ผูกรัก

“เราเห็นเมืองนอกเขาใช้เชือกพาราคอร์ดมาทำปลอกคอ สายจูง สำหรับหมาแมว แอ๋มเองรู้จักพาราคอร์ดอยู่แล้ว เพราะส่วนตัวก็เคยใช้เชือกพาราคอร์ดตอนตั้งแคมป์ รู้ว่ามันมีความทนทาน สีสวย แห้งเร็ว ทำความสะอาดได้ เอาลงน้ำทะเลได้ ใช้พกไปแขวนเปลกลางป่าได้ แต่แอ๋มเห็นว่าพาราคอร์ดที่มีขายในเมืองไทย สีไม่สวยแบบที่เราเห็นในอินสตาแกรมเมืองนอก ที่เราซื้อกันมาส่วนใหญ่มักจะผลิตที่จีน คุณภาพก็แตกต่างกัน ของจีนแข็งและหนัก”

แอ๋มเล่าที่มาของธุรกิจเชือกที่เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ด้วยความที่ทนไม่ได้ที่จะเห็นสัตว์เลี้ยงแสนรักมีสายปลอกคอสีสันน่าเบื่อ เธอจึงเริ่มศึกษาเชือกพาราคอร์ดจริงจัง เธอเท้าความประวัติของเชือกชนิดนี้ให้เราฟังว่า พาราคอร์ดนั้นมีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว

“คำว่าพาราคอร์ดมาจาก พาราชูต เพราะเชือกพาราคอร์ดถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในการกระโดดร่มของทหารอเมริกัน พอเขาลงจอดที่พื้น ก็จะตัดแล้วเอาเชือกนี้ไปใช้ต่อ มันได้รับการพัฒนามาจากการใช้งานทหารอเมริกา เลยมีคุณสมบัติแตกต่างไปจากเชือกชนิดอื่น เช่น ต้องแข็งแรงทนทาน มีน้ำหนักเบา”

เวลาผ่านไป เชือกพาราคอร์ดได้รับการพัฒนาให้นำมาใช้เชิงพาณิชย์มากขึ้น ไม่ได้ใช้แค่ในทางทหารอย่างเดียว คนจึงเริ่มนิยมนำมาใช้กับอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง และอุปกรณ์แคมป์ปิงมากขึ้น เพราะมีน้ำหนักเบา และมีสารพัดประโยชน์ ทั้งทนน้ำ ทนฝน ทนแดด

มัดพาราคอร์ด

หากลองเสิร์ชหาข้อมูลพาราคอร์ดในอินเทอร์เน็ต จะพบคำว่าพาราคอร์ด 550 ขึ้นมาให้เห็นในหน้าค้นหา เมื่อได้มาคุยกับเจ้าของร้านเชือก เราเลยลองถามรายละเอียดของตัวเลขนี้ แอ๋มบอกว่าเลข 550 คือจำนวนที่รับน้ำหนักได้ 550 ปอนด์ หรือประมาณ 249 กิโลกรัม

“เคยมีนักเรียนสั่งพาราคอร์ดไปทดลองวิทยาศาสตร์ ก็จะถามว่ารับแรงได้เท่าไหร่ เชือกของเรามีสเปกจริงจัง มีตัวเลขจากโรงงานผลิตที่อเมริกา เพราะฉะนั้นเราเลยตอบลูกค้าได้หมด”

“ปัญหาใหญ่คือคนไม่รู้ว่าพาราคอร์ดคืออะไร” แอ๋มพูดยิ้มๆ “ในแง่ Business Model เราจึงต้องมาทำให้ลูกค้าใหม่รู้ว่าเชือกของเราดียังไง”

แอ๋มบอกเราว่า แม้กระทั่งกลุ่มลูกค้าที่รู้จักพาราคอร์ดอยู่แล้ว ยังเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตจากเมืองจีน เนื่องจากมีราคาเพียงเมตรละ 7 บาท เมื่อเทียบกับสินค้าจากร้าน Knodd ที่เมตรละ 22 บาท

พอถามว่าราคานี้อยู่ในเกณฑ์ไหนในตลาด แอ๋มก็ตอบทันทีว่า “แพง !” เจ้าของร้านเชือกยิ้มรับ เพราะด้วยต้นทุนผลิตที่สูง ราคาจึงสูงตามขึ้นมาเช่นกัน แต่แอ๋มยืนยันว่าเชือกจาก Knodd นั้นแตกต่างออกไป เพราะได้รับมาตรฐานการผลิตจากโรงงานสัญชาติอเมริกา ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงคุณภาพที่ต่างไปเมื่อได้ใช้ด้วยตัวเอง

“แอ๋มเชื่อว่าลูกค้าที่ซื้อของเรา ใช้ของเรา เขาก็จะใช้ของเราตลอด โอเค เชือกมีหลายสเปกก็จริง ความรู้สึกอาจจะใกล้กันมาก แต่ข้อแตกต่างคือคุณภาพ แอ๋มว่า ในแง่ของ Business Model น่าจะเป็นการให้ลูกค้าลองมากกว่า ถ้าได้ลองแล้วเขาจะมั่นใจในคุณภาพ”

แอ๋มดูตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพาราคอร์ด ระหว่างคุยกัน เธอลุกเดินไปทั่วห้องสตูดิโอเพื่อหยิบนั่นนี่ให้เราดู ก่อนจะกลับมานั่งที่โต๊ะพร้อมเชือกพาราคอร์ดที่ถูกผ่าให้เห็นแกนไส้ข้างใน

แอ๋มอธิบายว่า พาราคอร์ด Military Specifications (MIL-SPEC) ต้องทำจากวัสดุไนลอน 100% ทั้งแกนนอกและเชือกข้างใน เมื่อตัดออกดูจะเห็นแกนข้างในทั้งหมด 7 แกน แต่ละแกนมีเกลียวเชือกอันเล็ก 2 เกลียวม้วนเข้าด้วยกัน และต้องมี Manufacturing Cord ระบุชัดเจนว่าผลิตโดยใคร ต่างจากพาราคอร์ดที่ผลิตในประเทศจีนที่มีหลายสเปกมาก ตั้งแต่ไม่มีแกน หรือไม่ได้ใช้ไนลอน แต่ใช้โพลีเอสเตอร์ เป็นต้น

คำว่า คุณภาพตามราคา คงนิยามความเป็น Knodd ได้อย่างดี พอคุยกันเรื่องคุณภาพ แอ๋มก็หยิบตัวอย่างกระเป๋าถักด้วยเชือกพาราคอร์ดที่ผลิตจากประเทศจีนให้เราดู รูปลักษณ์ภายนอกดูใกล้เคียงเชือกพาราคอร์ดที่มีขายในร้าน แต่เมื่อลองหยิบขึ้นมา เราพบว่า สัมผัสนั้นหยาบ และหนักมากกว่าจนรู้สึกได้ชัดเจน

“ลักษณะอีกอย่างที่ลูกค้าไม่ค่อยรู้คือ พาราคอร์ดลนไฟได้ จบงานแล้วมันก็จะล็อกเลย บางยี่ห้อข้างนอกข้างในใช้เชือกคนละชนิด มันก็จะละลายออกมาไม่เท่ากัน ดูไม่สวยงาม”

แอ๋มพูดพลางรีบหยิบเชือกพาราคอร์ดเส้นสั้นในร้านมาพร้อมไฟแช็ก เพื่อมาลนไฟบริเวณปลายเชือก เรามองดูปลายเชือกพาราคอร์ดค่อยๆ ละลาย จากนั้นแอ๋มใช้กรรไกรกดเบาๆ จนปลายเชือกกลายเป็นปมที่ไม่ต้องผูก ปมนั้นละลายติดแนบแน่นดูเรียบร้อย ต่างจากการจบงานฝีมือที่ใช้เชือกทั่วไปที่เราเคยเห็น

ระหว่างที่นั่งคุยกัน เราหันไปมองรอบๆ สตูดิโอของ Knodd อยู่เป็นระยะ ชั้นวางม้วนเชือกเรียงรายอยู่เต็มข้างผนัง สีสันนับสิบวางไล่เฉดกันจากเข้มไปอ่อน แม้กระทั่งสีนีออนสะท้อนแสงก็มี เราแทบไม่เห็นเชือกสีเดี่ยวๆ ในห้องนี้เลย พลางคิดในใจว่าถ้าลูกค้าของ Knodd อยากได้เชือกสีแดงสักเส้น ก็คงต้องมีคำถามต่อแน่นอนว่า แดงไหน?

“เราผสมสีเชือก Knodd เอง เราทำงานร่วมกับผู้ผลิตให้ได้เฉดที่เราต้องการ ให้ได้สีที่ไม่มีในตลาด อย่างพวกสีพาสเทลเป็นของ Knodd ทำเองทั้งหมดเลย เรา Custom Made ทั้งสีและลาย”

หากสนใจมาเลือกชมสินค้า แอ๋มย้ำว่าที่ร้านยินดีให้คำแนะนำ พร้อมเสนอแนะว่า พาราคอร์ดความยาวเท่าไหร่ เหมาะจะนำไปผลิตเป็นชิ้นงานแบบไหน จะซื้อไปถักสร้อยข้อมือเส้นเดียว หรือจะซื้อยกม้วนความยาว 305 เมตร Knodd ก็พร้อมยินดีให้บริการ

สร้างสรรค์สินค้า

หากลองสำรวจหน้าแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Knodd จะพบว่า นอกจากเชือกเป็นม้วนแล้วนั้น ทางร้านยังขายผลิตภัณฑ์จากเชือกไนลอนพาราคอร์ดอีกด้วย

“จากวัสดุแค่อันเดียวออกแบบต่อยอดไปได้เยอะมาก ตอนแรกแอ๋มคิดว่าคนคงใช้พาราคอร์ดแค่กับสินค้าหมาแมวเป็นหลัก หรืออาจจะพวกสินค้าแฟชั่นได้บ้าง แต่พอเราเริ่มศึกษาไอเดียจากต่างชาติ เริ่มมีลูกค้ามาหาหลากหลายขึ้น ก็เลยรู้ว่าพาราคอร์ดไปได้ไกลกว่านั้น”

ไอเดียสินค้าแรกของ Knodd ที่แอ๋มตั้งใจจะขายนั้นเป็นแค่ตัวเชือกล้วนๆ แต่เมื่อเริ่มศึกษาและพบว่าเชือกพาราคอร์ดชนิดนี้รังสรรค์ไปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายกว่าที่คิด แอ๋มจึงเริ่มออกผลิตภัณฑ์จากพาราคอร์ดมาเรื่อยๆ

สินค้าน่าสนใจจากเชือก Knodd

Wine bag

ออกขายเมื่อปลายปี 2023 และได้ผลตอบรับล้นหลาม ด้วยเชือกพาราคอร์ดหลากสี สานกันเป็นตาราง มองเห็นขวดไวน์ภายใน มาพร้อมหูจับถนัดมือ นอกจากดีไซน์สวยแล้ว ยังทำให้การพกพาขวดไวน์สะดวกขึ้นเป็นไหนๆ

ตาข่ายห้อยกระถางจากเชือกพาราคอร์ด

เพื่อตอบโจทย์คนเมืองที่อาศัยอยู่ตามคอนโดมิเนียม ตาข่ายห้อยกระถางทั่วไปทำจากเชือกป่านที่มีอายุการใช้งานสั้น สีจางลงเมื่อโดนแดด แต่เชือก Knodd รับรองคุณภาพ ไม่ขึ้นรา ซักได้ โดนน้ำ โดนแดดได้ แห้งเร็ว ไม่มีกลิ่น ทน UV มีสีสวยอยู่ตลอด

นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์จาก Knodd ที่น่าสนใจอีกหลายตัว เช่น สายสะพายขวดน้ำ สายกล้องถ่ายรูป

แอ๋มกระซิบกับเราว่า ขอให้ลูกค้า Knodd อดใจรอกันอีกสักหน่อย ในอนาคต Knodd จะมีสินค้าเครื่องใช้ภายในบ้านออกวางขายอีกหลายตัว ด้วยคุณสมบัติของเชือกที่เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานเอาต์ดอร์ที่ต้องการความทนทาน

ถักทอเครือข่าย

ด้วยธุรกิจที่เริ่มมาเพียงเวลาแค่ปีเดียว แอ๋มยังคงกระตือรือร้นให้เชือกของ Knodd นั้นเข้าถึงทุกคนมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน เธอก็พบเจอกับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้เจอเช่นเดียวกัน

“ตลาดพาราคอร์ดค่อนข้างเล็กอยู่แหละ แต่เราว่ามันมีศักยภาพนะ ลูกค้าของเรามีตั้งแต่คนออกแบบ คนทำผลิตภัณฑ์หมาแมว อินทีเรียร์ดีไซเนอร์ หรือแม้แต่แบรนด์แฟชั่น เขาใช้พาราคอร์ดของเราทำได้หลายอย่างมาก”

แอ๋มไล่เรียงกลุ่มลูกค้ามากหน้าของร้านให้ฟัง เริ่มตั้งแต่ลูกค้าที่สั่งเชือกไปทำสินค้าทำมือเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงลูกค้าจากภูเก็ต ที่สั่งเชือกพาราคอร์ดของทางร้านไปใช้ผูกเรือ เพราะเป็นเชือกน้ำหนักเบา แต่รับน้ำหนักได้ดีกว่าเชือกหลายชนิด

“มีลูกค้าสายแฟชั่นซื้อเชือกไปถักกระเป๋า เขาถักด้วยเทคนิคมาคราเม ที่ปกติใช้เชือกสีขาวสไตล์เฉพาะตัว แต่พอเปลี่ยนเป็นเชือกพาราคอร์ดก็ดูโมเดิร์นขึ้น ดูแข็งแรงขึ้นทันที มีดีไซเนอร์เอาเชือกของเราไปใช้ตกแต่งโรงแรมบริเวณเอาต์ดอร์ และสานออกมาเป็นเก้าอี้ด้วยนะ”

แอ๋มเล่าเรื่องลูกค้าของเธออย่างยิ้มแย้ม ดูไปก็คล้ายกับผู้ปกครองที่ภูมิใจยามได้คุยเรื่องลูกหลาน แอ๋มคงเป็นเหมือนแม่ (ค้า) ที่ส่งเชือกน้อยใหญ่ของเธอไปสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้มากมาย

มีลูกค้าหลากหลายกลุ่มขนาดนี้ เราตั้งใจฟังแอ๋มเล่าต่อและทายเล่นๆ ในใจว่ากลุ่มไหนจะพีคที่สุด และก็ได้คำตอบจากที่แอ๋มพูดต่อมาว่า “มีลูกค้าสายพระด้วย !” แอ๋มพูดพร้อมเสียงหัวเราะ

“เป็นตลาดที่มาจากไหนก็ไม่รู้ แอ๋มไม่แน่ใจนะ เข้าใจว่าเอาไปถักสายคล้องบาตร หุ้มบาตรให้พระ เขาส่งอีเมลมาหาบอกว่า อยากได้สีพระป่า เราก็ไม่แน่ใจว่ามันคือสีไหน คุยกันจนได้เป็นสีน้ำตาลของเราที่มันตรงกับพระยังไงก็ไม่รู้ กลายเป็นว่ามีลูกค้าประจำเป็นสายพระอยู่ด้วย”

ขยายอนาคตธุรกิจ

ช่วงท้ายบทสนทนา เราขอให้แอ๋มเล่าโปรเจกต์ที่ Knodd จะทำในอนาคตให้ฟังหน่อย จึงได้รู้ว่าร้านกำลังมีผลิตภัณฑ์จากพาราคอร์ดที่ทำโดยผู้พิการทางสายตา และอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาตัวสินค้า ถือว่าน่าสนใจให้รอติดตามกัน

เรายิงคำถามสุดท้ายเพื่อถามถึงภาพธุรกิจของเชือกชนิดนี้ในอนาคตไว้ว่าอย่างไร เจ้าของแบรนด์หน้าใหม่ยอมรับกับเราว่า ตลาดเชือกดูไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดด แต่มันก็เริ่มติดตลาดคนไทยมาเรื่อยๆ แม้จะไม่ใช่สินค้าทั่วไปที่ซื้อแล้วพร้อมใช้เหมือนอย่างสินค้าจำพวกเสื้อผ้าหรืออาหาร แต่แอ๋มตั้งใจพาเชือกพาราคอร์ดของ Knodd ให้คนทั่วไปได้รู้จักเป็นวงกว้างมากขึ้น

“ธุรกิจนี้ไม่ใช่อะไรที่จะเติบโตขั้นรุนแรงแน่นอนอยู่แล้ว เราแค่หวังอยากจะเป็นคนที่ใช้คุณภาพและลักษณะของพาราคอร์ดที่แตกต่างไปจากสินค้าชนิดอื่น มาขับเคลื่อนในตลาดธุรกิจเชือกต่อไป”

สำหรับเรา Knodd คงเป็นเหมือนเชือกปมแรกที่ริเริ่มความคิดสร้างสรรค์ ด้วยสีสัน ดีไซน์ และคุณภาพ ส่วนใครจะนำเชือกเส้นนี้ไปถักสานเป็นอะไรต่อไปนั้น ก็ยังคงเป็นไอเดียอีกกว้างไกล ไม่มีที่สิ้นสุดเลยทีเดียว