Spirit ตั้งแต่นั้น

เพราะเป็นธุรกิจที่ใช้งานศิลป์ทำมือเข้ามาเป็นส่วนสำคัญ หัวใจหลักของการเริ่มประกอบธุรกิจของ Aviva Spirit จึงเป็นเรื่องของกฎหมายการคุ้มครองงานสร้างสรรค์นั่นเอง อ.สุภชัย ออกปากกับเราตั้งแต่เริ่มบทสนทนาว่า สิ่งที่ทางแบรนด์ไม่ได้คำนึงถึงคือการจดแจ้งสิทธิบัตร และลิขสิทธิ์ เมื่อสินค้าเริ่มเป็นที่นิยม แน่นอนว่าก็ต้องเริ่มมีคนให้ความสนใจและเกิดการลอกเลียนแบบได้

“แรกสุดเรายังไม่เข้าใจเรื่องของการจดสิทธิบัตร จริงๆ งานพวกนี้เป็นงานแเฮนด์เมด งานศิลป์ เพราะฉะนั้นเมื่อคุณลงรูปในช่องทางสาธารณะเรียบร้อยแล้ว มันมีกฎหมายคุ้มครองให้โดยอัตโนมัติทันที คุณลงรูปไป เท่ากับคุณมีหลักฐานในการอ้างสิทธิ์แล้ว คนอื่นจะมาทำเลียนแบบไม่ได้” อ.สุภชัยเล่าให้เราฟังถึงบทเรียนแรกของธุรกิจศาลเจ้า และย้ำว่าแม้ตลาดศาลเจ้าที่ผลิตด้วยหินอ่อนจะมีมากว่า 20 ปี แต่ Aviva Spirit เป็นเจ้าแรกในไทยที่ได้รับการจดลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรศาลเจ้าที่ออกแบบด้วยดีไซน์โมเดิร์นทั้งหมดนั่นเอง

ตี่จู้ไม่มีมังกรกับสีแดงจะยังเป็นตี่จู้ไหม

“ตี่จู้เอี๊ยะแบบดั้งเดิม เริ่มจากคนจีนที่เข้ามาอาศัยอยู่เมืองไทยใช้การเขียนกระดาษแล้วก็แปะเอา มีแค่ป้ายกับกระถางธูป ต่อมาคนจีนบางส่วนเริ่มมีรายได้ก็ใช้แผ่นไม้ หลังจากนั้นจึงเริ่มใช้หินอ่อน จริงๆ มีบันทึกประวัติในเมืองไทยว่า ตี่จู้แรกเริ่มเป็นแค่ป้ายไม้กับกระป๋องนม เพราะมันไม่มีตังค์ไง ส่วนคนรวยเขาก็สร้างเป็นเรือนไม้สัก แต่คนจีนที่ไม่มีตังค์ก็ไปเอาไม้สำเร็จรูปมาทำ มันไม่สวย เลยต้องทาสีแดงกลบ เลยเป็นที่มาของตี่จู้สีแดง” อ.สุภชัย อธิบายประวัติของตี่จู้ในสมัยที่คนจีนเริ่มเข้ามาตั้งรกรากในเมืองไทย ฟังจบเราถึงกับร้องอ๋อ เพราะเข้าใจแล้วว่า จริงๆ ทั้งวัสดุ สี แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและค่านิยม แต่ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ความสำคัญจริงๆ ของศาลเจ้าจีน คือเป็นที่สิงสถิตของเจ้าที่ต่างหาก

“สิ่งสำคัญที่เป็นตัวที่กำหนดว่าจะเป็นศาลเจ้าได้คือ ต้องมีอักษรภาษาจีนที่มีตัวแทนของเจ้าที่เขียนว่า “ตี่สิ้ง” ตี่ แปลว่าดิน สิ้ง แปลว่า เจ้า รวมกันแปลว่า เทพแห่งดิน เป็นตัวอักษรอัญเชิญว่านี่คือที่สิงสถิตของเจ้าที่ แล้วก็มีกระถางธูป พวกมังกร หุ่นรูปปั้นอากง หรือส่วนที่เหลือคือทุกคนต่อเติมกันเอาเองทีหลัง” อ.สุภชัย อธิบายให้ฟังอย่างทะลุปรุโปร่ง

และหากใครกำลังกังวลว่าศาลเจ้าโมเดิร์นดีไซน์ถูกใจแล้ว จะถูกหลักความเชื่อหรือเปล่า ก็สบายใจได้ เพราะกระบวนการสร้างศาลเจ้าของ Aviva Spirit ได้รับคำปรึกษาในการออกแบบโดยตรงจาก อ.เกรียงไกร บุญธกานนท์ ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยผู้มากประสบการณ์ของไทย

ล้ำสมัยด้วยดีไซน์แต่ตอบโจทย์การใช้งาน

คุยกันไปสักพัก แมคก็อาสาพาเราเดินชมศาลเจ้าภายในร้านไปด้วย พลางอธิบายคุณลักษณะของแต่ละศาลให้เราฟัง น่าเสียดายที่บางขนาดขายดีจนไม่เหลือให้เราได้ชม เนื่องจากเป็นช่วงปลายปีที่ลูกค้านิยมซื้อตี่จู้เอี๊ยะใหม่รับปีใหม่นั่นเอง

แมคอธิบายว่า ตี่จู้เอี๊ยะโมเดิร์นของ Aviva Spirit คำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ทั้งเรื่องความสวยงาม และความสะดวกในการทำความสะอาด แบรนด์จึงเลือกใช้หินอ่อนธรรมชาติ 95% ผสมกับโพลีเอสเตอร์เรซิ่น 5 % มาเป็นวัสดุในการทำศาลเจ้า บางคนอาจเรียกหินอ่อนประเภทนี้ว่าหินอ่อนสังเคราะห์ หรือหินอ่อนเทียม แต่ผิวสัมผัสเหมือนหินอ่อนธรรมชาติทุกอย่าง ต่างแค่ผิวหินอ่อนโดยธรรมชาติมักจะมีรูพรุน แตกหักง่าย แต่เรซิ่นที่เติมลงไปนี้จะช่วยให้ผิวหินเรียบ ช่วยลดปัญหารอยด่างเมื่อโดนน้ำชาซึมหกใส่ อีกทั้งศาลเจ้าหินอ่อนที่อยู่ในร่ม จะไม่เหลือง ไม่ผุกร่อน คงสภาพทนทานเป็นหลัก 10 ปีเลยทีเดียว

ส่วนระบบไฟภายในตัวเรือนศาลเจ้านั้นติดตั้งด้วยหลอด LED ทั้งหมด ใช้ระบบกล่องคอนโทรล ที่เมื่อกดปุ่มเปิดไฟ ไฟในกระถางธูปไฟฟ้าจะติดและดับเองภายในเวลา 18 นาที ตามค่าเฉลี่ยการดับของธูปทั่วไป และไฟภายในตัวเรือนจะดับเองภายใน 8 ชั่วโมง เทียบเท่ากับ Office Hour ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเปิดปิดไฟระหว่างวัน

โดยตี่จู้เอี๊ยะของทางแบรนด์จะมีด้วยกัน 2 สี คือ ขาวครีมและเบสน้ำตาล และมีขนาดตั้งแต่ 18.5, 27, 35 ไปจนถึง 42 นิ้ว เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ที่แตกต่างกันไปของอาคารบ้านเรือน ที่ลูกค้าต้องการจะนำตี่จู้เอี๊ยะไปตั้งนั่นเอง

นอกจากนี้ สินค้าที่เป็นที่นิยมแทบจะแซงหน้าศาลเจ้าคือ ชุดเครื่องไหว้หลากหลายรูปทอง ผลิตจากสเตนเลสคุณภาพ ชุบด้วยไทเทเนียม สีจึงเงางามเสมอ ไม่ลอก ไม่หมอง ไม่ดำ

‘ความน่าเชื่อถือ’ คือหัวใจของธุรกิจความเชื่อ

นอกจากจะเป็นธุรกิจที่โมเดิร์นในด้านดีไซน์สินค้า เราพบว่า Aviva Spirit ยังดำเนินกิจการด้วยกลยุทธ์ที่ตามทันยุคสมัยด้วยเช่นกัน โดยการนำช่องทางออนไลน์มาเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“แบรนด์ศาลเจ้าของเราจะไม่ได้ขายแค่ดีไซน์อย่างเดียว เราขายความน่าเชื่อถือด้วย” แมคย้ำ

