About
ART+CULTURE

Cloth Tells

มองวัฒนธรรมภาคใต้ผ่านแฟชั่นกับ ‘Clothear’ แบรนด์สงขลาที่พาผ้าปาเต๊ะลายลิขสิทธิ์ไทยสู่รันเวย์

เรื่อง Sleepy Fieldnotes
Date 27-10-2025 Views 46
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • คุยกับ ‘แบรี่-ธรา พชรวัฒนพาณิชย์’ ดีไซเนอร์และหนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ ‘Clothear (คลอเทียร์)’ ถึงการเปลี่ยนภาพจำผ้าปาเต๊ะให้เป็นแฟชั่นไอเท็ม ที่ไม่ได้แค่ดูดีมีสไตล์ แต่ยังเป็นลายลิขสิทธิ์ไทยผืนแรก ที่ส่งผ่านเรื่องเล่าและวัฒนธรรมภาคใต้สู่สายตาชาวโลก

บางครั้งความสวยงามก็ซ่อนอยู่ในสิ่งที่คุ้นเคย จนเรามักมองข้ามมันไป

แต่ไม่ใช่กับ ‘แบรี่-ธรา พชรวัฒนพาณิชย์’ และ ‘ออทั่ม-ตฤณ วิวัธท์ธาดากร’ เพราะสิ่งคุ้นเคยที่ว่านั้นกลับสะดุดตาพวกเขา! ผ้าที่แม่เฒ่าคาดอก พ่อเฒ่าคาดเอว และเด็กๆ นำมาตีโป่งเล่นกันในน้ำ ถูกหยิบมาเป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่อง ถ่ายทอดเรื่องราว ความทรงจำ และวัฒนธรรมที่มีค่าของทั้งสองในฐานะคนใต้ ผ่าน ‘Clothear (คลอเทียร์)’ แบรนด์เสื้อผ้าที่เปลี่ยนภาพจำผ้า “ปาเต๊ะ” หรือ “บาติก” ให้ทันสมัย เข้าถึงคนรุ่นใหม่ แถมยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำกับลายที่เห็นทั่วไปตามท้องตลาด

มาฟังเรื่องราวการเดินทางของคลอเทียร์จากแบรี่ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นซึ่งเกิดจากความสนใจในวัยเด็กของเขา สู่การค่อยๆ ปั้นแบรนด์ที่ชูความเป็นปักษ์ใต้ในรูปแบบไม่ซ้ำใคร และไม่หยุดทำตามความฝันที่อยากจะเป็นแบรนด์ปาเต๊ะระดับไฮเอนด์

Clothear

THE ROOT OF ALL WONDERS

แบรี่เป็นคนจังหวัดสงขลาที่โตมากับเรื่องเล่าปรัมปราแบบชาวเกาะ เขาอาศัยอยู่ในครอบครัวใหญ่ มีแม่เป็นช่างเย็บผ้า มีคุณตาเป็นนายหนังตะลุง ที่หยิบยื่นวิชาการทำหุ่นและสไตล์การวาดภาพที่มีกลิ่นอายแบบมลายูให้เขา โดยให้แบรี่เรียนรู้ผ่านการลงมือทำด้วยกระดาษลัง

ความสนใจในวัฒนธรรมบ้านเกิดค่อยๆ ซึมซาบเข้าไปในจิตใต้สำนึกของเเบรี่แบบไม่ทันรู้ตัว และเมื่อตัดสินใจว่าจะไม่ทำงานต่อในสายครุศาสตร์ที่เรียนมา เพราะเบื่อหน่ายกับระบบการศึกษาเต็มทน เขาก็จับมือเปิดร้านตัดชุดแฟนซีกับ ‘ออทั่ม’ เพื่อนคนกระบี่จากมหาวิทยาลัยเดียวกันที่ดันมีความสนใจในแฟชั่น การร้อง การเต้น และวัฒนธรรมปักษ์ใต้เหมือนกัน

Clothear

ทุกอย่างไปได้ดี จนกระทั่งโควิด-19 แพร่ระบาด แบรี่เล่าถึงจุดพลิกผันนั้นให้เราฟังว่า “ตอนนั้นเราไม่มีรายได้เลย งานกีฬาสี งานประกวดต่างๆ โดนยกเลิก เลยลองเอาผ้าปาเต๊ะที่ขายอยู่ในตลาดมาทำกางเกงเอวสม็อก พอเห็นคนสนใจก็เริ่มเปลี่ยนแพตเทิร์นไปเรื่อยๆ แล้วรายได้แต่ละเดือนก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมา เราเลยรู้สึกว่า เออ! มันไปต่อได้

ผ้าที่คนสูงอายุเอามานุ่งเป็นกระโจมอกบ้าง ผ้าถุงบ้าง มันมีเอกลักษณ์มาก ทั้งในสีสันและลวดลาย แล้วก็น่าเสียดายที่มันจะถูกใช้แค่ในกลุ่มผู้ใหญ่ของคนใต้ เราเลยเอามาทำเป็นเสื้อผ้าที่คนทั่วไปใส่ได้ วัยรุ่นใส่ได้ แล้วแบรนด์ก็ค่อยๆ บูมขึ้นมา” แบรี่เล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นของคลอเทียร์

Clothear

Clothear

Clothear

Clothear

Clothear

THE DESIGN OF ALL TIMES

ปัจจุบันคลอเทียร์มีหน้าร้านอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และมีทีมดูแลการผลิตอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยออทั่มจะดูแลเรื่องการตลาดเป็นหลัก ส่วนแบรี่ยังคงดูแลเรื่องดีไซน์

งานที่ทางแบรนด์ทำจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ งานดิจิทัลเพนต์แบบวาดในไอแพดสำหรับการผลิตทั่วไป และงานบาติกวาดมือแบบดั้งเดิมสำหรับลูกค้าที่สั่งทำแบบพิเศษ ซึ่งใช้เวลาในการออกแบบถึง 3-4 เดือนต่อ 1 ผืน! โดยแบรี่จะเป็นคนวางคอนเซปต์และไดเรกชันของการออกแบบทั้งหมด มีออทั่มช่วยไกด์อยู่ข้างๆ และมีทีมวาดที่เชี่ยวชาญรับงานไปทำต่อจนเสร็จสมบูรณ์

Clothear

Clothear

ถ้าพูดถึงจุดเด่นของแบรนด์ในวันนี้ ก็ต้องบอกว่า “ลาย” นี่แหละคือสิ่งสำคัญ เพราะแบรี่ Proudly Present ว่า คลอเทียร์คือเจ้าแรกๆ ที่มองเห็นความสวยงามของเรื่องเล่าที่อยู่ในลายมลายูบนผ้าปาเต๊ะ และหยิบมาดีไซน์ให้โดดเด่นยิ่งกว่าเดิม

“เรามีความเชื่อว่า ลายของ ‘ปาเต๊ะ’ หรือ ‘บาติก’ มีหน้าที่เล่าเรื่องราวและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละสถานที่ อย่างที่อินโดนีเซีย เราจะเห็นได้เลยว่าเขามีการผลิตลายออกมาเยอะมาก ไม่ว่าจะดอกไม้ ผลไม้ สัตว์ หรืออะไรก็ตาม แต่ภาคใต้เรายังไม่มีลายของตัวเองเลย เราเลยเริ่มออกแบบลายลิขสิทธิ์ที่สื่อถึงความเป็นภาคใต้ของประเทศไทยอย่างแท้จริง”

Clothear

Clothear

ลายที่แบรี่เพิ่งพูดถึงไปนั้นก็คือลาย ‘สงขลา บ้านเรา (Songkhla Collection)’ ที่นำจุดเด่นของเมืองอย่างนางเงือก เกาะหนูเกาะแมว รูปปั้นพญานาค ฯลฯ มาดีไซน์เป็นลวดลาย จนสื่อต่างๆ เริ่มให้ความสนใจ ทำให้คลอเทียร์กลายเป็นที่นิยมของคนไทยและต่างชาติในไม่ช้า

Clothear

Clothear

แบรี่เปิดภาพลายที่เขาชอบให้เราดูอีก 2-3 ลายด้วยความภูมิใจ ประกอบไปด้วย

‘รวมดาวโจ๊ก (The Jokers Collection)’ ลายดำบนครีม คล้ายหุ่นชักหลังผืนผ้าใบ ที่รวมเอาดาวตลกในหนังตะลุงที่แบรี่ดูตอนเด็กๆ มาเป็นตัวชูโรงหลัก

Clothear

‘เฟื่องฟ้า (The Kimhant Collection 2025)’ ลายที่ดีไซน์มาจากดอกไม้ประจำจังหวัดสงขลา โดยมีสีม่วงและลายเส้นอ่อนช้อยเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพิ่มลูกเล่นด้วยผ้าไหมปักธงชัยและลูกปัดคริสตัล เผยให้เห็นถึงความเป็นสตรีแดนใต้

Clothear

‘ตาพรานบุญ (Pranboon Punnachad Collection)’ ลายที่ได้แรงบันดาลใจจากตัวละครในเรื่องพระสุธน-มโนราห์ เปลี่ยนตัวตลกหน้ากากแดงในวงมโนราห์ ซึ่งเป็นที่นับถือของคนปักษ์ใต้ ให้เป็นองค์ประกอบที่ขลังและน่าเกรงขามบนเสื้อผ้า

Clothear

อย่างที่แบรี่ว่า ทุกชิ้นได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวใกล้ตัวจริง เป็นงานศิลปะที่ใส่ได้จริง แถมยังแฝงไปด้วยเรื่องราวที่อัดแน่นมาในลวดลาย ที่สำคัญคือคลอเทียร์ไม่กลัวที่จะนำสิ่งที่คนบูชาหรือมองว่า “ขลัง” อย่างตาพรานบุญ หรือ หนังตะลุงมาอยู่บนเสื้อผ้า เพราะเชื่อว่าศิลปะย่อมไร้พรมแดน ถ้าเจตนาของแบรนด์คือต้องการจะเชิดชูความงดงามของสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลให้ไม่ทำ แฟชั่นจะได้เป็นสะพานเชื่อมคนรุ่นใหม่เข้ากับวัฒนธรรมไทยด้วย

Clothear

“มันไม่ใช่แค่สิ่งที่เราอยากทำ แต่มันคือสิ่งที่กลั่นออกมาจากจิตวิญญาณ สิ่งที่ได้เรียนรู้ ประสบการณ์ และความเชื่อของเรา” แบรี่สรุปจุดยืนที่ทำให้คลอเทียร์ต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่นำของเก่ามาเล่าใหม่ซึ่งมีอยู่เยอะมากในตลาด

Clothear

THE BRAND OF ALL STORIES

เมื่อปีที่ผ่านมา แบรี่และออทั่มได้พิชิตหมุดหมายสำคัญ โดยการพาผ้าปาเต๊ะซึ่งเคยเป็นแค่ผ้าถุงขึ้นไปอยู่บนรันเวย์ งานที่ทำเอาเจ้าของแบรนด์ตื่นเต้นสุดๆ คงจะเป็นแฟชั่นโชว์ในงาน ‘อัยยะ ปักษ์ใต้ FLY 2 SOUTH NOW FESTIVAL II’ เพราะได้จับมือกับแบรนด์ที่ชื่นชอบอย่าง FLY NOW นำคอลเลกชันลายดอกเฟื่องฟ้ามาโชว์ให้เห็นกันที่กรุงเทพฯ

Clothear

Clothear

ดูแล้วแบรนด์ค่อนข้างจะประสบความสำเร็จและลงตัวระดับหนึ่ง จนเราอดสงสัยไม่ได้เลยว่า แนวทางในอนาคตของคลอเทียร์จะเป็นอย่างไร

“มันไม่ใช่ว่าเราประสบความสำเร็จแล้วจะหยุดพัฒนานะ ก็เคยถามตัวเองเหมือนกันว่า วันนึงเราจะร่วงไหม (หัวเราะ) เพราะแบรนด์ก็เกิดใหม่เรื่อยๆ คนที่ทำอะไรประมาณนี้ก็เยอะ เลยต้องคอยดูเทรนด์อยู่ตลอด หาดูงาน สไตลิง แพตเทิร์นใหม่ๆ อยู่ตลอด เพราะลูกค้าก็ชอบเสพอะไรใหม่ๆ” แบรี่ตอบ

Clothear

เป้าหมายสูงสุดของเขา “ให้คนทั่วโลกรู้จักคลอเทียร์” ในฐานะแบรนด์ที่นำวัฒนธรรมของตัวเองมาสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นระดับไฮเอนด์ พร้อมกับยกตัวอย่างไอดอลอย่าง ‘Dolce & Gabbana’ แบรนด์ระดับโลกที่นำวัฒนธรรมจากเมืองซิซิลี ในอิตาลีตอนใต้มาเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตผลงาน ไม่ว่าจะเป็น สีสันสว่างสดใส เอเลเมนต์ลายดอกไม้จากเครื่องปั้นดินเผาของซิซิลี หรือการเน้นไปที่ความเป็นงานฝีมือ

มากไปกว่านั้นคงจะเป็นการแตกไลน์สินค้าออกไปเรื่อยๆ การได้ลองประยุกต์ลายผ้าปาเต๊ะในรูปแบบอื่นที่อาจจะไม่ได้หยุดอยู่ที่การเป็นแค่เสื้อผ้า ถ้าใครได้ลองแวะเวียนเข้าไปดูเว็บไซต์ของคลอเทียร์ ก็คงจะเห็นว่าเริ่มมีโปรดักต์กระเป๋าและเครื่องประดับออกมาบ้างแล้ว

Clothear

Clothear

Clothear

“คิดว่าโลกเข้าใจสิ่งที่เราทำไหม?” เราถามคำถามสุดท้ายก่อนจะลากันไป

“ถึงแม้งานเราจะมีความเป็นภาคใต้สูง แต่มันก็มีความเป็นสากลในแง่ที่ว่า ไม่ว่าคนจะชาติไหนก็เข้าใจความงามนั้นได้ อย่างที่บอก ศิลปะไม่มีขอบเขตหรือพรมแดนอยู่แล้ว ตราบใดที่คลอเทียร์ยังสามารถเป็นความสวยงามบนตัวคน เราเปิดให้ทุกคนได้ตีความผลงานเราแบบอิสระเลย” แบรี่พูดทิ้งท้ายให้กับวัฒนธรรมบ้านเกิดของเขาที่กำลังงอกงาม และเชื่อว่ามันจะแตกกิ่งก้านใบออกไปอย่างไม่รู้จบ

ขอบคุณภาพจาก: Clothear

เข้าไปชมผลงานเพิ่มเติมของคลอเทียร์ และติดตามแบรนด์ได้ที่
Instagram: clothear.official
Facebook: Clothear Official
เว็บไซต์: https://www.clothearpateh.com/

Tags: