Let's Rebel
Rebellion Lab and Perfume Bar ร้านน้ำหอมมัลติแบรนด์ที่ขอพาน้ำหอมนิชอินดี้ไทยไประดับโลก
- Rebellion Lab and Perfume Bar ร้านน้ำหอมมัลติแบรนด์ ที่แรกของไทย ที่รวมน้ำหอม Niche & Indie ของนักปรุงน้ำหอมไทยเอาไว้ เป็นจุดหมายของคนรักน้ำหอมทั้งไทยและทั่วโลก
เวลาบ่าย เราเดินลัดเลาะไปมาอยู่ที่โครงการดรากอน ทาวน์ ซอยจุฬา 5 เพราะมีนัดคุยกับ ตั้ว-ณัท เวชชศาสตร์ และ ชุน-ธาดา อาชาวงศ์ นักปรุงน้ำหอมและสมาชิกหุ้นส่วนร้าน Rebellion Lab and Perfume Bar ร้านน้ำหอมมัลติแบรนด์ Niche & Indie ฝีมือคนไทย
การเดินทางไปยังร้านอาจรู้สึกซับซ้อน แต่ก็เพียงแค่ในครั้งแรกเท่านั้น คงคล้ายกันกับเส้นทางของน้ำหอมนิชไทยที่กำลังรอให้เราเดินทางไปค้นพบ
บทความนี้ยินดีต้อนรับนักอ่านที่เป็นทั้งคนที่รักน้ำหอม คนที่กำลังมองหาน้ำหอมใหม่ คนที่เริ่มศึกษาน้ำหอม หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องน้ำหอมเลยแม้แต่น้อย ก็อย่าเพิ่งนึกกังวล เพราะครั้งนี้ ONCE จะพาไปดมน้ำหอมในร้าน Rebellion Lab and Perfume Bar ที่ซึ่งไร้ความกดดัน แต่ตื่นตาตื่นใจ เต็มไปด้วยความรู้ และน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ต่างไปจากน้ำหอมไหนๆ ที่เคยได้ดม
Rebellion Lab and Perfume Bar
Rebellion Lab and Perfume Bar เกิดขึ้นจาก ตั้ว-ณัท เวชชศาสตร์ ชุน-ธาดา อาชาวงศ์ และ กิจ-กิจจาศักดิ์ ตริยานนท์ สามนักปรุงน้ำหอม ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ให้กับน้ำหอม Niche Indie ไทย ไม่ใช่เพียงแค่ในตลาดออนไลน์ แต่เข้าถึงคนทั่วไปมากขึ้น อีกทั้งน้ำหอม Niche Indie คือน้ำหอมที่กลิ่นมีความยูนีกสูง ไม่ใช่กลิ่นทั่วไปที่เราคุ้นเคย ลูกค้าบางส่วนจึงต้องการเข้ามาลองดมสินค้าก่อน การมีหน้าร้านจึงเป็นสิ่งจำเป็น
สองสุคนธกรเล่าว่า คำว่า Rebellion ในชื่อร้าน มาจากความเป็นกบฏที่ฉีกออกจากแนวทางเดิมของตลาดน้ำหอมทั่วไปที่เราๆ คุ้นเคย ชุนและตั้วย้ำว่าร้านน้ำหอมที่เกิดจากคนปรุงน้ำหอมเอง จะนำเสนอเฉพาะข้อมูลที่ถูกต้อง และวัตถุดิบที่มีที่มาที่ไป ไร้คำโฆษณาบรรยายกลิ่นเกินจริง
“ปัจจุบันในไทยยังมีคนที่ให้ความรู้เรื่องน้ำหอมในระดับโน้ตลึกๆ น้อยมาก เลยทำให้คนเกิดความเข้าใจผิดได้ การศึกษาเรื่องน้ำหอมต่อก็เป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นถ้าเราจะทำให้ลูกค้าเข้ามาในวงการ Niche Indie ได้ เราต้องให้ลูกค้ามีข้อมูลเรื่องน้ำหอมมากพอ” ชุนอธิบาย
ประสบการณ์การซื้อน้ำหอมที่ Rebellion Lab and Perfume Bar จึงเป็นความรู้สึกสบายๆ แต่เต็มไปด้วยข้อมูลแน่นๆ น้ำหอมแบรนด์ไทยถูกจัดเรียงเป็นระเบียบ พร้อมข้อมูลชื่อแบรนด์ ชื่อกลิ่น โน้ตน้ำหอม และราคา ประกอบไว้อย่างครบถ้วน หากต้องการสอบถามเรื่องราวที่มาของกลิ่นไหนเพิ่มเติม BA ของร้านก็พร้อมอธิบายเสมอ
“คนส่วนใหญ่เวลาเจอร้านหรูๆ จะไม่อยากเข้า ต่อให้อยากดม เพราะถ้าเราไม่ซื้อมันจะรู้สึกแปลก แต่ร้านเราต้อนรับทุกคน แต่เราจะไม่ฮาร์ดเซลล์ ไม่มีคำว่า ‘ขวดสุดท้ายแล้วนะครับ’ อยากเดินดม หรือมาลองเล่นๆ ได้เลย เราอยากให้คนที่มาร้านนี้รู้สึกเหมือนเดินเข้า B2S ดูว่าวันนี้มีหนังสืออะไรออกใหม่ แล้วเข้าไปลองเปิดอ่าน มากกว่าที่จะรอสิ้นเดือนเงินพร้อมแล้วค่อยมา”
“หรือถ้าอยากเข้ามาศึกษาเรื่องน้ำหอม ไม่ได้ซื้อกลับไป เราก็ไม่ซีเรียส เพราะอย่างน้อยๆ วันนี้เราได้รู้จักกัน อย่างน้อยเราก็ได้เจอกันแล้ว” ตั้วเสริม
2 หุ้นส่วน
มากกว่า 7 แบรนด์
เนื่องจากแบรนด์ภายในร้านมีมากกว่า 7 แบรนด์ เราเลยขอให้ตั้วและชุนที่เป็นทั้งหุ้นส่วน และเจ้าของแบรนด์ที่วางขายในร้าน แนะนำรายละเอียด และยกเอาความน่าสนใจบางส่วนของแบรนด์แต่ละคนให้เราฟัง (และดม)
เริ่มด้วยแบรนด์ SIAM1928 ของตั้ว ชื่อนั้นมีที่มาจากปี ค.ศ. 1928 ซึ่งเป็นปีที่คุณทวดของเขาเริ่มทำน้ำปรุง เจ้าตัวเลยพยายามทำน้ำหอมที่เกี่ยวกับความเป็นไทย ที่เน้นลงลึกไปที่วรรณคดี เช่น คอลเลกชั่น ORIGINAL ที่ได้เแรงบันดาลใจจากตระกูลจตุนาคาหรือนาค 4 ตระกูล และสัตว์หิมพานต์
“ด้วยความที่บ้านทำน้ำปรุง เราเลยพยายามจะทำน้ำหอมที่เกี่ยวกับความเป็นไทย เน้นลงลึกไปที่วรรณคดี ซึ่งมีสตอรี่ให้เล่าเยอะอยู่แล้ว และเรายังเป็นแบรนด์เดียวในไทย ที่ใช้ขวดเซรามิกมาสร้างเอกลักษณ์ให้ขวดน้ำหอม”
สุคนธกรหนุ่มเล่าต่อว่า ภาพเรื่องราววรรณคดีที่นำมาวางบนเซรามิก ทำด้วยเทคนิคเรียกว่า r Decal Sticker ที่จะเอาลายมาแปะกับขวดเซรามิกแล้วนำไปเผา ซึ่งลายเหล่านี้จะอยู่ได้หลักร้อยปีโดยที่ไม่จืดจาง ประดับโลโก้สีทอง ยิ่งทำให้ SIAM1928 ล้ำค่าเหนือกาลเวลา
ส่วนอีกคอลเลกชันหลักคือ “Voyager” เพราะตั้วเคยเป็นตากล้อง ทำงานโปรดักชั่น และเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ เขาจึงมีโอกาสได้เดินทางไปในหลายๆ ประเทศ จึงเก็บเอาความทรงจำเหล่านั้นมาสร้างเป็นกลิ่นบรรจุในขวดแก้ว
ในส่วนแบรนด์ Tada Perfumeur ของชุนนั้น แตกต่างจากแบรนด์ของเพื่อนร่วมธุรกิจอย่างสิ้นเชิง เขาเล่าให้ฟังถึงเอกลักษณ์ส่วนตัวคือการทำน้ำหอมที่มีกลิ่นค่อนข้างหนัก ซึ่งมาจากวัตถุดิบหายาก และพัฒนาด้วยความรู้การทำน้ำหอมจากต่างประเทศ
“ผมตั้งชื่อแบรนด์ว่า Tada Perfumeur เพราะผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนขี้เบื่อ ฉะนั้น ถ้าเราวางคอนเซปต์ของแบรนด์ว่าเป็นน้ำหอมที่มีแรงบันดาลใจมาจากเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่เกินปี ผมจะเบื่อ น้ำหอมของผมจึงจะพัฒนาไปตามสิ่งที่เราเป็นไปเรื่อยๆ ตามความชอบและความสนใจในเรื่องกลิ่นของเรา”
น้ำหอมแต่ละคอลเลกชั่นของชุนนั้นมีหลากหลายมาก ไม่ว่าจะคอลเลกชันปกติ ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Subject บางอย่าง หรือ Personality คนบางคนในชีวิตของเขา “Reminiscence of Nippon” คอลเลกชันจากความรักการท่องเที่ยวแดนอาทิตย์อุทัย “No Tales” ที่ต่างจากทุกตัวของเขา คือจะเป็นตัวที่ไม่มีสตอรี่เลย เพียงแค่อยากทำน้ำหอมที่โน้ตใดโน้ตหนึ่งให้เด่นชัด อีกตัวที่นับว่าสร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ คือไลน์ Exclusive ที่ใช้วัตถุดิบจากของแปลกและหายาก เช่น ต่อมกลิ่นบีเวอร์ ต่อมกลิ่นกวาง อ้วกปลาวาฬ เป็นต้น
7 แบรนด์ที่ต้องลอง(ดม)
ทั้งสองบอกกับเราว่า ปัจจุบันนักปรุงน้ำหอมไทยไม่ได้มีจำนวนมากนัก ส่วนใหญ่คนในแวดวงจึงรู้จักกัน ยิ่งแต่ละแบรนด์ที่ได้นำมาวางจำหน่ายในร้าน ก็เป็นแบรนด์ของนักปรุงน้ำหอมที่ชุนและตั้วมั่นใจในฝีมือและคุณภาพน้ำหอมที่จะถูกส่งต่อให้ลูกค้า
7 แบรนด์น้ำหอมที่วางจำหน่ายในร้าน
• SIAM1928 กลิ่นที่มาจากการตีความเรื่องราวความเป็นไทยออกมาเป็นน้ำหอมของ ณัท เวชชศาสตร์
แนะนำให้ดม “AERAPATA” (เอราปถะ) กลิ่น Oakmoss เด่นชัดเตะจมูก ราวกับเห็นสีเขียวของมอส และป่าดิบชื้นที่เป็นแหล่งที่อยู่ของนาคาตระกูลเอราปถะยามได้ดม
• Tada Parfumeur น้ำหอมโน้ตกลิ่นหนักแน่นตามสไตล์ของ ธาดา อาชาวงศ์
แนะนำให้ดม “When I realised” น้ำหอมแนว Leathery นุ่มลึก ที่ได้แรงบันดาลใจจากโต๊ะทำงานเครื่องหนังของชุน
• Prissana Parfum, Prin น้ำหอมที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของ ปฤณ ลมรส เจ้าของรางวัล ART AND OLFACTION AWARDS 2018 ARTISAN CATEGORY FINALISTS นำมาจำหน่ายที่นี่ครบถ้วนทุกกลิ่น
• Strangers Parfumerie อีกหนึ่งแบรนด์ของ ปฤณ ลมรส ที่ใช้ง่าย กลิ่นหลากหลาย เหมาะกับผู้เริ่มใช้น้ำหอม Niche
• Odyssey แบรนด์ที่บันทึกช่วงเวลาแสนประทับใจในการเดินทาง และการตีความภาพยนตร์และบทเพลงที่ อนันต์สิทธิ์ วงศ์กรวณิชย์ สนใจมาอยู่ในแต่ละกลิ่น
แนะนำให้ดม “Rhyhtm Of The Day” โน้ตกลิ่นหวาน Cadarmom ที่สร้างสรรค์จากช่วงเวลาจิบชาของชาวอินเดีย
• Rebellion น้ำหอมแบรนด์ย่อยที่เหล่านักปรุงน้ำหอมแต่ละคนจะทำให้ร้าน Rebellion Lab and Perfume Bar ภายใต้คอนเซปต์ที่ทั้งชูเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนของนักปรุงน้ำหอมหน้าใหม่ และเป็นตัวที่ฉีกจากความเป็นตัวตนเดิมไปสุดๆ สำหรับสุคนธกรที่คร่ำหวอดในวงการมานาน
แนะนำให้ดม “Nobody but Nut” กลิ่น Nutty ให้ความหวานหอม บ่งบอกความตัวตนของนักปรุงน้ำหอมมือใหม่ไฟแรงอย่าง ณัท เวชชศาสตร์
อนาคต Rebellion Lab and Perfume Bar
ชุนมองภาพอนาคตร้านน้ำหอมมัลติแบรนด์ของพวกเขาไว้ชัดเจนในความคิด คือเขาต้องการให้ที่นี่เป็นดั่งแลนด์มาร์กของคนรักน้ำหอมนิชไทยทุกคน และตอนนี้ภาพนั้นเริ่มเด่นชัดในความจริงแล้ว เพราะฐานลูกค้าต่างชาติที่เยอะเป็นสัดส่วน 80-90 เปอร์เซ็นต์ เป็นหลักพิสูจน์ว่า Rebellion Lab and Perfume Bar นั้นกำลังเป็นจุดหมายของคนทั่วโลกจริงๆ
สองสุคนธกรร่ายรายชื่อประเทศที่เป็นลูกค้าของที่ร้านยาวเหยียด ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง ไต้หวัน เวียดนาม สิงคโปร์ อินเดีย เยอรมนี อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือ ประเทศแถบยุโรป แต่ทางร้านเองก็พยายามสื่อสารกับคนไทยด้วยเช่นกัน เพราะอยากทำให้คนไทยรู้จักกับน้ำหอมไทยที่เป็น Niche Indie มากขึ้น
“เรามองว่าไทยกับต่างชาติต่างกัน ลูกค้าต่างชาติที่เข้ามาในร้าน เราไม่ได้ทำการตลาดอะไรเลย ปากต่อปากทั้งหมด เราตั้งใจให้ร้านเป็นแลนด์มาร์กสำหรับต่างชาติ เพราะว่าเขามาเที่ยว มาทำงาน และซื้อกลับไปใช้ แต่สำหรับลูกค้าคนไทย เราอยากทำให้คนไทยเข้าใจน้ำหอมมากขึ้น” ชุนอธิบาย
ในฐานะลูกหลานของครอบครัวที่โตมากับประวัติศาสตร์น้ำปรุงไทยตั้งแต่เด็ก ตั้วยอมรับกับเราว่า ความเป็นมาของเส้นทางน้ำหอมไทยไม่ได้ยาวนานเท่าน้ำหอมเทศ จึงไม่ผิดที่คนไทยจะคุ้นเคยกับแบรนด์ต่างประเทศมากกว่า แต่เพราะอย่างนี้ ตัวเขาและนักปรุงน้ำหอมไทยจึงอยากร่วมเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์น้ำหอมไทย ผ่านร้าน Rebellion Lab and Perfume Bar แห่งนี้
“พูดกันตามตรง ไม่มีใครทำธุรกิจแล้วไม่อยากรวย แต่สำหรับเรา นอกจากเม็ดเงิน เราอยากทำธุรกิจน้ำหอมที่มันเป็นร้านในไทยที่มีชื่อเสียง ระดับเดียวกับเวลาเราไปฝรั่งเศส แล้วเรานึกถึง Dior, Chanel หรือไปญี่ปุ่นแล้วเรานึกถึง Parfum Satori” ชุนเสริม
“เรามองว่าร้านหรือแบรนด์น้ำหอม ควรเป็นสมบัติ เป็นมรดกให้คนรุ่นต่อไป ในอีก 100-200 ปี Rebellion, SIAM1928, Tada Parfumeur และทุกแบรนด์จะได้เป็นร้านบูทีกแยก เป็น Local Brand ที่มาเที่ยวไทยต้องมาร้านเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันเรากำลังเริ่มทำให้มันเกิดขึ้นจริง”
Rebellion Lab and Perfume Bar
โครงการ Dragon Town
061-216-4514
Facebook : Rebellion Lab and Perfume Bar
เปิดทำการ ตั้งแต่เวลา
อังคาร-ศุกร์ : 15:00-21:00 น
เสาร์-อาทิตย์ : 12:00-21:00 น
หยุดทุกวันจันทร์