Samsen Street
Samsen Street Hotel โรงแรมดีไซน์สนุกจากเหล็กดัดและนั่งร้านในธีมท้องถนนกรุงเทพฯ
- อดีตพ่อค้ารถเข็นกาแฟโบราณหยิบไอเดียจากโครงรถเข็นขายอาหารมาตกแต่งโรงแรม ทำเฟอร์นิเจอร์จากเหล็ก และทำระเบียงตึกเลียนแบบนั่งร้าน โชว์เป็นตัวอย่างว่า วัสดุที่เน้นการใช้งานธรรมดาๆ ก็ดีไซน์ให้สนุกได้
จากรถเข็นสตรีตฟู้ดสู่โรงแรมย่านข้าวสาร
นี่คือเบื้องหลังของโรงแรมตกแต่งด้วยเหล็กดัดที่คาดไม่ถึง และนั่นยิ่งทำให้ประทับใจเข้าไปอีก
ศักดิ์ณรงค์ โลจนะรุ่งสิริ คือผู้ให้กำเนิด Samsen Street Hotel ส่วนต้นกำเนิดของเขาคือรถเข็นกาแฟโบราณ หลังจากนั้นเขาหาเลี้ยงชีพด้วยการเปิดร้านอาหารตามสั่ง ขับแท็กซี่ ทำงานในร้านตัดสูท กระทั่งเปิดห้องเสื้อชื่อ James Tailor ก่อนจะมีโรงแรมเป็นของตัวเองอย่างทุกวันนี้
ศักดิ์ณรงค์ใกล้ชิดกับท้องถนนกรุงเทพฯ อย่างลึกซึ้ง และเขาพร้อมแบ่งปันความเป็นไทยในแง่มุมที่เขารู้จักดีผ่านการตกแต่งโรงแรมด้วยเหล็กดัดดีไซน์โมเดิร์นเหมาะกับยุคสมัย
มาสำรวจ Thai Street Style ผ่านสายตาของศักดิ์ณรงค์ไปพร้อมกัน
Thai Street Style Hotel
มองไปทางไหนก็เห็นเหล็กดัดสีเขียวซีด ตั้งแต่ทางเข้าโรงแรม โต๊ะ และเก้าอี้ ยิ่งเดินลึกเข้าไปยิ่งตะลึงกับระเบียงเหล็กสูงชะลูดยันชั้น 4 แต่มองไม่ออกเลยว่า แรงบันดาลใจมาจากนั่งร้าน
ของใช้ที่ทำจากเหล็กอยู่รอบตัวคนไทยทุกหนทุกแห่ง ตั้งแต่ลูกกรงตรงบานหน้าต่าง โครงรถเข็นขายอาหาร โต๊ะกับเก้าอี้ของร้านอาหารข้างทาง และนั่งร้าน ซึ่งสัมพันธ์กับบริบทเมืองกรุงที่มีการก่อสร้างดำเนินอยู่ตลอดเวลา แต่น้อยคนจะยกระดับวัสดุนี้ที่อยู่เกลื่อนถนน
ต้องบอกว่า โรงแรมฉลาดเลือกสิ่งของเน้นการใช้งานมาประยุกต์เป็นของตกแต่ง ต่อยอดความเป็นไทยสู่โลกโมเดิร์นและเทรนด์มินิมัล แถมเสริมคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของ Samsen Street Hotel ให้โดดเด่นไปพร้อมกัน
ยังมีกิมมิกแบบไทยอีกมากรอให้ค้นพบอยู่ทั่วโรงแรม ยกตัวอย่าง ผนังล็อบบี้ที่มีรูปรถเข็นส้มตำไก่ย่าง รถเข็นไส้กรอกอีสาน รถเข็นผลไม้ พร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ ส่งต่อเกร็ดเกี่ยวกับสตรีตฟู้ดไทยสู่สากล ยังไม่นับว่า ล็อบบี้เปรียบเสมือนประตูต้อนรับชาวต่างชาติสู่เมืองไทย และช่วยเตรียมความพร้อมก่อนออกไปเปิดประสบการณ์ด้วยการเห็น ดมกลิ่น และลิ้มรสอีกด้วยนะ
Rooms and Dorms
ติ๊ง! โห!
โมเมนต์ประทับใจเกิดขึ้นตั้งแต่ประตูลิฟต์เปิด บนพื้นมีเลขห้องโยงเข้ากับเส้นประสีขาวนับสิบเส้นที่ลากยาวไปจนถึงประตูห้องพักแต่ละห้อง ผู้จัดการโรงแรมออกปากว่า นี่คือองค์ประกอบที่สนุกมาก เด็กหลายคนวิ่งนำผู้ปกครองไปยืนรอหน้าห้องพักเลยแหละ
ว่าแล้วก็ตบเท้าตามเราไปชมห้องทั้ง 4 ประเภทของโรงแรมกัน
‘Suite Room’ ขนาดไม่ใช่จุดเด่นเพียงข้อเดียว พื้นที่รองรับภายในห้องมีทั้งเตียง โซฟาริมหน้าต่าง และโซฟายกระดับที่เก๋มาก เรามองปราดเดียวก็เห็นภาพเด็กๆ หรือแก๊งเพื่อนปรี่เข้าไปแย่งเตียงนี้กันแล้ว
ส่วนห้องน้ำก็ใช่เล่น โซนเปียกกับโซนแห้งถูกกั้นห้องด้วยกระจกขุ่น คนหนึ่งอาบน้ำ อีกคนก็เข้าไปปลดทุกข์ได้ไม่ต้องอายกันและกัน และที่สำคัญคือซิงค์คู่ แย่งโซฟากันแล้ว ไม่ต้องแย่งกันล้างหน้าแปรงฟันนะ
‘Superior Room’ มีเตียงขนาดใหญ่ไม่น้อยหน้า Suite Room เพียงแต่ตัดเตียงยกระดับไป เมื่อสังเกตบนหัวเตียงจะพบลวดลายคล้ายเหล็กดัดเป็นเอกลักษณ์และดูโมเดิร์น เสริมกิมมิกด้วยเก้าอี้เหล็กสีส้มสดใส
ห้องนี้พักกัน 2-3 คนกำลังพอดี เมื่อประเมินจากเตียงและห้องน้ำที่มาพร้อมกับซิงค์เดี่ยว ทางโรงแรมยังไม่พลาดที่จะใส่ความสนุกไว้ในการตกแต่งผนังห้องน้ำ โดยเรียงกระเบื้องสีเข้มเป็นคำว่า ‘อึ’ เหนือส้วม และคำว่า ‘อาบน้ำ’ ในห้องอาบน้ำ
‘Deluxe Room’ คือตัวเลือกที่ฮอตที่สุดในบรรดาห้องทั้งหมด เพราะแขกออกไปนั่งห้อยขาบนระเบียงรั้วเหล็กดัด เพื่อดูหนังจากห้องส่วนตัวของโรงแรมได้ โดยจอหนังขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ตรงสุดขอบสระว่ายน้ำ ส่วนระดับช้ันที่พอดีกับจอหนังคือชั้น 2 และชั้น 3
ระหว่างฝันกลางวัน พนักงานใจดีช่วยเติมรสหวานด้วยการส่งเค้กทิรามิสุกับค็อกเทลสีฟ้ามากับรอกส่งอาหาร หมดห่วงเรื่องพลาดฉากเด็ดระหว่างลุกไปรับ Room Service ถึงประตูห้อง
‘Dorm Room’ มองผ่านๆ หน้าตาก็ไม่ต่างจากโฮสเทลทั่วไปเท่าไหร่นัก แต่พอลองปีนป่ายสำรวจเตียงบนถึงได้รู้ว่า เตียงนี้แข็งแรงผิดคาด มันไม่โยกเยกตามน้ำหนักเหมือนเตียงของโฮสเทลที่เคยพัก ไม่ว่าจะเตียงหรือตัวบันไดเอง
บริเวณกลางห้องก็กว้างขวาง เชื้อเชิญให้ทุกคนลงมานั่งล้อมวงกัน ต่างจากโฮสเทลแออัดทั่วไป ที่เหลือเฉพาะทางเดินตรงไปยังเตียง ถ้าส่งรูปห้องไปให้แก๊งเพื่อน รับรองว่ามีร้องกรี๊ด
