Rock Never Dies
โฉมใหม่ของ ‘The Rock Pub’ ผับในตำนานที่ยังมีลมหายใจของชาวร็อกกรุงเทพฯ ในมือทายาทรุ่นที่ 2
- คุยกับ ‘ลูกเต๋า – นนทเดช บูรณะสิทธิพร’ ทายาทรุ่นที่ 2 ของ ‘The Rock Pub’ ถึงการย้ายผับร็อกสุดขลังในตำนานมาอยู่ในโลเกชันใหม่ ความเปลี่ยนแปลงในซีนดนตรีร็อกผ่านยุคสมัย และโปรเจกต์ Speakeasy ที่เชื่อว่าไม่ซ้ำบาร์ไหนในกรุงเทพฯ ‘Obsession BKK’
เชื่อว่าใครที่มีทางผ่านกลับบ้านเป็น BTS สถานีราชเทวีคงจะได้เห็นตึกสีอิฐเก่าๆ หน้าตาดูขลัง กันอยู่บ่อยๆ และชื่อ ‘The Rock Pub’ ตำนานผับชาวร็อกแห่งกรุงเทพฯ จะต้องได้ผ่านหูผ่านตากันบ้าง
ข่าวใหญ่คือตอนนี้ The Rock Pub ในอายุครบ 37 ปี ย้ายโลเกชันไปอยู่ติด BTS สนามเป้าแล้วนะ! เพื่อที่จะกลับมาในลุคของร้านที่โมเดิร์นขึ้น แนวเพลงร็อกที่หลากหลายขึ้น และเมนูอาหารที่อิ่มอร่อยขึ้นกว่าเดิม!
คุยกับ ‘ลูกเต๋า – นนทเดช บูรณะสิทธิพร’ ทายาทรุ่นที่ 2 ของ ‘The Rock Pub’ ถึงความทรงจำและการเติบโตมาท่ามกลางบรรยากาศของผับอันดับ 1 ในไทยสำหรับร็อกเกอร์ การเปลี่ยนแปลงที่ตั้งใจจะให้โลเกชันใหม่เข้าถึงวัยรุ่นได้มากขึ้น จิตวิญญาณของความเป็นร็อกที่หล่อเลี้ยงร้านนี้ให้เป็นเซฟโซนสำหรับคนทุกเพศทุกวัย รวมทั้งโปรเจกต์แพสชันส่วนตัวของลูกเต๋าเองที่อยากทำมาตั้งนานแล้วอย่าง Speakeasy ‘#OBSESSION’
อ่านแล้วเตรียมมาโยกหัวด้วยกันได้เลยชาวร็อก!
The Birth of Bangkok’s House of Rock
‘The Rock Pub’ เป็นน้องลูกเต๋าอยู่ 3 ปี
ธุรกิจนี้เริ่มจากความหัวขบถของพ่อเขาเองที่ไม่อยากสืบสานธุรกิจต่อจากที่บ้าน เลยตัดสินใจแยกตัวออกมาเปิดร้านเครื่องเสียง ได้คลุกคลีกับนักดนตรีเยอะจนกลายเป็นผู้จัดการวงดนตรีร็อกเฮฟวีเมทัลสัญชาติไทยอย่าง ‘คาไลโดสโคป’ และทำไปทำมาก็เกิดความคิดที่ว่า ‘ทำไมกรุงเทพฯ ไม่มีที่ให้วงแบบนี้เล่นเลย?’ สมัยนั้นจะมีก็แต่ค็อกเทลเลานจ์โรงแรม ซึ่งจะให้ไปร็อกอยู่ตรงนั้นก็คงไม่ค่อยจะตอบโจทย์สักเท่าไหร่
ในเมื่อเครื่องเสียงก็มี เครื่องดนตรีก็มี วงร็อกก็รู้จักเยอะเเยะ พ่อเลยตัดสินใจเปิดเองซะเลย และใครจะไปคิดว่าคนจะมากันเเน่นตั้งแต่วันแรก! “คนเขารอสิ่งนี้กัน ณ วันนั้น ค.ศ. 1987 กรุงเทพฯ ไม่ใช่แบบนี้ ผับดนตรีสดไม่มีเลย ยิ่งร็อกจริงๆ แบบผมยาว เสียงดังเลย ยิ่งไม่มี เพราะฉะนั้น เป็นสิ่งที่ใหม่มากๆ คนต่อคิวมาเข้ากันเต็มทุกวัน ไม่เว้นแต่วันธรรมดา คือแน่นจริงๆ” ลูกเต๋าส่งต่อคำบอกเล่าของสถานที่ในตำนานแห่งนี้ แม้ ณ วันที่ร้านเปิดเขาจะยังจำความไม่ได้
“ส่วนภาพความทรงจำของเราเอง จําไม่ได้ว่าตอนนั้นกี่ขวบ แต่พ่อก็มีพาเราไปบ้าง ก็ไปนั่งดูผู้คน มีแต่คนผมยาวๆ ทั้งนั้นเลย แล้วเขาแต่งตัวกันจริงจังมาก ทุกวันนี้คนไปเที่ยวไนต์คลับที่เปิดเพลงฮิปฮอป เขาก็ไม่ได้แต่งตัวฮิปฮอปกันไปใช่ไหม แต่ ณ วันนั้นคนมา The Rock Pub คือแข่งกันแต่งตัวไปแล้ว 70% บางทีนักดนตรียังต้องเเพ้ (หัวเราะ)
แล้วนักดนตรีนะ ไปเปิดรูปดูวง ‘Guns N’ Roses’ ‘Skidrow ได้เลย คือแต่งแบบนั้นเป๊ะๆ ผู้ชายก็มีแต่งหน้ามาบ้าง เป็นความรู้สึกที่เราเห็นแล้วก็ตกใจว่า เฮ้ย! เราก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรนะ แต่เป็นภาพจําที่เรารู้สึกผูกพัน อาจจะเป็นส่วนหนึ่งให้เราชอบเพลงร็อกด้วยเหมือนกัน ความที่เราอินกับมัน ทำให้กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง”
หลังจากเรียนจบ ลูกเต๋ายังคงช่วยพ่อดูเเลร้านมาเรื่อยๆ คอยเติมเต็มในสิ่งที่เขาขาด ยังไงก็ตาม เหมือนกับทุกๆ ธุรกิจที่มีขึ้นก็ต้องมีลง The Rock Pub เดินทางมาถึงจุดที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ลูกเต๋าเลยขอพ่อดูแลร้านเองทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องบัญชียันเบียร์ที่ขายในร้าน แล้วสลับให้พ่อไปเป็นซัปพอร์เตอร์เเทน
เวลาผ่านไป ตึกเก่าติด BTS ราชเทวีซึ่งเป็นที่ตั้งเดิม โดนเวนคืนที่พอดี ลูกเต๋าเลยได้โอกาสแปลงโฉมผับที่มีชื่อเสียงยาวนานมากว่า 37 ปี ใหม่ตั้งแต่ต้น ที่โลเกชันใหม่อย่าง BTS สนามเป้า
2nd Generation Changes
พูดถึงซีนของดนตรีร็อก สิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือคนดูที่มีเอเนอร์จีเหลือล้นอย่าง ‘วัยรุ่น’
เนื่องจาก The Rock Pub ช่วงเริ่มแรกเน้นเล่นเพลงร็อกที่มีอิทธิพลในช่วงยุค 90 ทาร์เก็ตของคนที่มาฟังส่วนใหญ่ในตอนนี้จึงค่อยๆ หดหายลงไปเรื่อยๆ เพราะคนที่เติบโตในช่วงที่เพลงเหล่านั้นกำลังฮิตต่างเริ่มมีอายุมากขึ้น น้อยคนที่จะยังออกมาเที่ยวกลางคืน โจทย์นึงของลูกเต๋าสำหรับการเปิด The Rock Pub ในโลเกชันใหม่เลยเป็นการทำยังไงก็ได้ ให้สีสันความหนุ่มสาวแบบนั้นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เริ่มจากดีไซน์ร้าน เทียบกับตึกเก่าสีอิฐอายุ 40 ปีที่ราชเทวี ซึ่งมีทางเข้าที่ทึบและมิดชิดแล้ว จะเห็นได้ว่า The Rock Pub สนามเป้าหน้าตาเปลี่ยนไปเยอะ สังเกตได้ง่ายๆ จากกระจกใสหน้าร้าน ที่ทำให้เรามองเห็นได้เลยว่าในร้านกำลังมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้น เพียงแค่เดินผ่าน
“ลูกค้าที่มาร้านเก่าเราครั้งแรก มักบอกว่า เฮ้ย! เขาชอบมากเลยว่ะ แต่เขาไม่เคยกล้ามาเลย เราเลยถามว่าทําไม และได้คําตอบเดียวที่ได้รับคือ ‘มันดูน่ากลัว’ เลยถามต่อว่ากลัวอะไร? ก็ไม่มีใครลงลึกได้ว่ากลัวอะไร ทุกคนไม่กล้าเข้า แต่พอได้ก้าวเข้ามาแล้วเขาชอบ ก็เลยเป็นสิ่งที่เราอยากให้เกิดขึ้นกับที่ใหม่ อยากให้คนกล้ามา” ลูกเต๋าเล่าถึงอีกหนึ่งเจตจำนงในการรีแบรนด์ครั้งนี้ เขาทำให้คนมองเห็นภายในร้านมากขึ้น และโดยรวมออกแบบให้ร้านดูโมเดิร์นขึ้น แม้ความเก๋าและคลาสสิกจะไม่เข้มข้นเท่าเดิม แต่อย่างน้อยก็ทำให้ร้านดูเข้าถึงได้ง่ายต่อคนทั่วไป
นอกจากนี้ ด้วยความที่ดนตรีเป็นสินค้าหลักของที่นี่ ลูกเต๋าเปลี่ยนระบบเเสงสีเสียงให้เป็นไลฟ์เฮาส์เเบบครบวงจร แถมยังใส่ความเป็นตัวเองลงไปเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของบาร์ที่ทำให้ใหญ่ขึ้นกว่าร้านเก่า เพราะว่าตัวเขาเองชอบบาร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นชีวิตจิตใจ
อาหารก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เขาตั้งใจทำให้จริงจังขึ้น แทนที่จะสั่งปลาทอดมากินกับยำแบบร้านดนตรีสดในไทยทั่วๆ ไป ลูกเต๋าคิดเมนูให้มีการเสิร์ฟเบอร์เกอร์ พาสตา และ Finger Foods แบบไลฟ์เฮาส์ในต่างประเทศ นี่คือลักษณะที่เขาอยากจะให้ The Rock Pub ในสไตล์ของเขาเป็น ซึ่งคราวนี้เรามีโอกาสได้ลองกิน ‘Loaded Fries’ คู่กับ ‘Nachos & Dips’ เฟรนช์ฟรายส์และนาโช่ร้อนๆ ที่มาพร้อมเนื้อเน้นๆ เเละชีสแบบเต็มจาน ระหว่างชมแบนด์เฮฟวีเมทัลที่ขึ้นเล่นไปด้วย ต้องบอกเลยว่ากินเพลิน เข้ากันได้ดีมากๆ
All Rock Bands
ว่าเเต่เด็กสมัยนี้ยังฟังร็อกแบบไหนกัน? ลูกเต๋าที่อยู่ในวงการมานานพอที่จะเห็นเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ของดนตรีร็อกแชร์ให้เราฟังว่า “ดนตรีเข้ามาในชีวิตทุกคนสักประมาณช่วงอายุเลข 10 และไม่เคยหายไปไหน ทุกคนมีต้นตระกูลของตัวเอง มีฮีโร่ของตัวเอง เราจะชอบวงไหนสำคัญที่ว่าเราให้คุณค่ากับอะไร อย่างคนที่เขาหลงใหลในเสียงกีตาร์ ก็อาจจะย้อนไปฟังเพลงช่วงยุค 70 หรือ 80 เพราะกีตาร์โซโลมันเยอะ
อีกแบบนึงก็คือ คนที่ชอบวงใหม่ๆ อย่างพวก ‘Bring Me The Horizon’ พอเขาฟังไปสัก 5-6 ปี เขาก็จะเริ่มไปศึกษาว่า วงพวกนี้ได้รับอิทธิพลมาจากใคร สุดท้ายก็จะลิงก์ไปสู่ยุค 60 และ 70” พูดง่ายๆ คือคนก็ยังฟังทุกแนวนั่นแหละ โลกของเสียงเพลงเชื่อมโยงกันหมด อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะมีประสบการณ์ที่ผูกพันกับดนตรีแบบไหน
แต่จะฟังแนวไหนก็ไม่เป็นปัญหา เพราะจุดเด่นของ The Rock Pub ในเวอร์ชันลูกเต๋า คือการเป็นร้านดนตรีสดที่เล่นเพลงร็อกแบบ 100% “เรามีคำตอบให้คนฟังร็อกทุกแนว” ลูกเต๋าเสริม จะเฮฟวีเมทัล กรันจ์ โพสต์พังก์ วงร็อกไทย หรือแม้แต่วงร็อกไอดอลผู้หญิงอย่างเบบี้เมทัลก็มี ขอแค่มาให้ถูกวัน จะได้ฟังแนวที่ชอบ แนวไหนเล่นบ่อยๆ ไม่ไหว ก็จะมาในรูปแบบอีเวนต์ให้ได้จอยกันอยู่เรื่อยๆ แทน
สิ่งนี้สำคัญเพราะดนตรีร็อกในไทยไม่ได้หาฟังกันง่ายๆ ในเมื่อวงที่ชอบไม่มีทีท่าว่าจะมาทัวร์ประเทศเรา คนก็ต้องหาคัฟเวอร์ หาทริบิวต์ดีๆ ฟังกันไปก่อน
ดังนั้น ทุกวงที่ขึ้นเล่น เขาเลยคัดเลือกมาเองอย่างดีกับมืออย่างหลากหลายมากๆ มีตั้งแต่วงรุ่นน้าๆ จากร้านเก่าที่ถนัดเล่น AC/DC, Guns N’ Roses, Black Sabbath, Led Zeppelin ฯลฯ ยันรุ่นใหม่ที่เล่นวงคุ้นหูเด็กเจน Z อย่างเราๆ เช่น Arctic Monkeys และ Blossoms
ยังไงก็ตาม สิ่งหนึ่งที่วงเหล่านี้มีเหมือนกันคือความ ‘บ้าเพลงร็อก’ ลูกเต๋าเองก็เช่นกัน เขาเลยไม่อยากให้วงเหล่านี้เล่นแต่เพลงที่คิดว่าลูกค้าอยากจะฟังอย่างเดียว อยากให้ทุกคนได้เล่นเพลงที่ตัวเองอยากจะเล่นด้วย เพราะเชื่อว่าถ้าทำได้ Perfromance จะออกมาดี
Comfort Zone
“อยู่กับดนตรีร็อกมานานขนาดนี้ ลูกเต๋าคิดว่าจิตวิญญาณความเป็นร็อกคืออะไร?” เราถือโอกาสถาม เพราะไหนๆ ก็อยู่กับชาวร็อกตัวจริงแล้ว
“คือคํานี้มันดูน่าหมั่นไส้นะ เราเข้าใจ แต่คนที่ชอบเพลงร็อกจริงๆ มานั่งคุยกัน จะรู้ทุกการดําเนินชีวิตเราไม่มีมู้ดไหนที่เพลงร็อกไม่ช่วยเรา แฮปปี้ ไม่แฮปปี้ เศร้า หรือแบบนั่งกินก๋วยเตี๋ยวคนเดียว เพลงร็อกก็เป็นเพื่อนเราอะ ไม่รู้จะพูดยังไง
แล้วเราก็เชื่อว่าเราเป็นคนที่ร็อกมาก การแต่งตัวอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่เราบ้าดนตรีร็อก รู้สึกว่าเราเข้าใจมันระดับนึงแหละ ตอนจะทำร้าน หลักๆ เลยแค่ถามตัวเองว่า ‘อยากให้ร้านนี้เป็นเเบบไหน’ ทำร้านที่ทำให้เรารู้สึกว่าเดินเข้าไปแล้ว ‘เออ มันร็อกดีเนาะ’”
ร้านที่ทำโดยคนที่มีใจรักในดนตรีร็อกจริงๆ วันนี้ได้กลายเป็นบ้านของชาวร็อกอีกหลายๆ คน น่าแปลกที่เมื่อพูดถึงสิ่งที่ชอบเกี่ยวกับไลฟ์เฮาส์ดนตรีหนักๆ กลองทึบๆ คนมักจะตอบว่า ‘ความโฮมมี’ หรือความรู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัย เหมือนอยู่บ้าน
ลูกเต๋าคิดว่านั่นอาจเป็นเพราะที่นี่ไม่มีใครตัดสินใคร ทุกคนสามารถเป็นตัวเองในแบบที่ต้องการ จะคีบแตะ จะเเต่งตัวแบบไหน The Rock Pub ก็เวลคัมหมด เป็นผู้หญิงมานั่งคนเดียวก็ไม่รู้สึกอึดอัด ซึ่งเราพิสูจน์ให้ทุกคนเเล้วในการมาครั้งนี้ว่า ‘จริง’ เพราะทุกคนมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์หลักคือ “เสพดนตรี”
คีย์เวิร์ดสำคัญอีกอย่างในการทำร้านของเขาคือคำว่า ‘เซฟโซน’ “ที่ร้านจะมีลูกค้าประจำคนหนึ่ง เธอน่ารักมาก เป็นคนจีนที่มาทำงานเมืองไทย เธอจะใส่ชุดนักเรียนญี่ปุ่นมาทุกครั้งเลยตั้งแต่อยู่ที่เก่า จนย้ายมาที่นี่ก็ยังมายืนโยกยืนดูคนเดียว” ลูกเต๋ายกตัวอย่างเพื่อยืนยัน
Obsession
ฟังดนตรีหนักๆ ในบรรยากาศคึกคักๆ มาแล้ว ลองมาดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบ Speakeasy กันบ้าง อีกความพิเศษที่ซ่อนอยู่บนชั้น 4 ในตัวอาคารโลเกชันใหม่ของ The Rock Pub ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย… อีกโลกนึงของลูกเต๋าที่เกิดจากแพสชันของตัวเขาเอง ‘#OBSESSION’
หลังจากที่เคยแชร์ลงโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า สักวันหนึ่งจะต้องมีบาร์เป็นของตัวเองให้ได้ วันนี้ฝันของลูกเต๋าเป็นจริงแล้ว และแม้จะมีหุ้นส่วนถึง 7 คน ลูกเต๋าเล่าว่า เขาเองนี่แหละ ที่เป็นคนวางไดเร็กชันหลักๆ ตั้งแต่การเลือกเหล้า สปิริต ที่เขา “Obsessed” รวมไปถึงเพลงที่เปิดอย่าง Clairo, Men I Trust และ Michael Jackson ที่ไม่ได้มีความร็อกแม้แต่น้อย แต่ยังเป็นความชอบของเขาล้วนๆ
“เราอยากพรีเซนต์เหล้าในความเป็นเครื่องดื่มที่เรียบง่ายแต่ซับซ้อน คือเอาเหล้ามาวาง 5 ขวด ผสมอยู่แค่นี้ แต่ว่าทำยังไงให้ออกมาได้บาลานซ์” ลูกเต๋าอธิบาย
นอกจากนี้ เขายังเสริมอีกว่า กิมมิกของร้าน คือสปิริตแต่ละตัวที่เขาคัดมาเป็นแบบที่หายากทั้งนั้น ถ้ามาที่นี่ทุกคนก็อาจจะได้เจอวิสกี้และ จินในแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แถมค็อกเทลสูตรที่เขาคิดขึ้นมาเอง ยังสร้างมาเพื่อลบภาพจำว่าค็อกเทลที่ดื่มเเล้วเอ็นจอยจะต้องติดเปรี้ยว ติดหวานเท่านั้น
ลูกเต๋าเดินไปกระซิบอะไรสักอย่างกับบาร์เทนเดอร์ ก่อนค็อกเทล 2 แก้วจะมาเสิร์ฟตรงหน้าเรา ให้ได้ลิ้มรสในบรรยากาศมืดๆ ผ่อนคลายๆ และในขณะเดียวกันก็ได้ฟังเพลงอัลบั้มใหม่ ‘Charm’ ของ Clairo ไปด้วย
แก้วแรกคือ ‘Amaretto Cherry Smash’ Ameretto Sour เติมความหอมหวานด้วยเชอร์รี จากเมนู Modern Classics ที่ลูกเต๋านำค็อกเทลคลาสสิกๆ มาดัดแปลงให้มีความโดดเด่นเป็นสไตล์เขามากขึ้น
ตามด้วย ‘Noreste Delight’ เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ที่เกิดจากการผสมผสานของรัม 3 ตัว กับเหล้า Galliano และ Electric Black Tea เสิร์ฟคู่กับขนมไทยกรอบๆ อย่างทองม้วน
ก่อนจะลากันไป เราถามลูกเต๋าทิ้งท้ายด้วยคำถามคลาสสิกๆ ว่า ‘มีอะไรอยากจะบอกคนที่อยากลองมาเที่ยว The Rock Pub และ #OBSESSION แต่ยังลังเลอยู่ไหม?’
“เอา The Rock Pub ก่อนแล้วกัน อยากให้ลองมา ชอบไม่ชอบไม่ว่า หาวัน หาวงที่ชอบมา หรือถ้าไม่นึกไม่ออกก็ลองมานั่งดื่มเบียร์ดูก่อนก็ได้ มี Happy Hour เครื่องดื่มลด 10% (ลูกเต๋าย้ำให้เขียนลงไปด้วย!) Soft Drink ร้านเราก็มี ลองเอนจอยกับสิ่งที่เรานําเสนอดู เชื่อว่าถ้าคุณชอบเพลงร็อกคุณต้องชอบ ชอบมากแค่ไหนแล้วแต่คุณ แต่น่าจะชอบอะ เราใส่ความเป็นตัวเองลงไปเยอะมากพอสมควรเลย
ส่วนใครอยากเข้าสู่โลกของ Speakeasy เราก็มี #OBSESSION สําหรับเราค็อกเทลบาร์ วิสกี้บาร์ต้องมีอิลิเมนต์ที่เราให้ไปใน #OBSESSION นี่แหละ ลองมาแล้วมาคุยกับเราก็ได้ ลองดูว่าอะไรที่ต่างจากชาวบ้าน มันมีแน่นอน เราพูดได้ว่ามันมี”
The Rock Pub
Location: https://maps.app.goo.gl/WdLsYey3DmSYaGtA7
Facebook: The Rock Pub – Bangkok`s House Of Rock
Instagram: therockpub
Obession BKK
Facebook: OBSESSION.BKK
Instagram: obsession.bkk