Colorful Urban

คำว่า MUU แวบแรกที่ได้ยินคงนึกไปถึง “สายมู” แต่ผิดถนัดเลย เพราะ MUU มาจากรากคำในภาษาไทย “หมู่” ต้องการสื่อถึงความคุ้นเคย รู้สึกสบายใจ สุขใจ เป็นตัวของตัวเอง รวมๆ แล้วน่าจะหมายถึงการที่เรามีความสุขเมื่อได้อยู่ท่ามกลางสถานที่และผู้คนที่เราคุ้นเคย

สเปซของ MUU ออกแบบดูร่วมสมัยตามมาตรฐาน Small Luxury Hotels of the World สะท้อนเสน่ห์โรงแรมขนาดเล็กที่ให้ความรู้สึกพิเศษ ใช้สีทองเป็นโทนหลัก แล้วเติมสีสันอื่นๆ ให้ดูเพลย์ฟุลมากขึ้นสมกับความเทรนดี้ของย่านทองหล่อ

ห้องพักทั้ง 148 ห้องตกแต่งในสไตล์คอนเทมโรรารี ห้องมาตรฐานสุดเริ่มต้นที่ 37 ตร.ม. เป็นห้องดีลักซ์ คิง ส่วนห้องหรูสุดอลังการสุดต้องยกให้ทองหล่อสวีท ที่มาพร้อมขนาด 180 ตร.ม มีระเบียงส่วนตัว และเติมความหรูหราขั้นสุดด้วยที่นอนจาก Hilker Mattress Since 1888 ผู้ผลิตที่นอนชั้นสูงจาก Detmold ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีมูลค่าถึง 1 ล้านบาท! ซึ่งที่นอนเซ็ตนี้เขาจะมีบริการให้จนถึง 31 มกราคม 2567

จุดเด่นของ MUU คงไม่ได้อยู่ที่ความหรูหราอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขาพยายามสร้างทางเลือกให้นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ใครอยากพักระยะสั้นก็เช็กอินโรงแรม ส่วนคนอยากพักระยะยาวแบบลองสเตย์ ก็คงต้องมองหาเรสซิเดนซ์ที่มีห้องพัก 1 ห้องนอน ขนาด 52 ตร.ม. และเรสซิเดนซ์แบบ 3 ห้องนอน พร้อมระเบียงส่วนตัวกว้างถึง 170 ตร.ม.

เช็กอินแล้ว เราลองเดินสำรวจรอบๆ โรงแรมซึ่งมีร้านอาหารซ่อนอยู่เพียบ ทั้งร้านอร่อยในตำนาน ร้านอาหารนานาชาติระดับรางวัล รวมถึงคาเฟ่บาร์ชิคๆ ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศมา staycation ที่นี่ล่ะใช่เลย!

It’s Dinner Time!

ดินเนอร์มื้อพิเศษของที่นี่ เรายกให้ Otto Italian Restaurant ที่มองเห็นวิวเมืองกรุงเทพฯ ทุกจานโดดเด่นด้วยเทคนิคของการผสมผสานอาหารอิตาเลียนสไตล์คลาสสิกและสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกัน เน้นเสิร์ฟเมนูกินง่ายแต่สดใหม่

เมนูแนะนำที่มาแล้วไม่ควรพลาด! ยกให้ Polpo Arrosto (450 บาท) เชฟนำปลาหมึกไปซูวีจนนุ่มกำลังดี และรมควันในซอสเวลูเต้สไตล์อิตาเลียนคลาสสิก ได้ทั้งความเนียนละมุนลิ้นและความหอมจากทรัฟเฟิล ส่วน Scampi Alla Griglia (580 บาท) ก็เป็นอีกเมนูที่ต้องลอง ความสดความเด้งของกุ้งนำเข้าจากอิตาลีราดมาด้วยซอสไวน์ขาวคลุกเคล้าเนยสุดเข้ากัน เสิร์ฟมาพร้อมกระเทียม มะนาว และผักชีฝรั่ง ถ้าอยากได้ความเฟรช แนะนำให้บีบมะนาวเพิ่มตามชอบเลย

อีกจานซิกเนเจอร์ที่หลายคนต้องรักคงไม่พ้น Burrata E Prosciutto (450 บาท) บูราตาชีสออร์แกนิกเนื้อเนียนจากอิตาลี ตัดเลี่ยนด้วยความเค็มจากพาร์มาแฮม ผสมผสานกับบัลซามิกและน้ำมันมะกอก เสริมให้จานนี้กลมกล่อมลงตัว ปิดท้ายด้วยขนมหวานอย่าง Tiramisu และ Pana Cotta ก็ถือเป็นมื้อที่สมบูรณ์แบบ

แต่ถ้ารู้สึกอยากได้เครื่องดื่มสักแก้วไปนั่งจิบชิลล์ๆ ชมสกายไลน์กรุงเทพฯ จากริมสระ ทางโรงแรมยังมี Ze Bar คอยเสิร์ฟค็อกเทลแก้วพิเศษในช่วงเย็น ใครชอบความสดชื่น เราแนะนำ Aperlo Spritz (250 บาท) และ Pina Colada (250 บาท) และเบียร์สเปนที่ไม่ได้มีขายทั่วไป

วันไหนเพื่อนๆ อยากมาสัมผัสประสบการณ์การเข้าพักและลองใช้ชีวิตเทรนดี้แบบฉบับของชาวทองหล่อ ฝาก MUU Hotel and Resort ไว้ในลิสต์ด้วยนะ