About
FLAVOR

‘พิซซ่าทอด’ ตำรับเนเปิลส์

สาวกพิซซ่าต้องลอง! ‘พิซซ่าทอด’ ตำรับเนเปิลส์ ร้าน Antito ที่เดียวในกรุงเทพฯ

เรื่อง Nid Peacock ภาพ อรุโณทัย พุทธรักษา Date 25-03-2022 | View 2166
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • เชฟอเมริโก ติโต เซสทิ เชฟมิชลิน 1 ดาว 5 ปีซ้อน (ปี 2018-2022) สมัยอยู่ห้องอาหารฝรั่งเศส Jaime by Jean-Micheal Lorain ที่โรงแรมยูสาทร
  • Antito เป็นห้องอาหารอิตาเลียนและบาร์ บนชั้น 14 โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ ได้ไอเดียจากการนำคำว่า Antipasti (ภาษาอิตาเลียน แปลว่า อาหารเรียกน้ำย่อย) มาผสมกับคำว่า Tito ที่เป็นชื่อกลางของเชฟ
  • พิซซ่าทอดเป็นพิซซ่าสไตล์ดั้งเดิมของเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี เชฟอยากให้คนไทยได้รู้จักเมนูนี้จึงนำมาดัดแปลงการนำเสนอในรูปแบบและรสสัมผัสใหม่ แม้เป็นเมนูทอด แต่เป็นการทอดแบบ Deep Fry แล้วค่อยนำไปอบ นอกจากไม่อมน้ำมันแล้วยังทำให้แป้งกรอบนอกนุ่มในอีกด้วย
  • เชฟอเมริโกนำวัตถุดิบที่มีในเมืองไทยมาประยุกต์ใช้ในเมนูอาหารทั้งคาวและหวาน เช่น การนำข้าวเหนียวเขี้ยวงูของบ้านเราไปทำเมนูรีซอตโต

ถึงจะไม่ใช่สาวกพิซซ่า แต่ก็กินพิซซ่ามาหลายรูปแบบ ทั้งแป้งหนานุ่ม แป้งบางกรอบ ขอบชีส ขอบไส้กรอก ขอบพิซซ่าไร้หน้า หรือพิซซ่าไร้ขอบ ก็กินมาหมดแล้ว

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้กิน ‘พิซซ่าทอด’

พิเศษตรงที่เป็นพิซซ่าสไตล์ต้นตำรับจากเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี ซึ่งเราค้นข้อมูลมาทำให้ทราบว่า เมืองนี้คือตำนานที่ให้กำเนิดพิซซ่า และศิลปะการทำพิซซ่าของเมืองเนเปิลส์ยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2017 ว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น พิซซ่าทอดหนึ่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่เราพามากินครั้งนี้ การันตีฝีมือโดยเชฟชาวอิตาเลียน อเมริโก ติโต เซสทิ (Amerigo Tito Sesti) เจ้าของตำแหน่งเชฟมิชลิน 1 ดาว 5 ปีซ้อน

ดีงามสยามประเทศขนาดนี้ จะรอช้าอยู่ไย...

พิซซ่าทอด

Z 1

1…

การเดินทางมาโรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ นั้นสะดวกมาก หากใครไม่อยากขับรถในเมือง สามารถใช้บริการบีทีเอส ลงที่สถานีสุรศักดิ์ มีสกายวอร์กตรงเข้าโรงแรมได้เลย จากนั้นขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 14 ก็ถึงห้องอาหาร Antito

Z 2

 

บรรยากาศของที่นี่สวยสะดุดตาด้วยโทนสีสดใสที่ใช้ตกแต่ง กับงานศิลปะสไตล์ป๊อปอาร์ตของศิลปินดังที่เชฟชื่นชอบอย่าง Keith Haring, Andy Warhol และ Roy Lichtenstein บนผนัง รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์สีสันคัลเลอร์ฟูล ไม่น่าเชื่อว่าช่วยให้รู้สึกคึกคักและมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้เหมือนกันนะ