จากแรกเริ่มที่กลุ่มลูกค้าหลักเป็นลูกศิษย์ อ.สุภชัย ที่ชื่นชอบสินค้า จนเกิดเป็นการบอกปากต่อปาก เมื่อเริ่มมีลูกค้ามากขึ้นจึงเปิดเพจ Facebook เป็นช่องทางการขายหลักมากว่า 12 ปี และเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ทางแบรนด์เห็นว่ายังมีช่องทางออนไลน์ใหม่ๆ อีกเยอะที่ยังครอบคลุมได้ไม่หมด จึงขยายเพิ่มอีก 3 ช่องทางหลัก คือ การโพสต์ภาพตัวอย่างการตั้งตี่จู้เอี๊ยะ ผ่าน Instagram การลงรายละเอียดสินค้า และบทความเรื่องฮวงจุ้ยและศาลเจ้าในเว็บไซต์ และช่องทางติดต่อโดยตรงผ่าน Line Official

เห็นได้ชัดว่านอกจากจะครอบคลุมช่องทางออนไลน์มากขึ้นแล้ว แมคยังนำข้อดีของลักษณะการทำงานที่ต่างกันของแต่ละแพลตฟอร์ม มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับเนื้อหาของสินค้าของแบรนด์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

“ตอนนี้ลูกค้าเรามาจากช่องทางออนไลน์แทบจะ 100% ถ้าเราจะเจาะตลาดออฟไลน์เพื่อแข่งกับคนอื่นที่มีอยู่เยอะแล้ว มันเหนื่อย กลยุทธ์เราคือเราทำออนไลน์ให้ดีกว่าแทน เราเน้นทั้งการยิงโฆษณา การใช้ SEO Keyword ของเว็บไซต์ซึ่งเป็นตัวดึง Traffic เข้ามาหลักๆ เลย เขาเห็นว่าข้อมูลในเว็บไซต์ครบถ้วน ก็มั่นใจในการเลือกซื้อ เขาเห็นรูปใน IG สวย ก็มั่นใจเวลานำตี่จู้ไปตั้ง”

ตราบใดที่มีความเชื่อ เรายังคงเติบโต

แมคเผยว่า กลุ่มฐานลูกค้าของแบรนด์ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของบ้านในหมู่บ้านโครงการ ในสัดส่วนเฉลี่ย กรุงเทพฯ ปริมณฑล 70% และในต่างจังหวัดอีกประมาณ 30%

“อีกสัดส่วนที่น่าสนใจคือ แต่ก่อนลูกค้าเราประมาณ 90-80% จะเป็นลูกค้าที่เป็นเจ้าของบ้าน แต่เดี๋ยวนี้เหลือประมาณ 60% อีก 40% ที่เพิ่มมาคือร้านค้า ออฟฟิศ โรงแรม รีสอร์ต โชว์รูม แม้กระทั่งโชว์รูม BMW ก็ตั้งตี่จู้ของเรา เป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้ และคิดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก”

“คนอาจจะมองว่าธุรกิจนี้มันโตได้แค่กับบ้านหรือกับแค่อสังหาหรือเปล่า แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เราโตกับร้านค้าได้ เราโตกับสิ่งปลูกสร้างทุกอย่างที่เขามีความเชื่อ”

ระหว่างเดินชมศาลเจ้าจนเกือบครบ แมคแง้มอนาคตสินค้าไลน์ใหม่ของ Aviva Spirit ที่กำลังอยู่ในกระบวนการผลิตให้เราชมเล็กน้อย นั่นก็คือ ‘วิหารเทพ’ ที่เกิดจากความนิยมบูชาเทพที่มากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะเทพฮินดู วิหารเทพนี้จึงเป็นทางเลือกสำหรับใช้บูชาเหล่าทวยเทพได้หลากหลาย ไม่จำกัดความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น พระพิฆเนศ พระแม่ลักษมี หรืออีกมากมาย เพราะว่าสินค้าเป็นเพียงตัววิหาร ส่วนเทพที่จะใช้วางบูชาภายในก็แล้วแต่ความศรัทธาของลูกค้าเลย

ในฐานะที่อยู่ในวงการธุรกิจศาลเจ้ามานาน เราเลยขอถามถึงมุมมองของแบรนด์ Aviva Spirit ที่มีต่อตลาดความเชื่อในประเทศไทยเป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะกลับ “เราว่าตลาดความเชื่ออยู่กับคนไทยอยู่แล้ว ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี เรื่องเหล่านี้ยิ่งเติบโต เรามองว่าทุกคนต้องการที่พึ่งทางจิตใจ ความเชื่อเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ช่วยเขาได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงคืออย่างเช่น สิ่งศักดิ์สิทธิให้โชคลาภ ให้พรเรา ทางอ้อมคืออย่างน้อยๆ เราเองก็มีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น”