

Meaw Sanctuary
เปิดบ้าน อุ๊ – ภัทราวรรณ เพจ ‘แต่งบ้านอยู่กับแมว’ แชร์ไอเดียแต่งบ้าน Cat-Friendly เอาใจเจ้านายทั้ง 9 ตัว
- คุยกับ อุ๊ – ภัทราวรรณ พันธ์ภักดี เจ้าของเพจ ‘แต่งบ้านอยู่กับแมว’ ที่พิสูจน์แล้วว่าการอยู่ร่วมกับเจ้านายทั้ง 9 ตัวในบ้านหลังเดียวกันนั้นเป็นไปได้ ลืมการแบ่งโซนนุดหรือแยกห้องแมวไปได้เลย เพราะอุ๊มีเทคนิคในการเลือกวัสดุ Pet-Friendly ที่เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นสวรรค์ของครอบครัว
ถ้าบอกว่าบ้านหลังนี้เลี้ยงแมว 9 ตัว หลายคนคงนึกถึงกลิ่นฉี่แมวคลุ้งแสบจมูก โซฟาหรือผ้าม่านคงกลายเป็นสนามลับเล็บ ทั่วบ้านเต็มไปด้วยขนแมวร่วงกระจายปลิวว่อน แต่แปลกที่นี่กลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย!
อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้ทาสแมวบ้านนี้รับมือกับปัญหาเหล่านั้นได้อยู่หมัด แถมยังตกแต่งบ้านได้น่าอยู่ ตอบโจทย์ทั้งคน ถูกใจทั้งแมว และยังเป็นสวนสนุกของเจ้าเหมียวทั้ง 9 ตัวได้สนุกสุขฟินในบ้านหลังนี้ด้วย มาหาคำตอบกันเลย
จากคนกลัว ‘เหงา’ สู่ปรากฏการณ์แมว ‘งอก’
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่ออุ๊ – ภัทราวรรณ พันธ์ภักดี และหมวย – อัญชลี วรรณพฤกษ์ ย้ายจากคอนโดมาอยู่บ้านเพื่อให้สะดวกใกล้ออฟฟิศขึ้น ด้วยความกลัวเหงา อุ๊นึกอยากหาแมวมาเลี้ยงสักตัว แม้หมวยจะไม่เชียร์แต่ก็ไม่ได้ขัดใจแฟนสาว
“เขารู้สึกว่าเรายังดูแลตัวเองไม่ได้ แล้วจะเลี้ยงแมวเหรอ แต่ด้วยความเซลฟ์ก็คิดว่า ฉันเลี้ยงได้แน่นอน ไม่น่าจะมีอะไรยากนี่นา” อุ๊เล่าพร้อมหัวเราะเมื่อนึกย้อนถึงการเลี้ยงแมวตัวแรกในชีวิต กระทั่งเมื่อรับน้อง ‘แสนดี’ สกอตติชพันธุ์ผสมของเพื่อนมาเลี้ยง
ทุกอย่างไม่เหมือนที่คิดไว้ “รายละเอียดเยอะมาก ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย แค่เรื่องทรายแมว ตอนนั้นก็ซัฟเฟอร์มาก เพราะพอเขาไม่ชอบ ก็จะไม่เข้ากระบะทราย แต่ทรายที่เขาชอบ บางทีก็เก็บกลิ่นไม่ดี หรือไม่ก็ติดเท้าแมว ก็ต้องเปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อยๆ”
พอผ่านช่วงปรับตัวเข้าหากันไปได้ระยะหนึ่ง ทุกอย่างเริ่มเข้าที่ อุ๊ก็เริ่มกังวลและเป็นห่วงว่า ช่วงที่เธอกับหมวยไปทำงาน แสนดีอยู่บ้านตัวเดียวจะเหงาไหม? นี่แหละจุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์ ‘แมวงอก’ จากแสนดี ลูกสาวคนเดียวก็กลายเป็นพี่สาวคนโตที่มีน้องๆ ตามมาอีกเป็นพรวน คือ ปรีดา พาสุข ขุนเขา เจ้าขวัญ พันดาว คาร์บอน เจ้าบี๋ และชีวา เบ็ดเสร็จรวม 9 ตัวในปัจจุบัน
แล้วไอเดียแต่งบ้านสไตล์ Cat-Friendly มาได้ยังไงกัน? “ตอนมีปรีดากับพาสุขเพิ่มมาเป็นตัวที่ 2 และ 3 ก็รู้สึกว่าอยากให้เขามีพื้นที่ส่วนตัว” ตอนแรกอุ๊ก็ยังไม่ได้จริงจังอะไรมาก จนพอแมวเพิ่มมาเรื่อยๆ เธอจึงจริงจังกับการแต่งบ้านเพื่ออยู่กับแมว ด้วยหลักการง่ายๆ ว่าต้องลงตัวทั้งสำหรับคนและแมว
บ้านนี้ ‘นุด-นาย’ พื้นที่เดียวกัน
“อุ๊ไม่ได้อยากให้เขาแยกไปอยู่อีกห้องนึง อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอด” นี่คือโจทย์ที่อุ๊คิดแต่งบ้าน “ถ้าเราอยากมีความสุขตอนอยู่บ้าน ในบ้านก็ต้องมีความชอบของเราอยู่ด้วย ก็เลยต้องมีของที่แมวชอบอยู่ในบ้านด้วยเหมือนกัน ต้องเผื่อพื้นที่ให้แมวด้วย เวลาอยู่บ้าน เขาจะได้อยู่กับเรา”
ด้วยหลักง่ายๆ ที่ว่า “เราอยู่ตรงไหน ก็อยากให้เขาอยู่ด้วย” ทุกมุมในบ้านจึงกลายเป็นพื้นที่ความสุขของทั้งนุดและเจ้านายสี่ขา ห้องนั่งเล่นชั้นล่างที่มีโซฟาไว้ดูทีวี ก็มีชั้นติดผนังให้แมวอยู่ใกล้ๆ กัน โต๊ะกินข้าวที่ห้องโถงก็มีที่ลับเล็บอันใหญ่วางไว้ให้นั่งส่องนก รวมไปถึงหลุมอะคริลิกที่แมวๆ ชอบม้วนตัวลงนอนกันมาก จนต้องแย่งกันเลยทีเดียว ก็ติดไว้ที่เคาน์เตอร์ถัดจากโต๊ะกินข้าว
แต่การจัดวางทุกอย่าง จะของเล่นหรือของใช้แมว อุ๊อาศัยการสังเกตพฤติกรรมของแต่ละตัวที่มีบุคลิกแตกต่างกัน “ลองสังเกตดูว่าเด็กๆ ชอบมุมไหน เพราะแต่ละคนก็จะมีมุมโปรดของเขา เราก็เอาของไปวางหรือติดตรงนั้น โดยเฉพาะมุมส่องนก! เพราะถ้าจะเลือกมุมที่คิดว่าสวยถูกใจเรา แต่เขาไม่ชอบ เขาก็ไม่ไป”
การอยู่ร่วมกันในบ้านหลังนี้ไม่ใช่แค่การแบ่งปันพื้นที่ แต่ยังเป็นการใช้เวลาร่วมกัน “เมื่อก่อนเขาจะเล่นไม่เป็นเวลา แต่ตอนนี้เขารู้กิจวัตรเราแล้ว ตอนเช้าพอได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกตอน 6 โมง เขาก็เดินมาหา แต่ก็ไม่ได้มาทุกตัวนะ แต่ละตัวมีบุคลิกและความต้องการต่างกัน อุ๊จะรู้ว่าใครชอบขึ้นไปปลุกตอนเช้า ใครชอบเล่นด้วยตอนเรากลับถึงบ้าน หรือใครชอบมานวดให้ก่อนนอน จะรู้ว่าช่วงเวลาไหนเป็นของใครกันแน่” เธอจึงเรียนรู้ที่จะแบ่งสรรความสนใจให้แต่ละตัวตามจังหวะที่เหมาะสม แต่ถ้าเป็นแคทนิปหรือต้นไผ่เงินแล้วล่ะก็ อุ๊เล่าว่าทุกตัวจะพร้อมใจมาตี้กัน
ของมันต้องมี! วัสดุ Cat-Friendly
หลังจากศึกษาหาข้อมูลมาเป็นอย่างดี อุ๊ได้พบกับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์สัตว์เลี้ยงในบ้านได้อย่างลงตัว สิ่งแรกที่ตัดสินใจทำคือการเปลี่ยนพื้นจากกระเบื้องแกรนิตเป็นกระเบื้องยาง SPC “เพราะเท้าแมวมีความนุ่ม ถ้าพื้นแข็งอาจทำให้เขาเท้าแตกได้ กระเบื้อง SPC จะช่วยถนอมเท้าเขามากกว่า”
วัสดุที่ถือว่าเป็น Pet-Friendly ระดับจริงจังคือโซฟากับผ้าม่าน “มันดีมาก เราสามารถมีโซฟาหนังสวยๆ มีม่านที่ไม่เป็นขุยได้แม้จะเลี้ยงแมว 9 ตัวในบ้าน นอกจากจะทนรอยขีดข่วนแล้วยังกันน้ำในตัว เผื่อในกรณีที่แมวสเปรย์ก็ไม่มีปัญหาในการทำความสะอาด” ส่วนใครที่ชอบนอนกับแมว อุ๊ฝากแนะนำให้มองหาผ้าปูที่นอนที่ไม่ติดขน เธอรับรองว่า ชีวิตมันดีขึ้นจริงๆ
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ของแมว อุ๊ให้ความสำคัญกับห้องน้ำแมวอันดับแรก เพราะกลิ่นฉี่แมวเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายคนกังวล “ต้องสังเกตพฤติกรรมการเข้าห้องน้ำของแต่ละตัว บางตัวอาจไม่ชอบใช้ห้องน้ำใกล้ๆ กัน” โชคดีที่แก๊งแมวบ้านนี้ไม่มีปัญหานั้น และด้วยความที่เลี้ยงหลายตัว อุ๊จึงเลือกใช้ห้องน้ำอัตโนมัติเพื่อให้สะดวกและพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา แต่ก็ยังเสริมกระบะทรายไว้เผื่อห้องน้ำคิวเต็ม ^^
และที่ขาดไม่ได้ คือชั้นติดผนังที่เป็นเหมือนสนามแมวเล่น “อุ๊อยากให้เขาอยู่ใกล้ๆ เรา ชั้นติดผนังก็เลยอยู่ใกล้โซฟา ซึ่งทุกตัวชอบมาก” ว่าแล้วเจ้าตัวก็หันไปมองผลงานบนผนังที่เธอกับหมวยช่วยกันติดเอง “เห็นเด็กๆ อยู่บนนั้นแล้วก็ดีใจ อุ๊ว่ามันช่วยให้บ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย ยิ่งเติมกระถางต้นไม้เข้ามา สีเขียวของต้นไม้กับสีไม้ของพื้นให้ความรู้สึกถึงการเป็นบ้านที่ชวนสบายตามากขึ้น”
“ด้วยความที่เราเลี้ยงแมวหลายตัว เราก็กังวลเรื่องกลิ่น รู้สึกว่าเครื่องฟอกอากาศอย่างเดียวไม่พอ อุ๊ใช้เครื่องหมุนเวียนอากาศที่ช่วยดึงอากาศจากข้างนอกเข้ามาและเอาคาร์บอนไดออกไซด์ในบ้านออกไป เหมือนการเติมออกซิเจนให้ในบ้านและยังช่วยทำให้อุณหภูมิในบ้านคงที่ด้วย โดยเฉพาะตอนเราไม่อยู่บ้านแล้วปิดประตูหมด” ส่วนโรบอตดูดฝุ่นที่เลือกใช้ก็เป็นเครื่องช่วยอเนกประสงค์ตัวจริง “ทำได้ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้น ทั้งแบบเปียกและแห้ง ใช้งานง่ายมาก” สำหรับบ้านที่มีขนแมวปลิวไปมาทุกวัน เครื่องช่วยแบบนี้ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย
สู่การต่อเติมบ้านครั้งสำคัญ
“ส่วนใหญ่เป็นแมวจากคนรู้จักทั้งนั้น เขารู้ว่าอุ๊เลี้ยงแมวก็เลยอยากเอามาให้เราช่วยดูแลต่อหน่อย ทุกตัวมีสตอรีของตัวเอง แต่ตัวที่ทำให้คิดต่อเติมบ้านเลยคือคาร์บอน” อุ๊เล่าพลางหันไปมองแมวหนุ่มขนดำขลับที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่ที่บันได
ที่จริงคาร์บอนเป็นแมวในหมู่บ้านที่เคยแวะมากินอาหารที่บ้านอุ๊อยู่ก่อนหน้านี้ พอรู้จาก รปภ.ว่าเจ้าของย้ายบ้านไปแล้ว คาร์บอนเลยกลายเป็นแมวจร ความสงสารทำให้อุ๊โยนความเชื่อเดิมๆ ที่ไม่นิยมเลี้ยงแมวดำทิ้งไป และตัดสินใจรับเลี้ยงคาร์บอน แม้จะตรวจโรคผ่านแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้พาเข้าบ้านทันที เพราะกังวลว่าจะเครียดกันทั้งเจ้าบ้านและสมาชิกใหม่
การเตรียมการรับคาร์บอนเข้าบ้านจึงเริ่มขึ้นด้วยการต่อเติมพื้นที่ “ด้วยพื้นที่จำกัด หน้ากว้างประมาณ 3×7 ตารางเมตร อยากทำหลังคาจั่วให้ดูเข้ากับตัวบ้านหลัก แต่ติดรางน้ำเลยทำไม่ได้” พอสร้างเสร็จกลายเป็นทุกตัวมาอยู่โซนนี้กันหมด คาร์บอนไปอยู่บ้านหลักแทน ก็เลยต้องเพิ่มชั้นติดผนังให้แมว และโซฟาให้คน มีมุมกาแฟให้แฟนนิดนึง “ไปๆ มาๆ เลยได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมทั้งคนทั้งแมวแทบจะไม่ได้แยกเลย แต่เพียงแค่ว่าตรงนั้นจะมีของเขาเยอะหน่อยแค่นั้นเอง”
แต่ปัญหาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่พื้นที่ “ความที่คาร์บอนใช้ชีวิตนอกบ้านเยอะ ก็มีร้องอยากจะออก ร้องมากเข้า แก๊งในบ้านชักหงุดหงิดละ ก็มีเขม่นๆ กันบ้างนิดหน่อย” เล่าถึงตรงนี้อุ๊แชร์ประสบการณ์ว่า “ต้องใจแข็ง ถ้าคิดว่าอิสระคือการปล่อยวิ่งเล่นนอกบ้านเหรอ ซึ่งอันตรายทั้งนั้น จริงๆ แล้วอยู่ในบ้านก็อิสระได้ อยู่ในบ้านก็มีของเล่นได้เหมือนกัน”
มันคือการคิดแทนของเราทั้งนั้น แทนที่จะปล่อยให้คาร์บอนร้อง อุ๊เบี่ยงเบนความสนใจ “อุ๊จะสปอยล์เขา จะมาอยู่ใกล้ๆ ให้ความสนใจเขามากเป็นพิเศษ ชวนเขาเล่น โชคดีที่เขาไม่เคยพังประตู” แล้วเดี๋ยวนี้ล่ะ คาร์บอนยังร้องอยากออกนอกบ้านอยู่ไหม “ก็ยังอยากออกนะ แต่ไม่ออกจากรั้วละ เพราะร้อน เริ่มรู้จักความสบายแล้ว”
คาร์บอนค่อยๆ กลายเป็นแมวบ้าน “เล่นไม้ตกแมว จากที่เล่นไม่ค่อยเป็นเลยในช่วงแรก แต่ว่าหลังๆ ก็เริ่มเล่นเป็นแล้วก็ปรับตัวเข้ากับเด็กๆ ในบ้านได้ละ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว”
จับพลัดจับผลูสู่เพจ ‘แต่งบ้านอยู่กับแมว’
ความกังวลว่า ตัวเองโพสต์รูปแมวเยอะอาจจะรบกวนเพื่อนในเฟซบุ๊ก กลายเป็นแรงผลักดันให้อุ๊สร้างเพจ ‘แต่งบ้านอยู่กับแมว’ จะได้เป็นพื้นที่แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับแมว โดยไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนใคร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเปิดเพจเกินความคาดหมายไปมาก
“อุ๊ได้รับพลังบวกเยอะมากๆ จากในเพจ” และเพจกลายเป็นคอมมูนิตีของคนรักแมวเข้ามาถามปรึกษาเรื่องต่างๆ ทั้งการแต่งบ้าน การเลือกเฟอร์นิเจอร์ และการดูแลแมวป่วย การช่วยแมวจร ฯลฯ “อุ๊รู้สึกว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่เปล่าประโยชน์ เพจกลายเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างคนรักแมว ไม่เพียงแต่ได้แบ่งปันความรู้ที่มี แต่ยังได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นๆ ด้วย การมีชุมชนที่เข้าใจและสนับสนุนกัน ทำให้การเลี้ยงแมวไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำคนเดียวอีกต่อไป”
เพจ ‘แต่งบ้านอยู่กับแมว’ จึงไม่เพียงแต่เป็นช่องทางการแบ่งปันความรู้ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ทำให้ทุกคนเติบโตและเรียนรู้ไปพร้อมกัน การเปลี่ยนจากความกังวลเรื่องการโพสต์รูปแมวมากเกินไป กลายเป็นชุมชนที่ให้พลังบวกและความรู้ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับอุ๊ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การจัดบ้าน แต่ส่งผลต่อวิถีชีวิตทั้งหมด “การต่อเติมบ้าน หรือจัดบ้านไม่ใช่แค่เพื่อแมว แต่ทำให้การใช้ชีวิตของเราก็จะเปลี่ยนไปด้วย ตั้งแต่เริ่มมีน้องแมว เริ่มรับแมวจรเข้ามา ทำให้มุมมองกับสิ่งต่างๆ รอบตัวเปลี่ยนไปมาก เราสามารถให้ความรักกับสิ่งต่างๆ ได้เยอะมากเลย จากที่เมื่อก่อนเราไม่แบ่งปันอะไรให้ใครเลย แต่พอมีน้องแมว เริ่มรู้จักการให้ การมอบความรักให้คนอื่นมากขึ้น เรากลายเป็นคนที่อ่อนโยนขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา”
ทาสแมวแวะทักทายอุ๊ได้ที่ FB: แต่งบ้านอยู่กับแมว