สำหรับที่นั่งมีหลายมุมให้เลือกตามใจชอบ คอดริงก์จะเลือกโซนบาร์ก็ได้ หรืออยากนั่งกินเป็นกิจจะลักษณะก็เลือกเป็นโต๊ะอาหารที่มีทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ หรือจะเอกเขนกกินบนโซฟาก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าอยากส่วนตั๊วส่วนตัว แนะนำให้จองห้องไพรเวต เรียกว่ามาที่นี่ นั่งชิลล์กันได้ยาวๆ ตั้งแต่จิบดริงก์ยามบ่ายไปจนถึงดินเนอร์มื้อค่ำ ซึ่งแถมวิวกรุงเทพฯ ยามราตรีเป็น Complimentary ด้วยนะ

Z 3

2…

ไม่นานพิซซ่าทอดถาดแรก Pizza Fritta (380 บาท) แบบเทรดิชันนัลก็มาเสิร์ฟ เชฟบอกเราว่า พิซซ่าทอดเป็นเมนูพื้นถิ่นของชาวเมืองเนเปิลส์ แต่เชฟเห็นว่าพิซซ่าทอดสไตล์นี้ยังไม่ค่อยแพร่หลายในเมืองไทย เลยอยากให้คนไทยได้ลองกิน เชฟใช้แป้งสาลีผสมจนเข้าที่ แล้วพักแป้งไว้ให้ขึ้นรูป

เมื่อเป็นพิซซ่าโฮมเมด พิซซ่าทอดของเชฟอเมริโกจึงไม่ได้กลม บ๊อกเท่ากันทุกถาดอย่างที่เราเคยคุ้นกัน

 

Z 6

สัมผัสแรกหลังจากส่งพิซซ่าทอดเข้าปาก ส่วนของแป้งเหนียวนุ่ม ได้รสหวานอมเปรี้ยวจากซอสมะเขือเทศ ผสมกับความเข้มข้นจากชีสบูราต้า ส่วนขอบพิซซ่า ด้านนอกกรอบตามแบบฉบับของทอด แต่เคี้ยวแล้วกลับได้เทกซ์เจอร์ที่นุ่มหนึบของแป้งด้านใน

ที่สำคัญ ‘ไม่อมน้ำมันเลย’ 100%

Z 4

เชฟบอกเคล็ดลับว่า ได้นำพิซซ่าไปทอดแบบ Deep Fry หรือทอดน้ำมันท่วมเหมือนตอนทอดปลาหรือปาท่องโก๋นั่นแหละ แต่น้ำมันต้องมีอุณหภูมิความร้อนที่เหมาะสมด้วยนะ จากนั้นถึงทาซอสมะเขือเทศ หรือทำหน้าพิซซ่ารสชาติที่ต้องการ แล้วค่อยนำไปอบ นอกจากทำให้พิซซ่าทอดไม่อมน้ำมันแล้ว ยังได้ขอบแป้งพิซซ่าที่กรอบนอกนุ่มในอีกด้วย

Z 15

Z 14

ถาดแรกเป็นรสชาติออริจินัล ถาดต่อมา ขออินต่อกับความเป็นอิตาเลียนด้วย พิซซ่าทอดหน้าไส้กรอกอิตาเลียนและผักร็อกเก็ต (390 บาท) ซึ่งเราชอบเป็นพิเศษ ด้วยรสชาติไส้กรอกอิตาเลียนกับพาร์เมซานชีสที่เข้ากันได้ดีเยี่ยม ส่วนถาดสุดท้ายเรารีเควส พิซซ่าทอดหน้าซีฟู้ด (420 บาท) ซึ่งเชฟจัดเต็มมาทั้งกุ้งลายเสือ ปลาหมึก และปลากะพง ซอสมะเขือเทศที่ทาจะออกรสเผ็ดนิดๆ ให้เข้ากับอาหารทะเล

Z 8

3…

ทุกครั้งที่ได้กินอาหารอร่อย ดูเหมือนว่ากระเพาะเราจะขยายขนาดได้โดยอัตโนมัติ เราจึงสามารถต่อด้วย สปาเกตตีซีฟู้ด (380 บาท) เชฟลวกเส้นสปาเกตตี Mancini ให้สุกแบบ Al Dente คือคงความกรุบไว้นิดๆ ผัดกับซอสกระเทียมกับน้ำมันมะกอก ทีเด็ดอยู่ตรงที่เชฟเหยาะน้ำปลาอิตาเลียนที่ทั้งเพิ่มรสชาติและส่งกลิ่นหอมฉุยเตะจมูก

Z 9

ที่สุดจานโปรดของเรา สมกับเป็นหนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่ คือ สันคอหมูตุ๋น (690 บาท) เมนูนี้เชฟบอกว่าเป็นเมนูของชาวอิตาเลียนทางตอนเหนือ สันคอหมูที่หมักด้วยไวน์แดงแล้วตุ๋นต่ออีก 6-7 ชั่วโมง ทำให้เนื้อหมูเปื่อยนุ่มสุดๆ แทบละลายในปากกันเลยทีเดียว ส่วนเครื่องเคียงที่คุ้นตากันอย่างมันบด ก็เนื้อเนียนนุ่มมาก โดยเฉพาะแครอตบด ที่เชฟนำแครอตไปหมักกับส้มก่อน ทำให้ได้ทั้งกลิ่นส้มและรสหวานติดมาด้วย เป็นเครื่องเคียงที่มาช่วยตัดเลี่ยนได้ลงตัวมาก

Z 16

ของคาวจานสุดท้ายที่ถึงอิ่มแค่ไหนก็พลาดไม่ได้ รีซอตโตข้าวเหนียว (610 บาท) เพราะเชฟตั้งใจนำข้าวเหนียวเขี้ยวงูที่คนไทยคุ้นเคยดีมาทำ ซึ่งให้เนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่มกำลังดี ไม่แหยะเละอย่างที่คิด ส่วนรสชาติเชฟปรุงให้จัดจ้านขึ้น โดยนำมันกุ้ง Citrus และพริกแห้งมาผัดกับข้าว กินกับกุ้งลายเสือตัวโต อร่อยเลยล่ะ

Z 10

4…

สำหรับของหวาน เชฟอเมริโกแนะนำ เมอแร็งก์ (320 บาท) เชฟทำเป็นทรงก้นหอยเสิร์ฟกันแบบอุ่นนอกเย็นใน เพราะข้างในซ่อนครีมมาสคาโปน และไอศกรีมเจลาโตโฮมเมดเอาไว้

เมนูนี้สาวๆ อย่ามัวแต่ถ่ายรูปกันนะ ต้องรีบถ่ายรีบเคาะเมอแร็งก์ให้แตกเพื่อได้ลิ้มรสไอศกรีมด้านใน ซึ่งมีไอศกรีมเจลาโตโฮมเมดให้เลือกถึง 8 รสชาติ เราเลือกรสใบแมงลักที่ให้ทั้งกลิ่นและรสเป็นเอกลักษณ์

ตักทุกส่วนกินพร้อมกันในคำเดียว ได้ทั้งรสหวาน กลิ่นหอม ความเย็น และละมุนลิ้น เย็นอร่อยชื่นใจจริงๆ

ลืมอากาศสามวันดีสี่วันฝนของกรุงเทพฯ ไปเลย

Z 17

ส่วนเครื่องดื่ม เราเลือก Lychee Pop เพราะหมายตาเจ้าไอศกรีมแท่งรสลิ้นจี่ที่เสิร์ฟมาด้วยในแก้ว อีกแก้วเป็น Vista ที่อุดมด้วยเหล่าเบอร์รี่ใส่มาในเหยือกใบน้อย ดื่มแล้วช่วยเติมความสดชื่นและดับกระหายได้ดีเลย อ้อ… ถึงในเมนูจะเป็นซิกเนเจอร์ค็อกเทล แต่ทำเป็นม็อกเทลสำหรับผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ได้นะ

Z 12

แม้ฟู้ดดิลิเวอรี่จะมีสารพัดเมนูบริการส่งให้ถึงหน้าบ้าน สะดวกและประหยัดเวลาก็จริง แต่ก็เสิร์ฟรสชาติและบรรยากาศเหมือนที่กินที่ร้านให้ไม่ได้นะ

ห้องอาหารอิตาเลียน Antito
ชั้น 14 โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ
เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.30-23.00 น.
ทุกวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ มีดีเจประจำห้องอาหารตั้งแต่ 18.00-21.00 น.
โทร.0-2210-8100
www.eastingrandsathorn.com

Tags: