- FO SHO BRO คาเฟ่เปิดใหม่สไตล์แตกต่างที่ตั้งอยู่ใกล้กับ BTS อุดมสุข ภายในร้านมาพร้อมกับความโดดเด่นเฉพาะตัวตั้งแต่การออกแบบร้าน การตกแต่งที่เน้นให้ความรู้สึกเหมือนเราไปบ้านเพื่อน
- ความโดดเด่นถึงขั้นสะดุดตาของที่นี่มีมากถึงขนาดที่มีใครสักคนลงรูปโดยไม่ได้เช็กอิน ก็ยังสามารถรู้ได้ว่า นี่คือ FO SHO BRO
- ในอนาคต FO SHO BRO ตั้งเป้าไว้ว่า กลางวันจะเป็นคาเฟ่ ส่วนของกลางคืนจะกลายเป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศเหมือนอยู่เม็กซิโก
ไม่ไกลจาก BTS อุดมสุข เลี้ยวไปอีกนิดทางซอยโสภณ เราจะเจอสถานที่ตั้งของคาเฟ่สุดแนว ตกแต่งด้วยต้นกระบองเพชร และหินทรายนาม FO SHO BRO ที่ตั้งตระหง่านท้าทายสายตาของผู้คน พร้อมยั่วยวนเหล่า Instagrammer และ Cafe Hopper ให้ต้องมาเยือนคาเฟ่สุดเจ๋งนี้สักครั้ง
คิดจาก ‘ฟังก์ชั่น’
ก่อนเป็น FO SHO BRO ที่เราเห็น เปี๊ยก – พิพัฒนพล พุ่มโพธิ์ เจ้าของและผู้ออกแบบร้านนี้ เริ่มต้นมาจากการบุกเบิกการทำคราฟต์เบียร์คนแรกๆ ของเมืองไทย หลังจากผ่านการปั้นบาร์คราฟต์เบียร์สัญชาติไทยอย่าง Let The Boy Die ให้กลายเป็นที่จดจำในหมู่นักดื่มมาแล้ว ทว่าเมื่อโควิด-19 ได้แพร่ระบาด ทำให้ต้องปิดตัวลงอย่างน่าเสียดาย เขาจึงหันมาทำธุรกิจแฟชั่นกับแฟน และมีโอกาสไปตามคาเฟ่ต่างๆ ในช่วงโควิด ทำให้รู้สึกสนใจธุรกิจคาเฟ่ขึ้นมา
จากอาชีพสถาปนิกที่สร้างบ้านให้คนอื่นมาทั้งชีวิต ถึงเวลาต้องลุยร้านของตนเอง เปี๊ยกอธิบายถึงความตั้งใจแรกด้วยรอยยิ้มว่า “จริงๆ ไม่ได้เริ่มจากความคิดที่ว่าชอบสไตล์ไหนแล้วเอามาทำ แต่เราคิดจากฟังก์ชันก่อนว่าเราจะขายอะไร เมื่อตกลงว่าจะขายเครื่องดื่มก็อยากทำให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนเข้ามาปาร์ตี้สนุกสนาน แล้วเดินไปถ่ายรูปได้ทุกที่” ด้วยความตั้งใจนี้การสร้างร้านเป็นตึกแถวก็ถูกปัดตกไป พร้อมกับหาพื้นที่ว่างแล้วสร้างทุกอย่างใหม่ทั้งหมด
แค่เห็นก็รู้ว่า ‘ที่ไหน’
ท่ามกลางยุคที่สไตล์มินิมอลครองเมือง คาเฟ่ที่ได้ไปมาจึงดูคล้ายกันไปหมด นอกจากนี้การที่มีอินฟลูเอนเซอร์เช็กอินในแต่ละที่มีส่วนสำคัญ
เพื่อที่จะทำให้ร้านเป็นที่รู้จัก แต่บางทีเขาก็จะลงแค่รูป แต่ไม่ได้เช็กอิน เลยทำให้ไม่รู้ว่าร้านอยู่ที่ไหน เปี๊ยกจึงตั้งโจทย์สำคัญให้กับคาเฟ่ของตัวเองว่า ต้องแตกต่างถึงขั้นที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าร้านนี้คือ FO SHO BRO
การหาคำตอบของโจทย์นี้เริ่มต้นไปทีละสเต็ป ตั้งแต่การออกแบบโครงสร้าง “เราจะเน้นเป็นแนวราบสบายตา มีความโปร่ง เข้ามาแล้วรู้สึกสบายๆ ไม่อึดอัด สไตล์มันจะไปทางตะวันตก ให้นึกถึงบ้านที่แคลิฟอร์เนียหรือชายหาดที่สเปน ไม่ใช่คาเฟ่ญี่ปุ่นหรือคาเฟ่เกาหลี” บวกกับแฟนของเขาก็เป็นคนชอบถ่ายรูปจึงรู้ว่า เหล่า Cafe Hopper ต้องการแบบไหน ตัวอาคารเลยสร้างให้มีโซน outdoor แสงเยอะๆ เวลาถ่ายรูปจะได้สวย
โทนสีของร้านเป็นสีชมพูอ่อนตามเอกลักษณ์ของดินเผาเทอราคอตตาที่มีถิ่นกำเนิดในแถบตอนใต้ของอิตาลีและสเปน เป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวยในอดีต สีสันและความหมายนี้โดนใจเปี๊ยกเข้าอย่างจัง
นอกจากนี้เราได้ถามถึงชื่อร้านที่ดูคล้ายภาษาโมร็อกโก เปี๊ยกได้ยินดังนั้นก็หัวเราะพร้อมตอบอย่างขำๆ ว่า “จริงๆ ไม่มีอะไรมาก FO SHO มาจาก For Sure ส่วน BRO ก็มาจาก Brother อารมณ์แบบว่า แน่นอนไอ้น้อง! หรือ แน่นอนลูกพี่!” พร้อมย้ำว่า “เราอยากให้ทุกคนมาแล้วรู้สึกเหมือนกับการมาเที่ยวบ้านเพื่อน จัดค็อกเทลปาร์ตี้ริมสระ เลยคิดว่าแนวนี้ ชื่อนี้มันตอบโจทย์”
เครื่องดื่มคือ ‘ความสนุก’
“เรื่องเครื่องดื่ม เราคิดมาตั้งแต่ออกแบบร้านแล้วว่า อยากได้เครื่องดื่มแนวปาร์ตี้ให้ทุกคนมาแล้วสัมผัสได้ถึงความสนุกสนาน” เมนูของทางร้านมีหลากหลายเมนูทั้งสำหรับ coffee และ non-coffee และด้วยประสบการณ์ของเปี๊ยกที่เคยผ่านการทำบาร์คราฟต์เบียร์มาก่อน เครื่องดื่มที่นี่จึงได้แรงบันดาลใจจากค็อกเทล
เริ่มกันที่เมนูแรกกันเลย Expresso Martini (250 บาท) ได้แรงบันดาลใจมาจากค็อกเทลที่ชื่อ Espresso Martini เหมือนกัน แต่ว่าจะดัดแปลงให้ดื่มง่ายขึ้น ความพิเศษอยู่ตรงที่ใช้เหล้าผสมกับโกโก้และกาแฟ ด้านบนเพิ่มความครีมมี่ด้วยฟองหนานุ่ม ทำให้ดื่มง่ายและอร่อยมากขึ้น แต่ยังคงมีความขมและความเข้มอยู่ ตกแต่งด้วยไพ่กระดาษกินได้ เมนูนี้ยังถ่ายรูปออกมาสวยมากๆ ด้วย
สำหรับใครที่เป็นคอกาแฟสาย Dirty Coffee หรือเมนูนี้มาพร้อมกับสีชมพูสุดคิวท์! Pink Dirty (180 บาท) เมนู signature ของร้านที่ใส่ไซรัปทับทิม ลงไปรวมกับความหอมจากนม พร้อมกับกาแฟร้อนๆ ที่ท็อปข้างบน ดื่มแล้วได้ความหอมของกาแฟและความละมุนจากไซรัป เป็นเมนูหนึ่งที่ขายดีของร้านเลยนะ ต้องลอง!
Fat Man (180 บาท) เป็นเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากขนม pana cotta นำกาแฟมาปั่นให้เป็นชั้นโฟมหนานุ่มมีความหอมและหวานในเวลาเดียวกัน ข้างล่างเป็นนมสด เมื่อเราดื่มลงไป first test จะให้ความหวานนิดๆ แต่ after test จะรู้สึกละมุนขึ้นเหมือนเรากินขนมในเวอร์ชั่นเครื่องดื่ม ส่วนตัวชอบเมนูนี้มากๆ จนอยากกลับไปดื่มอีกครั้งเลย
มาต่อกันที่เมนูที่ดื่มแล้วรู้สึกเหมือนกำลังเอนกายพักผ่อนอยู่ริมทะเลอย่าง Sex On The Beach (180 บาท) ฟังชื่อแล้วอาจรู้สึกสยิวกิ้วเล็กน้อย เป็นม็อกเทลที่ดัดแปลงมาจากคลาสสิกค็อกเทล รสชาติจะออกเปรี้ยวอมหวานจากการมิกซ์น้ำผลไม้ 3 ชนิดคือ แครนเบอรี่ ส้ม สับปะรด เข้าด้วยกัน เป็นเมนูที่จะทำให้คุณตกหลุมรักในวันที่อากาศร้อนๆ แบบนี้เลย
ขอเสริมทัพด้วยเบเกอรีอย่าง Caramel Croissant Toast (190 บาท) คาราเมลครัวซองต์ที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น เพราะเป็นโทสต์ทรงสี่เหลี่ยม เป็นแป้งครัวซองที่ไส้ข้างในเป็นคาราเมลที่จะไหลเยิ้มออกมาตอนหั่น On Top ด้วยกล้วยหอม รสชาติละมุนลิ้นสุดๆ
หากได้มาเยือนที่นี่ เราจะสัมผัสได้ถึงรสนิยมความชอบของเปี๊ยกและแฟนที่แฝงไว้ในทุกมุมของร้าน ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง หรือต้นไม้ ที่หลายๆ ชิ้นก็เป็นของสะสม สร้างอารมณ์อบอุ่นสนุกสนาน หรือได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการแต่งบ้าน และทุกวันเสาร์เขาพร้อมเสิร์ฟความสนุกให้มากขึ้น มีดีเจมาสร้างความสนุกช่วงสุดสัปดาห์
เราว่า FO SHO BRO เป็นแฮงเอาท์สเปซที่น่าสนใจมาก รับรองเลยว่ามาแล้วเพลินแน่นอน For Sure Bro!
FO SHO BRO
ที่อยู่ : ซอยสุขุมวิท 68 แขวง บางนา เขต บางนา กรุงเทพมหานคร 10260
เปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น.
Facebook : FO SHO BRO