About
FLAVOR

Ìm En Ville

‘อิ่มในเมือง’ จากโรงพิมพ์มูลจิตต์เก่าแก่สู่อาณาจักรความอิ่มริมถนนเฟื่องนคร

Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • จากอดีตเคยเป็นตึกเก่าโรงพิมพ์ลมูลจิตต์ หลังจากที่ ดีน – ดิตพันธ์ จิราธิวัฒน์ เข้ามาทำธุรกิจ Food & Beverage ร้านอาหารบิสโทร คาเฟ่ในชื่อ Ìm En Ville เลยเน้นที่จะรักษาโครงสร้างแบบเดิมเอาไว้ และเพิ่มเติมการตกแต่งในสไตล์ Industrial Contemporary บอกเล่าความเป็นโรงพิมพ์เก่าผ่านสถาปัตยกรรมในร้าน
    • ‘Ìm En Ville’ หรือ ‘อิ่มในเมือง’ ร้านที่ตั้งใจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกระดับ มีตั้งแต่คาเฟ่ เบเกอรี่โฮมเมด อาหารจานด่วนราคาจับต้องได้ และบิสโทรเน้นสไตล์ Western Fusion โดยปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น เสิร์ฟท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเองขณะที่ว่า เดินชิลล์ๆ เข้ามาในร้านได้เลย

บางครั้งการเรียนรู้ประวัติศาสตร์อาจไม่จำเป็นต้องพึงหาคำตอบในหน้าหนังสือ ถ้าหากทุกที่แฝงซ่อนไปด้วยเรื่องราวมากมาย เราเองก็อาจมองหาสิ่งเหล่านั้นได้ผ่านการซึมซับบรรยากาศ สถานที่ อาหาร หรือเครื่องดื่มที่ได้ลิ้มรส

Ìm En Ville ในภาษาฝรั่งเศสอ่านว่า ‘อิ่ม ออง วิล’ แปลว่า ฉันอยู่ในเมือง ที่อยากสื่อสารถึงสถานะที่ตั้งของร้าน ส่วนคำว่า ‘Ìm” อีกใจความหนึ่งตั้งใจให้พ้องไปกับเสียง ‘อิ่ม’ ในภาษาไทย ให้ความหมายแจ่มแจ้งว่า ถ้ามากินอาหารร้านนี้ คุณจะอิ่มใจ อิ่มบรรยากาศคลาสสิกในถนนเฟื่องนคร ตลอดจนอิ่มความสุขกลับบ้านนั่นเอง

Ìm En Ville

The Beginning

ที่มาของตึกอายุกว่า 150 ปีนี้ เริ่มต้นขึ้นหลังจากการสร้างถนนเฟื่องนครเสร็จสิ้นได้ไม่นานในรัชสมัยของรัชกาลที่ 4 โดยเจ้าของตึกรุ่นแรกคือตระกูลอับดุลราฮิม พ่อค้าแขกที่มาค้าขายในเมืองไทยมาปล่อยพื้นที่ให้เช่า หลังจากนั้นตึกแห่งนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนผู้ครอบครองมาอีกหลายๆ รุ่น จนมาถึงยุคแห่งถนนเฟื่องนครที่เฟื่องฟูไปด้วยโรงพิมพ์และสำนักพิมพ์ ตึกแห่งนี้จึงถูกเช่าต่อเพื่อทำกิจการโรงพิมพ์ลมูลจิตต์ ทว่าหลังจากความนิยมของสื่อสิ่งพิมพ์ค่อยๆ ถอยลง เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่พาให้เราต้องขยับขยายเดินเข้าสู่ยุคดิจิตัล ทำให้ตึกอายุ 150 ปีแห่งนี้กลายเป็นตึกร้างที่ทิ้งตัวยาวนานถึง 20 ปี

กระทั่งครอบครัวของ ดีน – ดิตพันธ์ จิราธิวัฒน์ เข้ามาซื้อตึกแห่งนี้ ดีนผู้ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วย Passion เรื่องอาหาร ก็ตัดสินใจใช้ตึกแห่งนี้เปิดธุรกิจ Food & Beverage ร้านแรกของเขา ในชื่อ Ìm En Ville ในที่สุด

Ìm En Ville

ดีน – ดิตพันธ์ จิราธิวัฒน์

Nostalgic Days

ด้วยความชื่นชอบสถาปัตยกรรมเก่าแก่เป็นทุนเดิม สาเหตุเพราะพ่อของดีนมักพาเขาเที่ยวชมตึกเก่ามาตั้งแต่เด็ก พลอยให้ได้ซึมซับวัฒนธรรมและเสน่ห์ของตึกไปในตัว

Ìm En Ville

เขาพบว่า ตึกแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ที่นับเป็นเสน่ห์ควรค่าแก่การอนุรักษ์ เขาจึงคงความดิบของโครงสร้างตึก ผนังปูนถลอกและรอยแตกไว้ รวมถึงพื้นไม้สักบนชั้นสอง แต่พื้นที่บางส่วนจำเป็นจะต้องรีโนเวตใหม่ เขาเพิ่มเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นเข้าไป ให้คล้อยไปกับคอนเซ็ปต์ Industrial Contemporary

Ìm En Ville

ชั้นล่างแบ่งเป็น 2 ส่วน โซนแรก ‘Ìm Food Corner’ สำหรับอาหารจานด่วน มีเมนู ข้าวกะเพรา ข้าวแกงเขียวหวาน ข้าวมันไก่ และข้าวกระเทียม ราคาเริ่มต้น 79 บาท เพื่อดึงคอมมูนิตี้ของผู้คนในย่านนี้ “ผมไม่อยากให้คิดว่า ร้านเราดูแพงเข้าไม่ได้ ผมอยากให้ที่นี่เป็นร้านที่ใครๆ ก็เข้ามาได้ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมี budget เท่าไหร่ก็เข้ามาเลย ผมแค่อยากให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสกลิ่นอายของตึก”

Ìm En Ville

Ìm En Ville

Ìm En Ville

อีกครึ่งโซนแบ่งเป็นคาเฟ่ในชื่อ ‘Café Ìm’ คืนชีพความเป็นโรงพิมพ์เก่าด้วยการให้สถาปนิกออกแบบแป้นพิมพ์ยุคแรกแต่งเติมลงบนผนัง เป็นลูกเล่นช่วยเล่าประวัติศาสตร์ผ่านสถาปัตยกรรมได้เป็นอย่างดี และถ้าเดินขึ้นมาที่ชั้น 2 จะพบ ‘Maison Ìm Dessert Bar’ พื้นที่ทำเบเกอรี่โฮมเมดที่ให้ภาพเหมือนโรงงานทำขนมชั้นดี อบเสร็จเมื่อไหร่จะถูกส่งไปยังคาเฟ่ชั้นล่างทันที

Ìm En Ville

 Ìm En Ville

ถัดมาอีกนิดพบกับห้องอาหาร ‘59 Ìm Modern Bistro’ เน้นการตกแต่งแบบยุโรเปียนที่ให้เป็นส่วนตัว อบอุ่น แต่ก็สามารถนั่งชิคๆ ชิลล์ๆ ได้ การจัดวางชั้นหนังสือรายล้อม พร้อมกับหน้าต่างบานใหญ่ที่มองทะลุไปเห็นวิวเป็นวัดราชบพิธฯ ก็ยังพาให้ได้พบปะตัวตนเฟื่องนครมากขึ้นด้วย แต่จะเป็นภาพแบบไหนคงต้องลองมาสัมผัสกันด้วยตาตัวเอง

Ìm En Ville

ดีนอยากพา Ìm En Ville เป็นส่วนหนึ่งของถนนเฟื่องนคร จึงได้เปิดพื้นที่ ‘Exhibition Space & Common’ สำหรับจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปิน นักเรียน และนักศึกษา ไปจนถึงกิจกรรมของผู้คนในชุมชนด้วย “โดยรวมแล้ว ผมหวังอยากให้ร้านนี้เป็นเหมือน Living Space ให้ผู้คนเข้ามานั่งชิลล์ กิน ดื่ม เสพอาร์ต กินขนมได้ตลอดทั้งวันครับ”

Ìm En Ville

Fresh Oyster & Ponzu Jelly

Ìm En Ville

Tomato Salad

Let’s Taste

‘59 Ìm Modern Bistro’เน้นเสิร์ฟอาหารสไตล์ Western Food ทางร้านต้องการเน้นคนไทยเป็นหลัก จึงได้ปรับรสชาติให้จัดจ้านมากขึ้น มีเมนู Thai Fusion เสริมเข้ามาบ้างนิดหน่อย เมื่อสองมือของเราพาดวางลงที่โต๊ะอาหาร ดีนก็ขอเริ่มเสิร์ฟเมนูแรก Fresh Oyster & Ponzu Jelly (149 บาท) หอยนางรมเนื้อสดชุ่มฉ่ำ กับแอปเปิลเขียวหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ ซอสพอนสึเยลลี่รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟแบบเย็นๆ แนะนำให้รีบกินทั้งคำ จะได้ลิ้มรสความสดชื่น Tomato Salad (310 บาท) มะเขือเทศจากฟาร์มที่เชียงใหม่ รสชาติเปรี้ยวหวานกินง่าย ท็อปด้วยมะเขือเทศที่นำไปอบแห้งเพียงครึ่งเดียว เพิ่มดีเทลระหว่างกัดเข้าไป มีชีส Stracciatella นุ่มๆ รสคล้ายโยเกิร์ต กับขนมปังกรอบหั่นเต๋า ราดด้วย Basil Oil กับซอสมะเขือเทศ คนไม่ชอบกินมะเขือเทศ ถ้าได้ลองเมนูนี้แล้วจะติดใจเลยล่ะ

Ìm En Ville

Mixed Seafood Spaghetti Kee-mao

Ìm En Ville

Crispy & Skin Salmon

Mixed Seafood Spaghetti Kee-mao (459 บาท) Mixed Seafood ที่หาได้ในพื้นที่ นำมาผัดกับน้ำซอสที่มีส่วนผสมของซีอิ๊วหลายรสชาติ เพิ่มความเผ็ดหอมด้วยพริกไทยสดและใบโหระพา ใครชอบกินเผ็ดแนะนำ! ต่อมา Crispy & Skin Salmon (549 บาท) แซลมอนเนื้อนุ่ม มีกลิ่นหอมของสมุนไพรเข้ามาด้วย ส่วนหนังปลาแซลมอนกรอบ ใช้เวลาตากแห้งถึง 2 วัน เสิร์ฟคู่กับสลัดและไข่ปลาแซลมอน กับ Pea Sauce ซอสถั่วปั่นละเอียดไม่ผ่านความร้อน ทำให้คงรสและกลิ่นหอมของถั่วได้ดี (เป็นเมนูที่มีกรรมวิธีการปรุงซับซ้อนหลายขั้นตอนมาก)

Ìm En Ville

Dry Aged Wagyu Ribeye

ถ้ายังไม่อิ่มก็มาต่อที่ Dry Aged Wagyu Ribeye (1,759 บาท) เนื้อวากิลจากออสเตรเลีย และน้ำจิ้มแจ่วสูตรเฉพาะ ด้วยการนำน้ำซอสเนื้อเข้มข้นผสมกับน้ำจิ้มแจ่ว และนำกรรมวิธีการทำซอสของฝรั่งเศสมาใช้ เมื่อกินกับเนื้อ ยิ่งช่วยชูรสชาติและความหอมของเนื้อได้เป็นอย่างดี จบของคาวเพื่อต่อของหวาน Half Baked Chocolate Cookie with Vanilla Cream (239 บาท) คุกกี้ช็อกโกแลตชิพเนื้อนุ่มกินคู่กับไอศกรีม ได้สัมผัสความหอมของรสวานิลลาเน้นๆ แนะนำให้กิน 2 คน เพราะเขาเสิร์ฟแบบไม่เกรงใจพุงกันเลยทีเดียว

Ìm En Ville

Half Baked Chocolate Cookie with Vanilla Cream, Mixed Fruit Pavlova

ปิดท้ายด้วย Mixed Fruit Pavlova (229 บาท) พัฟโลวาที่มีเมอแรงก์รสหวานตัดกับผลไม้รสเปรี้ยวหลายชนิด ข้างในเป็นซอสเคพกูซเบอรี่รสเปรี้ยว กินเป็นเมนูดับร้อนและดับง่วงได้เลย เพราะแค่คำแรกก็เรียกพลังและความสดชื่นได้ทันที

Ìm En Ville

อีกความพิเศษที่ขอยกให้เป็นเสน่ห์ของ Ìm En Ville คือบานหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ทำให้มองเห็นวิวในมุมมองกว้าง หากมาที่ร้านช่วงฟ้าสว่างคงได้มู้ดที่สดใส แต่ถ้ามาช่วงค่ำๆ จะมองเห็นแสงไฟระยิบระยับสวยงาม สะท้อนจากกระเบื้องวัด กับไฟที่สาดส่องบนท้องถนน เย้าเสน่ห์คนหลงใหลชั่วยามค่ำคืนเป็นอย่างดี หากทางร้านบังเอิญเปิดดนตรีคลอหูด้วย ก็คงทวีความโรแมนติกน่าดู ไม่เชื่อลองมาสัมผัสสักครั้งสิ

ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่อยู่ : 59 ถนนเฟื่องนคร แขวงวัดราชบพิตรฯ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิด-ปิด : Café Ìm เวลา 09:00 – 18:00 น.
Ìm Food Corner เวลา 09:00 – 16:00 น. ปิดวันพุธ วันเสาร์-วันอาทิตย์
59 Ìm Modern Bistro วันจันทร์ – วันพฤหัส เวลา 11:30 – 21:30 น. วันศุกร์ เวลา 11:30 – 22:30 น. และวันเสาร์ – วันอาทิตย์ เวลา 09:00 – 22:30 น. (ร้านปิดทุกวันพุธ)
Facebook Page : IM En Ville อิ่มในเมือง

Tags: