หลังปิดประเทศยาวนานถึง 2 ปี ตอนนี้ภูฎานพร้อมแล้วที่จะเปิดบ้านรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 23 กันยายนนี้เป็นต้นไป พร้อมขยับขึ้นอัตราค่าบำรุงและพัฒนาประเทศจาก 65 เป็น 200 ดอลล่าร์ฯ

ภูฎาน เป็นประเทศเล็กๆ ที่อยู่บนเทือกเขาหิมาลัยระหว่างประเทศจีนและอินเดีย ที่นี่ถูกเรียกขานว่า “The Last Shangri-La” หรือดินแดนแห่งสรวงสวรรค์แห่งสุดท้ายบนโลกมนุษย์ ด้วยทำเลที่แสนงดงามตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มรดกทางวัฒนธรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืน

การเปิดประเทศครั้งใหม่นี้ นักท่องเที่ยวต้องเสียค่าธรรมเนียมให้กับรัฐเพื่อนำไปใช้พัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนเป็นจำนวนเงิน 200 ดอลล่าร์ฯ ต่อวัน หรือประมาณ 7,300 บาท++ จากเรทเดิมอยู่ที่ 65 ดอลล่าร์ฯ (ราว 2,300 บาท++) และเป็นค่าธรรมเนียมที่ไม่รวมค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ฯลฯ ด้วยนะจ๊ะ

นับตั้งแต่ที่เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวในปี 1974 ภูฎานก็วางโพสิชั่นตัวเองว่าเป็นเดสติเนชั่นของนักท่องเที่ยวที่ยินดีจ่ายเพื่อแลกกับความงดงามที่จะได้ไปเห็นในประเทศนี้ สภาการท่องเที่ยวภูฎานยึดนโยบายเน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ High Value, Low Volumeโดยจัดเก็บค่าธรรมเนียมสูง แต่รับปริมาณนักท่องเที่ยวไม่ต้องมาก เพื่อสร้างภาพลักษณ์ประเทศที่มีความพิเศษเฉพาะตัว

อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมเข้าประเทศของภูฎานในขณะนี้อยู่ที่ 250 ดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 9,150 บาท) ซึ่งถือเป็น “ค่าแพ็คเกจรายวันขั้นต่ำ” ราคานี้รวมทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าธรรมเนียมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 65 ดอลล่าร์ฯ แต่หลังจากวันที่ 23 กันยายนนี้เป็นต้นไป ค่าธรรมเนียมจะถูกปรับตามนโยบายใหม่ที่ 200 ดอลล่าร์ฯ แทน

โดยภูฏานจะนำค่าธรรมเนียมอัตราใหม่นี้ไปใช้ชดเชยผลกระทบที่เกิดจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนของนักท่องเที่ยว และพยายามรักษาให้เป็นประเทศปลอดคาร์บอน เป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากประเทศมีความเสี่ยงต่อผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ฝนตกและน้ำท่วมบ่อยครั้ง

ต้องยอมรับเลยว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้ภูฏานต้องปรับเปลี่ยน ทบทวนโครงสร้างและการดำเนินการให้ดีที่สุดในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะความมุ่งมั่นในการสร้างภาคการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน รวมไปถึงการปรับปรุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้พร้อมไปสู่การแข่งขัน สร้างความเป็นมืออาชีพ และสร้างงานที่มีทักษะสูง เพื่อสร้างรายได้ให้กับชาวภูฎาน

ขณะเดียวกันก็เป็นการยกระดับประสบการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยว ที่จะก่อให้เกิดการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับผู้ให้บริการไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม บริษัททัวร์ มัคคุเทศก์ พนักงานขับรถ ฯลฯ ซึ่งจำเป็นต้องผ่านการรับรองที่เข้มงวดมากขึ้น