Lit The Light
ทักทายคาแรกเตอร์ผีกับไฟของ พีค Peakkyboo ศิลปินที่ช่วยจุดประกายเปลวเพลิงให้ใครหลายคน
- ไฟที่ผลักดันให้ พีค-สราวลี มณีเนตร ตัดสินใจจัดนิทรรศการในเทศกาลฮัลโลวีน คือจุดเริ่มต้นของ Peakkyboo หรือภาพน้องผีที่มาพร้อมไฟอันอบอุ่น ชวนให้นึกถึงความทรงจำอันล้ำค่า ที่จุดประกายไฟในใจของใครหลาย ๆ คน และช่วยเติมเต็มความหมายของภาพผีให้สมบูรณ์
ผลงานของ Peakkyboo หรือ พีค-สราวลี มณีเนตร เป็นที่รู้จักในภาพผีน้อยในผ้าคลุมสีขาว มาพร้อมสีโทนมืดของฉากธรรมชาติ ทว่ากลับไม่ได้ให้ความรู้สึกหนาวเหน็บหรือมืดมนแต่อย่างใด มันกลับสว่างไสวด้วยประกายไฟที่มาพร้อมกันในภาพ
วันนี้เราจึงเดินทางมายังแกลเลอรีและสตูดิโอทำงานของพีคเพื่อพูดคุยถึงความหมายของคาแรกเตอร์ผี ประกายไฟ รวมถึงประสบการณ์แข่งขัน Art Battle และการวาดภาพสดในคอนเสิร์ตของ Landokmai กับ Paiiinntt & Praesun ค้นหาว่าเส้นทางในอาชีพศิลปินของเธอมีเรื่องเล่าอะไรรออยู่บ้าง
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เรามองเห็นประกายไฟลุกโชนอยู่ในตัวเธอคนนี้ ไม่ต่างกับภาพน้องผีและไฟที่เรียงรายบนผนัง เราจึงเริ่มหาคำตอบว่าไฟอันโชติช่วงของเธอมาจากไหน และทำความรู้จักเธอคนนี้ให้มากขึ้น
จุดเริ่มต้นของเปลวไฟกับอาชีพศิลปิน
จุดเริ่มต้นของการก่อไฟกองเล็กต่อศิลปะ คือความชอบวาดรูประบายสีของพีคในวัยเด็ก สะสมจินตนาการและแต่งแต้มไฟจุดเล็กๆ เรื่อยมา กระทั่งความสามารถด้านศิลปะของตัวเองค่อยๆ ถูกค้นพบช่วงมัธยมต้น เมื่อรู้ตัวว่าวาดภาพเหมือนได้ดี พีคก็เติมเต็มไฟดวงนี้ด้วยการเข้าชมรมศิลปะ บ้างก็ซื้อหนังสือมาอ่าน ฝึกฝนด้วยตัวเองนับตั้งแต่นั้น
แม้ว่าสุดท้ายจะตัดสินใจเรียนการโรงแรมเพื่อความสบายใจของครอบครัว และความกดดันในเส้นทางความฝันที่ไม่อาจรู้ได้ว่าจะสำเร็จไหม หรือมั่นคงแค่ไหน กองไฟเล็กๆ ที่มีต่อศิลปะก็ยังไม่เลือนหายไปง่ายๆ ในเมื่อมือยังวาดภาพเป็นงานอดิเรกได้ บางครั้งก็ประมูลขายภาพวาดของตัวเองช่วงเรียนมหาวิทยาลัยเป็นครั้งคราว
สิ่งที่ทำให้เราคาดไม่ถึง คือไฟที่ลุกโชนในตัวเธอมันหลากหลายยิ่งกว่านั้น พีคมองว่าวัยเรียนนี่แหละคือโอกาสในการลองลงทุนทำอะไรหลายๆ อย่าง เพราะเป็นช่วงที่ครอบครัวยังซัพพอร์ตเราได้ ดังนั้น เมื่อเริ่มหมดไฟกับการวาด พีคก็ไม่รั้งรอที่จะลงทุนทำขนมขายแล้วเอาเงินตรงนั้นไปลองทำสิ่งอื่น ไม่ว่าจะเริ่มเป็นตัวแทนขายเสื้อผ้า หรือศึกษาการทำแบรนด์เสื้อ โดยที่ไม่กลัวว่าความล้มเหลวจะมาดับมอดไฟในตัวลง
“เราเป็นคนตัดสินใจเร็ว รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ แล้วมีแพลนจะทำ ถ้าเรามีทุนก็ทำเลย เป็นคนไฟแรง” พีคเปรย
พีคหัวเราะเสียงใสก่อนพูดเสริมว่าถึงจะลงทุนอะไรไปหลายอย่างก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองทำจนหมดตัว ถ้าถึงจุดที่รู้สึกท้อก็กล้าเปลี่ยนเพื่อเดินหน้าต่อกับสิ่งอื่น ทำเอาเราอดทึ่งไม่ได้เพราะดูเหมือนว่าไฟในตัวเธอสามารถโลดแล่นไปไม่มีสิ้นสุด ต่อให้กองหนึ่งเหลือเพียงสะเก็ดไฟ มันก็จะล่องลอยไปจุดไฟอีกกองหนึ่งขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ
ดังนั้นเมื่อไปต่อไม่ไหวกับการทำขนมขาย พีคก็กลับมาวาดภาพขายอีกครั้ง และครั้งนี้ราวกับได้เจอช่วงเวลาที่ใช่ เมื่อมีคนค้นพบผลงาน และเป็นแรงผลักดันให้เธอตัดสินใจจัดนิทรรศการครั้งแรกในช่วงฮัลโลวีน
เมื่อตัดสินใจเช่าสถานที่จัดนิทรรศการแล้วก็ต้องลงมือวาดรูป พีคบอกเราว่ามันเหมือนเป็นการกดดันตัวเองอยู่หน่อยๆ ว่าต้องทำให้ได้ สุดท้ายก็ลงมือวาดภาพผี 26 ภาพภายในหนึ่งเดือน โดยไม่คาดคิดว่าความกล้าเล็กๆ มันเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายอย่างทีเดียว
ตั้งแต่นั้นมาสีสันของไฟก็เริ่มชัดเจนขึ้น ภาพทุกชิ้นขายออกในราคาที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ แบบไม่คาดฝัน สิ่งนี้คือจุดเริ่มต้นของ Peakkyboo และความตั้งใจในเส้นทางอาชีพศิลปินที่ชัดขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นอาชีพหลักที่น่าภูมิใจ แม้แต่ครอบครัวที่เคยคิดว่าศิลปะหาเงินไม่ได้ก็เปลี่ยนมุมมองความคิดและภูมิใจด้วยกันกับเธอ
“ทุกคนซัพพอร์ตเราเยอะมาก จนทำให้เราตัดสินใจที่จะเช่าแกลเลอรีที่นี่ถาวร แล้วในช่วงเดือนที่เปิดแกลเลอรีก็แทบไม่มีขาจรขึ้นมาเลย มีแต่คนที่ติดตามผลงานเราขึ้นมาเจอทุกวัน” พีคพูดทั้งรอยยิ้ม บางทีพวกเขาคงมาพร้อมกับไฟดวงน้อยๆ เช่นกัน แกลเลอรีที่นี่จึงดูอบอุ่น เข้ากับรูปน้องผีที่มีไฟส่องประกายรอบผนัง
น้องผีมาพร้อมเปลวไฟ มอบความอบอุ่นให้ทุกที่ที่ผ่าน
คาแรกเตอร์น้องผีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Peakkyboo มีจุดเริ่มต้นค่อนข้างเรียบง่ายกว่าที่คิด เป็นเพียงความเหมาะเจาะของช่วงเวลา ภาพผีในผ้าคลุมสีขาวปรากฏขึ้นมาในความคิด ขณะที่เธอกำลังจัดนิทรรศการช่วงฮัลโลวีนอย่างพอดิบพอดี กำเนิดเป็นน้องผีกับโมเมนต์ต่างๆ และกลายเป็นที่ชื่นชอบ
“จริงๆ มันไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไรเลย เราไม่ได้รู้สึก อุ้ย อยากจะสื่อสารผ่านตัวนี้จัง มันอาจจะเปรียบเหมือนกับตัวเราเองที่ชอบเห็นอะไรใหม่ๆ แต่จริงๆ เป็นคนไม่ชอบไปเที่ยวนะ” พีคมองว่าการวาดรูปผีในสถานที่ต่างๆ ก็เหมือนกับได้พาตัวเองท่องไปทั่วโลก สถานที่ที่อยากไป กิจกรรมที่อยากทำ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มาจากความชอบของเธอ
พีคยกตัวอย่างคอลเลกชัน The Sea of Dreams ที่เป็นการเอาน้องผีมาผนวกเข้ากับผืนทะเลสีน้ำเงิน สำหรับเธอแล้ว การวาดท้องทะเลนั้นจะแต่งแต้มท้องฟ้าด้วยสีอะไร จะวาดปุยเมฆตรงไหน หรือปาดระลอกคลื่นไปทิศทางใด ทั้งหมดนี้ไม่มีผิดไม่มีถูก ซึ่งนั่นคือความอิสระอันไร้กรอบความคิดของธรรมชาติที่เธอหลงใหล
ส่วนที่มาของไฟสีเหลืองส้มบนตัวน้องผีนั้น ต้องย้อนกลับไปตอนที่พีควาดรูปคนหน้าไฟ ถึงแม้ว่าเธอจะเคยวาดภาพเหมือนมาก่อน แต่การเก็บรายละเอียดก็เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับคนชอบอะไรเร็วๆ อยู่ดี ไฟจึงถูกหยิบยกนำมาใช้เพื่อลดทอนกระบวนการที่ต้องใช้เวลามาก เช่นการวาดตาหรือจมูก จนช่วงหนึ่ง มันกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คนจดจำว่ามีเธอต้องมีไฟ ซึ่งพีคก็มองว่า มันดูเป็นตัวของตัวเองดีเหมือนกัน เมื่อกลับมาวาดภาพอีกครั้ง เธอก็ไม่ลืมที่จะนำไฟมาใส่ในน้องผีอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ภาพของพีคมีความหมายยิ่งขึ้นคือ การตีความของผู้คนที่ผ่านมาพบเห็น ทุกภาพต่างมีเรื่องราวและประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งมันอาจทำให้ใครหลายคนได้นึกถึงความทรงจำอันล้ำค่าของตัวเองผ่านโมเมนต์ที่กำลังเกิดขึ้นบนผืนผ้าใบ พร้อมๆ กันยังช่วยเติมเต็มเรื่องราว เพิ่มคุณค่าทางความรู้สึก และเปิดโอกาสให้น้องผีได้ล่องลอยเข้าไปอยู่ในใจของใครหลายคน
“เราชอบเวลาที่มีคนมาตีความภาพที่เราวาด เพราะถ้าเกิดเขามาถามแรงบันดาลใจ หรือภาพนี้อยากสื่อถึงอะไร เราก็ไม่รู้เหมือนกัน” พีคหัวเราะปิดท้าย
ส่วนเรามองว่าภาพของ Peakkyboo ให้ความรู้สึกอบอุ่นไม่ว่าพื้นหลังจะเป็นป่าทึบสีหม่น เป็นท้องทะเลเย็นเยียบ หรือขาวโพลนไปด้วยหิมะ ดวงไฟที่จุดประปรายอยู่ในภาพคล้ายกับจะส่องแสงออกมาให้รู้ว่าน้องผีไม่ได้โดดเดี่ยวเกินไปนัก
“ด้วยความที่มันเป็นไฟ เลยต้องอยู่ในที่มืดที่สุดมันถึงจะสว่างที่สุด ถ้าไฟไปอยู่กับภาพสว่าง ไฟก็จะสื่ออารมณ์ได้ไม่เต็มที่” พีคอธิบาย
Language of flowers & Art Battle
พีคแชร์ประสบการณ์ขึ้นไปวาดภาพสดที่งาน Language of flowers : Comes flower, together we are garden ให้เราฟัง มันเป็นงานคอนเสิร์ตที่นำเสนอเรื่องราวของเสียงดนตรีและสีสันของศิลปะควบคู่กัน ซึ่งเธอได้รับเชิญไปวาดภาพถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของเพลงจาก Landokmai กับ Paiiinntt & Praesun
ตอนแรกภาพในหัวของเธอคือบรรยากาศเล่นดนตรีสบายๆ ในสวน แต่เมื่อไปถึงกลับเจอสเกลเวทีอลังการทำเอารู้สึกตื่นเต้นยกใหญ่
“จริงๆ เราเป็นแพนิค ขอหูฟังไว้ใส่ก่อนขึ้นเวทีด้วย แต่พอขึ้นไปจริงๆ เราก็ถอดออก เพราะเรารู้สึกว่าเราอยากวาดรูปสื่อความหมายเพลงที่ได้ยินให้เต็มที่ เป็นครั้งแรกเลยนะที่เอาชนะความกลัวเรื่องแพนิคได้” พีคเล่าด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ
บนเวทีคอนเสิร์ต เธอปล่อยให้บทเพลงนำพาเรียวนิ้วปาดพู่กัน แต่งแต้มสีสันสื่อความรู้สึกลงบนผืนผ้าใบ กลายเป็นภาพผีท่ามกลางทุ่งดอกไม้สีชมพูม่วงละลานตาสมชื่อวงลานดอกไม้ ส่วนภาพของแพรซันกับเพ้นท์คือน้องผีที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้าแสงแดงส้ม แทนความรู้สึกอบอุ่นตอนฟังบทเพลง
หลังจากฟังเรื่องราวการวาดภาพในคอนเสิร์ตจบ พีคก็พูดถึงการแข่ง Art Battle ซึ่งเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งในฐานะนักวาด พีคอธิบายให้เราฟังคร่าวๆ ว่า Art Battle เป็นการแข่งขันวาดรูปสดภายใน 20 นาที เหมาะกับคนวาดรูปเร็วอย่างพีค จนรู้สึกเหมือนงานนี้เกิดขึ้นมาเพื่อเธอเลยทีเดียว
Art Battle ต่างกับตอนวาดภาพสดในคอนเสิร์ตอย่างสิ้นเชิงเพราะดนตรีเป็นจังหวะระทึกชวนให้ใจเต้นโครมคราม แถมรอบข้างยังเป็นเวทีที่รายล้อมไปด้วยผู้ชมอีกต่างหาก หากแต่พีครับมือกับความกดดันนั้นได้ไม่ยาก เพราะพอวาดไปราวๆ 5 นาที ไฟในการวาดภาพกลับเจิดจ้า จุดประกายความสนุกในการปลดปล่อยความคิดอย่างที่ใจต้องการ
“พอได้ไปออกงานหลายครั้งเราก็เริ่มมีความกล้ากว่าเดิมแล้ว รู้สึกว่าถ้าเป็นไปได้ ในอนาคตตอนที่มีแฟนคลับเยอะมากขึ้นกว่านี้ เราก็อยากมีโชว์วาดภาพเป็นของตัวเองเหมือนกัน” พีคพูดถึงเป้าหมายของตัวเองพร้อมรอยยิ้ม
Peakkyboo บนเส้นทางแห่งเปลวเพลิง
อาชีพศิลปินในมุมมองของพีคเติบโตได้เพราะมีคนเบิกทางมาก่อน ให้ศิลปินรุ่นใหม่ขับเคลื่อนมันและส่งต่อไปเรื่อยๆ อย่างเปลวไฟของ Peakkyboo ที่เติบโตขึ้นได้ไกลมากในเส้นทางนี้ แม้ใช้ระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี พีคก็ได้ร่วมงานและสานสัมพันธ์กับศิลปินหลายคนเลยทีเดียว
เมื่อพูดถึงการสานสัมพันธ์ของศิลปินไทย พีคแชร์วิธีทำความรู้จักกันง่าย ๆ อย่างการแลกสติกเกอร์ให้เราฟังว่า เวลาศิลปินไปออกอีเวนต์ แต่ละคนจะทำสติกเกอร์เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มอบให้กันและกัน เป็นทั้งการแนะนำตัวและการสานสัมพันธ์ที่น่ารักจนต้องอมยิ้มขณะฟังเรื่องเล่านั้น อดนึกไม่ได้ว่าการออกอีเวนต์จะต้องสนุกมากแน่ ๆ
“ด้วยความที่คาแรกเตอร์ผีก็มีคนอื่นวาดเยอะอยู่แล้ว แต่เราก็มีเอกลักษณ์ของเราเหมือนกันนะ เราอยากเผยแพร่ภาพของเราไปทั่วโลก เพื่อให้ทุกคนรู้จักชื่อ Peakkyboo” ทุกครั้งที่พีคพูดถึงเป้าหมาย เธอจะเล่าให้เราฟังพร้อมรอยยิ้ม
การได้ฟังเป้าหมายในอนาคตของใครสักคนช่วงเติมไฟในใจเราได้เช่นเดียวกัน เรามองภาพผีกับไฟที่เรียงรายอยู่บนผนัง ถูกชะตากับภาพสองสามภาพบนนั้น ก่อนจะหันไปเลือกซื้อโปสต์การ์ดน้องผีกลับบ้านไปด้วยกัน
เส้นทางของพีคจุดประกายไปด้วยเปลวไฟแห่งความเชื่อว่าตัวเองยังไปไกลได้อีก เรามองว่ามันไม่ใช่เปลวไฟที่แผดเผาทุกสิ่ง แต่เป็นเปลวไฟสดใสและอบอุ่นที่จะนำทางเธอเดินไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่ไฟยังไม่มอดดับลง
ตอนนี้พีคกำลังพยายามพัฒนาคาแรกเตอร์น้องผีไปเรื่อยๆ ในอนาคตอาจไม่ใช่คาแรกเตอร์ตัวผีผ้าคลุม อาจเป็นตุ๊กตาตัวนึง หรืออาจจะเป็นแค่รูปปั้นในภาพก็ได้
ชมผลงานของ Peakkyboo ได้ที่ Holidate cafe ชั้น 5
ติดตามผลงานของเธอได้ใน
IG: Peakky_boo
X : @peakknbart
Tiktok : peakky_boo
FB : Peakkyboo