![](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2023/11/Cover-485.jpg)
![About](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2023/11/mobile-498.jpg)
- เอราวัณ ที รูม ห้องอาหารที่คัดวัตถุดิบไทยมาจัดเซ็ตน้ำชาเก๋ๆ สไตล์อังกฤษ นำความเป็นไทยมาทำให้สนุก อร่อย และกินง่าย พร้อมอาหารไทยจากเครื่องแกงที่ทำเองทุกขั้นตอน การเดินทางก็แสนจะง่ายดายเพราะตั้งอยู่ท่ามกลางสถานที่ท่องเที่ยวใกล้บีทีเอสชิดลมนี่เอง
เอราวัณ ที รูม ครัวที่เปิดตั้งแต่ปี 2004 เกือบสองทศวรรษนี้ได้ทำหน้าที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับเมืองไทยอย่างดี คอยรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างอบอุ่นด้วย Afternoon Tea Set ซิกเนเจอร์ของร้าน และอาหารเลิศรสจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรมาแล้วว่าควรค่าแก่การลิ้มลอง
ภารกิจตามล่าหาวัตถุดิบดำเนินโดย Executive Chef กับทีม Food&Beverage เพื่อเสาะหา Local Supplier จากทั่วไทย จนได้วัตถุดิบที่ทั้งสด สะอาด และจับมาด้วยวิถีชาวบ้าน อย่างปลาจากอวนเรือเล็กหรือเบ็ดตกปลา ไม่ใช่อวนเรือลาก เชฟยังลงชุมชนอย่างสม่ำเสมอเพื่อคัดเลือกวัตถุดิบให้ได้มาตรฐานเสมอต้นเสมอปลาย รวมถึงตามหาวัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาลด้วย
From Local to Table
ครัวนี้เลยยืดอกยอมรับได้ว่า เสิร์ฟวัตถุดิบไทยให้กินจริงๆ เพราะเครื่องปรุงที่มีกันทุกบ้านใช่ว่าจะเป็นของไทยแท้ๆ อย่างพริกป่นที่นี่ น้อยมากเลยที่มาจากพริกที่ปลูกในไทย Erawan Tea Room เลือกใช้พริกแห้งบางช้าง ซึ่งมีความเผ็ดเฉพาะตัว หรือแม้แต่น้ำปลาก็ต้องยี่ห้อตรากระต่ายจากตราด ที่แค่เปิดขวดกลิ่นก็ตะโกนฟ้องว่าน้ำปลา!
บทบาทของ Erawan Tea Room เลยเป็นมากกว่าที่ฝากท้องของเหล่านักชิมอาหารไทย ร้านอาหารนี้สร้างเครือข่ายอาหารยั่งยืนระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค โดยมีตัวเอง Erawan Tea Room เป็นตัวกลาง
Local Supplier จะมั่นใจได้ว่า ผลผลิตที่ปลูกหลังบ้านของเขาไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง แต่ก็จะมีคนรับซื้อและสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ ด้วยวิธีนี้ชุมชนจะเป็น Player หนึ่งในตลาด ส่วนผู้บริโภคจะได้กินอาหารที่ดีทั้งรสชาติและคุณภาพ แม้เมนูจะไม่แฟนซีมากแต่คุ้มราคาแน่นอน
![Erawan Tea Room](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2023/11/Era-1-600x600.jpg)
Executive Chef กำลังเล่าถึงภารกิจคัดวัตถุดิบให้เราฟัง
Afternoon Tea Set
ทางร้านภูมิใจนำเสนอ Afternoon Tea Set (680 บาท) ในเซ็ตรวบรวมขนมว่างทั้งไทยและเทศเอาไว้ พลิกแพลงเมนูด้วยการใส่วัตถุดิบไทยในขนมต่างชาติ กินแล้วได้กลิ่นอายแปลกใหม่เหมือนยิ่งเคี้ยวยิ่งสนุก บวกกับมีชาอัญชัญสด (มีให้เลือกหลายรสชาติ) คู่กับน้ำเชื่อมที่แยกมาให้ปรุงตามชอบ และไอศกรีมผลไม้ไทยเย็นชื่นใจ
เมนูนี้มีช่วงเวลาเสิร์ฟเฉพาะ เริ่มเสิร์ฟตั้งแต่ 14.30 – 17.00 น. เหมาะกับเป็นเซ็ตจิบน้ำชายามบ่ายสมชื่อ แล้วขนมว่างรวมอะไรไว้บ้าง เราจะไล่ให้เห็นกันชัดๆ
เราหยิบเปาะเปี๊ยะกุ้งเป็นคำแรก เป็นกุ้งแชบ๊วย และใช้กุ้งทะเลที่จะเด้งกว่ากุ้งแม่น้ำทั่วไป ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยกับกะปิ ทำให้มีกลิ่นหอมไม่เหมือนใคร และที่เราประทับใจมากคือน้ำจิ้มบ๊วยสูตรของทางร้าน กล้าพูดเลยว่ากลมกล่อมไม่แพ้ใครแน่นอน
