- ‘สุขสกาว สองสายรักษ์’ โฮมคาเฟ่กึ่งแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ ตั้งอยู่ใน อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เจ้าของอยากชวนมาเรียนรู้วิถีธรรมชาติแบบใกล้ชิดเพื่อค้นพบความสุขง่ายๆ วันนี้เลยขอชวนทุกคนมาตามหาสีพัทลุงโทนผ่านเวิร์กช้อป ‘สีน้ำจากหินสีธรรมชาติ’ กัน
ว่ากันว่าถ้าอยากพบหนทางสู่ความสุข เราอาจจะต้องเริ่มจากการยิ้มให้กับเรื่องเล็กๆ ลงมือทำอะไรบางอย่างที่ไม่ต้องยิ่งใหญ่มากก็ได้ แต่ทำให้เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเองก็พอ
วันนี้เลยขอพาทุกคนล่องใต้มาพัทลุง ขับรถบนถนนที่ขนาบข้างไปด้วยต้นไม้หลากพันธุ์มองแล้วเพลินตา จนมาถึงที่หมายก็พบซุ้มประตูไม้แปะป้าย ‘สุขสกาว สองสายรักษ์’ ดินแดนแห่งความสุขและความยั่งยืน ที่ทอดสะพานให้เราเดินข้ามฝั่งเพื่อเข้าสู่โฮมคาเฟ่แสนสงบแห่งนี้
เจ้าของคือ สกาว - สกาวเดือน อินปาน และ จูน - รังสิมา อำภาพร้อม พวกเธอบอกว่ามีเวิร์กช้อปที่ผูกโยงกับวิถีธรรมชาติ เน้นให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้พบความสุขจากการลงมือทำ เราเลือก ‘พัทลุงโทน’ เวิร์กช้อปวาดภาพสีน้ำจากหินสีธรรมชาติ ซึ่งต้องเริ่มกันตั้งแต่ออกตามล่าหินสีที่ลำธารกันเลยทีเดียว
กลับบ้าน
เดิมทีสกาวทำธุรกิจอยู่ที่กรุงเทพฯ และย้ายมาทำต่อที่สมุทรปราการ เธอกลับพัทลุงบ้านเกิดบ้างเป็นครั้งคราว ครั้งหนึ่งเคยกลับมาซื้อที่ดินผืนนี้ที่เดิมทีเป็นของรุ่นพี่สาวปู่ของเธอ ซื้อเก็บไว้ครึ่งหนึ่ง ด้วยคิดเผื่ออนาคตไว้ว่า เธอจะสร้างบ้านและสร้างพื้นที่ตรงนี้ให้ผู้คนได้มาพักผ่อนเข้าสักวัน
แม้ยังไม่รู้ว่าภาพฝันจะออกมาเป็นรูปร่างแบบไหน แต่การระบาดของโควิดนั่นล่ะคือจุดเริ่มต้น เพราะเธอลาออกจากงาน กลับมาอยู่บ้านคราวนี้มีจูนมาร่วมด้วย ทั้งคู่ซื้อที่ดินอีกครึ่งที่เหลือ ก่อนค่อยๆ ช่วยกันสร้างโฮมคาเฟ่กลางสวนและลำธาร พร้อมบ้านไม้ในสวนหลังเล็ก มีห้องใต้หลังคาสุดน่ารัก โดยมีครอบครัวของทั้งคู่คอยเป็นกำลังใจซัพพอร์ต
“ทุกอย่างเราเรียนรู้เองและทำเองทั้งหมด เขียนโครงสร้าง ออกแบบเอง ระบบน้ำประปาต่อเอง การเลือกใช้ไม้ก็ศึกษาในยูทูปกับพ่อ พ่อสกาวเป็นช่าง เขาก็มาช่วยตัดไม้ต่อเติมที่นี่ แล้วด้วยความที่เรามีเงินทุนไม่มาก เราก็เลยค่อยๆ ช่วยกันทำแบบง่ายๆ ไปเรื่อยๆ”
คาเฟ่สร้างด้วยความรักที่ไม่เร่งรีบ แต่ค่อยๆ ต่อเติม จนวันนี้เปิดมาได้เกือบครบ 2 ปีแล้ว ‘สุขสกาว สองสายรักษ์’ ชื่อนี้มีที่มาจากต้นลำไยคริสตัลป่าอายุกว่า 100 ปี 2 ต้นใกล้ลำธาร (คนใต้เรียกว่าต้นสาย) ส่วน ‘สุขสกาว’ ถอดมาจากชื่อของสกาว ให้ความหมายได้ว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นความสุขที่เธอสร้างขึ้น กลายมาเป็นคอนเซ็ปต์หลักที่เธออยากส่งต่อให้คนที่มาได้สัมผัสกับเสียงลม ต้นไม้ เสียงน้ำไหลในลำธารและอากาศสบายๆ ในคาเฟ่ไม้บ้านๆ ที่มีโซนให้เลือกนั่งมากมาย เหมาะใช้เวลากับครอบครัว มีที่หลบมุมเพื่อใช้เวลากับตัวเอง และมีเวิร์กช้อปมากมายให้เราได้เลือกทำด้วย
“ที่นี่มีทางเลือกให้คนทุกวัย เรามีเวิร์กช้อปให้เด็กๆ วัยรุ่นมาเล่น พ่อแม่ คนรุ่นปู่รุ่นย่าถ้ามาที่นี่ ก็มีสวน มีลำธารให้เดินเล่น เราอยากให้เขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้สามารถเติมเต็มความสุขได้อีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน”
ตามหาพัทลุงโทน
ริมลำธารด้านหน้าคาเฟ่มีหินสีที่เกิดจากการทับถมของตะกอนดิน แร่ธาตุแต่ละชนิดที่อยู่ในตะกอนดินนั่นล่ะจะให้สีที่แตกต่างกันออกไป “เหมือนธรรมชาติจัดสรรมาให้เลย ตอนนั้นเราพาหลานไปเดินเล่น พอเห็นหินสีเยอะมากๆ ก็เอาหินมาขูดๆ สีเล่นกัน หลานดูสนุกมาก เราก็เริ่มคิดว่ามันน่าจะต่อยอดไปเป็นกิจกรรมได้นะ ช่วงนั้นเราส่งหินสีไปให้พี่โอ๊ค คทา มหากายี เขาทำสีธรรมชาติเชียงดาวโทนอยู่ที่เชียงใหม่ เขาก็แนะนำมาให้ทำสีพัทลุงโทน เราชอบเสพงานศิลปะสีที่จากธรรมชาติอยู่แล้ว ก็เลยลองศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม จนเกิดเป็นเวิร์กช้อปสีน้ำจากหินสีธรรมชาติในชื่อ พัทลุงโทน”
สกาวเล่าถึงการค้นพบหินสีให้ฟัง แล้วยื่นตะกร้าใบเล็กมาให้เรา “เดี๋ยวเราจะไปเก็บหินสีที่ลำธารกัน” ชั่วโมงเวิร์กช้อปได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เราพยักหน้ายิ้มรับแล้วเดินตามเธอไปถึงลำธาร วันนี้แสงแดดกำลังดี มีพุ่มไม้ดอกไม้งอกเงยตลอดทาง ที่น่าทึ่งคือ มีหินสีแผ่กระจายเยอะมากจนเลือกไม่ถูก ส่วนใหญ่เป็นสีเอิร์ทโทนพาสเทลละมุนๆ เรานั่งขุดๆ หินสีจนลืมเวลาไปเลย
กลับมาที่โต๊ะเตรียมผสมสี สายตามองออกไปพบใบไม้พัดสะบัดตามสายลมราวกับกำลังเต้นรำ เราเลยคิดว่าจะวาดเส้นพลิ้วไหวตามที่เห็นเลยล่ะกัน
หินสีที่เก็บมาได้จะต้องบดกับครกแล้วไปกรองให้เป็นผงละเอียด จากนั้นเพิ่มความหนืดเพื่อให้สีติดกับกระดาษ ด้วยการนำผงสีผสมกับน้ำผึ้งและยางไม้ผสมน้ำ (หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป) แต่ถ้าหายางไม้ไม่ได้ ใช้ไข่ขาวแทนก็ได้นะ ผสมทุกอย่างเข้ากันแล้วก็หยิบพู่กันจุ่มสีวาดภาพตามจินตนาการได้เลย
ขึ้นชื่อว่าเป็นคาเฟ่รักษ์โลก อุปกรณ์ที่ใช้ก็ดูคราฟต์ ดู DIY สุดๆ อย่างการหยิบเปลือกฝักสะบ้าลิงที่ใช้เป็นจานสี ใบปอจงที่ให้สัมผัสนุ่มคล้ายผ้ากำมะหยี่ ซึมซับน้ำได้ดีก็นำมาใช้แทนทิชชู่หรือผ้าเช็ดทำความสะอาด เรียกว่าปลอดสารเคมีให้มากที่สุด “อันนี้คือความตั้งใจของเราที่อยากให้คนที่มาหรือเด็กๆ ได้เรียนรู้การใช้วัสดุธรรมชาติรอบตัว ทดแทนการใช้วัสดุอย่างอื่นผ่านการทำกิจกรรมสนุกๆ” สกาวว่าอย่างนั้น ส่วนเราวาดเสร็จก็โชว์ผลงานให้ทั้งคู่ดูสักหน่อย
เธอถามกลับว่า วาดรูปเสร็จแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง “เหมือนเราได้เป็นผู้สร้างเลย เพราะต้องลงมือหาวัตถุดิบเอง บดสี ผสมน้ำ เราเห็นที่มาที่ไปทุกขั้นตอนผ่านการลงมือทำของเรา ตลอดหลายชั่วโมงก็มีแต่รอยยิ้ม” เราตอบออกไปแบบนั้น เริ่มเข้าใจแล้วว่าการพบความสุขของตนเองเป็นยังไง นี่สินะ สิ่งที่สกาวและจูนอยากจะบอกกับทุกคน
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายเวิร์กช้อปที่เน้นหยิบธรรมชาติรอบตัวมาต่อยอดไปกับการสร้างสรรค์ ทั้งการเก็บดอกไม้มาตกแต่งคัพเค้กครีมมะพร้าว Creative Art เก็บใบไม้ ดอกไม้มาจัดใส่กรอบ ถ้าสนใจก็ติดต่อจองคิวล่วงหน้าสัก 1-2 วัน ถ้าเป็นช่วงเทศกาลจองล่วงหน้าก่อน 1 อาทิตย์ก็ได้นะ
ส่งต่อความรักษ์
พัทลุงเป็นจังหวัดที่มีครบทั้งทะเล ภูเขา ป่าไม้ ธรรมชาติ มีแหล่งวัตถุดิบดีๆ ที่แม้แต่เชฟยังต้องลงใต้เพื่อมาชิมให้ถึงถิ่น ส่วนคนรุ่นใหม่เองต่างก็พากันกลับบ้าน เพื่อพัฒนาของดีจากบ้านให้เกิดเป็นมูลค่าที่สร้างคุณค่า สกาวเองก็เช่นเดียวกัน
“ที่พัทลุงยังมีพื้นที่ธรรรมชาติสวยๆ อีกเยอะ เราทำพื้นที่ตรงนี้ ก็เพราะอยากเป็นตัวอย่างโมเดลธุรกิจเล็กๆ ให้คนที่นี่เห็นว่า เขาสามารถเพิ่มมูลค่าจากสิ่งที่มีโดยเริ่มจากทุนเป็นศูนย์เหมือนเราก็ทำได้นะ เราพร้อมเป็นที่ปรึกษาเลยว่า จุดเริ่มต้นเป็นอย่างไร แล้วการแก้ปัญหาที่ตรงจุดคืออะไร”
อีกหนึ่งความตั้งใจคือการถ่ายทอดวิถีอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้เด็กๆ รุ่นหลัง ทั้งการแยกขยะแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ตามหลัก Zero Waste การทำอาหารที่ใช้วัตถุดิบรอบบ้าน “เราสังเกตว่าการจัดทัศนศึกษาให้เด็กๆ มีแค่นั่งรถไปเที่ยว แต่ไม่มีกิจกรรมที่เกิดการประยุกต์ต่อ พอมาทำด้านนี้เราก็อยากต่อยอดให้มีหลักสูตรสุขสกาว เอากิจกรรมที่เราทำไปเชื่อมโยงโลกทั้งใบ หรือวิทยาศาสตร์ให้เด็กๆ เอาไปปฏิบัติจริงนอกเหนือจากการเรียนหนังสือในห้อง การทำปุ๋ย การคัดแยกขยะ สิ่งที่สามารถทำเป็นกิจวัตรประจำวัน ถึงแม้ว่าวันนี้เราจะทำเองคนเดียว แต่ในอนาคตมันจะส่งผลต่อสังคมโลกแน่นอน”
สุดท้ายก่อนที่เราจะหอบหิ้วผลงานกลับบ้าน เราถามสกาวออกไปว่า การมาอยู่ที่นี่ให้อะไรกับเธอ “ก่อนหน้านี้เราแบกความเครียดและปัญหาไว้เยอะมาก การได้มาอยู่ที่นี่ ธรรมชาติค่อยๆ สอนให้เราเป็นเราที่ดีขึ้น มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ จนเรามีความสุขง่ายมากกับสิ่งรอบตัว แค่เดินไปถ่ายแมลง เดินเล่นกับแมว เดินไปหาวัตถุดิบรอบข้างมาทำกับข้าว มันเติมเต็มความสุขจนไม่ต้องออกไปไหนแล้ว” เป็นคำตอบที่ใครฟังก็ต้องยิ้มตามล่ะ
แอบกระซิบว่าที่นี่มีเครื่องดื่ม อาหารทั้งกระเพราถาด ผัดซีอิ๊วและข้าวผัด แต่ถ้าอยากกินเมนูพิเศษจัดเป็นเซ็ตต้องจองล่วงหน้านะ เพราะแม่ของสกาวจะลงมาโชว์ฝีมือการทำอาหารสูตรเด็ด รับรองได้เลยว่าอร่อยจนต้องยกนิ้ว
สุขสกาว สองสายรักษ์
ที่อยู่ : ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง 93000
โทรศัพท์ : 096-614-9530
Facebook Page : สุขสกาว สองสายรักษ์