- ในช่วงปีที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ากระแส ‘Sober Curious’ หรือ ‘Mindful Drinking’ เริ่มกลับมาได้รับความสนใจในประเทศไทยมากขึ้น เพราะแนวทางของผู้บริโภคจำนวนมากกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางของการเลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ หรือที่เราเรียกกันว่าการเลือกดื่มอย่างชาญฉลาด ‘Sober’ จึงเป็น ‘เครื่องดื่มทางเลือก’ ที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
- Skal Sober Bar เกิดขึ้นจากความใส่ใจของพี่โอ๊ค – กรณัฏฐ และพี่วี – วีรี ยมจินดา ทั้งสองบอกเราว่าเลือกทำตรงนี้เพราะเริ่มกลับมาให้สำคัญกับสุขภาพ และอยากให้คนมีตัวเลือกใหม่ๆ บ้างในวัฒนธรรมการดื่มกิน
เราเชื่อว่าช่วงชีวิตหนึ่งใครหลายคนอาจเคยทิ้งเรื่องราวบางอย่างไว้ ณ สถานที่แห่งหนึ่งยามค่ำคืน แต่เมื่อลองนึกย้อนกลับไป สิ่งที่หลงเหลืออยู่ในผนังของความทรงจำกลับไม่ใช่รสขมของเครื่องดื่มมึนเมา หากแต่เป็นผู้คน เรื่องราว เสียงหัวเราะ คราบน้ำตา และบรรยากาศที่เกิดขึ้นในวงสนทนาต่างหาก ที่ยังคงแจ่มชัด
ชายผู้อยู่หลังเคาน์เตอร์บาร์ในค่ำคืนนี้เองก็คงคิดเช่นนั้น ประโยคบอกเล่าถูกติดไว้มุมหนึ่งของร้าน ใจความว่า 'I don't use alcohol to be happy 'cos life is far better without hangovers' ทำให้เรารับรู้ถึงความตั้งใจและเจตนารมณ์ของที่แห่งนี้ตั้งแต่เริ่มแรกเมื่อเดินเข้ามา
คำถาม…
ทำไมคนเราต้องเอ็นจอยชีวิตด้วยแอลกอฮอล์? พี่โอ๊คเริ่มบทสนทนาด้วยการย้อนเล่าถึงความช่างสงสัยของเจ้าตัว
คำถามนี้แวบเข้ามาในหัวของพี่โอ๊คช่วงที่เขาอาศัยอยู่สวีเดน พฤติกรรมของผู้คนแถบนั้นทำให้เขาได้กลับมาทบทวนบางอย่างกับตัวเอง mood and tone ของการชนแก้วหรือการ Skal ที่เขาได้พบเห็นดูจะแตกต่างไปจากบ้านเรา ทุกคนสามารถมีความสุขได้โดยปราศจากแอลกอฮอล์ พี่โอ๊คพูดต่อว่า “วันนั้นมันทำให้เราเกิดความเข้าใจมากขึ้นว่า สิ่งที่เชื่อมคนเข้าหากันไม่ใช่กาแฟ ไม่ใช่แอลกอฮอล์ บทสนทนาที่พ่วงมาด้วยเรื่องราวต่างหากเป็นตัวเชื่อมสำคัญ”
คำตอบ…
ดูเหมือนความเข้าใจของพี่โอ๊คในวันนั้นได้กลายเป็นตัวตั้งตัวตีสำคัญของการมองให้ลึกลงไปถึงปัญหาของคนกลุ่มที่ไม่ดื่มทั้งกาแฟและแอลกอฮอล์ ยิ่งเห็นว่าตัวเลือกในมือของพวกเขาดูจะมีอยู่เพียงน้อยนิด
เมื่อคนไม่ดื่มไปแฮงเอาท์เพราะอยากซึมซับบรรยากาศสถานที่ อยากไปพุดคุยแลกเปลี่ยนสารทุกข์สุขดิบกับเพื่อนฝูง แล้วด้วยเหตุผลอะไรพวกเขาเหล่านั้นจึงไม่ได้รับประสบการณ์ดีๆ ผ่านเครื่องดื่มได้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
….เราแลกเปลี่ยนความคิดกันในเรื่องนี้ระหว่างการพูดคุย
ตามมาด้วยอีกหนึ่งคำถามสำคัญว่า ทำไมเครื่องดื่ม non -alcohol ส่วนมากมักเน้นหนักไปทางน้ำหวาน ทำไมถึงมาโซนที่เหมือนแอลกอฮอล์หรือไวน์ไม่ได้ ไม่นานข้อสงสัยที่เคยวกวนอยู่ในหัวก็ถูกกลั่นกรองลงสู่แก้วเป็นโซเบอร์ดริงค์หลากรสชาติให้เราได้ลองชิม เหมือนเขากำลังยืนยันกับเราว่าจริงๆ แล้วมันสามารถทำได้นะ…
ไม่ใช่มิกโซ แต่เป็น ‘มั่วโซโลจิสต์’
การเริ่มต้นมันยากเสมอ ยิ่งถ้าเรากำลังเลือกทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย การจะทำให้คนเปิดใจยอมรับนั้นอาจต้องใช้ระยะเวลา แต่หากเราเชื่อในสิ่งที่เรากำลังทำมากพอ วันหนึ่งคนอื่นเห็นและสัมผัสได้เอง เหมือนกับที่พี่โอ๊คและพี่วีตัดสินใจทำ ‘บาร์ทิพย์’ แห่งนี้
ก่อนหน้าที่จะมาทำร้านนี้ เขาเคยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์เครื่องดื่มแบรนด์ดังหลายๆ แบรนด์ในไทย ช่วยพัฒนาโปรดักส์ ออกแบบเมนู ปรับสูตร คิดสูตรต่างๆ เป็นเหมือนนักพัฒนาที่สั่งสมประสบการณ์มามากพอควร พอถึงวันหนึ่ง เขาก็รู้สึกอยากออกมาหาความยูนีคให้ตัวเอง เลยเริ่มศึกษาวัฒนธรรม Sober Curious และทำพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นเหมือน Testing Room เล็กๆ เป็นฟู้ดอาร์ติสต์คอยครีเอทเครื่องดื่มให้ทุกคนที่เข้ามา และไม่อยากตีกรอบตัวเองด้วยคำว่ามิกโซโลจิสต์
“เวลาใครเรียกพี่ มิกโซโลจิสต์ พี่จะบอกเค้าเลยว่าเรามันก็แค่ ‘มั่วโซโลจิสต์’ คนหนึ่ง เพียงแต่ต้องมั่วให้เป็น…” ถ้าจะพูดให้เห็นภาพพี่โอ๊คก็คงเป็นอาร์ติสท์ที่อยากมีลายเซ็นลงบนรูปภาพของตัวเอง
ไวน์ทิพย์ดีๆ ที่ไม่มีเมา
เครื่องดื่ม Non-alcohol ของทางร้านเกิดขึ้นภายใต้แนวคิดว่า…สุดท้ายแล้วมนุษย์ล้วนเป็นสัตว์สังคม Socialization จึงเป็นตัวแปรสำคัญให้พี่โอ๊คเลือกทำ ‘ไวน์ทิพย์’ ขึ้น
ไวน์ทิพย์เป็นเครื่องดื่มที่ไม่ได้ตั้งต้นจากองุ่น แต่เกิดจากครีเอทของเขา “คนดื่มไวน์ชอบนั่งพูดคุย คนดื่มไวน์ไม่กระดก แต่คนดื่มไวน์ค่อยๆ จิบดื่มด่ำไปกับมัน เราเลยเล่นกับพฤติกรรมของคน เราอยากให้คนมาที่นี่ได้ดื่มพร้อมกับได้พูดคุยกันอย่างรู้เรื่อง เพราะมันไม่มีแอลกอฮอล์ มันเลย Full Memory”
เขาอยากให้สังคมแห่งการสังสรรค์สามารถเกิดได้ทุกที่ ทุกเพศ ทุกวัย อยากส่งต่อ Vibe ให้ทุกคนสามารถจับต้องได้ ไม่ต้องนั่งเบื่อๆ อยู่บ้าน
โซเบอร์ดริงค์ของที่นี่ไม่ได้ขายเรื่องราว แต่ละตัวอัดแน่นไปด้วยความรู้เรื่องรสชาติ ความเข้าใจวัตถุดิบ รวมถึงความใส่ใจ
เปรียบได้กับงานศิลปะที่คนทำประณีตบรรจงในทุกขั้นตอน รส กลิ่น และสัมผัสถูกปรุงแต่งให้คนดื่มรู้สึกคล้ายคลึงกับ Vibe ของแอลกอฮอล์ หากเรา ‘เปิดใจ’ ให้กับโซเบอร์ดริงค์เราจะเข้าใจได้ว่าสิ่งที่เรากำลังดื่มด่ำอยู่นั้นคืออะไร?
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนเหมือนไวน์หรือไม่เหมือนไวน์? คำถามนี้ พี่โอ๊คต้องคอยตอบอยู่บ่อยครั้ง
“ คือเอาจริงๆ เขาต้องเข้าใจพี่ก่อนว่า พี่ไม่ได้ทำเครื่องดื่มพวกนี้มาให้คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ พี่ทำให้คนที่ไม่ดื่ม บางคนไม่เคยดื่มตั้งแต่แรก ไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าแอลกอฮอล์เป็นยังไง เรากำลังทำให้เขารู้สึกว่า Vibe ของการดื่มแอลกอฮอล์ มันเป็นแบบนี้นะ” เอาเข้าจริงเรารู้สึกว่าความพิเศษและเสน่ห์ของโซเบอร์ดริงค์อยู่ที่ความซับซ้อนของรสชาติมากกว่า
ส่งต่อ space ผ่าน product
“เราอาจยังไม่สามารถครีเอทสเปซใหญ่ๆ ได้ แต่พี่เชื่อว่า ‘สเปซ’ มันสามารถส่งผ่านไปในรูปแบบของโปรดักส์ได้ ให้คนรู้สึกว่าได้พบกัน เจอกัน นั่งพูดคุยดื่มไวน์ เอ็นจอย ผ่านโปรดักส์ของเรา” แม้ตอนนี้สิ่งที่พี่โอ๊คกำลังทำจะเป็นเพียงจุดเล็กๆ จุดหนึ่งบนผืนผ้าใบ แต่ถ้าจุดเล็กๆ นี้ไม่ได้ถูกลงแรงสักครั้ง ภาพวาดจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย
Sober Curious เป็นวัฒนธรรมทางเลือกที่จะทำให้เราได้ดื่มอย่างสบายใจ เพราะถ้า Vibe มันได้ ก็เมาทิพย์ได้ รวมๆ แล้วมันเหมือนกับบาร์ทิพย์ ค็อกเทลทิพย์ ไวน์ทิพย์ เมาทิพย์ ไม่ต้องมองซับซ้อนเกินไป แค่สนุกและดื่มด่ำไปกับมันก็พอ เหมือนที่ Skal Sober Bar วางแก่นของตัวเองไว้แบบนั้น…
Skal Sorber Bar
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์, วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 14.00-20.30 น.
ที่อยู่ : ซอยรามคำแหง 112 หมู่บ้านสัมมากร ซอย 20
เบอร์ติดต่อ : 09-8542-6552
ข้อมูลเพิ่มเติม
IG : skalsoberbar.bkk