About
ART+CULTURE

Nude is Art

Nude Art ไม่ใช่แค่แก้ผ้า ค้นพบนิยามนู้ดจาก แมท-โศภิรัตน์ ช่างภาพนู้ดหญิงคนแรกๆ ของไทย

เรื่อง ศรีวลี หลักเมือง Date 08-03-2024 | View 4788
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • Nude Art หรือศิลปะนู้ดที่ยังคงติดกับดักใต้วงล้อของวัฒนธรรมไทย แต่ ‘แมท – โศภิรัตน์ ม่วงคำ’ ช่างภาพนู้ดหญิงคนแรกๆ ในไทยได้ทลายกรอบกับดักของ Nude Art ด้วย ‘จุดยืน’ ที่สร้างขึ้นมาสามข้อ คือ หนึ่ง ทำงานอย่างจริงใจ ไม่ตามกระแส สอง เลือก ‘สื่อ’ ที่เข้าใจเธอเพื่อสื่อสารออกไป และสาม การ ‘วางตัว’ ในฐานะช่างภาพนู้ดเพื่อไม่ให้ถูกล้ำเส้น กว่า 10 ปีกับการเดินทางในสายงานช่างภาพนู้ด เธอค้นพบ ‘ความหมาย’ แล้วจากการตั้งคำถามด้วยการถ่ายภาพ Nude Art ที่ไม่ใช่แค่ ‘สวยแล้วยังไงต่อ’ อีกต่อไป

‘แมท – โศภิรัตน์ ม่วงคำ’ หรือ “ผู้หญิง ถือกล้อง” คือช่างภาพนู้ดหญิงคนแรกๆ ของไทยที่บอกกับเราว่าเธอคลั่งไคล้การถ่ายภาพนู้ด แม้ว่าศิลปะภาพนู้ดในไทยแทบจะหาได้น้อยมาก เพิ่งจะเห็นกันโต้งๆ เมื่อปี 2018 นี้เอง

จุดยืนที่แน่ชัดนี้มาจากการ ‘วางตัว’ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งในแง่ของคนที่ ‘เต็มใจ’ เป็นแบบเปลื้องผ้าต่อหน้า คนที่ชื่นชอบในผลงาน หรือสื่อที่ต้องการอยากจะนำเสนอในเรื่องของ Nude Art เพื่อการศึกษา

หลายปีก่อนเราได้อ่านบทสัมภาษณ์แมทบนเว็บไซต์หนึ่งแต่ก็แค่ชั่วแวบเดียว แต่การพูดคุยกันครั้งนี้ เหมือนเรากับแมทขยับเข้ามาใกล้กันมากขึ้น และเธอก็กล้าหาญมากพอที่จะขบถ ต่อความเชื่อผิดๆ ในวงการศิลปะภาพนู้ดเพราะค้นพบความหมายที่ว่า

นู้ดคือศิลปะ…

นู้ดคือการคืนอิสรภาพต่อมนุษย์…

และนู้ดคือการดำดิ่งสู่จิตใต้สำนึกของตัวเอง…

แต่กว่าจะค้นพบความหมายนี้ ก็กินเวลากว่า 10 ปีหลังจากเริ่มแสดงงานในฐานะช่างภาพนู้ด

Nude is Art

สวยแล้วยังไงต่อ

สำหรับแมท ร่างกายมนุษย์และภาพนู้ดน่าสนใจยังไง

เราเป็นคนที่รู้สึกชินกับร่างกายตัวเองตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว พอโตมาเราเห็นผิวหนังมนุษย์เราก็รู้สึกชอบ ชอบที่มีความเป็นเนื้อหนัง ชอบแสงและเงาที่ตกกระทบผิว อย่างสัตว์เลื้อยคลานก็ชอบ ซึ่งจุดที่ทำให้รู้สึกว่างานนู้ดไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำให้เรากระอักกระอ่วนใจที่จะดู อาจจะเป็นเพราะเคยมีโปสต์การ์ดหรือโปสเตอร์ภาพนู้ดของฝรั่งเศส และผลงานของอาจารย์จักรพันธ์ุ โปษยกฤต (ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์) ที่วาดภาพนู้ดแบบไทยๆ ที่เราชอบ

จนมีโอกาสเข้ามาวงการถ่ายภาพจริงๆ ด้วยการเป็นแบบก่อน เราเองก็ไม่ได้เรียนจบด้านศิลปะหรือถ่ายภาพเลย แต่เราชอบเรื่องความสวยความงาม ซึ่งบางครั้งคนอื่นถ่ายรูปตัวเราได้ไม่เหมือนกับที่เราวาดภาพไว้ในหัว เราก็เลยซื้อกล้องมาตั้งถ่ายตัวเอง จนเราเรียนรู้จากการถ่ายรูปตัวเองทุกวัน แต่พอถ่ายงานไปเรื่อยๆ มองเห็นผิวหนัง แสง เงา เราก็รู้สึกว่า ‘สวยแล้วยังไงต่อ’ ด้วยความที่เป็นคนชอบตั้งคำถามเลยทำให้เราคิดว่าความสวยงามแค่อย่างเดียวมันไม่ตอบโจทย์อีกต่อไปแล้ว เราก็เลยตั้งคำถามต่อไปถึงสิ่งที่เราสนใจ ซึ่งเราพบว่าสนใจเรื่องของ ‘มนุษย์’ มากๆ จากที่เราชอบแค่เปลือก (ผิวหนังมนุษย์) แต่จริงๆ สิ่งที่เราชอบคือ ‘ความคิด’ ที่ได้ตั้งคำถามและตอบโจทย์จากมนุษย์ไปเรื่อยๆ

พอเข้าวงการ เริ่มถ่ายนู้ดเลยหรือเปล่า

เราเข้าไปอยู่ในกลุ่มภาพถ่ายแลนด์สเคป เพราะเราเป็นคนชอบเที่ยว ชอบเดินทาง ชอบแต่งตัว แม้กระทั่งเดินป่าเราก็แต่งตัวแนวแฟชั่นใส่เกาะอก ในเมื่อเราแต่งตัวแฟชั่นไปแล้วช่างภาพในกลุ่มเขาก็เรียกเราให้ลองเป็นแบบถ่ายพอร์ตเทรต ช่วงนั้นแสงสวยพอดี เหมาะที่จะถ่ายภาพพอร์ตเทรต

แต่แล้วมีพี่คนนึงเขาจะเปิดสตูดิโอถ่ายภาพ เขาก็ชวนเราไปเป็นแบบถ่ายบิกินี่ พี่เขาถ่ายดีมาก พอภาพเซตนั้นเผยแพร่ออกไปก็มีคนติดต่อเราเข้ามาให้เป็นแบบเยอะขึ้น เราก็เริ่มรู้สึกแฮปปี้กับร่างกายเรา ตรงนี้เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนให้เราเริ่มลองถ่ายภาพนู้ดตัวเองและคนอื่นๆ ตามมา

Nude is Art

แมทมีวิธีคิด ตีความงานยังไง

เท้าความก่อนว่าช่วงปี 2018 มีงานจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกที่สื่อไทยให้ความสนใจเราเยอะมาก เพราะก่อนหน้านั้นเราไม่ได้ออกสื่อไทยเลย แต่เราออกสื่อต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2013 แล้ว แต่พอปี 2018 เราได้ออกสื่อที่ไทยเพราะเริ่มมีการขับเน้นเรื่องของความเท่าเทียม คิดว่าที่เขาสนใจเพราะน่าจะเห็นงานเราที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ละมั้ง แต่พอเราเจอคำถามหลังจากนั้นว่า ‘งานของคุณดูมีความเป็นไทยยังไง?’ เราก็ถามกลับไปว่า ‘แล้วความเป็นไทยที่คนไทยเข้าใจกันจริงๆ มันเป็นยังไงเหรอ’

เราได้ยินแบบนั้นก็คิดว่าถ้าเป็นเรา เราจะไม่ใช้ความรู้สึกนำ แต่เราจะรวบรวมข้อเท็จจริงจนมากพอที่จะเป็นข้อมูลในการทำงาน ก็เลยมีวิธีของเราว่าจะเดินทางไปพูดคุยกับคนท้องถิ่นเพื่อหาคำตอบให้งานของเรา เช่นว่าพวกเขามีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับร่างกายของตนเอง สำหรับนี่เป็นข้อมูลที่ร่วมสมัยที่สุด เพราะต่อให้เขาไม่ใช่นักวิชาการ แต่ก็ถูกหล่อหลอมมาจากการ Grooming บางอย่างที่เจอมา

Nude is Art

พอจะเล่าตัวอย่างให้ฟังได้ไหม

ก่อนจะคิดวิธีการทำงานหรือโปรเจกต์ใหม่ เราเคยมีโอกาสไปเสวนาในงาน Festival du Féminin Bangkok ซึ่งเป็นเทศกาลของฝรั่งเศส หัวข้อที่เสวนาในวันนั้นคือ This is My Body ในมุมมองของช่างภาพนู้ดหญิง ซึ่งประจวบเหมาะกับจังหวะที่เราคิดจะทำโปรเจกต์อยู่พอดี ทางเทศกาลที่ฝรั่งเศสเขาก็เลยเสนอว่างาน #DontTellMeHowToDress (งานการรณรงค์เชิงสร้างสรรค์เพื่อต่อต้านความรุนแรงทางเพศ) ที่เข้าร่วมในเทศกาลนี้เขากำลังจัดนิทรรศการที่กรุงเทพฯ นะ เราสนใจอยากจะจัดนิทรรศการด้วยมั้ย เราตอบตกลง แต่ไม่รู้จะแสดงงานอะไรดี

บังเอิญว่าตอนนั้นมีนางแบบคนนึงเขาโดนโซเชียลบูลลิ่ง นางแบบคนนี้เราเคยถ่ายแบบให้เขา แล้วเขาก็ทักมาหาเราว่า Hey! Sis! เขาโดนโซเชียลบูลลิ่งนะ ช่วยหน่อย เราเลยบอกว่าการให้กำลังใจและสนับสนุนในทางของเราไม่ใช่การคอมเมนต์ด่าคนที่บูลลี่นะ แต่เราจะทำงานออกมาซัพพอร์ตในแบบของเราให้เอง

Nude is Art

เราก็เลยเซตโปรเจกต์ขึ้นมาชื่อว่า ‘Message in the Body’ เพื่อแสดงคู่กับ #DontTellMeHowToDress ซึ่งโปรเจกต์ ‘Message in the Body’ ต้องการสื่อสารว่าอย่าล้อเลียนร่างกายของคนอื่นเล่นๆ แต่ให้ตระหนักถึงความรู้สึกของคนอื่นให้มากๆ เพราะถ้าคุณเป็นเจ้าของร่างกายนั้น คุณจะพูดในเชิงล้อเลียนกับตัวเองอยู่หรือเปล่า

Nude is Art

พอเราทำโปรเจกต์นี้ เจ้าของแกลเลอรี Maispace ที่เชียงใหม่เขาก็ชวนไปเราไปทำงานที่เชียงใหม่ ตอนนั้นเราอยากเดินทางทั่วไทย เราก็ทำโปรเจกต์ This is My Body ทั้ง 4 ภาคเลย คือ เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ที่เล่าถึง ‘มายาคติ’ หรือความเชื่อผิดๆ ของมนุษย์ในแต่ละภาค

Nude is Art

แต่ละภาคมีวัตถุดิบที่ทำให้เราต้องคิดใหม่ทุกครั้งไหม

เราทำโปรเจกต์ This is My Body ที่เชียงใหม่ อยากพูดเรื่อง Body Shaming & Social Bullying ด้วย เพราะเราคิดว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ถูกมองเห็นข้อเสียหรือโดนบูลลี่เยอะสุด ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ผู้หญิงเท่านั้น แต่เป็น LGBTQA+ ที่มีประเด็นเกี่ยวกับร่างกายของตัวเองมากที่สุด เราดูว่ามีใครน่าสนใจพอที่จะเชื่อมต่อเรื่องราวของ LGBTQA+ ในเชียงใหม่บ้างไหม แล้วก็ไปเจอกลุ่ม ‘Young Pride Club’ เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่น่าสนใจ เราอยากได้คนเล่าเรื่องที่เป็น LGBTQA+ ในภาคเหนือพอดี เพราะเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ถูกพูดถึงเรื่อง LGBTQA+ เยอะกว่ากรุงเทพฯ เขาโดนมาหลากหลายมาก

Nude is Art

พอไปอีสาน เป็นศิลปินพำนักที่ขอนแก่น เราก็ทำโปรเจกต์ This is My Body ต่อจากเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องของโซเชียลบูลลิ่ง เราเอาหัวข้อนี้ไปบอกชาวบ้านว่าเราจะมาช่วยรณรงค์เรื่อง This is My Body Social Bullying Body Shamming นะ แต่ชาวบ้านทางอีสานเขาไม่อินเรื่อง Social Bullying เลย เพราะเขามีความ Diversity ประมาณนึง ซึ่งถ้าเราหยิบเรื่องที่เขาสนใจหรือจุดยืนของเขามาพูด เขาจะอินทันที ดังนั้นเวลาทำงานเราต้องมีหัวข้อที่คนรู้สึกร่วมกับเราด้วย เลยทำโปรเจกต์ใหม่เป็นเรื่อง Live Life in Your Own Skin ที่พูดถึงคาแรกเตอร์ของศิลปิน คนอีสานพลัดถิ่น หรือคนที่อพยพจากที่อื่นมาอยู่ที่นี่ และมี LGBTQA+ รวมอยู่ด้วย

Nude is Art

ปีก่อน (2023) เราได้เข้าชมและร่วมเป็นแขกรับเชิญพูดคุยเกี่ยวกับสารคดี All The Beauty And The Bloodshed ของ แนน โกลดิน ที่ Doc Club และ a.e.y.space ที่สงขลา เรารู้เลยว่าสารคดีเรื่องนี้มัน This is Me! มันตัวเรา! เพราะแนนโกลดินเขาต่อสู้ก่อนที่เราจะเกิดซะอีก มันคือสิ่งที่เรากำลังต่อสู้อยู่ที่ประเทศไทยในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ความเชื่อ การถ่ายนู้ด หรืออะไรที่เป็นงานถ่ายใหม่ๆ ของเรา อย่างแนนเขาไม่ได้พูดถึงงานถ่ายอย่างเดียว เขาพูดถึงเรื่องมนุษย์ด้วย เพราะเขาถ่ายเพื่อน ถ่ายคนชายขอบ เราก็เลยสนใจเขา

Nude is Art

เราควรจะต้องปลดปล่อยจิตใต้สำนึกบ้างเพื่อไม่ให้เราเป็นบ้า

การทำโปรเจกต์แต่ละชิ้นเหมือนการเชื่อมต่อกันทีละจุด ล่าสุดนิทรรศการ LUNATIQUE เชื่อมกับความสนใจส่วนตัวยังไงบ้าง

นิทรรศการนี้ พี่เอ๋ (ปกรณ์ รุจิระวิไล) แนะนำให้เรารู้จักน้องไนซ์ ซึ่งงานของเขาดูเป็น Female Gaze เห็นครั้งแรกเราชอบเลย พี่เอ๋เลยบอกว่าเห็นการ ‘เชื่อมต่อ’ บางอย่างระหว่างเรากับน้องไนซ์ พอเราคุยกันก็รู้สึกว่าเคมีเข้ากัน คิวเรเตอร์นิทรรศการนี้คือพี่เลิฟ (กริยา บิลยะลา) ได้สัมภาษณ์เรากับน้องไนซ์ แล้วจับคีย์เวิร์ดว่ามีอะไรที่เหมือนกันบ้าง ซึ่งงานน้องไนซ์จะเกี่ยวข้องกับ ‘พระจันทร์’ กับความเป็น ’เพศหญิง’ ที่เปรียบเทียบระหว่างรอบการโคจรของพระจันทร์และรอบการตกไข่ของผู้หญิง อย่างเช่นการโคจรรอบพระจันทร์จะใช้เวลาราว 27.9 วัน ซึ่งใกล้เคียงกับรอบการตกไข่ของผู้หญิงในระยะเวลาราว 28 วัน ทั้งสองสิ่งนี้เชื่อมต่อพลังของความเป็นหญิงผ่านภาพวาดแนวแฟนตาซีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการอ่านนิทานหรือการ์ตูนในวัยเด็ก

Nude is Art

แต่งานของเราพูดถึง ‘LUNATIQUE’ ในมุมเกี่ยวกับความเชื่อ ‘สหสัมพันธ์ลวง’ (Illusory Correlation) คือการรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่ไม่มีอยู่จริง เป็นเหมือนการตั้งคำถามกลับไปอีกที เพราะในฐานะศิลปินทั้งตัวเราและแบบของเราถือว่าเป็นคนกลุ่มน้อยที่หลายๆ ครั้งคนหมู่มากไม่เข้าใจการกระทำหรือการแสดงออกของเรา และเลือกใช้คำว่า ‘LUNATIC’ มาจำกัดความในสิ่งที่เราแสดงออกในบางครั้ง ซึ่งคำว่า LUNATIC ก็เหมือนโลกคู่ขนานของ LUNATIQUE ในนิทรรศการนี้

Nude is Art

เราเลือกเป็นงานภาพถ่ายสะสมตั้งแต่ช่วงปี 2019 จนถึงปัจจุบัน ระหว่างไปเป็นศิลปินพำนักในจังหวัดต่างๆ มีเฉพาะงาน Site-specific Art ที่ทำงานร่วมกับงานน้องไนซ์ เพื่อเชื่อมโยงความเป็นสงขลา ผู้คน พื้นที่ และตำนานของนางเงือก ซึ่งน้องไนซ์มีพื้นเพอยู่ในจังหวัดสงขลา

Nude is Art

เราเชื่อในคำว่า ‘จิตใต้สำนึก’ คำว่า LUNATIQUE คือเราควรจะต้องปลดปล่อยจิตใต้สำนึกบ้างเพื่อไม่ให้เราเป็นบ้า พี่เลิฟก็พูดคำนึงออกมาว่า ‘Spontaneous’ ในระหว่างที่เราทำงานกัน ก็มีเมจิกโมเมนต์ในหลายครั้ง เราเป็นคนนึงที่เชื่อในเรื่องของพลังงาน เช่นเวลาพระจันทร์เต็มดวง บางทีเราก็ออกไปอาบแสงจันทร์เพื่อรับพลังงานอย่างนั้นเลย

Nude is Art

เห็นว่างานนี้มาจากโปรเจกต์ Bonding หลายปีก่อนด้วย

ตอนที่คุยโปรเจกต์ร่วมกันมันเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เราก็เลยอยากพูดถึงเรื่องความรัก เรารู้จักงานของน้องไนซ์มาก่อน งานน้องเป็นแนวอีโรติก มีความเป็นแฟนตาซี มันก็ไปตรงกับงานที่เราเก็บไว้ ชื่อว่า ‘Bonding’ (การเชื่อมต่อ) เป็นเซตของความสัมพันธ์ พูดถึงความรักหลากหลายเลเยอร์ที่มาจากโปรเจกต์เมื่อปี 2018 ช่วงนั้นเราเจอหลายความคิดเห็นจากคนไทยประมาณว่า ‘ถ้าคนสองคนแก้ผ้าถ่ายนู้ดด้วยกันมันจะดูเป็นภาพอนาจารเรื่องเพศไปเลยไหม’ เราก็พูดว่า ‘จริงเหรอ?’ ต้องเอาข้อเท็จจริงมาวัดกันไหม เราเลยทำโปรเจกต์หาคำตอบ โดยเชิญคนมาถ่ายภาพนู้ดด้วยโจทย์ที่ว่าถ่ายยังไงไม่ให้เข้าข่าย Sexuality ซึ่งแบบของเราในโปรเจกต์นี้จะเป็นคนในแวดวงศิลปะ ไม่มีแบบที่เป็นมืออาชีพเลย ทุกคนแก้ผ้าถ่ายรูปกันครั้งแรก ตรงนี้เลยเป็นที่มาของชื่อ Bonding ว่าคนที่จะมาแก้ผ้าถ่ายรูปให้กันต้องเชื่อใจกัน มันต้อง Bonding กัน

Nude is Art

มีแบบที่เขาปฏิเสธบ้างไหม

น้อยมาก (ย้ำเสียง) ส่วนใหญ่เราทำงานควบคู่ไปกับทำยังไงก็ได้ให้คนหาเราให้เจอ ด้วยความที่เราคุยและทำงานกับคนมาเยอะ มันจะมีเซนส์บางอย่างว่าเขาสนใจมั้ย ไม่ใช่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง บางคนคุยกัน 5 นาทีก็รู้แล้วว่ามีความเป็นไปได้มั้ย ความเป็นไปได้ระดับไหน เพราะเราอยากใช้พลังในเรื่องของการทำงาน ไม่ได้อยากใช้พลังงานในเรื่องการตื๊อคน มันเป็นเรื่องร่างกายของเขาเนอะ มันต้อง Consent ถ้าเราไปตื๊อเขา คนที่จะโดนดราม่าคนแรกคือตัวเขาอยู่ดี เราต้องดูว่าจะรับผิดชอบชีวิตเขาหลังจากนั้นได้จริงหรือเปล่า จะให้เขาโดนถ่ายทิ้งขว้างแบบไม่แคร์เลยก็ไม่ได้

Nude is Art

ต่อให้เราไม่ได้ถ่ายภาพนู้ด เราก็จะมีจุดยืนว่าเราต้องรักร่างกายของเราก่อน

เป็นช่างภาพนู้ดในไทยยากมากไหม

ช่างภาพนู้ดเกี่ยวข้องกับจิตวิทยาเป็นหลักเลย แล้วก็เรื่องของความเข้มแข็งของจิตใจทั้งภายในและภายนอก เช่นจะทำยังไงให้คนมาแก้ผ้าต่อหน้าเราได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ ซึ่งต้องมีจิตวิทยาในการเข้าถึงคนที่สูงมาก ส่วนตัวงานมันเป็นเรื่องของการใช้ภาษากายและการวางองค์ประกอบของภาพ การควบคุมอารมณ์ของแบบให้ไปในทิศทางเดียวกันกับที่เราอยากถ่ายทอด การใช้แสง พวกองค์ประกอบเล็กๆ ก็สำคัญมาก อย่างเช่นภาพอีโรติกก็ต้องถ่ายตอนเย็นให้มีแสงสีเหลืองๆ เพราะโทนสีมีผลต่อความรู้สึก หรือถ้าอยากให้ดูใสๆ แบบโลลิต้าก็ไปถ่ายแสงตอนเช้า การถ่ายคนขึ้นอยู่กับแสงด้วย แสงเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน

ถ้ายิ่งเป็นช่างภาพนู้ด เรื่องกฎหมายสำคัญมาก เช่น คุณถ่ายใครได้บ้าง คุณแสดงงานได้ที่ไหนยังไง มีเงื่อนไขยังไง ไม่ใช่แค่นั้น งานนู้ดมันเป็น Fine Art เพราะฉะนั้นภาพคน เรือนร่างประเภทนี้เขาจะต้องโพสท่าไหน อย่างคนหลังสั้นจะก้มไม่ได้ หรือคนขายาวต้องโพสท่านี้ เราก็ไปเรียนรู้เรื่องกายวิภาคเพิ่ม มันก็เลยทำให้เราคุยกับตัวเองว่า อ๋อ…นี่คือนู้ดพาไป

Nude is Art

ถ้าภาพนู้ดคืองานศิลปะชิ้นหนึ่ง เราจะมองงานชิ้นนี้ในแง่มุมไหนได้บ้าง

ความเป็นศิลปะมันขึ้นอยู่กับว่าศิลปะของเราคืออะไร สมมติว่าเรามองผิวหนัง แสง เงา แล้วเห็นว่าคอมโพสิชั่นแสงและเงาสวยก็จะเป็นสุนทรียะเชิงสายตา เป็น Artistic Nude เลย แต่ตอนนี้งานของเราจะเป็นสุนทรียะเชิงปัญญา เป็นเชิงเนื้อหาและบริบท เพราะสำหรับเราศิลปะคือการสื่อสาร ตัวเราคือผู้ส่งสารไปสู่ผู้รับสารอีกที

Nude is Art

ถ้าอย่างนั้นงานของแมทพยายามสื่อสารว่า สิทธิเสรีภาพในร่างกายของเรา ตัวเราเองเท่านั้นควรจะเป็นคนยอมรับมันโดยไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมายอมรับก็ได้ ถูกไหม

เรียกว่า ‘จุดยืน’ ดีกว่า ต่อให้เราไม่ได้ถ่ายภาพนู้ดเราก็จะมีจุดยืนว่าเราต้องรักร่างกายของเราก่อน มันคือ First Priority ต้องยอมรับมันก่อน เพราะถ้าเรายังไม่รักตัวเองหรือไม่ยอมรับตัวเองจริงๆ สุขภาพจิตเราจะไม่ดีเลยนะ ถ้าต้องรอให้คนนั้นคนนี้มายอมรับแล้วเราจะทำหน้าที่หรือมีความสุขจริงๆ ได้ยังไง เราเชื่อว่าถ้าสุขภาพจิตใจเราดี เราจะทำอะไรก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปินก็ได้ เพราะเวลาเราเจออุปสรรค คนที่ให้กำลังใจเราดีที่สุดคือตัวเราเอง

อย่างตัวเราเอง เรื่องสิทธิในร่างกาย มันคือร่างกายของเรา แต่เราต้องดูบริบทด้วยว่าไอ้สิ่งที่เราทำมันไปทำความเดือดร้อนให้คนอื่นหรือเปล่า เพราะถ้าเราพูดแค่สิทธิร่างกายของเราแค่นี้สั้นๆ มันก็ไม่พอ เพราะจะมีรุ่น Underage ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอยู่ด้วย แต่จริงๆ เขาก็ไม่ผิดนะ แต่เขาอาจจะเสียใจทีหลัง ดังนั้นความรับผิดชอบต่อสังคมของเราก็คือ เราทำข้อตกลงเลยว่าคนที่จะมาถ่ายแบบให้เราต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น เพราะสิ่งที่เราให้ความสนใจกับวิธีการทำงานของเรามากๆ ก็คือ เรากับคนถ่ายแบบต้องแฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าใครดูรูปเราแล้วไม่ชอบก็ไม่เห็นจะเป็นไร เพราะเราถือว่าเราแฮปปี้แล้ว

Nude is Art

มันคือความเป็นมนุษย์

อะไรทำให้คนยอมรับในความเป็นช่างภาพนู้ดของแมท

อืม..อย่างแรกเราไม่ได้ทำงานตามกระแส เราแค่ชอบทำงานเฉยๆ (หัวเราะ) เราทำต่อเนื่อง จริงใจ และใส่ใจกับมันจริงๆ

สอง เราเลือกสื่อที่เราจะออกด้วย มีอยู่ช่วงหนึ่งที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับสนใจอยากจะสัมภาษณ์เรา แต่เราปฏิเสธไป เพราะการทำงานของเราจริงๆ คือการส่งสาร เราคิดว่าบางคนเขาไม่พร้อมที่จะเข้าใจสารที่เราจะสื่อ และเราไม่ได้อยากให้ทุกคนรู้จักเราขนาดนั้น ถ้ามีดราม่าเราก็ไม่ได้อยากมานั่งแก้ดราม่า จริงๆ เราไม่ต้องให้สัมภาษณ์เลยก็ได้ เราก็ทำงานของเราต่อไป แต่เราอยากให้คนเข้าใจในมาตรฐานเดียวกันว่าเราทำอะไร เพื่ออะไร เพราะว่าถ้าสื่อเข้าใจเรามากเท่าไร เราก็จะทำงานง่ายขึ้น

สาม ถ้าในเมืองไทยเรารู้สึกว่าการวางตัวสำคัญมาก มันทำให้คนเข้าใจเรามากขึ้นว่าเป็นยังไง เช่นคนที่เขาอยากมาเป็นแบบให้เรา พอเขาไปเสิร์ชดูผลงานเราก็จะมั่นใจแล้วว่าเราทำสิ่งนี้เพื่อการศึกษานะ มันคือศิลปะนะ เพราะเมืองไทยจะไม่มีการแบ่งแยกชัดเจนในเรื่องศิลปินภาพนู้ด แต่ถ้าเป็นต่างชาติเขาจะไม่สนเลยว่าศิลปินจะมีภาพลักษณ์ยังไง

Nude is Art

ประเด็นคือตอนที่เรากลับมาไทยแรกๆ ยังมีคนพูดถึงศิลปะภาพนู้ดน้อยมาก เพราะมันไม่ถูกพูดถึง คนก็เลยเข้าใจผิด เราถึงขั้นอยากรู้ว่าศิลปะภาพนู้ดในไทยเป็นยังไงเลยไปหาข้อมูลในห้องสมุดก็ไม่เจอ ถ้าเจอจริงๆ ก็จะเขียนแคปชั่นไม่กี่บรรทัดว่า Nude Art คืออะไร แค่นั้นเลย แต่พอกลับมามองที่หลานเราเขาเคยเป็นผู้ช่วยถ่ายภาพนู้ดให้เราตั้งแต่ 5 ขวบเลยนะ เรากับหลานก็คุยกันแบบผู้ใหญ่ เขาก็เข้าใจว่าเราทำงาน มันเป็นศิลปะ มันมีเหตุผลในการแก้ผ้า แต่บางอย่างก็ไม่ได้มีเหตุผลในการแก้ผ้า ล่าสุดหลานเรียนมัธยมปลายแล้ว มีอาจารย์สอนศิลปะของเขาเอาคลิปวิดีโอ บทความ หรือบทสัมภาษณ์เราไปสอนนักเรียน ซึ่งเราดีใจมาก เหนือความคาดหมายมากๆ กับสิ่งที่เราทำทุกวันนี้

Nude is Art

Nude is Art

Nude is Art

มีคิดโปรเจกต์อื่นๆ เผื่อไว้อีกไหม

ตอนนี้มีแล้ว เป็นงานแบบ Conceptual Mixed Media Art ก็จะไปให้ถึง Performance Art แล้วก็มีเขียน ทำวิดีโอด้วย เราตั้งเป้าไว้แบบนี้เพราะว่าเราชอบการทดลอง เราเลยเน้นเรื่องคอนเซปต์ว่าต่อไปภาพนู้ดของเราจะไปทางไหนได้บ้าง ทำเทคนิคไหนได้บ้าง เป็นเทคนิคภาพพิมพ์ หรือ Mixed Media + Installations ดีมั้ย เพราะว่าทำแล้วสนุก เราก็อยากทำมิกซ์มีเดียพวกซาวด์อาร์ตหรือวิดีโออาร์ต อย่างที่สงขลาเราอยากทำงานภาพพร้อมๆ กับทำผ้าปาเต๊ะไปด้วย แต่ส่วนใหญ่เราจะทำงานคอลแล็บร่วมกับศิลปินที่ถนัดด้านเทคนิคนั้นๆ อยู่แล้ว ดังนั้นทุกที่ที่เราไปเราควรจะได้อะไรกลับมาเพื่อพัฒนาทักษะของตัวเองบ้าง

Nude is Art

ค้นพบความหมายของคำว่า สวยแล้วยังไงต่อ บ้างหรือยัง

‘สวยแล้วยังไงต่อ’ มันคือการหาความหมายของคำว่านู้ด เราถ่ายงานมา 20 ปีก็จริง แต่กว่า 10 ปีที่จัดแสดงงานเราคิดว่านู้ดคืออิสรภาพ เหมือนเป็นการดึงจิตใต้สำนึกของตัวเองออกมาให้เป็นงานได้ มันคือความเป็นมนุษย์ คือการกบฏ ไม่ใช่สิ การขบถ (หัวเราะ)

ตัวเราคลั่งไคล้การถ่ายนู้ดอยู่แล้ว แต่พอหาความหมายมันก็ทำให้งานเราเป็นคอนเซปต์ชวลที่มากกว่าแค่การถ่ายสวย ต้องมีแสงสวย ต้องโพสท่าสวย แต่บางวันเราก็อยากกลับไปกินอาหารรสเดิมๆ บ้าง ซึ่งถ้าอยู่ๆ แล้วเจอแสงสวย บอดี้ดี เราก็เรียกแบบไปวางปุ๊บเลย แค่นั้นก็จบ สบายใจละ


ขอบคุณภาพประกอบ : a.e.y.space, maispace, pale_flare, sophirat photography

Nude is Art

ติดตามผลงานของช่างภาพนู้ดหญิงคนนี้ได้ในเพจ ผู้หญิงถือกล้อง
สำหรับนิทรรศการ LUNATIQUE จัดแสดงตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 24 มีนาคม 2567 ที่ a.e.y space สงขลา

Tags: