LOST IN PARADISE
อ่านความคิด Benzilla ผ่านเอเลียนสามตาชวนคิดสิ่งที่เห็นอาจไม่จริง สิ่งที่จริงอาจไม่มี
- เบนซ์ – ปริญญา ศิริสินสุข หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ Benzilla ศิลปินไทยที่กำลังมาแรงในวงการสตรีตอาร์ต ด้วยสไตล์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งสีสันที่สดใส และการใช้คาแรกเตอร์เอเลียนสามตาสุดโด่งดังอย่าง LOOOK ในการถ่ายทอดมุมมอง
- LOST IN PARADISE คือนิทรรศการเดี่ยวครั้งใหม่ของเขา ที่จะพาไปสำรวจดินแดนชวนฝันในอุดมคติที่สวยงาม พร้อมชวนให้ย้อนกลับมาฉุกคิดว่า ‘สิ่งที่เห็นอาจจะไม่จริง สิ่งที่จริงอาจจะไม่มี?’ เพื่อไม่ให้หลงลืมสิ่งที่ต้องการอันแท้จริงเพียงเพราะถูกมายาชักจูง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า โลกมายาคติอาจกำลังขโมยตัวตนของใครบางคนไปโดยปราศจากการบังคับขืนใจ เมื่อเราอยู่ในโลกที่กำลังสับสนวุ่นวาย BENZILLA หรือ เบนซ์ - ปริญญา ศิริสินสุข เลยอยากชวนทุกคนมาตั้งคำถามกับตัวเอง เพื่อไม่ให้หลงลืมความต้องการแท้จริงของตัวเราเพียงเพราะถูกกระแสสังคมชักจูง โดยถ่ายทอดแนวคิดผ่านนิทรรศการ LOST IN PARADISE ในครั้งนี้
เราเลยชวนเบนซ์มาพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดก่อนเข้าไปชมผลงานด้านใน ว่าแล้วก็…ไปรู้จัก BENZILLA และ LOOOK ให้มากขึ้นผ่านคำตอบของเขากัน
เล่าจุดเริ่มต้นการเป็นศิลปินให้ฟังหน่อย
ผมเป็นเด็กคนนึงที่ชอบวาดการ์ตูน สมัยเรียนเราก็จะแอบวาดการ์ตูนในสมุดเต็มไปหมดเหมือนเด็กเนิร์ดแหละ คงเพราะโตมากับเกมการ์ตูนญี่ปุ่นด้วย เราเลยชอบสีสันที่มันฉูดฉาดสดใสเป็นพิเศษ งานเรามีกลิ่นอายของป๊อปอาร์ตค่อนข้างชัด เป็นโทนสีที่เรามั่นใจด้วยแหละ
ส่วนคาแรกเตอร์ LOOOK ก็มาจากความชอบของเรา คือ เราชอบเส้นวงกลมวงรี ชอบที่มันดูน่ารักกลมๆ เลยวาดออกมาเป็นตัวนี้ เพราะมีกลมๆ เยอะ
ทำไม LOOOK ถึงเป็นเจ้าเอเลียนสามตา
เพราะเราเชื่อเรื่องทฤษฎีสมคบคิด เรื่อง ‘EYE OF WISDOM’ ดวงตาที่รู้แจ้งอะไรแบบนี้ ก็เลยมองว่าตาที่สามหมายถึง มันยังมีสิ่งที่เราไม่รู้หรือมองเห็นอยู่บนโลกใบนี้ เป็นดวงตาที่เราพยายามจะตั้งคำถามกับเรื่องพวกนั้น
คาแรกเตอร์ LOOOK มีความเป็น BENZILLA ยังไงบ้าง
คือ LOOOK ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ เรารู้สึกว่ามันเหมาะกับนิสัยเรา อย่างที่บอกว่าตั้งแต่เด็กๆ เราก็ไม่ค่อยเข้าพวกกับใครเท่าไหร่ แนวเพลงที่ฟัง กิจกรรมที่ชอบทำ ไม่ค่อยเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ เพราะงั้น LOOOK ก็เลยดูเป็นอะไรที่ไม่เข้าพวกกับใคร แต่ก็พร้อมที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมรอบๆ ตัว จะเหมือนเด็กที่อินโนเซนต์หน่อย ตาจะแบ๊วๆ ดูไร้เดียงสา ใช้ชีวิตเหมือนเด็กใสๆ คนนึง
ตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้คาแรกเตอร์ LOOOK เปลี่ยนแปลงหรือเติบโตไปยังไงบ้าง
จริงๆ คือค่อยๆ เด็กลงนะ ตัวค่อยๆ หดลงๆ แรกสุดเมื่อ 10 ปีก่อนจะมีเขี้ยวด้วย จะออกแนวดาร์กกว่านี้ เพราะเราชอบวาดรูปดาร์กๆ ฟังเพลงมันๆ แต่มันมีจุดเปลี่ยนนะ พอเวลาผ่านไป เรามีลูกสาว เลยอยากจะทำอะไรซอฟต์ๆ บ้าง เลยค่อยๆ เปลี่ยน งานก็เลย tone down ไปด้วย ดูสบายๆ ขึ้น
เห็นเคยบอกว่างานจะเน้นสื่อสารมากกว่าตัดสิน เป็นเหตุผลที่ LOOOK ไม่มีปากด้วยหรือเปล่า
ใช่ๆ เราคิดแบบนั้น LOOOK เลยเป็นเหมือนผู้เฝ้ามอง จะไม่มีปากแต่มีตาไว้มองสิ่งรอบตัวว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วถ่ายทอดออกมาโดยไม่วิจารณ์ ไม่ตัดสินอะไร
แล้วจุดเริ่มต้นคอนเซปต์งานในครั้งนี้ล่ะ
มันเป็นเรื่องที่เราคิดมานานแล้วแหละ พออยู่ในยุคโซเชียลมีเดียแบบนี้ เราจะรู้ได้ไงว่าสิ่งที่เราเห็นมันจริง บางคนในไอจีมีชีวิตแบบนึง ชีวิตจริงเขาอาจจะมีชีวิตอีกแบบนึงก็ได้ คือสิ่งที่เราเห็นบนออนไลน์ มันบอกไม่ได้เลยว่าอะไรจริงหรือไม่จริง ก็เลยได้มาเป็นคอนเซปต์ LOSE IN PARADISE
ถ้าอย่างงั้นมองว่าความพอดี หรือความสุขที่แท้จริงของเราอยู่ที่อะไร
เป็นคำถามที่ดี (หัวเราะ) เราคิดว่าเป็นความสงบสุขนะ เราคุยกันในครอบครัวเยอะว่าปัจจัยภายนอกมันก็ดีแหละ ทำให้เราสะดวกสบายขึ้น แต่เราว่าเราต้องการสงบสุข คือจะไม่ได้คาดหวังความสุขที่มันเกินตัว แค่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองชอบแล้วไม่เดือดร้อนใคร
อย่างทุกวันนี้ความสุขของเราเหมือนตอนเป็นเด็กเลยนะ เล่นเกม อ่านการ์ตูน แล้วก็วาดรูป เลยคิดว่าความสุขมันน่าจะอยู่ที่ว่า…เราต้องหาให้เจอว่า เราพอใจกับอะไร
ทำไมถึงแทน ‘มายาคติ’ ด้วยลูกโป่ง
เรามองว่าความอยากได้อยากมี มันก็เหมือนลมที่พัดไปพัดมา จับไม่ได้ มองไม่เห็น พอลมพวกนี้เข้าไปอยู่ในลูกโป่ง วันนึงที่มันมีมากเกินไป ลูกโป่งก็จะแตก
จริงๆ ตอนเราคิดเรื่องลูกโป่งแตก เราไปฟังสัมภาษณ์พระที่ทิเบต แล้วเห็นกิจกรรมที่เขาทำกันคือเดินจงกรม พอเดินไปสักพัก เขาก็จะสั่นกระดิ่งให้ทุกคนอยู่นิ่งๆ เพื่อได้สติ เลยมองว่าวินาทีที่ลูกโป่งแตกคงเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้สติกลับมา
แล้วคิดว่าเงินซื้อความสุขได้ไหม
อาจจะได้แค่ผิวเผิน เพราะความสุขบางอย่างเงินก็ซื้อไม่ได้อยู่ดี ขนาดบางทีเราซื้อของที่เราอยากได้ อยากกิน มันยังสุขแค่แป๊บเดียวเลย
เคยไหลไปกับกระแสสังคมมากๆ จนหลงลืมความเป็นตัวเองบ้างหรือเปล่า
ก็มีบ้างนะ แต่เราจะไม่ค่อยเป็นอย่างนั้น เพราะอย่างที่บอกว่า เรามักจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอก ไม่ค่อยชอบอะไรเหมือนใคร บางทีกระแสไหนมา เราก็มีลองบ้างแต่อาจจะไม่ได้อินจัด จะค่อนข้างรู้จักตัวเองประมาณนึงว่า ความชอบ ความสุขของเราจริงๆ คืออะไร
นิทรรศการครั้งนี้มีความพิเศษยังไงบ้าง
มันจะมีห้องสีฟ้าด้านใน เราใช้เทคนิคที่เราไม่เคยทำ จะใช้เป็นสีชอล์กวาด แทนความรู้สึกอินโนเซนต์ของเด็กที่เวลาคิดอะไร เขาจะมีความเป็นอิสระ วัยเด็กเลยดูเป็นวัยที่มีความสุขได้ง่าย แล้วตรงรูปลูกโป่งมีเชือกจริงๆ ให้ลองจับด้วยนะ เพราะเราอยากให้คนได้ใกล้ชิดงานศิลปะมากขึ้น ลองไปเล่นดู
จนถึงวันนี้มองว่าประสบความสำเร็จหรือยัง
สำหรับเรานะ เรารู้สึกว่ามันประสบความสำเร็จตั้งแต่เรารู้ว่าเราชอบอะไร แล้ว รู้ตัวเองว่าเรากำลังทำอะไร อย่ารอให้ใครมาบอกว่านายสำเร็จหรือยังไม่สำเร็จ เพราะความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วมันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับการที่เราได้รู้จักตัวเองเลย
ถ้ารู้จักตัวเอง เจอเส้นทางของตัวเอง ก็เจอความสุขอ่ะ
การทำงานศิลปะมันเติมเต็มความสุขให้เรายังไงบ้าง
มันทำให้เราได้เห็นสิ่งที่เราคิดอยู่ในหัวออกมาเป็นรูปเป็นร่าง อย่างตอนเด็กเวลาเรารอซื้อเกมภาคใหม่ ก็จะคาดหวังให้ออกมาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตอนนั้นเราคิดแทนเลยว่า ถ้าเราเป็นอาร์ตไดเรกเตอร์ เราจะทำแบบไหน แล้วพอเราวาดรูปได้ กำหนดทุกอย่างได้เอง ทุกอย่างเลยออกมาตามที่เราอยากได้ เวลาได้เห็นมันก็มีความสุข
แชร์หน่อยว่าเรามีวิธีค้นหาตัวเองยังไงในโลกที่มันหมุนเร็วมากอย่างทุกวันนี้
การกลับมาคุยกับตัวเองเยอะๆ ช่วยได้มากเหมือนกันนะ เราเองก็พยายามเตือนสติตัวเองว่า เราจะไม่หลงไปกับความอีรุงตุงนังของโลกใบนี้ยังไง ลองปรับจังหวะชีวิตให้ช้าลง แล้วหันมาชื่นชมในสิ่งที่ตัวเองเป็น สิ่งที่ตัวเองมี ที่สำคัญต้องไม่ลืมให้กำลังใจตัวเองเยอะๆ (ยิ้ม)
ขอยืนยันอีกเสียงว่า งานนี้แฟนคลับ LOOOK ไม่ควรพลาดเลยล่ะ เพราะนอกจากความน่ารักสดใสที่เราจะได้ชมตลอดทางเดินแล้ว ด้านในห้องนิทรรศการสีส้มยังมีภาพวาดอีกมากมายที่เบนซ์ทดลองวาดเพื่อฝึกมือแปะเอาไว้ เราว่าโซนนี้เป็นห้องที่ถ่ายทอดเรื่องราวความฝันและความพยายามของศิลปินคนหนึ่งเอาไว้ได้ดีเลยทีเดียว
ติดตามผลงานศิลปินได้ทาง INSTAGRAM : benzilla__
นิทรรศการ Lost in Paradise
สถานที่จัดแสดง : RCB Galleria 1 ชั้น 2 River City Bangkok
ระยะเวลาจัดแสดง : วันนี้ – 25 มิถุนายน 2566