ก่อนไปเรื่องร้านอาหาร ไปทำความรู้จักแบรนด์โรงแรมอาศัยกันสักนิด ที่นี่เป็นแบรนด์ลูกของเครือดุสิตธานี แบรนด์ไทยซึ่งเชื่อมั่นได้ถึงฝีไม้ลายมือในสายธุรกิจโรงแรมที่มีมายาวนาน แม้ภาพของดุสิตธานีคือความหรูหราที่ผสมผสานความเป็นไทย แต่ “อาศัย” กลับฉีกแนวด้วยคาแรกเตอร์ที่ดูวัยรุ่นกว่า หวือหวาเล็กน้อย

ถ้าเทียบกับดุสิต ASAI ที่อ่านและสะกดไทยได้ว่า อาศัย ก็จะเด็กลงมาและดูเฟรนลี่มากขึ้น

ตามคอนเซปต์ Neighborhood Hotel ที่ต้องการกลมกลืนและสะท้อนท้องถิ่นที่โรงแรมนั้นมีทำเลอยู่ สำหรับอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ เปิดเมื่อปี 2020 และคงตามด้วย อาศัย อื่นๆ ในอีกหลายโลเกชัน (ตอนนี้เพิ่งเปิด อาศัย สาทร ไปสดๆ ร้อนๆ)

ความเป็นโรงแรม limited service อยากให้ทุกคนเข้ามาแล้วรู้สึกสบายๆ เหมือนอยู่บ้านมากกว่าโรงแรมห้าดาว common area จึงออกแบบเป็น multi-purpose จะดื่ม กิน เดินเล่น พักผ่อน นั่งคุยงาน ก็รวมไว้ในชั้นนี้ชั้นเดียว (ชั้น 4) ซึ่งเราก็น่าจะเจออะไรแบบนี้ได้ใน “อาศัย” ทุกที่ทั้งในไทยและต่างประเทศ

ด้วยความอยากจะ localization ชูจุดเด่นของท้องถิ่นนั้นๆ อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ ซึ่งอยู่ใจกลางเยาวราช ย่านสตรีทฟูดชื่อดังของเมืองไทย โรงแรมก็เลยลุกขึ้นมาเปลี่ยนเมนูของ แจม แจม อีทเทอรีย์ แอนด์ บาร์ เป็นเอเชี่ยนทวิสต์ที่ตีความหมายได้ว่าเป็นอาหารจีนกินง่ายในสไตล์ร่วมสมัยขึ้นให้เข้ากับบรรยากาศแสงสีและความคึกคักของเยาวราช

แจม แจม อีทเทอรีย์ แอนด์ บาร์ เป็นร้านอาหารที่มี 2 โซน โซนอินดอร์ตกแต่งแบบจีนร่วมสมัย บรรยากาศโคซี่เป็นกันเอง ส่วนโซนเอาท์ดอร์ก็กว้างขวาง เปิดโล่งรับแสงธรรมชาติ มีโซฟาเบดพักผ่อน นั่งฟังเพลง สั่งค็อกเทลเรียกน้ำย่อย

เชฟวิษณุ เตียวตระกูล หัวหน้าเชฟของแจม แจม อีทเทอรีย์ แอนด์ บาร์บอกว่า ทุกจานได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมไทย-จีน แต่ละจานเสิร์ฟในปริมาณพอเหมาะ ไม่มากและไม่น้อยไป และอยากให้ทุกจานคือความสนุกที่เราสามารถนำไปแพร์ริ่งกับเครื่องดื่มเองได้ จะกินแบบไหน ดื่มแบบไหนก็เพลินได้ทั้งนั้น และมั่นใจได้ว่าเชฟคัดวัตถุดิบคุณภาพ คัดสรรเองทุกขั้นตอน

เริ่มด้วยเมนู ฟักทองทอดซอสไข่เค็ม เป็นฟักทองญี่ปุ่นเนื้อเนียน หั่นเป็นชิ่นกำลังดี เชฟนำไปชุบแป้งทอดจนเหลืองกรอบ จากนั้นผัดกับซอสไข่เค็มทำเองดองด้วยน้ำเกลือ จานนี้เค็มๆ มันๆ เหมาะเป็นจานเรียกน้ำย่อย พอๆ กับอีกจาน กัมบัสกุ้งกระเทียมผัดซอสเอ็กซ์โอ เสิร์ฟพร้อมหมั่นโถวนึ่ง สำหรับคนชอบรสชาติเข้มๆ ขึ้นมา ส่วนสลัดน่าลองก็คือ สลัดรวมซอสยูสุ จานนี้กินแล้วรู้สึกสดชื่น

สำหรับคนชอบปิ้งย่าง ที่นี่ก็ครีเอทเมนูได้น่าสนใจโดยใช้ “ซอส” เป็นตัวนำ เช่น เนื้อย่างซอสมัสตาร์ด เป็นเนื้อแองกัสจากออสเตรเลียย่างจนสุกกำลังดี ราดด้วยซอสมัสตาร์ดฉ่ำๆ ไก่ย่างซอสต้นหอม เป็นไก่เคล้าน้ำมันงาเสียบไม้ย่างแบบญี่ปุ่น เนื้อสับย่างเครื่องลาบ ซอสไข่แดง ดูเป็นญี่ปุ่นก็จริง แต่ใช้เครื่องลาบสมุนไพรไทยเป็นตัวชูรส เห็ดย่างซอสหม่าล่า รวมทั้ง ปีกไก่ย่างเกลือ ก็น่าสั่งมาแกล้มเครื่องดื่ม

และถ้าใครยังอิ่มได้อีก เราแนะนำว่าควรสั่ง ข้าวผัดหมูแดงปลาเค็ม หรือผัดหมี่เป๋าฮื้อซอสเอ็กซ์โอ มาตบท้ายได้เลย

ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง เปาะเปี๊ยะกล้วยกับไอศกรีมวานิลลา ราดคาราเมล และถั่วลิสงบด และไอศกรีมกะทิไข่แข็ง ที่ใช้ไข่เค็มไข่เป็ดมันๆ มาสร้างความอร่อย เมนูนี้กินไปลองจินตนาการถึงบรรยากาศสตรีทฟูดเยาวราชไปก็สนุกดี แต่อาจจะดีกว่าตรงที่นั่งกินที่นี่ แอร์เย็นฉ่ำ สบายตัว ไม่ต้องไปเหนียวตัว เปียกเหงื่อ เหมือนนั่งกินอยู่ริมถนนเยาวราชจริงๆ