Good Story

สิ่งที่ยากกว่าการเลือกหัวข้อมาเริ่มบทสนทนา คือการเลือกรสไอศกรีมที่อัดแน่นในตู้นี่เอง หลังจากเห็นท่าว่าพนักงานหน้าตู้จะไม่ละความพยายามที่จะตักรสใหม่ให้เราชิมเรื่อยๆ เราก็ตัดสินใจเลือก ‘Joy’ ไอศกรีมเบสนม ที่มีบิสกิตรสเนยเค็มมาวางบนโต๊ะ นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้กินรสนี้ พร้อมกับเรื่องราวในปีแรกของ Guss Damn Good ก็เริ่มต้นขึ้น

ลองมองย้อนกลับไปที่ตลาดไอศกรีมเมืองไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในยุคที่ไอศกรีมบ้านเราเน้นไอศกรีมโฮมเมดสีสันสดใส โรยหน้าด้วยท็อปปิงล้นๆ จนแทบมองไม่เห็นเนื้อไอศกรีม บ้างตกแต่งข้างจานด้วยลูกเล่นเข็มฉีดยาปลอม หรือควันจากน้ำแข็งแห้งชวนตื่นตา ขณะที่ทุกเจ้าเน้นขายไอศกรีมที่ทำออกมาให้ถ่ายรูปสวย สมัยนั้นระรินได้ยินคำว่า ‘คราฟต์ไอศกรีม’ ครั้งแรกตอนไปเรียนที่บอสตัน

“คราฟต์ไอศกรีมคือไอศกรีมทำมือ เน้นวัตถุดิบดีๆ ไม่ต้องมีท็อปปิงที่ดูแฟนซี หวือหวา แต่เน้นไอศกรีมจบในลูกเดียว เครื่องแน่นๆ ทุกคำต้องเจอบราวนี เจอน้ำผึ้ง เจอซอส เรายังไม่เจอไอศกรีมแบบนั้นที่บ้านเรา แต่เพราะชอบมากจริงๆ เลยคิดอยากกลับมาทำคราฟต์ไอศกรีมที่ไทยตอนเราเรียนจบ” ระรินเล่า

ไม่มีใครรับรองได้ว่าคราฟต์ไอศกรีมสกู๊ปโล้นๆ ของระรินจะประสบความสำเร็จ ท่ามกลางกระแส Camera Eat First แต่เจ้าตัวยืนหยัดกับความหลงใหลในไอศกรีมทำมือ และพา Guss Damn Good เข้าสู้สายตาและช้อนในมือคนไทยครั้งแรกได้ใน พ.ศ. 2555

Good Flavor

ในร้านที่ลูกค้าแวะเวียนมาสั่งไอศกรีมอยู่เนืองๆ เจ้าประจำอาจรู้สึกคุ้นชิน แต่ใครที่เพิ่งได้มาชิมไอศกรีมของ Guss Damn Good ครั้งแรก ต่างต้องรู้สึกประหลาดใจกับชื่อแต่ละรสชาติอย่างแน่นอน

หลังจากระรินค้นพบเรื่องราวเบื้องหลังการกินไอศกรีมในหน้าหนาวของชาวบอสตัน เธอก็มีวิธีคิดรสชาติเฉพาะของ Guss Damn Good ที่เธอเรียกมันว่า Story to Flavor คือการที่ทุกรสชาติมาจากเรื่องราวดีๆ รอบตัวที่มาตกกระทบเธอ แปลงจากเรื่องราวเหล่านั้นมาเป็นความรู้สึก จากความรู้สึกจึงมาเป็นรสชาติ

เวลาผ่านไป เรื่องราวและความรู้สึกที่อยากจะเล่าผ่านไอศกรีมเพิ่มทวีคูณ ไม่เพียงแค่เรื่องราวของตัวเอง แต่ Guss Damn Good เริ่มส่งต่อเรื่องราวดีๆ ของคนอื่น จนเกิดเป็นการคิดรสชาติผ่าน Story Behind the Flavor ของธุรกิจอื่นที่ร่วมงานกับ Guss Damn Good นั่นเอง

“Guss Damn Good มี Collaberation เยอะมากตลอด 9 ปี ไม่หยุดเลย เราน่าจะร่วมงานมาทุกธุรกิจแล้วมั้ง ทั้งน้ำมัน บริษัทตรวจสอบบัญชี ธนาคาร แอปพลิเคชัน สำนักข่าว เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง คอนโด”

เจ้าของร้านเล่าที่มาแต่ละรสชาติของไอศกรีมในร้านเธออย่างไหลลื่น ระรินบอกชื่อและบรรยายรสชาติให้เราฟังได้ทุกรส เพียงแต่เมื่อถามถึงจำนวนที่แน่นอนของเมนูไอศกรีมที่ Guss Damn Good มี ณ ปัจจุบัน เธอออกปากว่าไม่มีใครที่ทำงานที่นี่จะตอบตรงกันได้

ไอศกรีมทั้งปัจจุบันและที่กำลังรอปล่อยให้ได้ชิมมีกว่าร้อยรสชาติ เราขอให้ระรินยกรสชาติยอดนิยมตลอดกาล ที่ผ่านมา 9 ปี ก็ยังคุ้มค่าแก่การได้ลิ้มลอง

Top 3 Guss Damn Good
• Here is your damn good ไอศกรีมช็อกโกแลต 70% ตัวเลขอาจดูดาร์ก แต่เป็นดาร์กช็อกโกแลตที่ครองใจลูกค้า Guss Damn Good มาเสมอ

• Maine Rocky Coast ไอศกรีม Sea Salt รสชาติติดเค็ม ตัดกันได้ดีกับอัลมอนด์กรุบกรอบเคี้ยวมัน

• Tokyo Mist ไอศกรีมยูซุ ที่เปิดตัวกับ Guss Damn Good มาตั้งแต่สมัยที่คนไทยยังไม่ค่อยคุ้นชินกับยูซุเท่าไหร่นัก จนมาเป็นรสชาติโปรดของหลายๆ คนในวันนี้

3 good products

“เราผลิตไอศกรีมเอง 6 วันต่อสัปดาห์ ตลอด 9 ปี ไม่เคยหยุดเลย ไอศครีมเราหมุนเร็วมาก แทบไม่มีของค้างสต็อก เราเลือกที่จะใช้นมจากฟาร์มเมืองไทยเพื่อให้ไอศกรีมสดที่สุด ดังนั้น ถ้าทุกคนมากินไอศกรีมที่นี่ เชื่อได้ว่าไอศกรีมเราสดมากๆ” ระรินอธิบาย

เพราะนมที่เลือกใช้เป็นนมจากฟาร์มนมอย่างดีในเมืองไทย เพื่อให้ได้นมที่สดมากๆ จึงต้องแลกมากับอายุที่สั้น บวกกับครีมสัญชาติฝรั่งเศส คาราเมลที่กวนเอง และส่วนผสมชั้นดีต่างๆ อัดแน่นในไอศกรีมทุกคำ ตอกย้ำในคุณภาพของ Guss Damn Good

ด้วยความใส่ใจกับไอศกรีมมากเพื่อไม่ให้ลูกค้าเจอประสบการณ์ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัมผัสที่เป็นเนื้อทราย หรือไอศกรีมเก่า อาจจะมีขาดตกบกพร่องบ้าง แต่ระรินทำทุกทางเพื่อคงความเป็น Guss Damn Good ไว้ให้ได้ เธอย้ำว่าเมื่อไหร่ที่บกพร่อง จะขอโทษลูกค้าอย่างจริงใจและแก้ไขทันที

“ส่วนผสมที่ดีที่สุดในมุมของเราคือ อร่อยที่สุดแบบที่เราชอบกิน ค่อนข้าง Subjective เนอะ เพราะเราใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุดจริง แต่ส่วนผสมที่ดีที่สุดไม่ได้แพงที่สุด แต่ด้วยกระบวนการทำของเรา ส่วนผสมที่เราใช้ เรากล้าให้ลูกเรากิน”

กว่า 9 ปีของธุรกิจของหวาน เราแอบสงสัยไม่ได้ว่าจะทำยังไงให้ไอศกรีมออกมารสชาติคงที่ได้ตลอดขนาดนี้ ยอมรับว่าแอบคาดหวังว่าเคล็ดลับความอร่อยจะหลุดมาจากปากนักธุรกิจ แต่คำตอบที่ได้กลับล้ำลึกกว่านั้น

“คราฟต์ไอศกรีมใช้แรงคนเยอะมากๆ คนต้องรักไอศกรีมก่อน พนักงาน Manual ทุกคน เราปลูกฝังให้เขารักโปรดักต์ ถ้าพลาด เขาต้องรู้ให้เร็ว รู้ก่อนลูกค้า สุดท้ายไม่มีสูตรตายตัวหรอก มันคือความใส่ใจ ถ้าเขารักในโปรดักต์ รักในองค์กร เขาจะทำมันได้”

Happy Customers

จากตัวเลขสถิติลูกค้า Guss Damn Good ส่วนใหญ่เอนไปทางผู้หญิง ไม่แปลกที่สาวๆ จะรักของหวาน แต่ถ้ามองกันตามพฤติกรรม ลูกค้าที่นี่ก็เต็มไปด้วยคนทำงานสร้างสรรค์ และรักในคราฟต์เช่นกัน

ไอศกรีมที่นี่สร้างสรรค์ให้คนกินสนุกสนานอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยไอกครีมรสห่านพะโล้คาราเมล เพื่อรีแบรนด์เป็น Guss Damn Goose ช่วง April Fool’s Day ปีที่แล้ว การร่วม Collab กับหลายๆ องค์กร หรือการออกสินค้าแต่ละเทศกาลก็มีมาตลอดทั้งปี อย่างช่วงเดือนแห่งความรัก เราได้เห็นลายถ้วยน่ารักๆ จากนักวาดภาพประกอบอย่าง Chappy Nida บนสินค้าของ Guss Damn Good

“ล่าสุดได้คุยกับลูกค้า ลูกค้าบอกว่าจะกินไอศกรีม Guss Damn Good ทุกครั้งที่เศร้า วันไหนใจแตกสลายจะกินไอศกรีม เพราะรู้สึกว่าไอศกรีมมันช่วย Lift Up Moment เขาได้ทันที”

เพราะชื่อบนฝาไอศกรีมเต็มไปด้วยความหมายดีๆ ลูกค้าจึงอยากส่งต่อให้กันในวัน Bad Day น่าทึ่งที่ความตั้งใจจะให้ไอศกรีมเป็นตัวแทนความรู้สึกดีๆของระรินนั้นสำเร็จแล้ว เพราะ Guss Damn Good ไม่ได้เป็นแค่ขนมหวานเย็น แต่เป็นทั้งของขวัญวันเกิด วันแต่งงาน และทุกๆ โอกาสสำคัญ

Guss Damn Good

ระหว่างที่นั่งคุยกันในร้าน ระรินจะคอยหันไปขอบคุณลูกค้าที่กินเสร็จและเดินออกประตูไปเสมอ ระรินคนที่จบจากบอสตันมาลองทำไอศกรีมเองในวันนั้น เคยเห็นภาพบ้างไหมว่าวันหนึ่ง จะมาเป็นเจ้าของ Guss Damn Good ที่มีกว่า 16 สาขาในวันนี้

“ ไม่เคยคิดเลย” เธอยิ้ม “เริ่มแรกเราอยากจะทำไอศกรีมให้อร่อยที่สุด อยากมีลูกค้าคนแรกให้ได้ พอโตขึ้นก็คิดว่าจะทำยังไงให้บริษัทอยู่ได้เป็น 100 ปีเหมือนบริษัทญี่ปุ่น ส่วนตอนนี้คิดว่าถ้าบริษัทอยู่ได้นานขนาดนั้น ป่านนั้นพนักงานคงแก่ มีลูก ลูกเขาก็คงมาทำงานที่นี่ แล้วทำยังไงให้เขาอยู่กับเราได้นานขนาดนั้น ผลตอบแทนแบบไหนที่จะทำให้เขาอยู่ดีกินดี มันมีคำถามเยอะมากๆ เลย จากวันแรกที่เริ่มทำธุรกิจ”

ในฐานะคนทำธุรกิจมายาวนาน ระรินยอมรับว่ามีอะไรที่ต้องรับมืออยู่ตลอด จากวันที่เป็นคราฟต์ไอศกรีมเจ้าแรกๆ จนตอนนี้มีคู่แข่งในตลาดผุดขึ้นให้เห็นจนชินตา

“เราว่าคู่แข่งก็ไม่ใช่ศัตรูเสมอไปนะ คู่แข่งทำให้เราเก่งขึ้น ทำให้เรามีมายด์เซ็ตที่ดีขึ้น ทำให้เราเปลี่ยนแปลง ไม่อยู่นิ่ง ถ้าเราไม่มีคู่แข่ง องค์กรเราคงน่าเบื่อ” ระรินพูดด้วยแววตาสดใส

แม้จะมีความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้ Guss Damn Good มั่นคงในเส้นทางของตัวเองมาได้ คือความสม่ำเสมอในรายละเอียด กระบวนการทำ วัตถุดิบ หรือแม้แต่ถ้วย ช้อน ก็คัดเลือกมาแล้วและไม่เคยเปลี่ยนซัปพลายเออร์เลยตั้งแต่วันแรกยันปีที่ 9

“กล้าบอกว่าเราเป็น Master of Craft Ice Cream คือเราโคตรตั้งใจทำไอศกรีมเลย เสมือนว่าไอศกรีมเป็นลูกเรา อาจเพราะว่าเรามองว่าไอศกรีมมันเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เลยตั้งใจทำมาตลอด จนลูกค้าบอกกันปากต่อปาก ดังนั้น การที่เราโตมาได้ 9 ปี ก็คือพลังการบอกต่อของลูกค้าล้วนๆ เลย”

ช่วงท้ายเราถามระรินถึงโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่กำลังทำ เธอจึงขอแนะนำ Balcony ร้านไอศกรีมชาไต้หวันน้องใหม่ จากไร่ชา 150 ปี ชาไต้หวัน 9 รสเรียงไล่รสจากอ่อนไปเข้ม มีทั้งชาใส ชานม ให้สายชาอย่าได้พลาด

นอกจากนั้น คงเป็นโปรเจกต์เล็กๆ น้อยๆ ที่อยากพัฒนาไปเรื่อยๆ ทั้งการทำไอศกรีม Soft Serve ให้เยอะขึ้น เริ่มร่วมงานกับแบรนด์เยอะขึ้น และเริ่มเพิ่มเมนูกาแฟในหลายๆ สาขา

Guss Damn Good ยังคงขยับขยายไปเรื่อยๆ แต่ความตั้งใจจริงที่ระรินมองภาพอนาคตธุรกิจนี้ไว้นั้นแสนเรียบง่าย คือเธออยากทำให้คนมีความสุข

“เราอยากจะเป็นตัวกระตุ้น Damn Good Moment ให้ลูกค้าให้ได้ อยากเป็นคนที่เยียวยาจิตใจในวันที่เขาเจอ Bad Day ผ่านรสชาติความอร่อย ผ่านรสมือ ผ่านวัตถุดิบดีๆ ผ่านงานคราฟต์ ดังนั้น หลังจากนี้ อะไรก็ตามที่ทำให้คนมีความสุข Guss Damn Good ก็จะยังทำอยู่”

เรามองถ้วย Joy บนโต๊ะ และพบว่ากว่าเรื่องราวธุรกิจของ Guss Damn Good จะเล่าได้ครบ มันก็ละลายไปเยอะแล้ว จึงขอจบบทสนทนาไว้เท่านี้ พร้อมกับเสียงของระรินในตอนท้ายที่ทนไม่ได้เมื่อเห็นไอศกรีมร้านเธอมาละลายตรงหน้า จนต้องพูดว่า “ไปกินไอศกรีมใหม่ เลือกเลย!”