ส่วนดีไซน์ของห้องน้ำรวมเกินคาดไปมาก ตู้ล็อกเกอร์หน้าห้องน้ำแทบจะถอดแบบมาจากตู้ล็อกเกอร์สมัยมัธยมเป๊ะๆ ลูกเล่นกระเบื้องสีเข้มบนผนังยังมีเช่นเดิม แต่เปลี่ยนเป็นคำว่า ‘ดิฉัน’ และ ‘กระผม’ ในห้องน้ำหญิงและชายตามลำดับ
โรงแรมมีกิจกรรมระหว่างวันด้วย คลาสทำอาหารไทยพร้อมอุปกรณ์ครบครัน จัดในห้องอาหารของโรงแรมเลย ผู้เข้าร่วมจะได้ฝึกฝีมือกันคนละ 2 เมนู ตกเย็นก็ไปนั่งดื่มด่ำบรรยากาศที่ Pool Bar พร้อมดูภาพยนตร์ ซึ่งทางโรงแรมซื้อลิขสิทธิ์หนังค่ายดังๆ ไว้แล้วด้วย ใครอยากดูเรื่องไหนก็บอกพนักงานได้นะ
To Samsen and Beyond
ลองมองการณ์ไกล นักท่องเที่ยวรู้อยู่แก่ใจว่า โรงแรมอยู่ใกล้ถนนข้าวสาร แล้วถ้ามอบให้ได้มากกว่านั้นจะยิ่งพิเศษขนาดไหน
Samsen Street Hotel ออกแบบเส้นทางเที่ยวแบบ One Day Trip ทั้งในและนอกกรุงเทพฯ
เริ่มจากแวะไปตลาดน้ำดำเนินสะดวกกับตลาดนัดรถไฟ พาเที่ยวเพียงครึ่งวันก็วกกลับมาถนนข้าวสาร เพื่อส่งแขกเที่ยวต่อโดยไม่ให้เสียเวลา แผนที่ย่านเมืองเก่าบนกำแพงโรงแรมมีบทบาทสำคัญก็ตอนนี้ ถ่ายเก็บไว้ก่อนเดินดูไฮไลต์ทั่วเมือง จะได้ไม่หลงทางกันนะ
ถ้าอยากสำรวจย่านประวัติศาสตร์นอกกรุงเทพฯ บ้าง โรงแรมพร้อมพาทัวร์อยุธยา เวลา 1 วันของคุณจะใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด ทั้งชมวัดใหญ่ชัยมงคล วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดโลกยสุธาราม และสถาปัตยกรรมเก่าแก่อื่นๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ พร้อมจองร้านอาหารไทย ชวนดื่มด่ำบรรยากาศของเมืองหลวงเก่าเต็มที่
กาญจนบุรี เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะกับสายเล่นสนุก เพราะโรงแรมปักหมุดน้ำตกไทรโยคน้อยเอาไว้ นอกจากนั้น กาญจนบุรีมีสุสานสัมพันธมิตรดอนรักและเส้นทางรถไฟสายมรณะ เรื่องราวสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อันเป็นสากลนี้เตะตาต้องใจชาวต่างชาติแน่ๆ ไม่แปลกใจเลยที่โรงแรมเลือกจังหวัดที่ครบรสขนาดนี้มาทำทัวร์
อ่านบทความจบแล้วนึกถึงใครก็บอกต่อกันไป อย่าให้เพื่อนๆ พลาดของดีแบบนี้ล่ะ
Samsen Street Hotel
Map: https://maps.app.goo.gl/kUbhwf3EuJ1oaE266
Tel: 02 126 7606
ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นได้ทาง เว็บไซต์ หรือ Facebook ของ Samsen Street Hotel