

กรุงเทพฯ หนึ่งในมหานครโลกที่ Vacheron Constantin จัดนิทรรศการ ‘The Quest’ ฉลองตำนานแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่ที่สุดในโลก 270 ปี
เมื่อVacheron Constantin แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในโลกครบรอบ 270 ปี สิ่งที่พวกเขาทำไม่ใช่แค่ปาร์ตี้ฉลองธรรมดา แต่คือการนำนิทรรศการ ‘The Quest : 270 Years of Seeking Excellence’ มาจัดแสดงในมหานครสำคัญทั่วโลก โดยกรุงเทพฯ ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งนิทรรศการนี้แบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก
The Beginning : จากสัญญาฉบับแรกสู่มาตรฐานแห่งความเป็นเลิศ
ทุกอย่างเริ่มต้นในปี 1755 เมื่อ Jean-Marc Vacheron เซ็นสัญญากับผู้ฝึกงานคนแรกด้วยความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียว คือการแสวงหาความเป็นเลิศในการประดิษฐ์นาฬิกา นิทรรศการนำเสนอจุดเริ่มต้นของแบรนด์ผ่านเอกสารต้นฉบับ ภาพถ่าย และนาฬิกาเก่าแก่จากคลังสะสม รวมถึงสำเนาสัญญาก่อตั้งเมซง (Maison) ที่เป็นหลักฐานแห่งจุดเริ่มต้น [‘เมซง’ ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง ‘บ้าน’ ใช้เรียกแบรนด์หรูที่มีเอกลักษณ์และมรดกเฉพาะตัว]
ตลอด 270 ปีที่ผ่านมา Vacheron Constantin ไม่ได้แค่ทำนาฬิกา แต่ผลักดันขอบเขตของความเป็นไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง ตั้งแต่การประดิษฐ์ Pantograph ในปี 1839 ที่ทำให้นาฬิกามีมาตรฐานเดียวและเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ ไปจนถึงนาฬิกา Kallista ในปี 1979 ที่แกะสลักจากทองแท่งหนัก 1 กิโลกรัม ประดับเพชร 118 เม็ด รวม 130 กะรัต
Artistic Crafts and Finishes : ศิลปะที่ซ่อนอยู่ในทุกรายละเอียด
สิ่งที่ทำให้นาฬิกา Vacheron Constantin พิเศษไม่ใช่แค่กลไกที่แม่นยำ แต่คือศิลปะฝีมือที่ซ่อนอยู่ในทุกองค์ประกอบ นิทรรศการโซนนี้ให้เกียรติช่างฝีมือที่อยู่เบื้องหลังการประดิษฐ์นาฬิกาชิ้นเอก ผ่านการสืบทอดเทคนิคโบราณอย่างการวาดภาพจิ๋ว การลงยาแบบ Grisaille การแกะสลัก การฝังอัญมณี และการแกะสลักลาย Guilloché ที่ยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้
High Watchmaking and Grand Complication : ความซับซ้อนที่ท้าทายขีดจำกัด
พื้นที่สำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจความประณีตของกลไกนาฬิกา ในงานนี้จะได้พบกับนาฬิกาที่ซับซ้อนที่สุดในโลกที่เปิดตัวในปี 2024 นั่นคือ Les Cabinotiers – The Berkley Grand Complication ประกอบด้วยชิ้นส่วน 2,877 ชิ้น รวมฟังก์ชัน 63 รายการ รวมถึงปฏิทินแบบจีนถาวรครั้งแรกของโลก
The Quest : จากจักรวาลสู่การวัดเวลา
โซนสุดท้าย The Quest พาสู่ความสัมพันธ์ระหว่างดาราศาสตร์กับศิลปะการประดิษฐ์นาฬิกา ผู้เข้าชมนิทรรศการจะได้สร้างแผนที่ท้องฟ้าเฉพาะตัว ด้วยการเลือกวันที่และสถานที่ใดก็ได้ เพื่อบันทึกขณะเวลาพิเศษของคุณ สะท้อนความผูกพันลึกซึ้งระหว่างจักรวาลกับเวลา
นิทรรศการครั้งนี้ไม่ใช่แค่การชมนาฬิกา แต่คือประสบการณ์ที่จะทำให้เข้าใจว่า ทำไมปรัชญา ‘Do better if possible, and that is always possible’ ตั้งแต่ปี 1819 ถึงได้หล่อหลอม Vacheron Constantin ให้กลายเป็นหนึ่งในเมซงนาฬิกาชั้นสูงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
นี่คือโอกาสพิเศษที่จะได้สัมผัสมรดก ประวัติศาสตร์ และศิลปะแห่งการประดิษฐ์อันเหนือชั้นอย่างลึกซึ้ง