Boat and Beyond
Boat and Beyond เรือหางยาวที่พาล่องทะเลกระบี่ในความไพรเวท พรีเมียม ลักซ์ชัวรี่
- เมื่อแนวโน้มนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป ทุกคนต้องการความหรูหรา ความเป็นส่วนตัว และความพรีเมี่ยมมากขึ้น Boat and Beyond บริการเรือหางยาวนำเที่ยวทะเลกระบี่รูปแบบใหม่จึงเกิดขึ้นมา เพื่อปรับทิศทางธุรกิจให้สอดคล้องกับตลาดและความต้องการมากขึ้น
- ไอเดียนี้เกิดจากสองพี่น้องคนรุ่นใหม่ ทายาทรุ่นที่สองของบาราคูดัส ทัวร์ ผู้ให้บริการเรือหางยาวเจ้าแรกของกระบี่ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 27 ปี ซึ่งมั่นใจว่าการล่องเรือหางยาวแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟเช่นนี้ จะมัดใจนักเดินทางรุ่นใหม่ได้แน่นอน
ไปล่องเรือหางยาวกัน...
จากภาพจำเรือประมงเดิมๆ คงชวนให้ใครหลายคนคิดถึงการนั่งเรือท้องถิ่นออกทริปรับกลิ่นอายทะเลทั่วไป หรือไม่ก็สัมผัสเสน่ห์วิถีชุมชนของที่ไหนสักแห่ง แต่สำหรับ Boat and Beyond นี่คือธุรกิจนำเที่ยวโดยเรือหางยาวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ผสมผสานเอกลักษณ์ท้องถิ่นและความหรูหราสะดวกสบายเข้าไว้ด้วยกัน
Boat and Beyond คือบริษัทเรือนำเที่ยวทะเลกระบี่รูปแบบใหม่ จากแนวคิดของ โบ-รัตน์ศรัณย์ และ บี-ทิพยาภรณ์ สะมาน 2 สาวพี่น้องที่เติบโตมากับธุรกิจท่องเที่ยวของครอบครัว และกล้าเปิดตัวธุรกิจใหม่สวนกระแสยุคโควิด-19 เมื่อปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยเน้นจุดขายการท่องเที่ยวแบบไพรเวท ตอบโจทย์วิถี New Normal ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลล์และบริการไม่เหมือนใคร
ที่สำคัญ...เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการรูปสวยๆ อัพลง IG!
เรือหางยาวอัพเกรด
ไอเดีย luxury long-tail boat เริ่มต้นมาจากครอบครัวของโบกับบี ทำธุรกิจเรือนำเที่ยวอยู่แล้วคือ บาราคูดัส ทัวร์ เป็นเจ้าแรกของกระบี่ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 27 ปี และคุณพ่อมักจะมักจะพาไปช่วยงานอยู่บ่อยๆ ทำให้ทั้งคู่ได้คลุกคลี เรียนรู้ และบ่มเพาะประสบการณ์ในวงการท่องเที่ยวมาไม่น้อย รวมทั้งมองเห็นข้อจำกัดของตลาด Mass และโอกาสการต่อยอดธุรกิจตามเทรนด์ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย
กระทั่ง 6 ปีที่แล้ว หลังจากเรียนจบปริญญาโทด้านบริหารจาก Queen Mary University of London และทำงานในตำแหน่ง Management Trainee ที่โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ทอยู่ 6 เดือน โบ ออกมาช่วยงานธุรกิจที่บ้านอย่างเต็มตัวและเริ่มมีแนวคิดอยากเพิ่มความพรีเมียมให้กับเรือหางยาว หนึ่งในเอกลักษณ์โดดเด่นของท้องถิ่นที่นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยชื่นชอบ แต่กลับเป็นเกรดรองทั้งในแง่ของราคาและการบริการเมื่อเทียบกับสปีดโบ๊ต
“เราอยากเจาะตลาดเอ็กซ์คลูซีฟ เอาความพรีเมียมมาประยุกต์เข้ากับความเป็นท้องถิ่น บวกกับพอเห็น Pain Point ที่นักท่องเที่ยวไม่ชอบจอยกรุ๊ป และบางคนไม่ได้อยากออกทริปแบบทั้งวัน จึงเกิดเป็นไอเดียนำเรือหางยาวมาทำเป็นรูปแบบไพรเวทที่ไม่เหมือนกับที่ให้บริการอยู่ทั่วไป พอช่วงปลายปี 2019 บี อยู่ปี 4 และกลับมาเรียนออนไลน์ที่บ้าน จึงได้ชักชวนกันลุยโปรเจ็กต์นี้ด้วยกัน”
โบ วัย 27 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ Boat and Beyond
บัณฑิตจากคณะ Business English Communication มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วัย 22 ปี เสริมต่อจากพี่สาวว่า พวกเธออยากจะปรับปรุงแบรนด์เก่าของครอบครัวให้มีความหลากหลายและเติมความพรีเมียมมากขึ้น แต่ด้วยปัญหาเรื่องความแตกต่างทางความคิดของ 2 เจเนอเรชั่นคงหาจุดลงตัวได้ยาก จึงตัดสินใจเปิดแบรนด์ใหม่ภายใต้การบริหารจัดการด้วยตัวเองทั้งหมดแทนการ Rebranding ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
Exclusive- Stylish- Leisure
คำว่าพรีเมียมในที่นี้ไม่ได้หมายความแค่การตกแต่งรูปลักษณ์เรือหางยาวให้สวยงาม ทันสมัย พร้อมอาหารมื้อพิเศษเท่านั้น แต่ยังใส่ใจตั้งแต่การเลือกสี คัดสรรของกิน ของใช้ ตลอดจนรูปแบบการบริการที่ 2 สาวใต้ยืนยันว่า ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
เป็นเจ้าแรกของกระบี่อีกครั้ง…แต่ครั้งนี้เป็นคิวของรุ่นลูก
“ยังไม่มีใครทำโปรดักต์หรือการบริการรูปแบบนี้มาก่อน รูปลักษณ์ของเรืออาจเหมือนเดิม แต่เราเพิ่มเรื่องของ Emotional และ Experience ลูกค้าจะต้องกลับไปด้วยความประทับใจ เราคัดสรรทุกอย่างมาอย่างดี ตั้งแต่การไปดูเทรนด์ปิคนิค แคมปิ้งแล้วเอามาประยุกต์ใช้ แม้แต่เรื่องสีก็เลือกมาเพื่อให้ถ่ายรูปออกมาสวย ตัดกับน้ำทะเล พร็อบต่างๆ ก็คัดกันนานมาก เลือกแล้วเลือกอีกเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด ถ้าเปรียบเป็นโรงแรม Boat and Beyond ก็คือโรงแรมระดับ 4-5 ดาว”
นอกจากการออกแบบภายในตัวเรือให้สะดวกสบาย เพิ่มเบาะนั่ง ดีไซน์ที่นั่งแบบมีโต๊ะกลาง และทำที่ปิดกั้นระหว่างคนขับเรือกับส่วนผู้โดยสารเพื่อลดเสียงดังของเครื่องยนต์แล้ว ยังมีของใช้และบริการระดับมาตรฐานโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นกระจก ยางรัดผม ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูชายหาดพร้อมหมอนอิง กาแฟ cold brew จาก TAN CAFE x JUST FINE หรือผู้ช่วยส่วนตัวบริการบนเรือ เป็นต้น
“สำหรับ Assistant เราก็คัดเลือกและเทรนด์เหมือนพนักงานโรงแรม คอยช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างทริป แต่ต้องเว้นระยะให้ลูกค้ามีความเป็นส่วนตัว อธิบายข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและแนะนำมุมถ่ายรูปสวย โดยที่ลูกค้าต้องปิดทริปด้วยความประทับใจ ถ้าให้อธิบายความเป็นเราในแบบสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ Exclusive Stylish Leisure นี่แหละ…Boat and Beyond”
เทรนด์หรูโดนใจ
แม้วิกฤตโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างหนักหน่วง แต่เมื่อประเมินจากต้นทุนที่มีอยู่บวกกับความต้องการของตลาดในประเทศแล้ว นั่นทำให้ โบกับบี ยังคงเดินหน้าเปิดตัวกิจการนำเที่ยวทะเลกระบี่โดยเรือหางยาวสุดหรูอย่างไม่เป็นทางการช่วงก่อนสงกรานต์
“เรือหางยาวเราก็มีอยู่แล้ว แค่เอามารีโนเวทไม่ต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด กัปตันเรือก็เช่นกัน เราเป็นเหมือนธุรกิจสตาร์ตอัพ มีพนักงานแค่ 5 คน เรื่องมาร์เกตติ้งและโอเปอเรชั่น เราสองคนทำกันเอง ส่วนเรื่องอาหารก็มาจากอ่าวนาง คลิฟฟ์ วิว รีสอร์ท ซึ่งเป็นโรงแรมของครอบครัวอยู่แล้ว และคิดว่าขายได้เพราะมีคนอยากเที่ยวมากมาย และด้วยรูปแบบไพรเวทก็เหมาะกับยุคโควิด ซึ่งเป้าหมายของเราในช่วงแรกคือกลุ่มคนไทย” บี อธิบายเหตุผลของการคิดต่างในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
บริการของ Boat and Beyond จะมีให้เลือก 2 เส้นทาง คือ Exclusive Hong Islands Trip และ Exclusive 4 Islands Trip ได้แก่ ทะเลแหวก เกาะไก่ เกาะปอดะ และไร่เลย์ สำหรับ 4 คนต่อทริป 4 ชม.ครึ่งต่อรอบ และ 2 รอบต่อวัน ซึ่งแบ่งเป็น Sunrise 8.00-12.30 น. และ Sunset 14.00-18.30 น.
“เราเปิดให้บริการในกลุ่มเพื่อนๆ และบล็อกเกอร์ในช่วงแรก และเปิดจองสำหรับคนทั่วไปในเดือนเม.ย. ปรากฎว่าภาพและทริปของเรากระจายไปเร็วมาก มียอดจองในเดือนเม.ย. เข้ามาเต็มทุกวันทุกเที่ยว และมีต่อเนื่องไปถึงเดือนพ.ค. โดยเส้นทางที่ได้รับความนิยมคือ เกาะห้องที่มีราคาสูงกว่าด้วย
ผลตอบรับดีเกินคาดมาก จากที่วางกลุ่มเป้าหมายไว้ที่คนรุ่นใหม่ แต่เรากลับได้ลูกค้าหลายกลุ่ม บางกลุ่มคิดว่าอาจไม่ได้รับความสนใจด้วยซ้ำ เช่น ลูกค้าสูงอายุที่มาเที่ยวกับเพื่อน ซึ่งรู้จากลูกๆ หลานๆ ที่เอาภาพให้ดู เดือนแรกเราไม่คิดว่าจะเต็มขนาดนี้ แต่เปิดมาตอบลูกค้ากันไม่ทันเลย” โบ เล่าด้วยน้ำเสียงชื่นใจ
เรือไทย(ต้อง)ดังไกลไปทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม กระแสการตอบรับที่กำลังไปได้สวยกลับต้องหยุดชะงักลงเพราะการแพร่ระบาดระลอกล่าสุด เมื่อมีมาตรการล็อกดาวน์และบวกกับเงื่อนไขด้านความปลอดภัยต่างๆ ทำให้ไม่มีลูกค้ามานานนับเดือนแล้วเช่นกัน แต่ทั้งคู่ยังเชื่อว่า เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะกลับมาได้เหมือนเดิม
“อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะคงต้องเริ่มการสร้าง Brand Awareness กันใหม่อีกครั้ง แต่เราเห็นแล้วว่ากลยุทธ์มันเวิร์ก คนไทยอยากมาเที่ยว เอเยนต์จีนก็เริ่มติดต่อเข้ามา ที่ผ่านมาเราได้กำลังใจจากความประทับใจของลูกค้ามากมาย มีเคสหนึ่งที่เป็นลูกค้าคนดังในวงการแฟชั่น ซึ่งจองมาเอง เขาชอบและให้คำแนะนำเพิ่มเติมในบางเรื่องที่ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง เราก็นำมาปรับปรุงแก้ไข จนตอนนี้กลายเป็นเพื่อนกันไปแล้วและมีการแนะนำต่อให้เพื่อนๆในวงการมาเที่ยวกันด้วย” บี ซึ่งถือโอกาสช่วงนี้ไปฝึกงานและหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่อเมริกาเพื่อนำมากลับพัฒนาธุรกิจต่อ กล่าว
หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ พวกเธอเตรียมจะ Grand Opening ในเดือนต.ค.-พ.ย.นี้ โดยหวังว่าปีหน้าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นกลับมาได้ พร้อมวางแผนขยายฐานกลุ่มลูกค้าจากภายในประเทศ ไปสู่เอเชียและยุโรป และตรียมปรับกรุ๊ปใหญ่ขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยว 7-8 คนรวมทั้งเพิ่มเส้นทางมากขึ้นในเฟสต่อไป ซึ่งต้องดูสถานการณ์อีกครั้ง โดยโบย้ำว่าพวกเธอต้องการสร้างแบรนด์เรือหางยาวนี้ให้มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
“เป้าหมายของเราคือการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทุกเคส อยากให้กลายเป็นจุดเช็กอินของกระบี่ที่มาแล้วต้องไปกับเรา Boat and Beyond จะต้องดังไกลไปทุกทวีป”
ขอบคุณภาพจาก : Boat and Beyond
Boat and Beyond
โทร. 092 246 6993
Instagram: @boatandbeyond
Facebook: Boat and Beyond