About
TRENDS

เทรนด์เที่ยวสายดาร์ก

ทำความเข้าใจ Dark Tourism เทรนด์ท่องเที่ยวสายดาร์กจากประวัติศาสตร์อันน่าเศร้า

เรื่อง เปรมวดี ปานทอง ภาพประกอบ ANMOM Date 24-11-2022 | View 3593
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • คำว่า ‘Dark Tourism’ ถูกบัญญัติขึ้นในปี 1996 โดยจอห์น เลนนอน และมัลคอล์ม โฟลีย์ 2 นักวิชาการชาวสก็อตแลนด์ หมายถึงการเดินทางเยี่ยมชมสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความตาย โศกนาฎกรรม สงคราม ความหายนะ ความทุกข์ทรมานหรือภัยพิบัติ
  • ผลสำรวจบอกว่า 82% ของนักเดินทางชาวอเมริกันล้วนเคยไปท่องเที่ยวสถานที่แนวนี้อย่างน้อยหนึ่งแห่งมาแล้ว โดยสถานที่ที่พวกเขาอยากไปเยือนมากที่สุดคือเขตสงครามที่ยังคุกรุ่นหรือเคยเป็นสมรภูมิรบ เช่นเดียวกับการเยี่ยมชมสถานที่ที่เกิดภัยพิบัติทั้งทางธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้น (56%)
  • ยูเครนมีความคิดจะมอบประสบการณ์สงครามที่เกิดจากการรุกรานของรัสเซียให้กับนักเดินทาง เพื่อฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ล่มสลายจากสงครามและกระตุ้นเศรษฐกิจ

หากยังจำกันได้ปีที่แล้วนักเดินทางคนดังได้ออกท่องโลกไปประเทศสงครามและตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงต่อความปลอดภัย จนเกิดกระแสดราม่าอย่างหนักท่ามกลางคำถามมากมายทำนอง “ทำไมถึงไปสถานที่แบบนั้น” หรือ “มันคุ้มค่ากับการเอาชีวิตไปเสี่ยง?”

คุ้มมั้ย...คงยากที่จะตอบแทนกันได้เพราะความฝันและเป้าหมายแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่นี่คือรูปแบบการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

รายงานของ Future Market Insights ระบุว่า ตลาด Dark Tourism ซึ่งครอบคลุมถึงการเดินทางในพื้นที่สงคราม จะมีมูลค่าสูง 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 และมีอัตราการเติบโตต่ออยู่ที่ 2% มูลค่า 36.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2575

Dark Tourism คืออะไร? สิ่งใดคือแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปสถานที่เหล่านั้น? ทุกคนจะเป็นนักเดินทางสายดาร์กที่ดีอย่างไร? สลัดภาพวันพักผ่อนแสนชิลกับภาพแสงแดด ชายหาด เรือสำราญ แล้วไปท่องโลกแบบดาร์กๆ ด้วยกันเลย!

dark 1

ภาพจาก – www.washingtonpost.com (Sean Gallup/Getty Images)

นิยาม Dark Tourism

คำว่า ‘Dark Tourism’ ถูกบัญญัติขึ้นในปี 1996 โดยจอห์น เลนนอน และมัคลคอล์ม โฟลีย์ 2 นักวิชาการชาวสก็อตแลนด์ผู้เชียน ‘Dark Tourism: The Attraction to Death and Disaster’ หมายถึงการเดินทางเยี่ยมชมสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความตาย โศกนาฎกรรม สงคราม ความหายนะ ความทุกข์ทรมานหรือภัยพิบัติ

บางคนอาจเชื่อมโยงไปถึงความสนใจด้านอาชญากรรม การได้เห็นเหตุการณ์น่าขนลุกหรือประเพณีที่อาจไม่สอดคล้องกับมุมมองทางสังคมของวัฒนธรรมตะวันตก บ้างอาจเชื่อมโยงกับเรื่องผีและความหวาดกลัว แต่ผู้ที่ศึกษาแนวทางปฏิบัติบอกว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับความกลัวหรือองค์ประกอบเหนือธรรมชาติแต่อย่างใด

dark 3

ภาพจาก- www.worldnomads.com(Getty Images/Matthew T. Carrol)

ค่ายกักกัน Auschwitz (โปแลนด์) ของนาซีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หนึ่งในค่ายมรณะที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 9/11 นิวยอร์ก (สหรัฐ) โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Chornoby (ยูเครน) ที่ตั้งของหายนะนิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก เมืองปอมเปอี (อิตาลี) ภัยพิบัติครั้งร้ายแรงของมนุษยชาติจากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิด หรือดินแดนแห่งสนามรบอย่างอัฟกานิสถานและซีเรีย

เหล่านี้คือตัวอย่างจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวสายดาร์กที่น่าจะช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้น

dark 2

ภาพจาก- www.washingtonpost.com (Mario Laporta/AFP via Getty Images)

ประสบการณ์ด้านมืด…ทำไมถึงนิยม

ว่ากันว่านี่ไม่ใช่ปรากฎการณ์ใหม่ เมื่อย้อนไปสมัย Gallo-Roman ฝูงชนจะรวมตัวกันในสนามประลองเพื่อชมการต่อสู้และการสังหารแบบกลาดิเอเตอร์ ตลอดการประหารชีวิตในจัตุรัสกลางเมือง แต่ทุกวันนี้แรงจูงใจในการเยี่ยมชมเปลี่ยนไปมาก ทั้งการครุ่นคิด ความปรารถนาที่จะเข้าใจประวัติศาสตร์มากขึ้นและดื่มด่ำไปกับมันในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม การได้รับความนิยมเริ่มชัดขึ้นส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลจากซีรีส์ Netflix ‘Dark Tourist’ ที่เปิดตัวเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และมินิซีรีส์ของ HBO ‘Chernoby’ เกี่ยวกับการระเบิดของโรงไฟฟ้าในปี 1986 ซึ่งออกฉายในปี 2019

David Farrier นักข่าวจากนิวซีแลนด์ผู้ดำเนินรายการในซีรีส์ ‘Dark Tourist’ บอกว่าเขามักตั้งคำถามความหมายของศีลธรรมในการเดินทางของเขาหลังถูกนักวิจารณ์บางคนเย้ยหยันในแง่ลบ แต่ก็รู้สึกคุ้มค่าที่ได้ถ่ายทำสถานที่และพิธีกรรมที่คนส่วนใหญ่อยากรู้แต่ไม่เคยสัมผัส

“เมื่อเราไปสถานที่เหล่านี้ เราไม่ได้เจอคนแปลกหน้า แต่บ่อยครั้งที่เราเห็นตัวเองหรือสิ่งที่เราอาจจะทำในสถานการณ์เหล่านั้น” Philip Stone ผู้อำนวยการบริหารของ Institute for Dark Tourism Research แห่ง University of Central Lancashire ในอังกฤษ เคยกล่าวไว้ถึงความหลงใหลในวัฒนธรรมด้านมืดของประวัติศาสตร์ของผู้คน

dark 4

ภาพจาก- www.discovermagazine.com(Marcel_Strelow/Shutterstock)

สมรภูมิรบฮอตสุด

ผลสำรวจโดย Passport-photo.online บอกว่า 82% ของนักเดินทางชาวอเมริกันล้วนเคยไปท่องเที่ยวสถานที่แนวนี้อย่างน้อยหนึ่งแห่งมาแล้ว โดยสถานที่ที่พวกเขาอยากไปเยือนมากที่สุดคือเขตสงครามที่ยังคุกรุ่นหรือเคยเป็นสมรภูมิรบ เช่นเดียวกับการเยี่ยมชมสถานที่ที่เกิดภัยพิบัติทั้งทางธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้น (56%)

ในจำนวนดังกล่าว ประมาณ 30% ตั้งใจว่าเมื่อสงครามในยูเครนสิ้นสุดลงพวกเขาจะเดินทางไปเที่ยวโรงงานเหล็ก Azovstal ในเมืองมาริอูโพล ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของทหารยูเครนในการต่อต้านกองกำลังรัสเซียเป็นเวลาหลายเดือน

แม้ว่าการท่องเที่ยวในด้านมืดอาจไม่ใช่ประสบการณ์การพักผ่อนที่เต็มไปด้วยความสุขมากนัก แต่หลายคนก็อยากแสวงหาความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่นและเพราะอะไร จึงไม่แปลกที่การท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา (52%) จะเป็นแรงจูงใจหลัก ตามด้วยความปรารถนาที่จะแสดงความไว้อาลัยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โศกเศร้า (47%) ต้องการซึมซับอารมณ์ในสถานที่แห่งโศกนาฏกรรม (46%) และมองหาสถานที่ที่มีเรื่องราวมากกว่าแค่ไปที่จุดหมายปลายทางยอดนิยม (45%)

ไม่ว่าแรงผลักการเยี่ยมชมคืออะไร เสน่ห์ส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวสไตล์นี้คือการช่วยให้ผู้คนสามารถจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับด้านมืดมากขึ้นและเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อให้ประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอย

dark 5

ภาพจาก- www.holidify.com

มารยาทในการเป็น Dark Tourist

ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสการท่องเที่ยวสายดาร์กมาพร้อมกับหัวข้อถกเถียงทางวิชาการ เมื่อนักวิจารณ์บางคนอ้างว่าการเปลี่ยนสถานที่เกิดโศกนาฎกรรมหรือภัยพิบัติครั้งใหญ่ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวนั้นเป็นการไม่เคารพและยากที่จะควบคุมการละเมิดทุกรูปแบบ

เช่นพฤติกรรมการโพสต์ท่าถ่ายรูปไม่เหมาะสมในค่าย Auschwitz หรือการฝ่าฝืนกฎเข้าพื้นที่สีแดงในฟุกุชิมะ ซึ่งเป็นสถานที่ต้องห้ามอย่างเคร่งครัดเนื่องจากกัมมันตภาพรังสีที่เป็นอันตราย

dark 6

ภาพจาก- https://hospitality-on.com

การเป็นนักเดินทางสายดาร์กที่ดีจะต้องไม่ทำอะไรที่ดูหมิ่นสถานที่และความรู้สึกของผู้เกี่ยวข้อง โดยการเข้าสถานที่ด้วยความเคารพอย่างที่สมควรได้รับ โดยเฉพาะที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดการสังหาร การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือความรุนแรงอื่นๆ ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดมานานแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่งกายให้เหมาะสม งดส่งเสียงดังหรือสร้างความโกลาหล ห้ามถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสมหรือหวังเรียกยอดวิว และอย่าแตะต้องสิ่งที่ไม่ควรจับต้อง เป็นต้น

เพราะบาดแผลทางประวัติศาสตร์บางอย่างอาจก่อให้เกิดความบอบช้ำทางจิตใจต่อผู้รอดชีวิตและครอบครัวของเหยื่อ

สิ่งสำคัญคือเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวด้านมืดด้วยใจที่เปิดกว้างและต้องการเรียนรู้อย่างแท้จริง เมื่อสุดท้ายแล้วที่แห่งนั้นอาจสร้างผลกระทบอย่างลึกซึ้ง บางกรณีอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวคนๆ นั้นได้เลยทีเดียว

dark 7

ภาพจาก- https://hospitality-on.com

ผุดไอเดียทัวร์ ‘Visit Ukraine’

รัฐบาลยูเครนมีความคิดจะนำเสนอ Dark Tourism สำหรับจุดหมายปลายทางใหม่ในประเทศที่เกิดจากการรุกรานของรัสเซีย เพื่อฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ล่มสลายจากสงครามและกระตุ้นเศรษฐกิจ

‘Visit Ukraine’ มอบประสบการณ์เกี่ยวกับสงครามให้กับนักเดินทางและเข้าใจสถานการณ์จริงจากการสัมผัสกับคนในท้องถิ่นที่ผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายจากสงคราม โดยเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเริ่มเสนอแพ็กเกจทัวร์ไปในเขตที่ได้รับผลกระทบรุนแรง เช่น เดียฟ เออร์พิน บูชา และคาร์คิฟ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยูเครนยังไม่อนุมัติความคิดนี้ เพราะยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยคิดว่าควรเริ่มเมื่อสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมโดยสิ้นเชิงในปีหน้า

dark 8

ภาพจาก- https://hospitality-on.com

ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ได้จัดเส้นทางท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด ‘โศกนาฏกรรมกับชีวิตหลังความตายใต้เงาพระนคร’ ให้ตามรอยเรื่องราวในอดีตเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นวัดคณิกาผล (ถนนพลับพลาไชย) ซึ่งสร้างจากเงินของแม่เล้า ศาลเจ้าไต้ฮงกง นักบุญผู้ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับศพไร้ญาติ (ถนนพลับพลาไชย) วัดพลับพลาไชย ตำนานลานประหารตัดหัวนักโทษ (ถนนไมตรีจิตต์) พระเมรุหลวงวัดเทพศิรินทร์ ฌาปนสถานสำหรับพระราชทานเพลิงพระราชวงศ์ที่ไม่ได้สร้างพระเมรุ ณ ท้องสนามหลวง ในสมัย ร.5 (ถนนหลวง) กุโบร์มัสยิดมหานาค สุสานใหญ่ชาวมุสลิมกลางกรุง (ถนนกรุงแมน) และศาลาอุรุพงษ์ วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร อนุสรณ์แด่ความอาลัยต่อพระองค์เจ้าชายอุรุพงษ์รัชสมโภช พระราชโอรสของรัชกาลที่ 5 ที่สิ้นพระชนม์ขณะมีพระชนม์มายุได้เพียง 16 พรรษา (ถนนพระราม 6)


ที่มา
https://www.washingtonpost.com/graphics/2019/travel/dark-tourism-explainer
https://tourismteacher.com/dark-tourism
https://www.nytimes.com/2022/10/28/travel/dark-tourism-travel
https://passport-photo.online/blog
https://www.futuremarketinsights.com/reports/dark-tourism
https://www.ask.com/lifestyle/what-is-a-dark-tourist

Tags: