About
RESOUND

โอม

โอม – วีรรัฐ Hidden Bangkok Tour ทัวร์ชุมชนวัดนาคกลางที่ฟื้นภาพกรุงเทพฯ ยุค 60’s

Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • Hidden Bangkok Tour บริษัททัวร์ของ โอม-วีรรัฐ ฉันสุวรรณ นักเดินทางผู้ออกท่องโลกตั้งแต่หลังเรียนจบ ก่อนจะพบว่าจุดหมายปลายทางคือบ้านเกิดของตัวเอง โดยกลับมารับบทไกด์และเปลี่ยนชุมชนเก่าริมน้ำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมกับตั้งปณิธานว่าชุมชนต้องโตไปด้วยกันกับเขา

ช่วงเวลาที่มีเสน่ห์ที่สุดของชุมชนวัดนาคกลางคือช่วงเช้ามืด ชาวบ้านตื่นมาทำกิจวัตรประจำวัน เอาผ้ามาตากตรงระเบียงริมน้ำ เอาหม้อมาตั้งสำหรับต้มน้ำ ทั้งหมดนี้มีพระอาทิตย์ขึ้นเป็นฉากหลัง แสงอบอุ่นยามเช้าทาบทับภาพตรงหน้าให้น่ามองยิ่งขึ้นไปอีก

โอม-วีรรัฐ ฉันสุวรรณ บรรยายประสบการณ์วัยเด็กเกี่ยวกับการนั่งเรือเที่ยวตีห้าครึ่งในคลองมอญ จนเรานึกภาพตามได้เป็นฉากๆ ไม่เพียงแค่นั้น ในฐานะที่เกิดและโตในย่านบางกอกใหญ่ โอมพาเราเดินลัดเลาะตามตรอกในชุมชนจนทั่ว ระหว่างทางเราสังเกตเห็นทั้งผู้สูงอายุกับเด็ก แต่แทบไม่เจอคนวัยเดียวกับโอม

การเกิดของสังคมเมืองดึงคนรุ่นใหม่ออกจากย่าน แต่โอมหลงใหลในความงามของบ้านเกิดเลยตั้งใจจะรักษากลิ่นอายดั้งเดิมไว้เท่าที่จะทำได้ แล้วเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยความพยายามเปลี่ยนชุมชนวัดนาคกลางให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว

วันนี้เราเลยชวนโอมมาพูดคุยกันสักหน่อยว่าเขาดึงนักท่องเที่ยวมาสู่ย่านที่หลบมุมอยู่ท่ามกลางสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังอื่นๆ ได้อย่างไร

โอห์ม

โอม-วีรรัฐ ฉันสุวรรณ

นักเดินทางจากชุมชนวัดนาคกลาง

โอมไม่ได้เริ่มจากการเป็นผู้นำเที่ยว แต่เป็นผู้ท่องเที่ยวเสียเอง สมัยเด็กเขานั่งเรือหางยาวไปโรงเรียนเที่ยวละ 5 บาท ทั้งชอบนั่งเรือเล่นพลางวาดแผนที่ในหัวว่าสถานที่ที่เห็นตามริมคลองอยู่ใกล้กับถนนอะไร

เมื่อถึงวัยเข้ามหาวิทยาลัย โอมก็เลือกเรียนการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวเลือกของโอมเพียงเพราะไม่มีวิชาเลขที่เขาไม่ถนัดก็เท่านั้น แต่หลังเรียนจบโอมมีโอกาสไปทำงานที่ร้านอาหารอยู่ออสเตรเลีย 1 ปี ช่วงนั้นเขาแบกเป้เดินทางกับเพื่อนต่างชาติบ่อยจนติดใจเลยพกนิสัยนี้กลับมาเมืองไทยด้วย ทำให้เมื่อกลับมาทำงานประจำเป็นไกด์ โอมถึงกับขอรับงานจากบริษัททัวร์แบบจัดเต็ม ยอมทำงานติดกันทุกวันเป็นเวลา 3 เดือนเพื่อที่จะลาหยุด 1 เดือนแล้วออกท่องโลก

โอมยังเล่าอีกว่าเขาใช้เวลาว่างยามเคลื่อนตัวบนถนนไปกับการอ่านหนังสือ และหนังสือที่เปลี่ยนชีวิตเขาชื่อ เที่ยวติดดิน ของ บาฟ-ภาณุ มณีวัฒนกุล ตั้งแต่นั้นการเดินทางแบบสายลุยคือความเจ๋งที่โอมยกเป็นแบบอย่าง ครั้งหนึ่งโอมเลยนั่งรถจากกรุงเทพฯ ไปไกลถึงทิเบต อาศัยรถประจำทางบ้าง ขอติดรถขนไก่ของชาวบ้านบ้าง

อย่างไรก็ตามงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา โอมในตอนนี้พร้อมกลับมาลงหลักปักฐานที่บ้านเกิด ดูแลพ่อแม่วัยเกษียณ และเปลี่ยนบทบาทจากคนเที่ยวเป็นคนนำเที่ยวเต็มตัว

โอห์ม

เปลี่ยนบ้านเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

ปัจจุบันโอมเป็นเจ้าของบ้านพัก 2 หลัง บ้านหลังแรกชื่อ Canal House ซึ่งเปิดในปีพ.ศ. 2561 ต่อมาในปีพ.ศ. 2562 เขาทำ Canal Next Door และเปิดบริษัททัวร์ชื่อ Hidden Bangkok Tour ทั้งหมดเกิดจากคำถามในใจโอมเพียงข้อเดียว คือทำไมนักท่องเที่ยวแวะแค่วัดอรุณฯ แต่ไม่มาชุมชนวัดนาคกลาง ทั้งๆ ที่ชุมชนนี้ห่างจากวัดอรุณฯ แค่ 10 นาทีเท่านั้น

โอมตั้งใจดึงเอกลักษณ์ของชุมชนเก่าริมน้ำที่อยู่ติดวัดมาเป็นจุดขาย ผสมกับความเป็นชุมชนขนาดเล็กที่คนสัญจรทางเท้าเป็นหลักและรู้จักกันทุกบ้าน เพราะมองว่ากลิ่นอายแบบนี้หาได้ยากในกรุงเทพฯ เผลอๆ หากถ่ายรูปออกไปคงไม่มีใครนึกว่าที่นี่คือกรุงเทพฯ ด้วยซ้ำ

โอห์ม

อย่างไรก็ตามบ้านพักหลังแรกเป็นเหมือนการโยนหินถามทางเสียมากกว่า เนื่องจากโอมเป็นคนแรกที่คิดจะเปลี่ยนย่านนี้ให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว จนกระทั่งมีผู้เข้าพักเขียนรีวิวบน Airbnb ยอดจองจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้ว Canal Next Door ก็ถือกำเนิดขึ้น

โอห์ม

หลังจากนั้นไม่นานบริษัท Hidden Bangkok Tour ก็เปิดตัว ซึ่งเริ่มจากทัวร์ทางเรือ จนกระทั่งมีตุ๊กตุ๊กทัวร์เพิ่มเข้ามา โอมวางคอนเซปต์ให้ทั้งสองเป็นไทม์แมชชีนที่จะพานักเดินทางก้าวสู่กรุงเทพฯ ยุค 1960

ทั้งบ้านไม้ริมคลอง เรือไม้โบราณ และตุ๊กตุ๊กล้วนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกรุงเมื่อ 70 ปีที่แล้ว โอมบอกว่าถ้าค้นรูปสมัยก่อนจะเห็นว่ายานพาหนะทั้งสองยังคอยรับส่งผู้โดยสารต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นับรวมเรือและตุ๊กตุ๊กของทัวร์ด้วย แถมยังตกแต่งด้วยผ้าหลากสีเหมือนเดิมเป๊ะ ซึ่งเป็นที่มาของสีสันสดใสในโลโก้บริษัท

โอห์ม

ครอบครัวและเพื่อนต่างสายเลือด

จากคำบอกเล่าของโอม สมัยก่อนชุมชนครึกครื้นกว่าตอนนี้มาก ผู้คนขึ้นจากท่าเรือมาแถวนี้เป็นจำนวนมากทุกวัน ย่านนี้เองก็เคยเป็นตลาด มีทั้งสภากาแฟ ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านไอติมกะทิ แต่พอถนนตัดผ่าน คนหันไปขึ้นรถมากกว่าเรือ ตอนนี้เลยเหลือเพียงไม่กี่ร้าน มิหนำซ้ำคนหนุ่มสาวก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น เหลือแต่คนสูงวัยที่อยู่กันอย่างเหงาๆ โอมเล่าว่าบางครั้งคนก็ออกมารวมตัวกันโดยมีรถพุ่มพวงเป็นจุดศูนย์กลาง แต่ไม่มีใครซื้ออะไร พวกเขาเพียงแค่มายืนพูดคุยกันเท่านั้น

แต่ความเอาใจใส่และนิสัยชอบเข้าหาคนของโอมก็เติมเต็มช่องว่างในใจพวกเขาได้ ตอนที่เราสำรวจย่าน โอมแวะไหว้ผู้สูงอายุทุกคนที่เจอ บางทีก็เดินเข้าไปหาถึงในบ้าน เมื่อพวกเขาเห็นโอมรอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขามองโอมเหมือนลูกเหมือนหลาน

โอห์ม

นอกจากนั้นก็เป็นนักท่องเที่ยวที่ช่วยสร้างสีสันให้ชุมชน โอมมักดูแลแขกอย่างใกล้ชิดรวมถึงพาไปรู้จักกับคนในย่านจนลูกค้ากลายเป็นเพื่อนหลายคนแล้ว ทั้งเคยหาคนมาสอนทำอาหารไทยแล้วนั่งจิบเบียร์ด้วย ซึ่งโอมดื่มกับเพื่อนบ้านประจำอยู่แล้วแถมยังเคยไปดื่มเบียร์ด้วยทุกบ้าน!

ครั้งหนึ่งสองสามีภรรยาชาวแคนาดาเลยขอทำพิซซ่าเลี้ยงคนในชุมชนเพื่อตอบแทนที่ทุกคนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น วันนั้นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ออกมารวมตัวกันเหมือนนี่เป็นปาร์ตี้เลี้ยงส่งแขกกลายๆ โอมบอกว่ากิจกรรมแบบนี้ช่วยคลายเหงาได้บ้าง

โอห์ม

อันที่จริงช่วงแรกของการเปิดบ้านพักชาวบ้านก็รู้สึกแปลกตา เพราะไม่เคยเห็นชาวต่างชาติมาค้างคืนในละแวกบ้านตัวเอง แต่เมื่อเอาใจเขามาใส่ใจเรา โอมเลยรู้ทั้งสองฝ่ายต้องการอะไรและทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อม ‘ครอบครัว’ กับ ‘เพื่อน’ ได้อย่างดีเยี่ยม

โอห์ม

โตไปด้วยกัน

“ถ้าเราได้ ชุมชนก็ต้องได้” โอมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

โอมบอกว่าเขาเจ็บใจกับวาทกรรม “ถอยหลังลงคลอง” เป็นที่สุด เขาเลยตั้งใจนำเงินมาพัฒนาชุมชนและคิดโปรเจกต์ที่จะกระจายรายได้สู่คนในชุมชนด้วย เพราะเมื่อหน้าบ้านเปลี่ยนบริบทเป็นหลังบ้าน แหล่งทำมาหากินก็หายไป บ้านหลายหลังถูกทอดทิ้ง บ้างก็ถล่มลงน้ำ กำไรส่วนหนึ่งของธุรกิจจึงถูกนำมาซ่อมแซมบ้านก่อนจะมีใครต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน เพราะบ้านไม้ริมคลองอาจพ่ายแพ้ให้แก่กระแสเวลาเมื่อไหร่ก็ได้ด้วยสถิติที่ใครได้ยินก็ต้องตกใจ คือสัปดาห์ละหลัง

อีกโปรเจกต์หนึ่งที่ทั้งสร้างรายได้ให้คนในชุมชนแถมยังปลุกกลิ่นอายตลาดในอดีตขึ้นมาคือ ‘ระบบคูปองอาหาร’ โอมเลือกที่จะไม่เตรียมอาหารไว้ให้แขก แต่แจกคูปองอาหารให้แทน ลูกค้าสามารถนำคูปองไปใช้กับร้านค้าในชุมชน แล้วทุกสัปดาห์ทีมงานของโอมจะเอาคูปองมาแลกเป็นเงินสดให้

โอห์ม

ในบางกรณีคนในชุมชนก็มีรายได้จากนักท่องเที่ยวโดยตรง อย่างคุณตาวัย 84 ปีที่เปิดร้านตัดผมในชุมชนมากว่า 60 ปีแล้ว และปัจจุบันก็ได้ลูกค้าของโอมมาเป็นลูกค้าของตัวเองด้วย

ผลพลอยได้อีกอย่างที่โอมประทับใจมากคือ ความสะอาด ก่อนหน้านี้พอเห็นว่าสังคมเมืองไม่ให้ความสำคัญกับชุมชนเก่าริมน้ำ คนในชุมชนก็เผลอละเลยบ้านของตัวเองไปบ้าง แต่เดี๋ยวนี้ทุกคนกระตือรือร้นลุกมาปัดกวาดเช็ดถูบ้านเพื่อต้อนรับแขกนั่นเอง

เมื่อพูดถึงสังคมเมืองที่โตอย่างรวดเร็วและเลี่ยงได้ยาก เราว่าโอมแสดงความเห็นเกี่ยวกับการอนุรักษ์ชุมชนได้น่าสนใจ เขาบอกว่ามันขึ้นอยู่กับความต้องการของคนว่าอยากเปลี่ยนหรือเปล่า และถ้าหากมุ่งอนุรักษ์อย่างเดียวโดยไม่ฟังเสียงของผู้อยู่อาศัยก็ถือเป็นการโรแมนติไซส์วิถีชีวิตที่ไม่อาจตอบโจทย์ด้านหน้าที่การงาน ความสะดวกของการเดินทางในชีวิตประจำวัน ฯลฯ

โอห์ม

ทั้งนี้ชุมชนวัดนาคกลางคงไม่ถึงขั้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือด้วยเหตุผลหลายประการ หนึ่งคือคนในชุมชนเห็นช่องทางสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยว ยกตัวอย่างร้านไอศกรีม Priscilla ที่กำลังเป็นกระแสก็ตั้งอยู่ในชุมชนวัดนาคกลางนี่แหละ แถมชั้นบนของร้านยังเป็นบ้านพัก Airbnb สองคือพื้นที่บริเวณวัดมีข้อจำกัดความสูงของอาคารโดยรอบ ดังนั้นหากจะเปลี่ยนชุมชนฝั่งธนฯ ให้เหมือนอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาก็คงยาก

โอห์ม

เป้าหมายของนักเดินทาง

ภาพรวมธุรกิจในตอนนี้ถือว่าเกินความคาดหมายของโอมไปมาก และมาตรวัดสำคัญกลับไม่ใช่จำนวนเงิน แต่เป็นความชื่นชอบของแขกที่มีต่อวิถีชีวิตริมน้ำในชุมชนวัดนาคกลางบวกกับความมีชีวิตชีวาของผู้คนในย่าน ถึงอย่างนั้นโอมก็ยังต้องเจอกับความท้าทายที่สถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ไม่ลับ (Hidden) อีกแล้ว

โอห์ม

“ที่จริงผมสนุกนะ ไม่ลับแล้วก็สำรวจที่ใหม่ ผมอยากทำทัวร์ให้เหมือนนิทรรศการศิลปะที่อยู่ประมาณปีสองปีแล้วก็เปลี่ยน” โอมเล่าถึงแผนเสาะหาย่านลับในกรุงเทพฯ มาเสนอแขก กับความต้องการขยายสาขา Hidden Bangkok Tour

หากมองอีกมุมภารกิจนี้จะทำให้ทีมไกด์สนุกกับการนำเที่ยวและส่งต่ออารมณ์ให้นักท่องเที่ยวสนุกไปด้วยได้ โอมจริงจังกับเรื่องนี้ถึงขั้นพร้อมคืนเงินให้ใครก็ตามที่คิดว่าไกด์น่าเบื่อ นักเดินทางเก่าคนนี้เข้าใจหัวอกเพื่อนร่วมอุดมการณ์เป็นอย่างดีว่ามาไกลทั้งทีจะเสียเที่ยวไม่ได้

โอห์ม

ไม่ทันไรเสียงเรียกตัวโอมกลับไปประจำการที่ท่าเรือก็ดังขึ้น โอมวิ่งอย่างขยันขันแข็งไปต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษกลุ่มใหญ่ เห็นดังนั้นเราจึงเข้าไปบอกลาโอมสั้นๆ ก่อนกลับก็หันหลังไปมองบรรยากาศการพบปะกันที่ได้เห็นเมื่อครู่

ทุกคนจะต้องเที่ยวสนุกแน่ – เราคิด

Tags: