กาแฟที่แฟร์กับทุกคน

เราอยู่กันที่ YAYO FARM ที่นี่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มสำหรับคอกาแฟและคนที่ไม่ใช่คอกาแฟก็สามารถเอ็นจอยได้อย่างไม่ยากเย็น

ตลอดทางเดินรอบๆ ร้านรายล้อมด้วยต้นกาแฟ ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความเขียวชอุ่ม ตัวร้านจะผสมผสานความโลคอลแต่ยังคงความเท่ด้วยบาร์สีดำตรงกลาง รอบๆ ร้านเปิดโล่งให้เราได้สูดอากาศอย่างเต็มปอด รับลมเย็นตลอดทั้งวัน เขาว่ากันว่าพื้นที่ตรงนี้อากาศเย็นตลอดทั้งปีเชียวนะ

เราไม่รอช้าเดินเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของรอยยิ้มแรกที่ทักทายเราตั้งแต่มาถึง บี๋ – จีรศักดิ์ จูเปาะ บทสนทนาระหว่างเรากำลังเริ่มขึ้น ขณะที่พระอาทิตย์ดวงโตกำลังจมดิ่งลงสู่แนวเขา ให้ฉากหลังสีส้มทั่วทั้งฟ้า ถ้าบอกว่าที่นี่ขายวิวเป็นหลักก็เชื่อ แต่เผอิญว่าเรื่องกาแฟของเขาจริงจังใช่ย่อย สมกับได้ชื่อว่าเป็น ‘เมืองกาแฟ’ ด้วยน่ะสิ

ยาโย หญ่าโย เราพูดทวนชื่อร้านอยู่สักพัก จนบี๋เฉลยกับเราว่าที่ถูกต้องคือ ‘หญ่าโย ฟาร์ม’ เป็นคำในภาษาอาข่าเขาชี้ไปที่ผมเปียยาวสุดเท่ของเขาพร้อมบอกเราว่าหมายถึงสิ่งนี้ “สมัยก่อนคนอาข่า(ผู้ชาย)ที่ไปศึกปกป้องดูแลชาติพันธุ์ตัวเองจะทำผมแบบนี้ สำหรับเราเลยเป็นเหมือนคำนิยามของคำว่า สุภาพบุรุษ”

เหมือนกับคอนเซ็ปต์ของหญ่าโย ฟาร์ม ที่เปรียบตัวเองเป็นเหมือนสุภาพบุรษ เพราะเขาแฟร์กับทุกคน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

สนทนาภาษากาแฟ

“ในอดีตดอยช้างมีลักษณะเป็นภูเขาหัวโล้น จากการปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย แต่ปัจจุบันนี้กลายมาเป็นพื้นที่เพาะปลูกกาแฟสายพันธุ์อราบิกาที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ที่สำคัญการเพิ่มพื้นที่การปลูกกาแฟในแต่ละปี ทำให้หมู่บ้านดอยช้างเราได้ปลูกต้นไม้มากขึ้นตามไปด้วย เพราะต้นกาแฟต้องการร่มเงาจากต้นไม้ขนาดใหญ่” บี๋อธิบายให้เราเห็นภาพตามว่า ทุกๆ พื้นที่ที่ปลูกกาแฟ เท่ากับเรากำลังเพิ่มพื้นที่ป่าให้กับโลกใบนี้ ตามสโลแกน ‘YAYO COFFEE WE GROW GREEN’ ของทางร้าน

มากกว่านั้นพื้นที่แห่งนี้ยังช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้กับเด็กๆ อาข่าบนดอยอีกหลายชีวิต “ถ้าคุณจบม.สามแล้วไม่ได้เรียนต่อ มาที่นี่เรามีงานรองรับให้ จะทำจุดไหนของโพสิชั่นกาแฟก็ได้ อยากเป็นคนดูแลสวน อยากเป็นคนดูแล โพรเซส หรืออยากจะทำหน้าบาร์ เราพร้อมสอนพร้อมซัพพอร์ตให้เท่าที่เราทำได้” เขาอยากให้ตรงนี้เป็นเหมือนธุรกิจครอบครัวที่มีแต่ความสุขใจ

อยากสร้างคนในพื้นที่ให้มีความพร้อม เป็นสิ่งที่บี๋บอกกับเรา คงเพราะความตั้งใจใหญ่ๆ ของเขาอีกหนึ่งอย่างคืออยากให้ ‘ดอยช้าง’ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ

คงพูดได้ว่า กาแฟไม่เพียงเป็นเครื่องดื่มที่เติมคาเฟอีนให้กับผู้ดื่มเท่านั้น แต่ในทุกกระบวนการยังสามารถ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนปลูกกาแฟ ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง สร้างงานสร้างอาชีพ และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสิทธิ์ต่างๆ ได้มากขึ้นให้กับคนบนดอย

ครบจบในที่เดียว

หญ่าโย ฟาร์ม เลือกใช้เมล็ดกาแฟจากสวนที่ปลูกเอง แปรรูปเอง รวมถึงคั่วเองอย่างพิถีพิถันจนกลายมาเป็นเมนู Signature ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Sugar Man (120 บาท), Yuzu On The Hill (120 บาท) หรือ Kiss Me Softly sofe (120 บาท)

“ผมอยากให้ลองจอมใจ” เราพยักหน้าตอบรับเพราะแค่ชื่อก็ชวนสะดุดหูแล้ว

“เมนูนี้ผมทำโพรเซสขึ้นมาจากความเจ็บปวด ผมมีพี่สาวที่ดูแลผมตั้งแต่เกิด แต่ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว เขาเป็นคนสำคัญสำหรับผมมาก เลยอยากให้เขาอยู่ในทุกๆ ความสำเร็จ เขาเป็นคนรักสวยรักงามชอบใช้น้ำหอม ก็เลยดึงจุดนี้มาเป็นคาแรคเตอร์ของแก้วนี้” ความหอมที่คลุ้งกรุ่น และความนุ่มของรสชาติทำให้สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของจอมใจ

แม้ที่นี่จะมีความเป็นโลคอล แต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นสแตนดาร์ดในเรื่องของกาแฟ ไม่ว่าจะสกิลหรือเครื่องไม้เครื่องมือต้องมีความเป็นสากล เหล่าบาริสต้าที่ประจำการอยู่หน้าบาร์ล้วนผ่านการฝึกฝน เรียนรู้ และใช้ระยะเวลาตกผลึกมวลความรู้อย่างหนัก จนสามารถสร้างสรรค์รสชาติกาแฟได้อย่างดีเยี่ยม และพร้อมที่จะสนทนาภาษากาแฟกับคุณทุกเมื่อ

นอกจากมีกาแฟที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันแล้ว ยังมีเมนูอาหารและของหวานรสละมุนให้ลองอีกหลายเมนู ให้เราได้อิ่มครบจบในร้านเดียว ดื่มด่ำบรรยากาศท่ามกลางวิวเปิดโล่งแบบ 360 องศา ถึงจะเดินทางขึ้นมายากหน่อยแต่เราว่าคุ้มค่าเลยแหละ มาเชียงรายทั้งทีอย่าลืมแวะมาจิบกาแฟบนดอยช้างที่หญ่าโย ฟาร์มกันนะทุกคน