

Hugely Made
Hugely กระเป๋าจากสายดับเพลิงทิ้งแล้ว แบรนด์ไทยไอเดียใหญ่ ใช้แล้วได้รักษ์โลก
- คุยกับ ภัทร–นวรัตน์ โชคล้ำเลิศ เจ้าของแบรนด์ Hugely กระเป๋าจากสายดับเพลิงปลดระวาง ด้วยไอเดียการทำกระเป๋าจากวัสดุที่ไม่มีใครใช้ทำกระเป๋า ทำให้พบเส้นทางขรุขระของการทำธุรกิจมากมาย แต่เจ้าของแบรนด์ยังคงเต็มไปด้วยไฟในการสร้างสรรค์แบรนด์ไทย เพื่อให้คนไทยได้ใช้ของเจ๋งๆ
กระเป๋าโทนสีขาวสไตล์มินิมัล ขนาดน้อยใหญ่ วางเรียงรายเต็มออฟฟิศ ONCE ถ้ามองเผินๆ คงคิดว่ากระเป๋าพวกนี้คงเป็นกระเป๋าหนังสังเคราะห์ทั่วไป ทรงสวย ดูทนทาน แต่หากลองมองดูให้ใกล้กว่านั้น คุณจะพบว่ากระเป๋าของ Hugely ทำมาจากวัสดุที่จะไม่ได้เห็นจากกระเป๋าทั่วๆ ไปอย่างแน่นอน
ภัทร–นวรัตน์ โชคล้ำเลิศ เจ้าของแบรนด์กระเป๋า Hugely มาคุยกับเราถึงการทำแบรนด์กระเป๋าจากสายดับเพลิงใช้แล้ว แม้จะหมดอายุที่จะใช้งานช่วยชีวิตคน แต่แบรนด์ได้ชุบชีวิตสายดับเพลิงเหล่านี้ให้กลายเป็นกระเป๋าใบใหม่ ที่แข็งแรง ทนทาน หนา เหนียว ป้องกันการโดนกรีดกระเป๋าได้ แม้จะมาจากสิ่งที่คนอื่นเรียกว่าขยะ แต่ Hugely เพิ่มมูลค่าให้ได้มากกว่านั้น และย้ำว่าขยะก็นำมาใช้ใหม่ได้ แถมยังเก๋ เท่ และยังได้รักษ์โลก
จุดประกายไอเดีย
ภัทรเริ่มเล่าว่าไอเดียที่จะหยิบเอาสายดับเพลิงมาทำกระเป๋านั้นมาจากธีสิสสมัยเรียนออกแบบจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ แน่นอนว่าจะมาเป็นธีสิสได้ ก็ต้องเป็นอะไรที่ไม่ซ้ำกับสิ่งที่มีในท้องตลาดทั่วไป ภัทรเลยเริ่มมองสิ่งของรอบตัว และสะดุดตาเข้ากับสายดับเพลิงเก่าม้วนสีแดงในบ้านของเธอเองที่ได้มาจากงานอดิเรกเล็กๆ ของพ่อผู้ชอบประมูลของเก่า ทำให้บ้านของภัทรมักมีสิ่งของที่คนอื่นทิ้งแล้ว แต่ยังมีค่ากับอีกคนอยู่เสมอ
ไอเดียกระเป๋าจากสายดับเพลิงเก่าผ่านฉลุยตอนภัทรไปเสนอหัวข้อธีสิสกับอาจารย์ สายดับเพลิงที่พ่อของเธอประมูลมาไม่กี่ม้วน ก็เพียงพอจะผลิตเป็นกระเป๋าจำนวนหนึ่ง แต่การจะต่อยอดจากธีสิสในห้องเรียนมาสู่ธุรกิจจริงจังนั้น ภัทรยอมรับว่าใช้เวลาเรียนรู้มากพอสมควร
ระหว่างทางก้าวแรกของธุรกิจนี้ ภัทรเริ่มทุกอย่างมาด้วยตัวเองทั้งหมด เจ้าของแบรนด์เล่าว่า เธอเริ่มจากซื้อสายดับเพลิงมาตัดด้วยกรรไกรเอง แล้วนำไปทดลองแช่ทำความสะอาดด้วยน้ำยาสารพัดประเภท เสียเวลาไปนานกว่าจะเจอว่าควรเอาน้ำยาชนิดไหนมาใช้ เมื่อแช่แล้วก็ต้องแปรงเอาเขม่าและสิ่งสกปรกออกจากสายดับเพลิงให้ได้มากที่สุด ภัทรเล่าพลางยกมือให้ดูว่า เธอเคยแปรงจนนิ้วเป็นแผลจากการโดนน้ำยาแช่ผ้ากัด
“มีท้อไปบ้าง ตอนแรกเราซักสายดับเพลิงยังไงมันก็ไม่ขาว เราเห็นใจคนใช้ถ้าต้องใช้เปื้อนๆ บางคนก็โอเค แต่บางคนก็น่าจะไม่โอเคกับการใช้กระเป๋าเลอะๆ เราหาวิธีซักอยู่นานประมาณ 3 เดือนถึงรู้ เราเริ่มเองทุกอย่าง สู้เองหมดเลย ต้องแช่ยังไง ซักยังไง ตัดยังไง จนไปถึงกระบวนการเย็บ”
โจทย์หินที่สุดของกระเป๋าแบรนด์ Hugely คือเนื้อผ้าของสายดับเพลิงที่หนา 2 ชั้น ทั้งชั้นยางและชั้นผ้า เมื่อนำไปประกอบเป็นกระเป๋า จึงทำให้กระเป๋ามีน้ำหนักมาก ภัทรเล่าว่ากว่าจะมาเป็นตัวแบบที่วางขายปัจจุบัน เธอคิดค้นวิธีลดทอนน้ำหนักอยู่นับเดือน เธอใช้เวลาอยู่กับคนที่มีประสบการณ์ทำกระเป๋า เพื่อเรียนรู้ทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่ขึ้นตัวอย่างกระเป๋า วาดแพตเทิร์น ไปถึงการเย็บ
ผจญอุปสรรค
นอกจากเรื่องน้ำหนักแล้ว อุปสรรคต่อมาที่รอภัทรอยู่คือการผลิต เพราะเมื่อต้องเริ่มทำกระเป๋าเพื่อวางขายจริงๆ เธอต้องพึ่งโรงงานเพื่อการผลิตให้ได้จำนวนที่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า แต่ด้วยความยากของการตัดเย็บ โรงงานหลายต่อหลายแห่งจึงปฏิเสธภัทร
ข้อดีของสายดับเพลิงที่หนาทำให้ได้มาเป็นกระเป๋าที่ทนทาน แต่ต้องแลกมากับความยืดหยุ่นที่น้อย ทำให้กระบวนการผลิตเป็นไปได้ช้า ภัทรเล่าว่า บางทีเย็บแล้วรอยต่อกระเป๋าปริออก หรือกระเป๋าแตก ก็ต้องเริ่มเย็บใหม่ทั้งหมด
“ขั้นตอนการผลิตกระเป๋าของเรามันยาก ใช้เวลาในการทำงานเยอะ ตอนแรกเราทำเองแค่อย่างละใบสองใบ มันยังพอมีที่ผลิตให้เราได้ แต่พอต้องทำขาย 30-40 ใบ เราลองติดต่อถามทั้งโรงงานรับเย็บกระเป๋า หรือบริษัทรับเย็บกระเป๋า เขาก็ปฏิเสธเรา จนต้องหาช่างเองอยู่เป็นปี”
สุดท้ายภัทรพบว่า แม้จะหาโรงงานผลิตกระเป๋าไม่ได้ แต่ภัทรกลับเจอช่างฝีมือหลายคนที่เกษียณอายุตัวเองจากโรงงานเย็บกระเป๋า มารับทำกระเป๋าให้ กระเป๋า Hugely ทุกใบจึงล้วนมาจากฝีมือของช่างมากประสบการณ์ทั้งสิ้น
“เราไม่สามารถให้บริษัทใดบริษัทหนึ่งเย็บให้เราได้ เลยได้ช่างที่เขาเออร์ลี่จากโรงงานแทน เราพยายามกระจายงานให้ช่างหลายๆ ที่ มีจังหวัดลพบุรี นครปฐม ลำปาง ช่างเขาเปิดใจที่จะรับงานอะไรใหม่ๆ ด้วย ถือว่าเราก็โชคดีที่ได้เจอเขา ที่แบรนด์โตมาได้ก็เพราะช่างเหล่านี้นะ เขาเกษียณจากโรงงานแล้ว มารับเย็บให้เรา ก็ได้ทำงานที่บ้าน ได้เพิ่มรายได้ด้วย เพราะเราให้ค่าแรงต่อใบในราคาที่สูงเลย”
Hugely ผ่านอุปสรรคต่างๆ มาจนถึงปัจจุบันก็เข้าปีที่ 4 แล้ว จากธีสิสที่ภัทรต้องเย็บกระเป๋าส่งอาจารย์เองเพียงไม่กี่ใบ กลายเป็นว่าตอนนี้แบรนด์สามารถผลิตได้เดือนละร้อยใบแล้ว ผ่านแรงงานวัยเกษียณที่ภัทรเองก็รู้สึกขอบคุณพวกเขาทุกคนจริงๆ
สายดับเพลิงกู้ภัยสู่กระเป๋าคู่ใจ
ชื่อแบรนด์ Hugely ที่แปลได้ว่ากว้าง ใหญ่ เพราะความตั้งใจแรกของภัทรคืออยากทำอะไรแบบยิ่งใหญ่ และสิ่งนั้นกระจายออกไปกว้างๆ ให้คนทั่วไปในบ้านเราได้รู้จัก ตัว H ที่นำอยู่ตัวแรกนั้นให้ความรู้สึกถึงความแข็งแรง ให้ใครที่มองมาที่แบรนด์แล้วรู้สึกว่าเป็นแบรนด์ที่แข็งแรง เข้ากันกับคุณสมบัติของสายดับเพลิง ที่ถูกถักทอให้แข็งแรงมากกว่าผ้าทั่วไปมาก
“คุณสมบัติของสายดับเพลิงที่เห็นได้ชัดคือแข็งแรง เหนียว ทนทาน สามารถทนต่อการกรีดกระเป๋าได้อยู่แล้ว เพราะมันมี 2 ชั้น ต้องแทงแรงๆ ถึงจะเข้า ผ้าไม่ขึ้นรา แห้งง่าย อาจดูเหมือนจะแห้งยาก แต่จริงๆ ค้างคืนก็แห้งแล้ว”
เราฟังภัทรพูดแล้วก็สังเกตกระเป๋าสตางค์ใบย่อมไปด้วย บางใบก็เป็นสีขาวเรียบๆ แต่บางใบก็มีลายตัวหนังสือภาษาญี่ปุ่น ภัทรเล่าว่า สายดับเพลิงที่แบรนด์ใช้มาจาก 2 แหล่งหลักๆ คือสายดับเพลิงเก่าของญี่ปุ่นและของไทย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นของญี่ปุ่นมากกว่า เพราะด้วยกำหนดการทิ้งสายดับเพลิงของประเทศญี่ปุ่นนั้นแน่นอนกว่าบ้านเรา จึงได้สายดับเพลิงจำนวนเพียงพอและคุณภาพยังดี ไม่ได้เก่ามากเท่าของไทย
ไฟในใจไม่มีมอดไหม้
ดีไซน์หลักของ Hugely คือกระเป๋าที่ไม่ซับซ้อน ด้วยกลัวว่าน้ำหนักจะเยอะเกินไป ภัทรจึงตั้งใจไม่ใส่ฟังก์ชันอะไรเพิ่มไปมากกว่าเดิม กระเป๋าที่ดูเรียบง่าย แต่ก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ยิ่งถูกใจกลุ่มลูกค้าที่ต้องการกระเป๋าไว้สะพายในชีวิตประจำวัน
ด้วยความเป็นวัสดุใช้แล้วจึงทำให้กระเป๋าของ Hugely อาจจะมีร่องรอยที่ผ่านการใช้งานมาเป็นปกติ แต่ภัทรบอกกับเราว่ายังมีลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจกับตำหนิเล็กน้อยเหล่านี้
สิ่งที่ทำให้ภัทรแปลกใจจริงๆ เมื่อทำธุรกิจมาได้ระยะหนึ่ง คือการพบว่ากลุ่มลูกค้าหลักที่ตอนแรกตั้งใจว่าคงเป็นวัยรุ่น กลับเป็นคนวัยทำงานอายุ 30-55 ปี ที่เล็งเห็นคุณค่าของการนำขยะมาใช้ใหม่ ภัทรบอกว่าลูกค้าวัยกลางคนเหล่านี้เข้าใจ และยินดีจะใช้กระเป๋าที่มีรอยตำหนินิดหน่อย ได้แต่ช่วยรักษ์โลกจริงๆ
ปัจจุบันแบรนด์ Hugely มีสินค้าหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสะพายข้าง กระเป๋าใส่เอกสาร กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าใส่แล็ปท็อป และถุงใส่แว่น ในอนาคตเจ้าของแบรนด์ก็ยังมีไอเดียอยากพัฒนา Hugely ให้มีไลน์สินค้าอื่นๆ อีก ลูกค้าทุกคนอดใจรอไว้ได้เลย
ช่วงท้ายของบทสนทนา เราถามความเห็นของภัทรที่มีต่อเทรนด์การใช้สิ่งของที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต เธอเชื่อว่าต่อไปสังคมจะยิ่งส่งเสริม Eco Design มากขึ้นอย่างแน่นอน
“สมัยนี้หลายแบรนด์ก็เริ่มปรับเปลี่ยน จากทำกระเป๋าหนัง มาผสมผสานรีไซเคิลบ้าง เอาพวกขยะมาทำมากขึ้น หรือบริษัทใหญ่ๆ ก็เริ่มรีไซเคิลพลาสติกมากยิ่งขึ้น ภัทรว่าต่อไปคนจะสนใจการรีไซเคิลมากขึ้นแน่”
คุยกันใกล้จบ เราสัมผัสได้ว่าแม้จะต้องเริ่มธุรกิจทุกอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่ศูนย์ พบเจออุปสรรคมาเยอะ แต่เห็นได้ชัดว่าภัทรยังคงตั้งใจเต็มที่ เพื่อสร้าง Hugely ให้เป็นแบรนด์สัญชาติไทยมากคุณภาพอีกหนึ่งแบรนด์ และเธอหวังอย่างยิ่งว่าต่อไปในอนาคตคนไทยจะใช้แบรนด์ไทยมากขึ้นไปอีก
“เราอยากให้คนบ้านเราเปิดใจกับแบรนด์คนไทยดู แบรนด์เราผ่านมาจากความคิดของเราจริงๆ อยากให้คนไทยเห็นว่า แบรนด์ไทยเองก็เจ๋ง ไม่ใช่แค่ Hugely แต่หลายแบรนด์ของคนไทยเองมันดีหมด ทำด้วยแฮนด์คราฟต์จริงๆ ฝีมือช่างแต่ละแบรนด์ไม่ได้แพ้แบรนด์ต่างประเทศเลย”
ไปเลือกชมกระเป๋าจากสายดับเพลิงดีไซน์เก๋ๆ ได้อีกมากมายตามช่องทางต่อไปนี้เลย
Facebook : hugely
Instagram : hugely_bag