About
Leisure X Chiang Mai

Ratchamankha

ราชมรรคา…บูทีค โฮเทล เชียงใหม่ งดงามและสมมาตรในสัดส่วน

เรื่อง วีณา บารมี ภาพ กรินทร์ มงคลพันธ์ Date 18-11-2021 | View 6141
Beingthere Detour Be myguest FLAVOR Resound art+culture Insights Trends Business Insiders Balance Craftyard News
Read At ONCE
  • โรงแรมราชมรรคา บูทีคโฮเทลระดับลักชัวรี ที่ถ่ายทอดถึงสถาปัตยกรรมจีนผสานล้านนาได้อย่างงามสง่าและมีเอกลักษณ์ จนได้รับรางวัล Thailand Boutique Hotels 2009
  • ผลงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมของอาจารย์ องอาจ สาตรพันธุ์ สถาปนิกและศิลปินแห่งชาติปี 2552 ที่สะท้อนถึงการนำเอาความเป็นท้องถิ่นไทยมาใช้กับงานออกแบบ ซึ่ง คุณรุจ จ่างตระกูล ร่วมออกแบบตกแต่งภายในโดยอิงกับความชอบส่วนตัว ทั้งด้านศิลปะ ของเก่า และแรงบันดาลใจที่ได้จากการเดินทาง

หากไม่นับความเป็นบูทีคโฮเทลรุ่นบุกเบิกของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว “ราชมรรคา” เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่จะพาเราเข้าไปสัมผัสถึง “ความเป็นเชียงใหม่” อย่างแท้จริง ด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมจีนผสมสไตล์ล้านนา ประดับประดาไปด้วยของเก่าสะสม และงานศิลปะที่เจ้าของชื่นชอบเป็นส่วนตัว

R 11

สถาปัตยกรรมจีนผสมล้านนา

“ราชมรรคา” เป็นชื่อที่ตั้งตามถนนราชมรรคา อันเป็นทำเลที่ตั้งของโรงแรมแนวบูทีค ที่อยู่คู่เมืองเชียงใหม่มาเกือบ 20 ปี คุณรุจ จ่างตระกูล ผู้ก่อตั้ง เล่าให้ฟังว่า เดิมทีพื้นที่แห่งนี้ เคยเป็นป่าหญ้ารกร้าง ชาวบ้านที่อาศัยในชุมชน ต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา และไม่กล้าออกนอกบ้านตอนกลางคืน เพราะโจรชุกชุมและมักแอบซุ่มในพงหญ้า ภายหลังเมื่อที่ดินผืนนี้ ถูกสร้างให้เป็นโรงแรมแนวบูทีคในปี 2004 จึงเปลี่ยนบรรยากาศจากความวังเวง กลายเป็นชุมชนที่น่าอยู่ และคึกคักยิ่งขึ้น

R 9

ใครมาเยือนโรงแรมราชมรรคาเป็นครั้งแรก อาจรู้สึกทึ่งกับโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่ดูขลัง น่าเกรงขาม และร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ในสวน ให้อารมณ์คล้ายๆ กับกำลังเดินเล่นในรีสอร์ทนอกเมือง โดย อาจารย์องอาจ สาตรพันธุ์ สถาปนิกและศิลปินแห่งชาติปี 2552 เป็นผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมหลักของโรงแรม เน้นกลิ่นอายความเป็นล้านนาเข้ามาใช้ในการออกแบบอย่างงดงามลงตัว สมกับการได้รับรางวัล Thailand Boutique Hotels 2009

R 12

“เดิมทีอยากทำเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาทั้งหมด เพราะเราสร้างโรงแรมบนดินแดนล้านนา แต่อาจารย์องอาจแนะว่าสถาปัตยกรรมไทยเป็นแบบลอยตัว ซึ่งตัวตึกไม่เชื่อมกัน เลยนำเอาสถาปัตยกรรมแบบจีนมาใช้วางเลย์เอาท์ ให้ตัวอาคารห้องพักล้อมอยู่ด้านนอก สเปซตรงกลางเป็นคอร์ทยาร์ด เพื่อดึงความสนใจให้ทุกคนโฟกัสกับคอร์ทยาร์ดมากกว่าสิ่งแวดล้อมรอบนอกที่เป็นเขตชุมชน ส่วนหลังคาเป็นกระเบื้องดินขอสไตล์ล้านนาดั้งเดิม” คุณรุจเล่าให้ฟังถึงที่มา

R 6

ด้านการตกแต่งภายในเป็นฝีมือของคุณรุจ ผู้ที่ออกตัวว่าไม่เคยเรียนด้านออกแบบ แต่อาศัยประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับ อ.องอาจ มานาน กอปรกับความหลงใหลด้านศิลปะ รักการอ่านหนังสือ และชอบการเดินทาง จึงตกแต่งโรงแรมแห่งนี้ให้เป็นผลงาน ที่สามารถถ่ายทอดถึงตัวตนและอิทธิพลความชอบส่วนตัว อาทิ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งส่วนใหญ่เป็นของเก่าที่ได้มาจากการเดินทาง สมุดข่อยโบราณ ภาพวาดศิลปะสมัยใหม่ เป็นต้น

R 2

R 8

สมมาตรในสัดส่วน Golden Ratio

ความกว้างขวางของอาณาบริเวณ 4 ไร่เศษ ได้รับการจัดสรรอย่างเป็นสัดส่วน มุ่งเน้นความเงียบสงบ ผ่อนคลาย และเป็นส่วนตัว เมื่อทำการเช็คอินจากโซนล็อบบี้ของโรงแรมแล้ว ถัดเข้าไปด้านในของพื้นที่คือส่วนของอาคารห้องพัก ทางเดินคอร์ทยาร์ดตรงกลาง ช่วยนำทางให้เราเดินเข้าไปสู่พื้นที่ชั้นในได้ง่ายขึ้น ท่ามกลางความร่มรื่นและเย็นสบายของต้นไม้ในสวน

R 14

เมื่อเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ จะผ่านบริเวณห้องโถงกลางของโรงแรม ที่ออกแบบให้โปร่งโล่งเพื่อเปิดรับลมทุกด้าน นิยมใช้เป็นมุมนั่งอ่านหนังสือ นั่งทำงานหรือนั่งชิลล์ชมวิวสวนก็แสนร่มรื่นสบายตา สำหรับสระว่ายน้ำ และสปา ถูกออกแบบให้อยู่โซนด้านในสุดเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และไม่ต้องกังวลว่ากำลังถูกจ้องมองอยู่

R 4

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอาคารตรงกลางส่วนของที่พักที่ใช้เป็นล็อบบี้นั้น คุณรุจได้แรงบันดาลใจและสัดส่วนมาจาก “วิหารน้ำแต้ม” วัดพระธาตุลำปางหลวง สะท้อนถึงการออกแบบที่เป็นสมมาตร และได้สัดส่วนสมบูรณ์แบบหรือที่เรียกกันว่า “Golden Ratio”

“เราพยายามหาสัดส่วนของตัวตึกที่มีอายุเก่าแก่และสวยงาม ซึ่งก็มีเพียงแห่งเดียวคือ วัดพระธาตุลำปางหลวง เราจึงนำสัดส่วนของวิหารน้ำแต้ม ซึ่งเป็นโครงสร้างไม้เก่าประมาณช่วงศตวรรษที่ 17-18 และเป็นของภาคเหนือมาใช้กับที่นี่ด้วย”

 

R 1

สเปซที่ทำให้เราหายใจได้

อาคารห้องพักที่เรียงยาวเป็นระนาบไปกับผนังกำแพง ประกอบด้วยห้องพักเพียง 25 ห้องเท่านั้น แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ Superior Room จำนวน 18 ห้อง Deluxe Room 4 ห้อง และห้อง Two-Bedroom Suite 3 ห้อง แต่ละห้องพักตกแต่งภายใต้บรรยากาศที่แตกต่างกัน ทั้งสไตล์โคโลเนียล และล้านนาผสมโคโลเนียล ฯลฯ

R 16

R 15

“ห้องพักไม่ได้มีเยอะ เพราะเราอยากทำโรงแรมเล็กๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านและมีสวนมากกว่า ซึ่งจริงๆ แล้วในเมืองเชียงใหม่ ไม่ค่อยมีสเปซสวนที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ มันเป็นสเปซที่ทำให้หายใจได้ และทำให้รู้สึกว่าเป็นบ้านจริงๆ”

คุณรุจบอกกับเราถึงความตั้งใจของเขา ดังนั้น สิ่งที่ผู้เข้าพักจะได้รับจากที่นี่ อาจไม่ใช่ความหรูหราอลังการ แต่เป็นบรรยากาศที่ให้ความเป็นส่วนตัวสไตล์บูทีคโฮเทลมากกว่า และไม่ว่าจะมองไปมุมไหน ก็ดูเนี้ยบและพิถีพิถันในทุกๆ รายละเอียดอย่างแท้จริง

R 13

R 10

อย่างไรก็ตาม ทางโรงแรมปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในเชียงใหม่ และล่าสุดเพิ่งกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้เริ่มมีนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเช็คอินเข้าพักกันบ้างแล้ว

R 5

“ปกติแล้วช่วงไฮซีซันของเชียงใหม่ จะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม-มีนาคม ก่อนโควิดระบาด ลูกค้าที่เข้าพักมักเป็นชาวต่างชาติ อันดับหนึ่งเลยคือชาวอเมริกัน อังกฤษ ยูโรเปียน เช่น ฝรั่งเศส อิตาเลียน ส่วนเอเชียส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และญี่ปุ่น ถ้าเป็นคนไทยจะเป็นสถาปนิกและดีไซเนอร์ หรือผู้ที่ชื่นชอบงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์”

R 3

แม้ว่าทุกวันนี้เชียงใหม่จะมีที่พักมากมายหลากหลายสไตล์ให้เลือกสรร แต่สำหรับโรงแรมราชมรรคานั้น ถือเป็นโรงแรมที่แตกต่างจากที่อื่นๆ อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่สะท้อนถึงความเป็นล้านนาสไตล์มาตั้งแต่แรกสร้างจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงการเป็นบูทีคโฮเทลที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และรายล้อมไปด้วยพื้นที่โอโซนขนาดใหญ่ ซึ่งน้อยนักที่จะพบเจอได้ในโรงแรมใจกลางเมือง

บางทีการเข้าพักที่นี่ อาจทำให้คุณรู้จักกับเชียงใหม่ในอีกแง่มุมหนึ่งก็เป็นได้

โปรโมชั่นราคาพิเศษ “Re-opening” สำหรับการเข้าพักที่โรงแรมราชมรรคา ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2565 ประกอบด้วย

• ห้อง Two-Bed room Suite ขนาด 100 ตารางเมตร พักได้สูงสุด 4 ท่าน ราคา 9,500 บาท ต่อห้อง/คืน สามารถเสริมเตียงได้
• Deluxe room ขนาด 40 ตารางเมตร พักได้สูงสุด 2 ท่าน ราคา 4,400 บาท ต่อห้อง/คืน สามารถเสริมเตียงได้
• Superior room ขนาด 32 ตารางเมตร พักได้สูงสุด 2 ท่าน ราคา 3,900บาท ต่อห้อง/คืน

*ราคาทั้งหมด รวมอาหารเช้า ภาษี และค่าบริการแล้ว
**เฉพาะห้อง Two-Bed room Suite และ Deluxe room สามารถเพิ่มผู้เข้าพักได้ห้องละ 1 ท่าน คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 1,500บาทต่อคืน

โรงแรม ราชมรรคา เชียงใหม่
ที่อยู่ เลขที่ 6 ซอยราชมรรคา 9 ต.พระสิงห์ อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โทร. 053-904-111, 053-904-119
เว็บไซต์ www.rachamankha.com
เฟซบุ๊ค www.facebook.com/RachamankhaHotel

Tags: