

Wooden Soul
‘บังอร’ สานเสน่ห์แฮนดิคราฟต์ไม้สักเพนท์มือสื่อเอกลักษณ์ไทยมัดใจนักเดินทาง
- พามารู้จัก ‘บังอร’ แฮนดิคราฟต์ไม้สักสุดคิวท์ที่เพนต์มือทุกชิ้น จากกระเป๋าผ้าแฮนด์เมดสู่ของฝากโดนใจนักท่องเที่ยว พร้อมเรื่องราวของดูโอสาวเพื่อนรักที่ผันตัวจากงานอดิเรกมาเป็นแบรนด์ที่ได้ใจคนรักงานคราฟต์มากว่า 14 ปี
ถ้าใครเคยไปเดินตลาดงานคราฟต์บ่อยๆ คงต้องคุ้นหูชื่อ ‘บังอร’ แฮนดิคราฟต์ไม้สักจิ๋วขนาดน่ารัก ที่เพนต์มือชิ้นต่อชิ้นแบบละเมียดละไม ทั้งทนทานเหนือกาลเวลา และเป็นของฝากคู่ใจสำหรับนักเดินทางทั่วโลก
จากกระเป๋าผ้าแฮนด์เมด สู่แฮนดิคราฟต์ไม้สัก
บังอร (BangOn) ก่อร่างจากความตั้งใจของสองเพื่อนซี้ นุ่น-พรนิภา บริบูรณ์ และอ๊อฟ-พรทิพย์ ตันทะเสน ที่ตอนแรกตั้งใจให้เป็นพื้นที่สำหรับงานอดิเรก หลบหนีจากงานประจำมาเย็บกระเป๋าแฮนด์เมด จนกระทั่งพบลู่ทางเปลี่ยนจากกระดุกไม้ ที่ทำหน้าที่ประดับตกแต่งบนกระเป๋า สู่การลงมือออกแบบงานไม้ทุกชิ้นใหม่ เปลี่ยนวัสดุจากแค่กระดุกไม้ธรรมดาๆ กลายเป็นสินค้าแฮนดิคราฟต์จากไม้สัก สารพัดของฝากสุดน่ารัก พวงกุญแจ แม่เหล็กติดตู้เย็น ต่างหู เข็มกลัด จนบังอรผันตัวมาเน้นแฮนดิคราฟต์ไม้สักแบบเต็มตัว
จุดที่ทำให้บังอรแตกต่างคือการใช้ไม้สักเป็นวัสดุหลัก เพื่อแก้ไขปัญหาให้ไม่ขึ้นราง่าย สีไม่ซีดจาง มั่นใจได้ว่าอยู่นานเหนือกาลเวลาราว 4-5 ปี แถมสีไม้สักยังเข้มสวยงามตามธรรมชาติ
ผืนผ้าใบขนาดจิ๋ว เพนต์ชิ้นต่อชิ้น
กว่าจะออกมาเป็นชิ้นงานสุดน่ารักขนาดนี้ได้ อันดับแรกคือต้องออกแบบในคอมพิวเตอร์ก่อน จากนั้นส่งไม้ต่อไปยังเครื่องเลเซอร์ เพื่อเปลี่ยนรูปร่างไม้สักขนาดยักษ์เป็นไม้สักขนาดจิ๋วหลิว หลังจากทำความสะอาดก็ถึงเวลาเคลือบเงา ลงสีพื้นสีขาว และขั้นตอนสุดท้ายคือนุ่นกับอ๊อฟจะค่อยๆ บรรจงใช้ พู่กันเพนต์สีลงบนแฮนดิคราฟต์ไม้สักชิ้นต่อชิ้น
หัวใจสำคัญที่มอบชีวิตให้ชิ้นงานไม้สักคือการเพนต์มือ เปลี่ยนสีสันจากไม้สักธรรมชาติ สู่สีสันสดใส ดึงดูดสายตา ยกระดับคุณค่างานแฮนดิคราฟต์ และปัญหาสำคัญที่เราสงสัยคือ ถ้าเพนต์ชิ้นต่อชิ้น แล้วทำยังไงให้มันคงค่าสีเท่ากัน
“ตามปกติพี่ลงพื้นสีขาวก่อน 1 รอบ พอทิ้งไว้ให้แห้งก็เริ่มลงสีตามที่ออกแบบไว้ ลงซ้ำไปซ้ำมาประมาณ 2-3 รอบ เพื่อให้ได้เฉดสีตรงตามที่ออกแบบไว้” นุ่นสาธิตขั้นตอนการลงสีอย่างคล่องแคล่ว แม้จะพยายามควบคุมโทนสีให้เป็นตามที่ออกแบบไว้ แต่เรากลับมองว่า เฉดสีที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย คือหลักฐานความน่ารักของงานแฮนดิคราฟต์ ที่ผลิตออกมาจาก 1 หัวใจกับ 2 มือมนุษย์
สัญลักษณ์แห่งความทรงจำจากกรุงเทพฯ
ปีนี้บังอรครบรอบ 14 ปี ผ่านคอลเลกชันมามากมาย ตั้งแต่ดอกไม้ สัตว์ต่างๆ จนถึงตอนนี้มีหนึ่งในคอลเลกชันขายดีตลอดกาล คือคอลเลกชันอาหารไทย สารพัดของกินคุ้นหน้าคุ้นตา ส้มตำ ต้มยำกุ้ง น้ำถุงโบราณ ข้าวเหนียวมะม่วง และแลนด์มาร์กในกรุงเทพฯ ภูเขาทอง วัดพระแก้ว วัดอรุณฯ เสาชิงช้า หัวลำโพง ทั้งหมดทำหน้าที่เป็นสินค้าที่ระลึกจากประเทศไทย ทั้งสวยงามและมีความหมาย จนกลายเป็นสินค้าขายดีในกลุ่มนักท่องเที่ยว และสำหรับคนที่ต้องการพกพาเสน่ห์เมืองไทยติดตัว
สินค้าของบังอรครอบคลุมของฝากสุดน่ารักหลากหลายประเภท โดยเน้นขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาง่าย มีทั้งพวงกุญแจ ต่างหู เข็มกลัด แม่เหล็กติดตู้เย็น (แม็กเน็ต) นอกจากนี้ บังอรยังมีคอลเลกชันพิเศษคือนก 3 มิติในรูปแบบต่างหู ซึ่งนุ่นกระซิบว่า ชิ้นนี้ทำยากที่สุดเลย ต้องใช้ความพยายามในการลงสีทั้งสองด้าน ประกอบกับต่างหูก็มีขนาดเล็กมาก และการทำห่วงต่างหูก็เพิ่มขึ้นตอนเข้าไปอีก ดังนั้น แฮนดิคราฟต์จากบังอร จึงไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ยังเป็นงานฝีมือที่บรรจุความทรงจำ และสร้างคุณค่าให้งานศิลปะแบบแฮนดิคราฟต์อีกด้วย
ใครชื่นชอบสินค้าแฮนดิคราฟต์แบบไทยๆ ก็ไปติดตามต่อได้ที่ Bangon Shop