Crafts Blooms Festival 2021
น่ารักเกินต้าน! งานคราฟต์เชียงใหม่ ใน Crafts Blooms Festival 2021
- จังหวัดเชียงใหม่จัดงาน Crafts Blooms Festival ซึ่งเป็นการรวมตัวของศิลปิน และผู้ผลิตงานคราฟต์ท้องถิ่นไว้มากที่สุด ตอกย้ำความเป็นเมืองสร้างสรรค์ของกุหลาบล้านนาเมืองนี้ได้เป็นอย่างดี
- ปีนี้ Crafts Blooms Festival เปลี่ยนไปจัดงานในรูปแบบ Virtual Online แทนการออกร้านแบบเดิม เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19
- เสน่ห์งานคราฟต์ คืองานฝีมือที่สร้างสรรค์อย่างประณีต ผลิตจากช่างท้องถิ่น ที่ใช้วัสดุในชุมชนเป็นหลัก และมักจะมีเพียงชิ้นเดียวในโลกเพราะเป็นงาน Handmade
“อยู่เชียงใหม่ เหมือนได้เที่ยวทุกวัน” คนกรุงเทพฯ ที่ย้ายมาปักหลักอยู่เชียงใหม่เคยบอกกับเราไว้อย่างนั้น อาจเพราะที่นี่มีภูเขา มีเส้นทางธรรมชาติ และเป็นแหล่งผลิตงานคราฟต์ดีๆ มากมาย ที่มีความยูนีค ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะทุกๆ ปี จะมีการจัดงานคราฟต์ที่ชื่อว่า ‘Crafts Blooms Festival 2021’
ปีนี้มีแบรนด์คนไทยที่เข้าร่วมเทศกาล Crafts Blooms 2021 ทั้งหมด 79 แบรนด์ แบ่งออกเป็นประเภทของฝากของที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน งานปักสิ่งทอ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ เซรามิก งานไม้และเฟอร์นิเจอร์ กิจกรรมมีทั้งการเสวนา ทำเวิร์คช็อป และพาไปชมนิทรรศการต่างๆ โดยครั้งนี้ ประกาศเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเป็น Virtual Online เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐบาล ซึ่งจะทำการถ่ายทอดสดผ่านทาง Facebook page : Plus Blooms Festival ตั้งแต่วันที่ 18-22 สิงหาคม
แต่ก่อนงานจะเริ่มจริง ONCE ขอพาขึ้นเหนือ ไปส่องชิ้นงานคราฟต์เก๋ๆ บางส่วนของนักออกแบบ ทั้งรุ่นใหม่ และรุ่นใหญ่ ทั้งหมด 11 แบรนด์ที่เราคัดสรรมา งานนี้อาจมีเสียตังค์บ้างล่ะ!
1. Indy Cat Embroidery Art ไอเดียอินดี้ในงานปัก
สำหรับคนรักสัตว์ ที่อยากมีงานปักผ้าหน้าทูนหัวของบ่าวหรือสัตว์เลี้ยงตัวโปรด เราขอแนะนำให้รู้จักกับ Indy-Cat Embroidery Art แบรนด์ที่มีจุดเริ่มต้นจาก คุณแอ๊น-ชื่นนิจ พนมวัน ณ อยุธยา อดีตเชฟอาหารฝรั่งเศสจากโรงแรมชั้นนำในกรุงเทพฯ ผู้หลงใหลในศิลปะการปักผ้าควิลท์ (Quilt) จนหันมาเอาดีด้านเย็บปักถักร้อย ก่อนจะเกิด Passion อย่างแรงกล้าเมื่อไปเห็นงานปักผ้ารูปสัตว์เสมือนจริงของ เอมิลี เฟอริส (Emillie Ferris) นักปักผ้าชาวอังกฤษผู้โด่งดัง จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ลองทำตาม
สไตล์การปักผ้าของ Indy-Cat Embroidery Art เรียกว่า Realistic Pet Portraits คุณแอ๊นใช้เทคนิคการปักผ้าหลากหลายแบบผสมผสานเข้าด้วยกัน เช่น การใช้ฝีเข็มแบบ long&short stitch หรือปักสั้นยาว ปักแบบ satin หรือปักทึบในพื้นที่ที่กว้าง และการปักแบบ stem stitch หรือปักด้นส่วนขนหรือผมที่สะบัดปลิว เพื่อให้ได้ความโค้ง อ่อนช้อย และพลิ้วไหว เพิ่มความเป็นธรรมชาติ อารมณ์และความมีชีวิตในงานปัก ผ่านสีสันของเส้นด้ายที่ไล้เฉด ดูมีมิติเสมือนภาพถ่าย
ปัจจุบัน ทางแบรนด์รับปักภาพลงบนเสื้อแจ๊กเก็ต ปลอกหมอน หมวก หรือปักบนกรอบสะดึงสำหรับแขวนโชว์ติดฝาผนังเก๋ๆ ในบ้าน ใครอยากมีภาพสัตว์เลี้ยงแสนรัก ลองติดต่อคุณแอ๊นได้เลย ปกติเธอใช้เวลาปักผ้าประมาณ 3-5 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดของภาพด้วยนะ
www.facebook.com/indycat.embroidery.art
IG : indy_cat_embroidery_art/
2. Jun เท่ได้ในไอเดีย Asian Workwear
เพราะเสื้อผ้าผู้หญิงมีเยอะแล้วในท้องตลาด คุณจุล ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ Jun จึงเลือกที่จะออกแบบชุดทำงานของหนุ่มๆ ในสไตล์ Casual โดยหยิบยกเอาสไตล์หรือวัฒนธรรมชุดทำงานของชายชาวเอเชียในอดีต มาปรับให้ดูเรียบง่ายและสวมใส่ได้ทุกวัน อารมณ์แบบใส่ไปทำงานก็ได้ ใส่ออกงานก็ดี จนกลายเป็นที่มาของ Asian Workwear Collection
ดีไซน์ของ Jun นอกจากจะเรียบเท่ พร้อมมีช่องจัดเก็บ Gadget บนเสื้อผ้าที่คิดมาอย่างดี ทางแบรนด์ยังเน้นความสบายในการสวมใส่ โดยใช้ผ้าฝ้ายทอมือ ที่มีลวดลายการทอแตกต่างกันในผืนผ้า ทำให้ได้ชิ้นงานที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งเป็นการตัดเย็บแบบชิ้นต่อชิ้นด้วยความประณีตของช่างท้องถิ่น ซึ่งแตกต่างจากการผลิตแบบโรงงาน จึงเกิดคุณค่าแบบงาน Craft ในทุกชิ้นงาน ส่วนสีสันบนเสื้อผ้านั้น เป็นการย้อมสีธรรมชาติจากชุมชน ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ ที่หันมาใส่ใจเรื่องรักษ์โลกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริงๆ
3. Hom Studio สดใสในไอเดียผ้าไทย
ห่ม สตูดิโอ เป็นแบรนด์เสื้อผ้าของดีไซเนอร์รุ่นใหม่อย่าง คุณมาย-ณัฐชา ปัญพฤกษ์ ผู้ต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ผ้าไทยโบราณ ให้เป็นผ้าไทยดีไซน์สมัยใหม่ ที่คนรุ่นใหม่กล้าหยิบขึ้นมาสวมใส่ โดยยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยจากการใช้ผ้าฝ้ายทอมือแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นฝีมือการทอผ้าจากชุมชนท้องถิ่นอย่างอำเภอจอมทอง อำเภอฮอด และอำเภอแม่แจ่มในจังหวัดเชียงใหม่
สำหรับคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่เตรียมเปิดตัวในงาน คือ ‘Patchwork Collection’ เป็นการใช้เศษผ้าในโทนสีพาสเทล ที่เหลือจากการตัดเย็บมาออกแบบใหม่ในรูปแบบของ Patchwork (หรือการตัดต่อเศษผ้าให้เป็นลวดลายต่างๆ) ภายใต้แนวคิด Zero Waste Project หรือลดขยะจากอุตสาหกรรมผ้าให้เป็นศูนย์
ใครที่ชอบความลิมิเต็ด เอดิชั่น น่าจะถูกใจคอลเลคชั่นนี้ เพราะแต่ละชุดมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร และมีเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น แถมด้วยดีไซน์ทรงหลวมๆ ที่สวมใส่สบายตามเทรนด์
4. Stranger&co by yanim’s studio ปั้นไอเดียด้วยเซรามิกมีหน้า
‘Strange in the vase’ แจกันดอกไม้ใบหน้ามนุษย์ เป็นคอลเลคชั่นใหม่ที่เพิ่งทำเสร็จหมาดๆ ของ Stranger&co by yanim’s studio แบรนด์เซรามิกของ คุณหนอยแน่-ญาณิศา ลิมปนวัสส์ ดีไซเนอร์สาวชาวเชียงใหม่ ที่รู้สึกเบื่อกับฟอร์มหนาทึบแบบเดิมๆ ของแจกัน จึงทดลองวาดลายเส้น แล้วปั้นดินให้เป็นแจกันทรงโปร่งโล่ง ที่ยังคงเป็นรูปหน้ามนุษย์ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์เอาไว้
สำหรับผลงานเซ็ตนี้ เป็นการใช้ดินสีธรรมชาติล้วนๆ ในการปั้น แตกต่างจากงานชิ้นอื่นของแบรนด์ที่แต่งแต้มด้วยสีสันสดใส ประกอบด้วย แจกันดอกไม้แห้ง (จมูกโปร่ง) และแจกันดอกไม้สด (จมูกทึบ) เมื่อเเจกันตกกระทบกับเเสง จะเกิดเป็นลายเส้นที่สวยงามตามคาเเร็กเตอร์ของแบรนด์ขึ้นมา ปัจจุบัน ผลงานชุดนี้ จัดแสดงไว้ที่งาน Bangkok Design Week 2021 ณ O.P.PLACE
5. BaanBaan.Store ไอเดียจากใบไม้สู่ลายอาร์ตบนผ้า
BaanBaan.Store เป็นแบรนด์ ที่ชวนให้เรานึกถึงวัยเด็ก ที่ชอบเด็ดดอกไม้ใบไม้ นำไปทับไว้ในหนังสือเรียน และแอบพลิกดูความแห้งของมันทุกๆ วัน ความสนุกแบบเด็กๆ คงไม่ต่างกับความลุ้นของลวดลายที่เกิดการใช้วัสดุธรรมชาติรอบๆ ตัว มาสร้างสรรค์ผ่านเทคนิคที่เรียกว่า ‘Eco Print’ หรือการนำใบไม้ ดอกไม้ เมล็ดพืช ผงขมิ้น กากกาแฟ มาผ่านกระบวนการนึ่ง เพื่อให้ได้ลวดลาย texture และสีสันต่างๆ ที่ไม่ซ้ำแบบ
การสร้างสรรค์ลวดลายในแต่ละครั้ง อาจผสมผสานเทคนิคมากกว่าหนึ่งวิธี ทั้งการย้อม การนึ่ง การทุบ หรือเพิ่มเทคนิคพิเศษบางอย่าง เช่น การนำวัสดุที่ทำให้เกิดสนิม มาสร้างแพทเทิร์นแปลกใหม่ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ปัจจุบันสินค้าของ BaanBaan. Store มีทั้งเสื้อผ้า ชุดเซ็ต กระเป๋า ผ้าคลุมผม สวมใส่สบายไม่ระคายผิวโดยเฉพาะหน้าร้อน ใครที่ชอบงานเท่ๆ ดิบๆ และออกแนว Eco รักษ์โลก ต้องมีโดนบ้างล่ะ !
6. Coco Sui ไอเดียรักแมวและรักษ์โลก
ทาสแมวต้องมาแล้ว ! เมื่อคอลเลคชั่นนี้ของ Coco Sui สานนท์ เต็มเปี่ยม ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ วาดภาพแมวในอิริยาบถต่างๆ แล้วนำมาพิมพ์เป็นลวดลายบนผืนผ้า โดยเฉพาะสินค้าใหม่ที่เป็น กระโปรงพลีท ซึ่งเขาทดลองทำเกือบ 5 ปีเต็ม สานนท์เล่าว่า ผ้าพลีททำยากกว่าผ้าธรรมดาทั่วไป เนื่องจากมีกระบวนการที่ยุ่งยากซับซ้อน และใช้ต้นทุนที่สูงกว่า กระโปรงพลีทในคอลเลคชั่นนี้ จึงเป็นผลงานที่ท้าทายสำหรับเขาอย่างมาก ทำทั้งทีเลยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีเขียว สีเหลือง สีส้ม และสีดำ พร้อมเสื้อลายแมวที่จับคู่เข้าเซตกันอีกด้วย
นอกจากกระโปรงพลีทลายแมว ที่ทำเอาใจเหล่าทาสแล้ว Coco Sui ยังใส่ใจเรื่องรักษ์โลก โดยนำกระสอบข้าวที่ใช้แล้ว มารียูสใหม่ เพื่อออกแป็นกระเป๋าใส่ของ มีภาพวาดประกอบและตัวอักษร ที่สื่อถึงความเป็น Thai Style ซึ่งส่วนใหญ่ดีไซเนอร์ผู้จบด้านภาพพิมพ์และวาดภาพประกอบ ได้ไอเดียมาจากสิ่งรอบๆ ตัวที่เขาพบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น รูปเสือเล่นเซิร์ฟ, รูปดอกไม้ ผลไม้ ที่ได้มาจากรถเข็นขายผลไม้หน้าบ้าน เป็นต้น
7. Pim Collection ร่วมสมัยด้วยไอเดียชนเผ่า
เอ่ยถึงผ้าม้งบาติกหรือผ้าเขียนเทียนของชนเผ่า เรามักจะนึกถึงชุดแต่งกายและลายผ้าที่ชนเผ่านิยมสวมใส่ แม้จะรู้ว่าเป็นงานล้ำค่าแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่ก็รู้สึกว่าไกลตัวเกินกว่าที่หยิบมาใช้ในชีวิตประจำวัน หากแต่วันนี้ ภิม คอลเลคชั่น ได้ปฏิวัติแนวคิดใหม่ โดยหยิบเอาผ้าม้งบาติก มาออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ดีไซน์ร่วมสมัย ที่คนรุ่นใหม่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
คอลเลคชั่นผ้าม้งบาติก เป็นการประยุกต์โดยการใช้ฮ่อมหรือครามในการย้อมสี ก่อนนำไปย้อมจะใช้ขี้ผึ้งวาดลวดลายบนผืนผ้าตามเอกลักษณ์ของผ้าเขียนเทียนชนเผ่า ขี้ผึ้งเหล่านี้เมื่อผ่านกระบวนการสกัดออกในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว จะถูกนำกลับมาหลอมแล้วใช้วาดลวดลายใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ผ้าเขียนเทียนที่วาดเสร็จ ดีไซเนอร์จะนำมาออกแบบผสมผสานเข้ากับหนังแท้และวัสดุอื่นๆ เพื่อให้เกิดสินค้าที่มีความแปลกใหม่ในรูปแบบต่างๆ สะท้อนถึงปณิธานของแบรนด์ ที่ต้องการสนับสนุน ช่วยเหลือ และสร้างงานให้แก่ชาวเขา รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาการเขียนเทียนแบบดั้งเดิมไม่ให้สูญหายตามกาลเวลา
8. Angsa Jewelry หัตถศิลป์โบราณสานไอเดียคนรุ่นใหม่
นอกจากความหรูหราของแบรนด์ที่ผลิตจากโลหะเงินแท้ 99.9% หรือทองคำ 96.5% – 99.5% Angsa (อังซา) ยังเป็นแบรนด์เดียวในประเทศไทย ที่สร้างสรรค์เครื่องประดับจากศิลปะ “ยัดลาย” (Filigree) ซึ่งเป็นเทคนิคโบราณของสกุลช่างเก่าแห่งบ้านกาด อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
อังคาร อุปนันท์ ทายาทรุ่นที่ 2 ของแบรนด์ เล่าให้ฟังว่า ศิลปะ “ยัดลาย” ถูกส่งต่อมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และอาจค่อยๆ เลือนหายไปในที่สุด หากผู้เป็นพ่อของเขาไม่สืบสานต่อจากบรรพบุรุษ
ความพิเศษของเครื่องประดับ “ยัดลาย” อยู่ตรงการสร้างสรรค์ด้วยมือล้วนๆ ผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนทั้งหมด 36 ขั้นตอน ซึ่งต้องอาศัยความพยายาม และความรักเป็นพื้นฐาน
เพื่อให้ได้เส้นเงินหรือเส้นทองที่มีขนาดเล็กเท่าเส้นผมสองเส้น นำมาพันเกลียว แล้วขดในรูปทรงที่ดัดไว้โดยใช้วิธีกดลงให้แน่น เพื่อไม่ให้เส้นเงินหรือเส้นทองเด้งออกมา
การออกแบบงานยัดลาย ยังสามารถสร้างชั้น ซ้อนทับขึ้นมาหลายชั้นเพื่อให้ได้รูปทรงของดอกไม้ แมลง หรืองานโครงสร้างต่างๆ ได้อย่างวิจิตรงดงามและมีเอกลักษณ์ตรงความโปร่งบางทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้มองเห็นความงามได้ถึง 3 มิติ สำหรับลวดลายที่โดดเด่น เช่น ลายนกยูง ลายแมลงปอ ลายดอกกุหลาบหิน ลายดอกโบตั๋น ลายดอกชบา และลายดอกทานตะวัน
9. Ttq. thontonq ไอเดียนี้มีแต่ลายดอก
น่าจะเป็นแบรนด์ที่ถูกใจสาวหวานและคนชอบดอกไม้แน่ๆ เพราะโปรดักส์ของ Ttq. thontonq มีลวดลายของดอกไม้นานาชนิด ซึ่งเป็นคาแรคเตอร์เฉพาะของแบรนด์ ด้วยความหลงใหลและชื่นชอบดอกไม้ของคุณ ฤาชุตา รัชชนันท์ นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจที่อยากจะถ่ายทอดความงดงามที่พบเจอ ลงบนผืนกระดาษ โดยเริ่มจากกการวาดสีน้ำ แล้วนำไปจัดเรียงใหม่กลายเป็นช่อดอกไม้บนผืนผ้าที่ดูสดใสสวยงาม
โปรดักส์หลักๆ ของแบรนด์ มีตั้งแต่ผ้าคลุมไหล่ กระเป๋าช็อปปิ้งใส่ของ หน้ากากผ้า กระเป๋าใส่ของใบเล็ก ยางรัดผม เทปกระดาษ และสติ๊กเกอร์ ใครที่ชอบลายดอกไม้ จัดเลย! เพราะลายดอกบางลาย หมดแล้วหมดเลย ไม่มีการผลิตซ้ำนะจ้ะ
10. This is a Chair ไอเดียเพื่อคนนั่ง
คงจะไม่เกินจริงไปนัก ถ้าเราจะบอกว่าเก้าอี้ของ This is a chair เป็นเก้าอี้ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ด้านฟังก์ชั่นใช้งานสำหรับลูกค้ารายบุคคลหรือพื้นที่นั้นๆ อย่างแท้จริง คุณรุ่งโรจน์ วิริยะชน ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ ผู้ไม่ได้ร่ำเรียนมาทางดีไซน์ แต่หลงใหลในงานออกแบบ จึงไปอบรมกับทาง TCDC และทดลองทำเก้าอี้ในแบบที่ชอบ โดยใช้วัสดุหลักๆ เพียง 3 ชนิด ได้แก่ ไม้สัก เหล็ก และหนังแท้
เก้าอี้ของ This is a chair เป็นการนำเสนอในรูปแบบใหม่ ดีไซน์เรียบง่าย ทันสมัย และมีกลิ่นอาย Industrial สินค้าหลายชิ้นของแบรนด์ ไม่ได้จำกัดแต่เพียงเก้าอี้เท่านั้น คุณรุ่งโรจน์ ยังสนุกกับการออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ในคอนเซ็ปต์เดียวกัน อาทิ Side Table และ Coffee Table ซึ่งบางผลงาน ได้รับเลือกให้ไปจัดแสดงในงานดีไซน์ระดับประเทศและนานาชาติ อาทิ โต๊ะ Side Table รุ่น ‘FADA’ (รูปล่าง) ถูกนำไปจัดแสดงในงาน Bankok Design Week 2020
ส่วน ‘Alex’ (รูปล่าง) เป็น Multifunction Furniture ที่มีฟังก์ชั่นหลากหลาย เป็นได้ทั้ง Side Table และ Self Stool ผลงานชิ้นนี้ได้รับรางวัล CDA Design Awards 2020 และได้รับคัดเลือกจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ประจำกรุงโซล ให้นำไปจัดแสดงในงานแฟร์ Kofurn 2019 อีกด้วย
ใครที่สนใจงานดีไซน์เรียบเท่ ฝีมือของนักออกแบบอารมณ์ดี ลองเข้าไปชมผลงานของคุณรุ่งโรจน์ได้จาก 3 ช่องทางด้านล่างนี้เลยนะ
www.thisisachair.com
www.facebook.com/thisisachaircnx/
IG : thisisachaircnx
11. Note a Book สมุดทำมือและไอเดียเดียวในโลก
ใครชอบขีดๆ เขียนๆ และอยากได้สมุดทำมือแบบเท่ๆ ที่เป็นงาน Custom Made ที่ไม่เหมือนใครในโลก note a book ยินดีออกแบบให้ตามความต้องการของลูกค้า โดยทางร้านมีสมุดให้เลือกกว่า 30 แบบ ใช้เทคนิคการขึ้นลายเย็บหลากหลายสไตล์ เช่น ลาย Cross Stitch ซึ่งเป็นการไขว้เชือกไปมาบนสันอย่างเป็นระเบียบ หรือ Coptic Stitch ที่ใช้วิธีถักเป็นเกลียวโซ่บนสันสมุด ดูคลาสสิกและแข็งแรง แถมเปิดได้กว้างมากกว่า 180 องศา
นอกจากนี้ ยังมีลายเย็บอื่นๆ อีกมากกว่า 10 แบบ รวมถึงการคิดค้นลายใหม่ๆ อย่าง Ta-Laew Stitch ซึ่งถอดลายเย็บมาจากลายจักสานต๋าแหลว ซึ่งเป็นของใช้ในท้องถิ่นด้านพิธีกรรมต่างๆ ส่วนวัสดุที่นำมาใช้ทำสมุด ทางแบรนด์เลือกใช้กระดาษถนอมสายตาหรือกระดาษเก่าที่ดูวินเทจ และแนวอาร์ต เช่น เป็นกระดาษที่ค้างสต็อกอยู่ในร้านเครื่องเขียน
ส่วนปกสมุด มีทั้งงานรีไซเคิล หนังสือเก่า นิตยสารเก่า ภาพเก่าๆ ที่เจ้าของร้านเก็บรวบรวมไว้เป็นคอลเล็กชั่น บางครั้งมีการ Collage ร่วมด้วย เพื่อให้งานดูสวยงามน่าดึงดูด มีการใช้กระดาษสีพื้นทำปกสำหรับคนชอบงานเรียบๆ รวมถึงใช้วัสดุที่งดงามตามธรรมชาติอย่างหนังแท้ หรือวัสดุในท้องถิ่นอย่างกระดาษสา ปอกระเจา กก เป็นต้น
https://noteabook.com/
https://facebook.com/noteabookshop
IG : note a book
