![](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2021/05/Cover-76.jpg)
![About](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2021/05/mobile-69.jpg)
การกลับมาของเตาที่หายไป
‘บ้านเตาไห’ ชุมชนลับริมน้ำน่าน กับการกลับมาของเตาที่หายไป
- ในอดีตเมื่อ 600 ปีก่อน บ้านเตาไหเคยเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สำคัญของเมืองพิษณุโลก ปรากฏให้เห็นจากการขุดค้นพบเตาเผาและเครื่องปั้นดินโบราณจำนวนมาก
- ภายหลังบ้านเตาไหมีการฟื้นภูมิปัญญาที่หายไป ด้วยการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนเครื่องปั้นดินเผาบ้านเตาไห และรื้อฟื้นการทำเครื่องปั้นดินเผาอีกครั้ง
- ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนฯ กลายเป็นผู้ผลิตเครื่องปั้นดินเผา และเปิดเวิร์คช็อปให้ผู้สนใจมาลองปั้นและเรียนรู้ทุกกระบวนการด้วยตัวเอง
จะเรียกว่า มุมลับ ชุมชนลับ หรือเรื่องราวลับๆ ของเมืองสองแควก็ได้ ถ้าพูดถึง ‘บ้านเตาไห’ ชุมชนริมแม่น้ำน่านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง จ.พิษณุโลก พื้นที่แห่งนี้มีการค้นพบเตาเผาโบราณและเครื่องปั้นดินเผาอายุ 600 ปี และเคยเป็นชุมชนผลิตเครื่องปั้นดินเผาส่งออกที่สำคัญของเมือง
แต่เมื่อเวลาผ่านไปบ้านเตาไหคงเหลือเพียงแค่ชื่อ ไม่มีเตา และไม่มีเครื่องปั้นดินเผา กระทั่งในปี 2558 ได้มีความพยายามของคนกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นมาฟื้นคืนชีวิตให้สิ่งที่สูญหายไป ภายใต้ชื่อกลุ่ม ‘วิสาหกิจชุมชนเครื่องปั้นดินเผาบ้านเตาไห’ ทำให้ปัจจุบันชุมชนกลับมาเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิปัญญาโบราณ
ตาปะขาวหายกับเตาที่หายไป
ไม่แน่ชัดว่าบ้านเตาไหไม่ปรากฏเตาและไหมาเป็นเวลานานเท่าใด จนถึงปี 2527 ได้มีการขุดค้นแหล่งเครื่องปั้นดินเผาบ้านเตาไห บริเวณด้านหลังวัดตาปะขาวหาย ต.หัวรอ อ.เมือง ได้ค้นพบเตาเผาทรงประทุนขนาดใหญ่ ก่อด้วยอิฐ และพบโบราณวัตถุประเภท ไห ครก ชาม เศษภาชนะดินเผาเนื้อดินและเซรามิก ตกแต่งภาชนะโดยวิธีการกดประทับ ขูดขีด ปั้นติด และมีหูหลอกตกแต่งบริเวณไหล่ภาชนะ
ครั้งนั้นมีการนำเครื่องถ้วยที่ขุดค้นพบไปวิเคราะห์หาอายุสมัยของเตาเผา ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2 วิธี คือ วิธีคาร์บอน-14 กำหนดอายุได้ราว พ.ศ. 1900-60 และวิธีการหาอายุจากสัญญาณสนามแม่เหล็กโลก (Palaeomagnetism) กำหนดอายุได้ราว พ.ศ. 1990 จึงสรุปได้ว่า เตาเผาแห่งนี้น่าจะมีอายุประมาณ 600 ปี หรือสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยตอนปลายถึงกรุงศรีอยุธยาตอนต้น มากไปกว่านั้นยังพบเตาเผาอยู่ใต้พื้นดินบริเวณริมแม่น้ำน่านกว่า 100 เตา จึงเป็นหลักฐานที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า ชุมชนบ้านเตาไหเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาขนาดใหญ่ของเมืองพิษณุโลก
การค้นพบเตาเผาอายุ 600 ปีที่วัดตาปะขาวหายเหมือนเป็นการเปิดโลกโบราณคดีในชุมชน โดยมีการสร้างอาคารถาวรและปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ เพื่ออนุรักษ์ของโบราณอันมีค่าและหวังให้เป็นแหล่งเรียนรู้คู่ชุมชน
แต่หลังจากนั้น เวลาก็ทำให้เตาเผาหายไปจากตาปะขาวหายอีกหน
วันที่บ้านเตาไห มีไหและเตา
เมื่อแหล่งโบราณคดีไม่มีชีวิต ไม่มีคนเล่า นานวันไปก็มีแต่คนลืมเลือน แหล่งเรียนรู้เตาเผาโบราณกลายเป็นแหล่งเรียนร้าง และการค้นพบครั้งสำคัญในวันวานก็ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอีกต่อไป
จนถึงประมาณปี 2558 บ้านเตาไหได้ถูกพูดถึงอีกครั้ง โดยทางมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามมีโครงการเข้าไปศึกษา ฟื้นฟู และผลิตเครื่องปั้นดินเผาบ้านเตาไหขึ้นใหม่ พร้อมถ่ายทอดความรู้ให้คนในชุมชนแบบจริงจังด้วยการตั้ง ‘วิสาหกิจชุมชนเครื่องปั้นดินเผาบ้านเตาไห’ มีการก่อสร้างสถานที่ผลิตและร้านค้าของกลุ่มตัวเอง อยู่ทางด้านหลังวัดตาปะขาวหาย ใกล้กับโบราณสถานเตาเผาโบราณ
![](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2021/05/เตา-3.jpg)
สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ มีประมาณ 20 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุวัยเกษียณ มากสุดอายุ 90 ปี ซึ่งทุกคนไม่มีความรู้เรื่องเครื่องปั้นดินเผามาก่อน ต้องเริ่มต้นจากการเป็นนักศึกษาเฟรชชี่ เรียนรู้ทุกขั้นตอนจากอาจารย์คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สาขาวิชาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเซรามิกส์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมดิน ปั้น เขียนลาย ขัดเก็บรายละเอียด เคลือบสี และกระบวนการเผา จนทุกคนสามารถทำเป็นทุกขั้นตอน ส่วนเรื่องเครื่องมือ อุปกรณ์ แม่พิมพ์ และเตาเผา ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้จัดการให้พร้อมสรรพ และหลังจากถ่ายทอดความรู้จนลูกศิษย์ลงมือทำได้เองแล้ว ก็ยังคอยเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา ไม่ทิ้งไว้ระหว่างทาง
พร้อมกันนั้นยังสร้างความยั่งยืนให้กลุ่มด้วยการพานักศึกษามาเรียนรู้เรื่องเครื่องปั้นดินเผา บวกกับช่วยประชาสัมพันธ์จนมีคนทั่วไปสนใจมาเวิร์คช็อปทำเครื่องปั้นดินเผา และมีออเดอร์เข้ามาให้ทำจำหน่าย ไม่ว่าเป็นไหรูปทรงโบราณ จาน ชาม แก้วกาแฟ แจกัน กระถาง และเครื่องประดับ กลายเป็นรายได้ให้สมาชิก
![](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2021/05/เตา-9-1.jpg)
และที่สำคัญที่สุดคือ ได้สร้างสังคมผู้สูงวัยที่ดีในชุมชน และสร้างความภูมิใจให้คุณปู่ย่าตายายในฐานะผู้พิทักษ์จิตวิญญาณของบ้านเตาไหไม่ให้หายไปจากตาปะขาวหายอีกต่อไป
และคราวนี้ บ้านเตาไหก็กลายเป็นบ้านที่มีเตาและไหแล้วจริงๆ
ร้านค้าและสถานที่เวิร์คช็อปของวิสาหกิจชุมชนเครื่องปั้นดินเผาบ้านเตาไห ตั้งอยู่ด้านหลังวัดตาปะขาวหาย ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
สนใจเรียนทำเครื่องปั้นดินเผา โทร. 08-5873-6655 (จำลอง ธูปเทียน ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ)
Note to know
‘อุ’ คือ ลวดลายบนเครื่องปั้นดินเผาโบราณที่ถูกค้นพบในเตาเผา ทางกลุ่มได้นำลายนี้มาเป็นใช้เป็นโลโก้ของวิสาหกิจชุมชนฯ และยังสร้างเรื่องราวเชื่อมโยงไปยังหลักธรรมในพุทธศาสนา ‘อุ อา กะ สะ’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ คาถาเศรษฐี ได้แก่
อุ มาจากคำว่า อุฏฐานสัมปทา
หมายถึง ขยันหมั่นเพียรในการประกอบสัมมาอาชีพ
อา มาจากคำว่า อารักขสัมปทา
หมายถึง การเก็บรักษาทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบธรรม
กะ มาจากคำว่า กัลยาณมิตตา
หมายถึง การคบหาสมาคมกับคนดี มีคุณธรรม มีน้ำใจ
สะ มาจากคำว่า สมชีวิตา
หมายถึง การใช้จ่ายอย่างประหยัดพอเพียง