About
TRENDS

Revenge Travel

‘เที่ยวล้างแค้น’ เทรนด์เที่ยวมาแรงแห่งยุคโควิด-19

เรื่อง เปรมวดี ปานทอง ภาพประกอบ ANMOM Date 05-06-2021 | View 3501
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • เที่ยวล้างแค้นในที่นี้ไม่ได้มีความหมายเชิงลบ แต่กลับหมายถึง การท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เพื่อชดเชยช่วงเวลาและประสบการณ์ที่เสียไปในสถานการณ์โควิด-19
  • ว่ากันว่า ทริปการเดินทางหลังจากที่คนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว จะเป็นการเดินทางที่ไกลขึ้น ยาวนานขึ้น และใช้เงินมากกว่าเดิม
  • คาดการณ์กันว่า การท่องเที่ยวจะกลับมาดีขึ้นเมื่อเกิดกระแสการเที่ยวล้างแค้น ตัวอย่างจากช่วงที่รัฐบาลจีน ปลดล็อกให้ชาวจีนออกมาจับจ่ายใช้สอยเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ทำให้ร้าน Hermès ในกว่างโจว มีรายได้ถึง 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในวันเดียว

หลังจากโลกมีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการรับรองสถานะ “วัคซีนพาร์สปอร์ต” หลายประเทศเริ่มเปิดกว้างรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ท่ามกลางความหวังจะได้เห็นการเดินทางระหว่างประเทศกลับคืนสู่สภาวะปกติและฟื้นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเร็ววัน เพราะผลสำรวจของ Global Rescue บอกว่า 77% ของนักเดินทางมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลัง (ก.ค.-ธ.ค. 2021) น้อยถึงน้อยมาก

แต่เมื่อวัคซีนมาถึง ความเชื่อมั่นก็เริ่มมีมากขึ้น นำมาสู่การวางแผนทริปวันหยุดพักผ่อนที่ยาวนานขึ้น เดินทางไกลขึ้น และใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อ "เอาคืน" ห้วงเวลาที่เสียไปกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อันเนิ่นนานและน่าเบื่อหน่าย เลยเกิดเป็นกระแส “เที่ยวล้างแค้น” เทรนด์เที่ยวที่มาแรงในฟากอเมริกาและยุโรป และปรากฏการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นในทุกประเทศช่วงโควิด-19 หลังจากเปิดให้เดินทางกันได้อีกครั้ง

เที่ยว 5

เที่ยวล้างแค้น…คืออะไร?

ปีที่แล้วชาวไทยจำนวนไม่น้อยและผู้คนทั่วโลกต้องทิ้งตั๋ว เปลี่ยนแผนวันหยุด และยกเลิกการทริปการเดินทางกระทันหัน เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้นเมื่ออะไรๆ เริ่มดีขึ้นบนเงื่อนไขของความปลอดภัยมากขึ้น นักเดินทางเหล่านั้นต้องการตอบโต้และเอาคืนการสูญเสียโอกาสในการเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ และอำนาจในการควบคุมชีวิตของตัวเอง เป็นที่มาของศัพท์ใหม่ร้อนแรง revenge travel หรือ เที่ยวล้างแค้น นั่นเอง

เพียงแต่คำว่า “ล้างแค้น” ในที่นี่ไม่ได้มีความหมายในแง่ลบ แต่เป็นไอเดียการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อชดเชยเวลาและประสบการณ์การเดินทางที่เสียไป

ว่ากันว่า นิยามใหม่นี้มีคอนเซ็ปต์มาจาก “revenge spending” ที่ถูกนำมาใช้ในประเทศจีนเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว ชาวจีนออกมาจับจ่ายใช้สอยอย่างเต็มที่หลังสถานการณ์ปลดล็อก อย่าง เดือนเม.ย. ร้าน Hermès แห่งหนึ่งมีรายได้ถึง 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในวันเดียวในกว่างโจว บ่งบอกถึงการตอบสนองทางด้านเศรษฐกิจหลังการกักตัว

เที่ยว 14

วัคซีนปลุกกระแส

เทรนด์นี้ถูกคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงท่องเที่ยวไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เริ่มเห็นภาพชัดในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากกฎเกณฑ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายลง หลายประเทศเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะการได้รับวัคซีนอย่างแพร่หลายมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนมีความเชื่อมั่นและเดินทางได้สะดวกมากขึ้น

ผลสำรวจของ Global Rescue บอกว่า 73% ของกลุ่มตัวอย่างกว่า 2,000 คน รู้สึกปลอดภัยมากกว่าในระหว่างการเดินทาง หากพวกเขาได้ฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว โดยมีเพียง 36% ที่รู้สึกว่าผลตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ก่อนการเดินทางปลอดภัยกว่า ซึ่งตอนนี้ 4 ในท็อป 5 ประเทศยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมื่อวัดจากการใช้จ่ายมากที่สุดได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 40% จากข้อมูลวันที่ 29 พ.ค. ของ ourworldindata ไม่ว่าจะเป็น อ้งกฤษ (57.83%) สหรัฐ (50.15) เยอรมนี (43.19) ส่วนฝรั่งเศส ฉีดไปแล้ว 37.50% ขณะที่แชมป์เจ้าบุญทุ่มมากที่สุดอย่าง จีน ไม่ได้ระบุข้อมูลว่าฉีดไปแล้วกี่เปอร์เซนต์ของประชากร แต่เฉพาะแผ่นดินใหญ่ฉีดไปแล้วกว่า 639 ล้านคน

นั่นทำให้ตอนนี้เริ่มได้เห็นกระแส “เที่ยวล้างแค้น” เกิดขึ้นแล้ว พิสูจน์ได้จากยอดจองทริปช่วง 4-6 สัปดาห์ล่าสุดของ AAA Northeast สูงถึง 80% ของปี 2019 หลังจากเมื่อเดือนม.ค. ยังอยู่ที่ 30-40% เท่านั้น

ขณะที่อุทยานแห่งชาติ 2 แห่งในสหรัฐทำลายสถิติผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากเดือนเม.ย. ที่ผ่านมาอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ต้อนรับนักท่องเที่ยวถึง 67,000 คนเพิ่มขึ้นจากปี 2019 ถึง 40% มากกว่าสถิติเดิมเมื่อปี 2016 (59,000 คน) ส่วนอุทยานแกรนด์เทตัน มีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. ปี 2019 ด้วยสถิติสูงสุด 87,700 คน หลังจากประชากรในประเทศได้รับวัคซีนเข็มแรกทะลุ 120 ล้านคนในเดือนเดียวกัน

เที่ยว 10

แม้ตัวเลขในช่วงนี้ ส่วนใหญ่ยังเป็นการท่องเที่ยวภายในประเทศ แต่คาดว่าการเดินทางระหว่างประเทศจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานหลังจากนี้ ในผลสำรวจของ Global Rescue ชิ้นเดียวกันยังชี้ว่า 57% ของกลุ่มตัวอย่าง วางแผนจะออกท่องโลกต่างแดนอีกครั้งภายในปีนี้

เที่ยว 8

ตัวแปรเลือก Destination

ท่ามกลางความหวังของผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วโลก ปัญหาก็คือรูปแบบการเดินทางได้เปลี่ยนไปแล้ว จากเดิมที่กังวลแค่เรื่องวีซ่า ตอนนี้ผู้คนต้องคำนึงเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เมื่อโลกยังต้องเผชิญกับโรคระบาดนี้อยู่ พร้อมกับกฎเกณฑ์และข้อจำกัดที่แตกต่างกันของแต่ประเทศ

โจทย์ใหญ่ 2 ข้อที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ พวกเขาอยู่ในพื้นที่การแพร่ระบาดหรือไม่? และปลายทางที่พวกเขาจะไปยังมีการระบาดของโรคหรือไม่? เพราะแม้ว่านักท่องเที่ยวจะได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม พวกเขายังต้องเตรียมตัวปฏิบัติตามเงื่อนไขในการเดินทางเข้า-ออก รวมไปถึงการปฏิบัติตัวตามมาตรฐานที่กำหนด

อย่างเช่นฝรั่งเศสเปิดรับนักท่องเที่ยวจากชาติในยุโรปและอีก 7 ชาตินอกยุโรป (ออสเตรเลีย อิสราเอล ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สิงคโปร เกาหลีใต้ และอังกฤษ) โดยทุกคนต้องมีผลตรวจโควิด-19 ภายใน 72 ชม. และก่อนออกจากประเทศต้องปฏิญาณว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 และไม่ได้สัมผัสกับผู้ป่วยโควิด สำหรับผู้ที่มาจาก 7 ชาตินอกพื้นที่ยุโรป ต้องกักตัวด้วย 7 วันและตรวจโควิด-19 อีกครั้งในวันที่ 7 ของการกักตัว ส่วนนักเดินทางจากชาติอื่นนอกเหนือจากนี้จะเข้าได้ก็ต่อเมื่อได้รับการยกเว้นเป็นกรณีไป

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงปลายทางที่ยังมีอัตราการแพร่ระบาดสูง และสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพอนามัยภายใต้วิถี New Normal

เที่ยว 11

นับถอยหลังราคาสุดคุ้ม

รอบปีที่ผ่านมา ธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน โรงแรม บริษัททัวร์ หรือแม้แต่ร้านอาหาร ต่างงัดกลยุทธ์การลดแลก แจก แถม ออกมาสู้กับความหวาดกลัวต่อภัยโรคระบาด ด้วยข้อเสนอสุดคุ้มค่าและมีความยืดหยุ่นสามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้ทั้งเที่ยวบินและโรงแรม เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นตั๋วเครื่องบินบุฟเฟ่ต์บินทั่วไทยได้ไม่อั้นภายใน 6 เดือนในราคาเพียง 2,999 บาทจากแอร์เอเชีย ขณะที่โรงแรมหรูในเครือเซ็นทาราจัดโปรเริ่มต้นราคาเริ่มต้นหลักร้อย

อย่างไรก็ตาม ด้วยความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการรณรงค์แคมเปญฉีดวัคซีนทั่วโลก และความโหยหาการออกเดินทางอีกครั้ง ทำให้ demand ของเที่ยวบินและการจองที่พักมีกราฟพุ่งขึ้น พร้อมกับการปรับราคาตามไปด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่เกินช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ที่หลายประเทศเริ่มมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น

นักเดินทางเจ้าบุญทุ่ม

ไม่เพียงรูปแบบการเดินทางเท่านั้นที่เปลี่ยนไปหลังจากนี้ แต่พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มมีเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

นโยบายล็อกดาวน์ Stay at home ที่ผ่านมาทำให้ผู้คนที่ไม่ได้ตกงานหรือประสบปัญหาการเงิน กลับมีเงินเหลือใช้มากขึ้น เป็นเหตุผลให้พวกเขาพร้อมจะควักกระเป๋าซื้อความสุขและประสบการณ์แบบพรีเมียม เช่น ทริปวันหยุดพักผ่อนที่นานขึ้น อัพเกรดโปรแกรมแพงกว่าที่เคยผ่านมาช่วงก่อนโควิด เพื่อตั้งใจชดเชยเวลาที่เสียไป

เที่ยว 9

Stephanie Schweitzer นักการตลาดสาววัย 30 ปีที่มีแผนท่องโลก 2-3 ทริปต่อปี คือหนึ่งในตัวอย่างสนับสนุนความเป็นไปได้เรื่องนี้ หลังจากข้อจำกัดและกฎเกณฑ์ต่างๆ ทำให้ยังไม่สามารถเดินทางไปอินเดีย กัมพูชา หรือเม็กซิโกเหมือนปีก่อนๆ ได้ เธอกับเพื่อนจึงเลือกไปเที่ยวฮาวายยาวถึง 12 วัน พักโรงแรม 5 ดาว ทัวร์เฮลิคอปเตอร์ และเช่าเหมาลำเรือไปว่ายน้ำกับปลาวาฬ เป็นทริปราคาแพงกว่าที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ต้องอุดอู้อยู่บ้านแล้วเธอถือว่าคุ้มค่าและสมเหตุสมผล

สอดคล้องกับการวิเคราะห์ข้อมูลเดือนเม.ย.จาก คลับ เมด บริษัทชั้นนำของโลกด้านธุรกิจท่องเที่ยวที่พบว่า นักเดินทางใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 20% ในการจองทริปพักผ่อน โดยปลายทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ กรีซ ตุรกี และโปรตุเกส

เที่ยว 12

Destination ฮอตยุคโควิด-19

สำหรับประเทศไทยเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 ก.ค. นี้โดยมีภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง โดยมีเงื่อนไขต้องได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วและมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบบินตรงเข้าภูเก็ต และต้องตรวจโควิด-19 อีกครั้งเมื่อมาถึง พร้อมกับอยู่ในภูเก็ตอย่างน้อย 14 วันโดยไม่ต้องกักตัวก่อนออกไปยังพื้นที่นำร่องอื่นๆได้

ขณะเดียวกันหลายประเทศก็พร้อมต้อนรับนักเดินทางชาวไทย ซึ่งเทรนด์ของ Destination ที่น่าสนใจสำหรับการเที่ยวล้างแค้นครั้งแรกในรอบปี หนีไม่พ้นเรื่องความปลอดภัยและเงื่อนไขการเดินทาง และนี่คือส่วนหนึ่งปลายทางที่ถูกจัดอันดับความนิยมและคนไทยสามารถเดินทางไปได้

เที่ยว 1

ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) – นอกจากจะเปรียบเหมือนดิสนีย์แลนด์สำหรับผู้ใหญ่ที่มีทั้งความอลังการงานสร้าง ความแปลกใหม่และกลิ่นอายท้องถิ่นแล้ว ยังอาจมีข้อเสนอสุดคุ้มจากสายการบินแห่งชาติให้คอยติดตาม หลังจากเดือนที่แล้วเพิ่งออกโปรโมชั่นผู้โดยสารที่จองตั๋วไปกลับนครดูไบชั้นประหยัด จะได้รับสิทธิ์ พักฟรีที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ ดูไบ (JW Marriot Marquis Dubai) เป็นเวลา 2 คืน ส่วนชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งได้พัก 3 คืน ขณะที่ปีก่อนก็ออกมาตรการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลให้ผู้โดยสาร หากตรวจเจอโควิด-19 ระหว่างการเดินทาง

เที่ยว 15

ที่สำคัญนครดูไบเปิดรับนักท่องเที่ยวเกือบทุกชาติ โดยชาวไทยที่เดินทางเข้าดูไบต้องมีใบรับรองการตรวจโควิด-19 ภายใน 72 ชม. ประกันการเดินทางที่ครอบคลุมและโหลดแอพ COVID-19 – DXB Smart App ต้องตรวจโควิด-19 อีกครั้งเมื่อเดินทางถึง พร้อมลงทะเบียนในระบบกักตัวและต้องใส่สายรัดข้อมือตลอดการกักตัว 10 วัน

เที่ยว 3

กรีซ – นี่คือหนึ่งจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ที่อยู่ในแผนเที่ยวล้างแค้นของนักเดินทางปีนี้ เนื่องด้วยความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาติตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และไทยก็มีชื่ออยู่ใน 53 ประเทศที่สามารถเดินทางเข้ากรีซได้ โดยต้องลงทะเบียนแบบฟอร์มการติดตามก่อนเช็กอิน 48 ชม. และต้องมีใบรับรองการตรวจโควิด-19 ภายใน 72 ชม. หากยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

นอกจากนี้ เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมารัฐบาลได้ประกาศข่าวดีของนักท่องเที่ยว ไม่ต้องกักใดๆ หากผลตรวจโควิด-19 เมื่อมาถึงเป็นลบ สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง ครีต, กรุงเอเธนส์, คอร์ฟู หรือ เกาะโรดส์ได้อย่างสบายใจ อีกทั้งยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่กังวลเรื่องความปลอดภัยจากไวรัส เพราะกรีซถูกจัดเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยวมากที่สุดในปีนี้จากการสำรวจความคิดของหลายๆโพล ส่วนหนึ่งอาจเพราะแหล่งท่องเที่ยวอันน่าตื่นตาตื่นใจของที่นี่คือภูเขาและทะเลซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กลางแจ้ง เหมาะกับวิถี New normal

มัลดีฟส์ – เกาะสวรรค์แห่งนี้ คือหนึ่งในความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวที่หายากมากในปี 2020 และมีแนวโน้มจะดีต่อเนื่องมาถึงปีนี้ โดยมีแผนออกโปรแกรม “vaxication” ฉีดวัคซีนให้ผู้มาเยือน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ 3V (Visit, Vaccinate and Vacation) มาเที่ยว มาฉีด มาพักผ่อน ยังจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าประชากรทั้งหมด 550,000 คนของประเทศ ได้รับวัคซีนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนี้ฉีดไปแล้ว 58.3%

เที่ยว 17

มัลดีฟส์วางแผนจะฉีดวัคซีนให้กับนักท่องเที่ยวทั้ง 2 โดส ซึ่งหมายความว่าต้องอยู่เที่ยวอย่างน้อยหลายสัปดาห์ แต่ข้อดีคือ นักท่องเที่ยวที่มีผลตรวจยืนยันไม่มีเชื้อโควิด-19 สามารถเข้าประเทศได้แบบไม่ต้องกักตัวแต่อย่างใด ที่สำคัญเป็นจุดหมายที่เหมาะกับการทริปคู่รักที่ควรค่าแก่การเที่ยวล้างแค้น

เที่ยว 16

การท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปเสมอ แต่การท่องเที่ยวหลังโควิด-19 คือความไม่แน่นอนมากกว่า เพราะฉะนั้นต้องติดตามเทรนด์และกฎเกณฑ์อยู่ตลอด ที่สำคัญความปลอดภัยในการเดินทางควรมาก่อนเสมอ เพื่อประสบการณ์การผจญภัยครั้งใหม่ที่ดีในปลายทางที่ท้าทายยิ่งขึ้น

ที่มา
www.huffpost.com
www.providencejournal.com
blog.wego.com
www.lodgify.com

Tags: