About
BUSINESS

What Da Ale

วัด ดา เอล จากบาร์คราฟต์เกือบเจ๊งจนพลิกตัวเองเป็นยักษ์ใหญ่ในภาคใต้

เรื่อง นริสา ลี. Date 07-12-2023 | View 4142
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายในทุกธุรกิจ คราฟต์เบียร์ก็เช่นกัน ชวนคุยกับ บอย วัด ดา เอล ถึงเรื่องราวการล้มลุกคลุกคลานของธุรกิจบาร์คราฟต์จนก้าวสู่ยักษ์ใหญ่ในภาคใต้ที่ใครก็ล้มยากแล้วในปัจจุบัน

บอย - อรรถพล โชติดาว เป็นนักดื่มและเอาความชอบคราฟต์เบียร์เป็นตัวตั้ง เขากระโจนเข้าไปในธุรกิจบาร์ ตัดสินใจเปิด “วัด ดา เอล (What Da Ale)” บาร์คราฟต์เบียร์ใจกลางเมืองนครศรีธรรมราช

แต่ชีวิตหยิบยื่นข้อสอบความอึดมาให้ หรือจังหวะที่เปิดบาร์อาจไม่ราบรื่นนัก เพราะเจอวิกฤตโควิด เขาพยายามกู้สถานการณ์ด้วยการขายเบียร์แบบเททิ้งเพื่อถอนทุน พอรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ในเวฟ 3 ยาวนานแรมเดือนเท่านั้น ธุรกิจของเขาขาดทุนยับ เสียหายไปหลายแสน

“เอาจริงๆ นะ เกือบเจ๊ง แต่คิดอีกที ถ้าเราเลิกทำ แล้วจะไปทำอะไรดีวะ” โควิดชกเขาแค่เซ แต่ยังไม่ล้ม เขาสู้ใหม่พร้อมกับเร่งเครื่องธุรกิจให้แรงกว่าเดิม ด้วยการขยายอาณาจักร What Da Ale ในภาคใต้ จากนครศรีธรรมราชในเมือง สู่ทุ่งสง หาดใหญ่ และตรัง รวม 4 สาขา กลายเป็นบาร์คราฟต์เบียร์ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค

ถ้าลองตีความชีวิตเขา เราว่าคงหมือนนั่งโรลเลอร์โคสเตอร์ สนุกบ้าง หวาดเสียวบ้าง กรีดร้องบ้างเป็นบางช่วง แต่ถ้าไม่ได้ “หลงรัก” คราฟต์เบียร์จริงจัง บอยคงเก็บกระเป๋ากลับบ้านโบกมือลาธุรกิจนี้ไปตั้งนานแล้วล่ะ

What Da Ale

What Da Ale
วัด ดา เอล

เรานัดพบบอยกับ ปภาดา เพ็ชรสิทธิ์ คู่คิดคู่ชีวิตที่ What Da Ale กลางเมืองนครศรีธรรมราช กวาดตามองภายในร้านที่เต็มไปด้วยไวน์นับร้อยฉลาก มุมค็อกเทล สุราชุมชน แท็ปของคราฟต์เบียร์ และสารพัดเบียร์ในตู้แช่ รู้ทันทีว่าที่นี่พยายามตอบโจทย์ทางเลือกของนักดื่มให้มากที่สุด

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนลงทุนธุรกิจบาร์ ทั้งคู่เปิดร้านอาหารเกาหลีซึ่งเป็นร้านแรกในนครศรีธรรมราช และประสบความสำเร็จดีทีเดียว

What Da Ale

ความเป็นนักดื่มของบอย เป็นแรงขับทำให้เขาอยากรู้จักโลกของน้ำสีอำพันที่เรียกว่า “คราฟต์เบียร์” บอยเริ่มเรียนรู้กระบวนการต้ม เข้าใจเบียร์สไตล์ รู้จักคนในวงการ ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ แม้มีร้านอาหารเกาหลีและจำหน่ายคราต์เบียร์ที่นั่น แต่ยังมีข้อจำกัด เขาจึงตัดสินใจแยกธุรกิจออกมา เปิดบาร์คราฟต์เบียร์เล็กๆ ขนาดห้องๆ เดียวในชื่อ วัด ดา เอล (What Da Ale)

“มันเหมือนคำอุทานว่า เบียร์ไรเยอะแยะ! เหมือน What Da…!” บอยอธิบายความหมายที่เขาปิ๊งคำนี้ในวินาทีแรกที่รู้จัก และหยิบคำนี้มาตั้งชื่อ