ถัดมาคือช่อม่วง เมนูยอดนิยมของทางร้านที่ถึงแม้จะไม่กินในเซ็ตนี้ ลูกค้าก็จะสั่งแยกอีกจาน เนื้อแป้งเหนียวพอดี ไส้ปูม้าแน่นๆ ผัดกับสามเกลอ (รากผักชี กระเทียม พริกไทย) โรยหอมกระเทียมเจียว
ของหวานในเซ็ตที่แนะนำคือสโคนที่เสิร์ฟพร้อมครีมตะไคร้ และแยมสตรอว์เบอร์รีผสมลิ้นจี่ ส่วนที่ว้าวคือกลิ่นหอมของตะไคร้ ซึ่งนึกไม่ถึงว่าจะเอามากินกับสโคนได้ด้วย ส่วนแยมก็มีรสหวานกำลังพอดี มีชิ้นผลไม้สดอยู่ด้วย ใครไม่ชอบหวานก็กินได้ เรามั่นใจ ส่วนขนมอีกตัวที่เสริมวัตถุดิบไทยเข้าไปคือมาการองผักชี เรื่องความนุ่มละเอียดของแป้งคงไม่ต้องพูดถึง ของเขาดีอยู่แล้ว พอเคี้ยวแล้วก็ได้กลิ่นผักชี เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ทีเดียว
คำสุดท้ายในเซ็ตน้ำชาขอเลือกเป็นสาคูเปียกน้ำกะทิ ครัวใช้สาคูพัทลุง มีมะตูมเชื่อมทั้งที่เป็นน้ำเชื่อมกับชิ้นมะตูมเชื่อมตกแต่งอยู่บนหน้า กิมมิคเล็กๆ ที่อยากชี้ให้เห็นคือข้าวพองทำจากข้าวไรซ์เบอร์รีเหลือใช้ เพื่อหลีกเลี่ยง Food Waste นั่นเอง
น้ำชาที่เราลองคือน้ำอัญชัญสดๆ ลองดื่มจิบแรกแล้วได้กลิ่นหอม รสชาติฝาดเล็กน้อยแต่ไม่มากเกินไป พอลองเติมน้ำเชื่อมที่ร้านเตรียมมาให้แล้วพบว่ารสชาติกำลังพอดี ดื่มได้ทั้งสองแบบเลย เราปิดท้ายด้วยไอศกรีมลิ้นจี่ผสมส้มโอ กลิ่นลิ้นจี่ชัดมากๆ ใครชอบลิ้นจี่ต้องมาโดนตัวนี้
![](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2023/11/Era-11.jpg)
Recommended Lunch Set
สำหรับอาหารไทยที่ได้ลิ้มชิมเป็นบุญปากในวันนั้น นอกจากเปาะเปี๊ยะกุ้งกับช่อม่วงปู (เมนูที่เชฟยืนยันให้สั่งแม้จะมีในเซ็ตน้ำชา) ยังมีทอดมันกุ้งเป็นอีกหนึ่งเมนูเนื้อทะเล ใช้ข้าวเม่าแทนเกล็ดขนมปังทอด และนอกจากกุ้งแชบ๊วยก็มีปลาหมึกด้วย เนื้อสัมผัสเลยยิ่งเด้งและหนึบ
ข้าวผัดเอราวัณ เป็นข้าวสูตรของทางร้านที่ยังคงสูตรไว้เหมือนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซอสทำจากมันกุ้งผัดพริกเผาที่ทำเอง (แอบกระซิบว่าพริกแกงทุกตัวของที่นี่เป็นพริกแกงโฮมเมดที่ทั้งตำเอง ป่นเอง และคั่วเองเลยนะ) เนื้อปูก็ให้เย๊อะเยอะ
ยำส้มโอปูนิ่ม เมนูนี้จะต่างจากยำส้มโอทั่วไปตรงที่ไม่ใส่พริก แต่ปรุงรสด้วยกะปิหวาน น้ำมะขาม น้ำมะนาว และใส่ใบชะมวงให้ได้รสเปรี้ยวฝาดเป็นเอกลักษณ์
แน่นอนว่าสำรับไทยต้องมีข้าวสวยติดโต๊ะ ครัวนี้ใช้ข้าวตราไดโนเสาร์ที่เนื้อนุ่มและหอมเป็นพิเศษ เรากินคู่กับเนื้อย่างจากสกลนครที่ร้านย่างออกมาชุ่มฉ่ำนุ่มลิ้น และต้มข่าไก่ ซึ่งใช้ไก่เบญจาจากยูฟาร์ม เพราะเลี้ยงด้วยข้าวกล้องแล้วจะให้เนื้อสัมผัสนุ่มเป็นพิเศษ แถมยังปรุงรสด้วยน้ำมันโหระพาด้วยนะ
![](https://onceinlife.co/wp-content/uploads/2023/11/Era-7.jpg)
เรานั่งเพลิดเพลินไปกับอาหารรสชาติกลมกล่อมตรงหน้าพลางกวาดสายตาไปดูวิวนอกหน้าต่าง ซึ่งหันออกไปทางพระตรีมูรติหน้าห้างสรรพสินค้าพอดี แต่ฟาซาดช่วยบังแสงไม่ให้แสบตาเลย ส่วนมู้ดด้านในร้านก็อบอุ่นมากๆ ด้วยไฟโทนอุ่น การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มตัดด้วยของตกแต่งสีแดงก่ำ กับเก้าอี้ที่มีเบาะรองนั่งนุ่มๆ สมกับเป็น Tea Room ให้นั่งได้ยาวๆ ในยามบ่าย ใครแวะมาแถวเซ็นทรัลเวิลด์หรือเป็นสายมูที่มาไหว้ขอแฟนแถวนี้ ลองเดินต่อมา Erawan Tea Room กันนะ มีทางเชื่อมต่อจากบีทีเอสชิดลมเลย ง่ายนิดเดียว!