What Da Ale

เครดิตภาพ: What Da Ale

ไม่ใช่แค่เอาความคราฟต์มาแนะนำให้ชาวนครศรีธรรมราชรู้จักเท่านั้น แต่ยังเป็นความคราฟต์ที่คนใกล้ตัวบอยอย่างคุณภรรยาก็ยังไม่เข้าใจ “เบียร์อะไร ขวดสองสามร้อย!” นั่นคือสิ่งที่เธอคิดตอนแรก ในช่วงแรกที่เปิดร้านมีแค่ชาวต่างชาติที่พอจะคุ้นเคยกับเบียร์คราฟต์เป็นลูกค้า แต่กับตลาดในท้องถิ่นเมืองคอน การทำให้ทุกคนเข้าใจคงไม่ต่างจากเข็นครกขึ้นภูเขา

หากนั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคใหญ่ วัด ดา เอล เดินหน้าต่อไปทีละก้าว…เน้นจัดอีเวนท์เพื่อเปิดตลาด เปิดโอกาสให้ใครที่ยังไม่รู้จักได้เข้ามาลอง มาชิม สร้างนักดื่มใหม่ๆ ให้ทุกคนเข้าใจว่าทำไมเบียร์คราฟต์ถึงแตกต่างจากเบียร์ที่เราคุ้นเคยกัน

ทุกอย่างดูเหมือนไปได้ดีถ้าไม่มีโควิด เพิ่งเปิดตัวไม่ทันไรวิกฤตนี้ก็เดินทางมาทักทายเมืองไทยและส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรวมตัวของคนหมู่มากที่โดนก่อนใครเพื่อนก็คือ ผับ บาร์ ร้านอาหาร

ช่วงไหนมาตรการรัฐผ่อนปรน เขาต้องรีบระบายเบียร์ เทขายเหมือนเททิ้งเพื่อดึงทุนคืน แต่สถานการณ์ก็แย่ลงมากกว่าเดิมเมื่อรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ประเทศยาวนานถึงสามเดือน เงินหลายแสนที่ลงทุนหายวับไปกับตา ธุรกิจแทบล้ม เรายังจำได้ที่เขาบอกว่า “มันเกือบเจ๊งเลย”

What Da Ale

ล้มแล้วลุกขึ้นได้ไม่พอ
แต่ต้องออกวิ่งสุดแรง

หลายธุรกิจที่ยืนได้หลังโควิดมักไม่ค่อยกล้าทุ่มสุดตัวอีกต่อไป ถ้าจะก้าวก็ต้องค่อยๆ ก้าวอย่างระมัดระวัง เพราะวิกฤตนี้ทำเอาเจ็บหนักกันทุกราย แต่บอยกลับคิดต่าง เขาไม่ได้ค่อยๆ ก้าวเหมือนคนอื่น แต่เขาออกแรงวิ่งเต็มกำลัง ขยายวัด ดา เอล สู่บาร์คราฟต์เต็มรูปแบบที่ไม่ได้มีเพียงเบียร์เท่านั้น หากยังมีตัวเลือกอื่นๆ ของนักดื่มอย่างสุรา ไวน์ ค็อกเทล ตามด้วยไลน์อาหารแบบจัดเต็ม

ฝันของเขายังคงอยู่ แต่โลกจริงในธุรกิจก็ทำให้เขาไม่ประมาท การเดินตามฝันโดยไม่เข้าใจโลกจริงเลยคือสิ่งที่บอยย้ำว่า…อย่าทำ “เป็นสิ่งที่เราชอบก็จริง แต่ตัวเลขมันต้องไปได้ด้วย ต้องควบคู่กันไป ตัวเลขได้ มาร์จิ้นต้องมี”

วิธีคิดของบอยเรียบง่ายมาก เมื่อเขาเป็นนักดื่ม พอมีอะไรใหม่ๆ ก็ไปลอง ลองแล้วดี ก็นำสิ่งนี้มาบอกต่อลูกค้า สร้างการรับรู้ด้วยการให้ชิมฟรี บอยเชื่อว่าเบียร์คือประสบการณ์ ยิ่งสำหรับคราฟต์เบียร์ที่ไม่ต่างจากงานศิลปะ การเปิดให้ลูกค้าได้ลองอะไรใหม่ๆ จะช่วยสร้างความเข้าใจได้มากขึ้น

What Da Ale

นี่คือสูตรข้อแรก ข้อสองคือสร้างความหลากหลายในโพรดักส์ ทุกวันนี้ วัด ดา เอล มีเบียร์แท็ปให้เลือกมากถึง 22 แท็ป เรียกว่ามากที่สุดในนครศรีธรรมราช และอาจเป็นที่สุดในภาคใต้เลยด้วยซ้ำ ในบรรดาแท็ปเหล่านี้ ก็มีซีเล็กชั่นให้เลือกตั้งแต่เบียร์แมสยันเบียร์คราฟต์ที่เป็นแรร์ไอเท็ม ไม่นับค็อกเทล สุราชุมชน ไวน์ และอื่นใด ด้วยเหตุผลแค่ว่า “ลูกค้าต้องมาจบที่เรา”

What Da Ale

เครดิตภาพ: What Da Ale

ข้อสาม คือการลงทุนกับคนหรือแมนพาวเวอร์ เมื่อวัด ดา เอล วางโพสิชันตัวเองว่าไม่ใช่ที่นั่งกินเหล้า แต่คือเซฟโซนของทุกคน เป็นที่พบปะสังสรรค์พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องคราฟต์เบียร์หรืออะไรก็ตาม บอยจำเป็นต้องลงทุนเฟ้นหาพนักงานที่มีสกิล ทักษะ และเข้าใจความคราฟต์เป็นอย่างดี คนไหนมีแววก็ส่งไปลงคอร์สเติมความรู้ หรือจัดหาคนมาทำเทรนนิ่งให้เด็กในร้าน

What Da Ale

เครดิตภาพ: What Da Ale

บอยสรุปกับเราว่า คราฟต์เบียร์คือจุดแข็งของวัด ดา เอล “เพราะเป็นสินค้าที่เรามีมากที่สุดในภาคใต้ การเลือกเบียร์แต่ละตัวเข้าร้าน เราต้องเลือกให้มันหลากหลายที่สุด และต้องอยู่กับความจริงว่ามันมีเบียร์แมสและเบียร์คราฟต์ เราก็ต้องเอามาไว้ในร้านเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า”

ที่ผ่านมา ถึงบาดเจ็บจากธุรกิจ แต่เมื่อมีจังหวะก็ต้องลุกขึ้นให้ได้ และบอยกำลังพิสูจน์ให้เราเห็น

What Da Ale

What Da Ale

คราฟต์เบียร์เมืองไทย
ต้องได้ไปต่อ

“ตอนนี้วงการคราฟต์เบียร์บ้านเราสนุกมากนะ คนไทยมีฝีมือมาก รสชาติพัฒนาขึ้นเยอะกว่าเมื่อก่อน มีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาตลอด ผมว่าถ้ามีการแก้กฎหมายให้ทันสมัยและเข้าใจธุรกิจ วงการคราฟต์เบียร์ไทยจะดีมาก” ยิ่งกว่านั้น ทุกวันนี้สังคมของคนคราฟต์เบียร์ยังเป็นสังคมของการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเบียร์ใหม่ๆ กันอยู่ตลอด

What Da Ale

“ถามว่าคนทำคราฟต์เบียร์ทุกวันนี้ เขาไปได้ด้วยความชอบและมันเป็นศิลปะมันไม่ได้ไปแย่งตลาดเจ้าใหญ่ๆ เลย มีแค่ 1% เองมั้ง ไม่ได้กระทบอะไรกับรายใหญ่เลย คนตัวเล็กตัวน้อยทำกันทั้งนั้น มันเป็นธุรกิจที่สร้างความครีเอทีฟให้เกิดในตลาด”

บอยมองว่าไม่มีธุรกิจไหนที่ราบรื่น เขาเองก็เช่นกัน กว่าจะเดินมาถึงวันนี้จนสยายปีกกว้างขวางในภาคใต้ได้ ก็เจ็บตัวมานับครั้งไม่ถ้วน จนต้องถอยออกมาแล้วปรับมุมมองของตัวเองใหม่ เปลี่ยนความชอบให้เป็นธุรกิจ สวมโมเดลทางการตลาดเข้าไป อ่านพฤติกรรมผู้บริโภคให้เป็น

What Da Ale

ฝันใหญ่ของเขาไม่ใช่แค่ว่าวันหนึ่ง วัด ดา เอลจะมีโรงเบียร์ของตัวเอง แต่ไกลกว่านั้นเขาอยากเห็นเบียร์นครศรีธรรมราช เบียร์คีรีวง หรือใดๆ ก็ตามที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด และเบียร์กลายเป็นสินค้าที่ระลึกทุกคนมาแล้วต้องซื้อ เกิดการจ้างงานและเศรษฐกิจหมุนเวียนในท้องถิ่น

เขาเชื่อว่ามันเป็นไปได้…

7 เคล็ดวิชาธุรกิจบาร์ของ What Da Ale

  • 1.จัดอีเวนท์เปิดตลาด สร้างการรับรู้ให้คนเข้าใจคราฟต์เบียร์มากขึ้น
  • 2.สร้างทางเลือกที่หลากหลายให้ลูกค้า
  • 3.ชิมฟรี…มีชัยไปกว่าครึ่ง
  • 4.ทำธุรกิจเพื่อคนทั่วไป ไม่ใช่แค่เพื่อน
  • 5.ลงทุนกับ “คน” จัดเทรนนิ่งให้ความรู้เมื่อมีโอกาส
  • 6.ใส่ใจในทุกรายละเอียดให้มากที่สุด
  • 7.มีส่วนร่วมในการสนับสนุนวงจรเบียร์คราฟต์ในไทยให้เติบโต
Tags: