

Art Book Trail
โปรดอ่านหนังสืออาร์ต ที่ร้านของฉัน ลายแทง 11 ร้านหนังสือ เพื่อคนรักศิลปะ
- เคาะประตูทักทาย 11 ร้านหนังสือแห่งแรงบันดาลใจที่เราคัดมาเอาใจคนรักหนังสือและงานอาร์ตโดยเฉพาะ
เคยไหม? ในวันที่โลกหมุนเร็วจนเกินไป ในวันที่ข้อมูลข่าวสารที่พุ่งเข้ามาจนแทบไม่ได้หายใจ จากหน้าจอที่กระพริบไม่หยุด บางทีเราก็แค่อยากเปลี่ยนโหมดกดปุ่มหยุดโลกที่หมุนเร็วจี๋นี่สักพัก เพื่อมองหาพื้นที่ที่มีเสียงเพลงคลอเบาๆ เคล้ากลิ่นกาแฟหอมๆ ชาอุ่นๆ ไว้พักหายใจ แล้วใช้เวลาช้าๆ พลิกอ่านหนังสือภาพดีๆ เลย์เอาท์สวยๆ จนต้องหยิบลงมาจากเชลฟ์
นี่คือพื้นที่และ 11 เชลฟ์แห่งแรงบันดาลใจ ที่เราคัดมาเอาใจคนรักหนังสือและงานอาร์ตโดยเฉพาะ ลองผลักประตูเข้าไปสิ…
1.World at the Corner
ตรงหัวมุมตรอกเก่าแก่ย่านเสาชิงช้า เชื่อว่าคอหนังสือหลายคนคงใจสั่นเต้นระรัวอยู่ไม่เป็นสุขแน่ๆ เพราะถึงจะเป็นบ้านไม้หลังเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 แต่เสน่ห์ของตัวบ้านนั้นล้นปรี่ออกมาจากบ้านไม้ทรงขนมปังขิงที่คงเอกลักษณ์เดิมไว้ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจบวกกับของที่ระลึกที่เจ้าของหิ้วกลับมาจากทริปเดินทางทั่วโลก ทำให้รู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในโลกอีกใบ
ใช่แล้ว! บ้านหลังนี้ คือ ร้านหนังสืออิสระในรั้วบ้านไม้โบราณสุดคลาสสิกอายุกว่าร้อยปี ของสองพี่น้อง‘ก้อย-สิวิกา และ ณัฐ ประกอบสันติสุข’ นักเขียนและช่างภาพแฟชั่นชั้นนำของเมืองไทย ที่ตั้งใจเปิดประตูบ้านพร้อมพาผู้อ่านไปรู้จักกับโลกกว้างกับเรื่องราวต่างๆ มากมายผ่านหนังสือและภาพเดินทาง ทั้งยังทำหน้าที่เสมือนได้ย่อโลกทั้งใบเอาไว้ด้วย
บนผนังและชั้นวางหนังสือบรรจุเรื่องเล่าจากทั่วทุกมุมโลก คอลเลกชั่นหนังสือที่นี่ถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ทุกเล่มถูกเลือกด้วยรสนิยมและความรักในการเดินทางของเจ้าของร้าน ไม่ได้มีแค่ไกด์บุ๊กทั่วไป แต่ลงลึกไปถึงวรรณกรรมคลาสสิก หนังสือที่เล่าถึงวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ ศิลปะและชีวิตของผู้คนท้องถิ่นหลายประเทศ ไม่ได้เน้นว่าเป็นหนังสือเก่าหรือใหม่ จะเลือกตรงเนื้อหาที่เข้ากับกลิ่นอายของร้าน หลายเล่มแปลกตาทั้งหนังสือภาพถ่าย หนังสือศิลปะ ภาพประกอบสวยๆ หนังสือทำมือ หนังสือที่มีการจัดวางเลย์เอาท์สุดเท่ ฯลฯ
เรื่องน่าอมยิ้มที่หลายคนประทับใจ คือวิธีจัดวางแบ่งหนังสือออกตามทวีปและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก อีกมุมชวนอมยิ้ม นอกจากหนังสือยังมีโซนวางจำหน่ายสินค้างานคราฟท์ของกระจุกกระจิกจากหลายประเทศที่เจ้าของร้านได้ไปเยือน รวมถึงโปสการ์ดฝีมือถ่ายภาพของสองพี่น้องทั้งคู่ด้วย
ที่ตั้ง : บ้านเลขที่ 1 ซอยมหรรณพ 1, ถนนมหรรณพ, ย่านเสาชิงช้า, กรุงเทพฯ
เวลาทำการ : เปิดเฉพาะวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 19.00 น.
โทร : 089 699 7074
FB : worldatthecorner
2.Vacilando Bookshop
ถ้ามีโรคอุบัติใหม่ว่าเป็นโรงภูมิแพ้ร้านหนังสือสวย เราคงเป็นคนหนึ่งแหละที่ยอมใจพร้อมป่วยเป็นโรคนี้ชนิดเรื้อรัง
บรรยากาศร้านน่าตื่นเต้นตั้งแต่ประตูทางเข้าคุมโทนทั้งหมดด้วยสีน้ำตาลไม้ แสงสีเหลืองจากโคมไฟทรงกลม ใช่แล้วที่นี่คือ ‘Vacilando’ คำในภาษาสเปนที่แปลได้หลายอย่าง ลังเล แกว่งไกว หรือหยอกเล่น แล้วแต่ว่าใครพูด แต่สำหรับ ‘ปิ่น วิทิต จันทามฤต’ เจ้าของร้านหนังสือแห่งนี้ เขาเลือกความหมายที่แตกต่างไปจากพจนานุกรม โดยเลือกความหมายจากบันทึกการเดินทางของจอห์น สไตน์เบค นักเขียนเจ้าของรางวัลโนเบล ที่เขียนไว้ว่า
“ถ้าใครสักคนกำลัง vacilando อยู่ มันหมายความว่าเขากำลังเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง ก็รู้ทางอยู่นะ แต่ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ว่าจะถึงปลายทางหรือไม่”
และนั่นคือสิ่งที่ร้านหนังสือแห่งนี้ทำมาตลอดกว่า 8 ปี แม้จะย้ายไปตรงนั้นตรงนี้ตามจังหวะและโชคชะตา ส่วนใหญ่หนังสือคัดมามาจากความชอบส่วนตัว โดยเฉพาะหมวดโฟโต้บุ๊ก ศิลปะ รวมถึง Selected Independent Bookshop และหมวด Sporre Books สิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวกับพืชพรรณธรรมชาติเข้ามา โดย ‘เอิง’ หุ้นส่วนร้านอีกคนสนใจเรื่องนี้ ให้หลังมาก็มีหนังสือที่มี Text หลากหลายมุมมองเพิ่มขึ้นจากสหายคนในวงการหนังสือด้วยกัน อีกทั้งที่นี่ยังเป็น ‘บุ๊คคลับ’ มีจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องต่างๆ ในสังคมด้วย
หลายคนชมว่า ‘ปิ่น’ เป็นคนขายหนังสือที่มีจุดเด่น คือ ถ่ายภาพสวยมาก (ก็เขาเป็นช่างภาพนี่เนาะ) บวกกับสกิลการเล่าหนังสืออย่างละเอียด ตั้งใจแนะนำหนังสือแต่ละเล่มอย่างใส่ใจ ด้วยคาแรคเตอร์และความสนใจส่วนตัวที่เขามีจากการโลดแล่นอยู่ในแวดวงงานศิลปะงานสร้างสรรค์ หล่อหลอมให้ร้านหนังสือแห่งนี้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน จึงไม่แปลกที่ลูกค้าประจำหลายคนบอกว่า ตอนเลือกหนังสืออาร์ตสักเล่ม บางทีก็ไม่ต่างกับ Art Piece ดีๆ สักชิ้น แถมยังได้แพชชั่นดีๆ พกกลับบ้านด้วยทุกครั้ง
ที่ตั้ง : 96/2 ถ.จักรพรรดิพงษ์ (ย่านนางเลิ้ง)
เวลาทำการ : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 13.00 – 18.30 น.
FB : Vacilando Bookshop
IG : Vacilando Booksh
Website https://www.vacilandobookshop.com/
3.Weird book
ไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมใครไปใครมาที่นี่ถึงมีแต่รอยยิ้มกลับไป นี่โลกอีกใบที่ซ่อนอยู่ในกองหนังสือและกลิ่นกาแฟ ถ้ากำลังมองหา “ความเวียร์ด” ที่แสนอบอุ่นในวันหยุดพักผ่อน ที่ Weird.weir.d ย่านวงศ์สว่าง คือ จุดหมายปลายทางที่แสนน่ารักมากก ก. ไก่ล้านตัว
ร้านนี้ไม่ได้ตั้งอยู่โดดเดี่ยวแต่เป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้เล็ก ๆ ที่ชื่อว่า ‘Home Coffee and More’ ซึ่งเชื้อเชิญให้เราเริ่มต้นวันด้วยการจิบกาแฟหอมกรุ่นที่ชั้นล่างแล้วค่อยส่งต่อขึ้นบันไดไปยังชั้น 2
(ซึ่งก่อนหน้าทีม Reel ของ ONCE มีโอกาสได้แวะมาก่อนแล้ว ป้ายยากันแบบว่าทำเอาคนรักหนังสือใจละลายไปเลยหละ)
ทันทีที่ก้าวขึ้นสู่ชั้น 2 ความรู้สึกจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ที่นี่ให้มู้ดแอนด์โทนเหมือนเป็นห้องสมุดส่วนตัวเต็มไปด้วยของสะสมที่เจ้าของรักและทะนุถนอม จะเรียกว่ามันคือความวินเทจที่เงียบสงบก็คงไม่ผิด เหมือนจะดูเขินอายแต่ก็บอกรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของได้ดีทีเดียว มีทั้งชั้นวางแบบ D.I.Y ของตกแต่งวินเทจแบบปีลึกๆ เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นให้ความรู้สึกโฮมมี่และสบายตา มีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าทุกองค์ประกอบในร้านนั้น ‘มีเรื่องเล่า’ บรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติที่นุ่มนวล ช่างเหมาะกับการทิ้งตัวลงกับเก้าอี้และปล่อยให้เวลาไหลไปอย่างช้าๆ เหลือเกิน
ย้อนกลับไปคือจุดเริ่มต้นของ ‘ออม – ออมฤทัย แซ่อึ้ง’ และ ‘ป่าน – ศรัทธา พลเสน’ เจ้าของร้านหนังสือ ‘weird book’ หรือ weird.weir.d เริ่มต้นจากการขายทางออนไลน์หนังสือผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จนค่อยๆ มีหน้าร้านเป็นของตัวเองในวันนี้ จากหนังสือแนวคุกบุ๊กก็ค่อยๆ ขยับขยายมาถึงหนังสือที่มีเนื้อหาลึกซึ้งขึ้นอย่างหมวดประวัติศาสตร์และงานศิลปะ ซึ่งว่ากันว่าอยู่ในหมวดที่มีราคาสูงปรี๊ดในตลาดหนังสือเก่า ตามมาด้วยคอลเล็กชันหนังสือภาษาอังกฤษมือสองที่คัดมาอย่างดีและมีความหลากหลายอย่างน่าสนใจ ตั้งแต่แนววรรณกรรมคลาสสิกไปจนถึงหนังสือศิลปะหายาก และวัฒนธรรมที่ลุ่มลึกรวมถึงหนังสือในหมวด Spiritual
นอกจากหนังสือแล้ว ที่นี่ยังมีของตกแต่งบ้านเล็กๆ น้อย ๆ อย่างเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์และแผ่นเสียงไวนีลราวกับเป็นการนำเอาทุกองค์ประกอบของ ไลฟ์สไตล์และซับคัลเจอร์’ มารวมไว้ในพื้นที่เดียวกันและเร็วๆ นี้ก็เริ่มมีจัดเวิร์กช็อปน่ารักๆ เกี่ยวกับกระดาษด้วย ถ้าจะนิยามว่า Weird.weir.d คือพื้นที่ที่เชื้อเชิญให้เรามา “ลงทุน” ในความสุขง่ายๆ จากการสัมผัสกระดาษเก่าๆ การดมกลิ่นกาแฟและการเพลิดเพลินไปกับความงามรอบตัวประมาณนั้นก็คงไม่ผิด
ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของร้าน Home Coffee and More ซอยกรุงเทพฯ-นนท์ 54
(MRT วงศ์สว่าง ทางออก 3)
เปิดทุกวัน 11.00 – 17.00 น.
IG : weird.weir.d
4.Rock Paper Scissors
ท้าทายเอาเรื่องนะในยุคที่ทุกอย่างอยู่บนหน้าจอ แต่ Rock Paper Scissors – magazine store กลับพิสูจน์ให้เห็นว่าเสน่ห์ของสิ่งพิมพ์ยังมีชีวิตชีวาและน่าหลงใหลเสมอ แม้โลกจะบอกว่าทุกอย่างควรอยู่บนคลาวด์
แม้ว่าที่นี่ไม่ได้พยายามตะโกนว่ามันมีอะไรพิเศษ แต่มันก็เต็มไปด้วยบทสนทนาที่แอบซ่อน ร้านนิตยสารแห่งนี้ที่ก่อตั้งโดย ‘นภษร ศรีวิลาส’หรือ ‘ย้วย’ ที่คนในวงการคอนเทนท์รู้จักกันดี
ล่าสุดเพิ่งย้านร้านจากสุขุมวิท 49 มาอยู่ที่สุขุมวิท 67 หมาดๆ มาทั้งยกโรงคั่ว บาร์กาแฟ และชั้นนิตยสารทางเลือกมาอยู่ในที่เดียวกัน หลังจากที่เจ้าของร้านเปลี่ยนสถานะไม่โสดแล้วแถมยังมีคู่ชีวิต ‘เฟิม-เฟื่องฟู จิรัฐิติวณิชย์’ โรสเตอร์ บาริสต้ามือรางวัลและลูกน้อยอีกคน
ที่ผ่านมา ย้วยเคยนิยามตัวเองว่าเป็น “ร้านจำหน่าย Magazine, Things และ Coffee” ใครที่เคยมา ต่างรู้ดีและดูออกว่ามีอะไรมากกว่านั้น ตรงชั้นวางเต็มไปด้วยนิตยสารหลากหลายจากทั่วโลก แต่ละเล่มถูกคัดสรรมาอย่างตั้งใจ ไม่ใช่เพราะมันดัง แต่เพราะมันมีเรื่องเล่า มีคอนเซ็ปต์ มีความเป็น timeless ที่ทำให้คุณหยิบมาอ่านซ้ำได้เรื่อยๆ แม้กาลเวลาจะผ่านไปนอกจากนิตยสารแล้ว ทั้งยังมี zines, art books และสิ่งพิมพ์อิสระจากศิลปินหรือสำนักพิมพ์ทั้งในและต่างประเทศด้วย
อื่นใดร้านแห่งนี้ไม่ได้มีแค่หนังสือหรือแมกกาซีน คุณจะพบกับ selected items เล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ชีวิตมีสุนทรียะขึ้น และแน่นอนมีกาแฟ คั่วกลาง คั่วอ่อนแบบพอดีๆ จิบไปเรื่อยๆ เคล้าบทสนทนาขณะที่กำลังพลิกหน้านิตยสาร อ่านบทสัมภาษณ์ของศิลปินที่คุณไม่เคยรู้จักมาก่อน หรือบางทีก็มี Merchandise ดีๆ มาวาง สิ่งเล็กๆ เหล่านี้ไม่ได้ถูกวางขายเพราะมันขายดี แต่เพราะเจ้าของร้านรู้ว่าชีวิตที่ดีไม่ได้อยู่ที่ความเร็ว แต่อยู่ที่รสนิยม
ที่ตั้ง : พระโขนง (สุขุมวิท 67)
เวลาทำการ: เปิด 10.00 – 17.00 น. (หยุดอังคาร-พุธ)
FB และ IG : Rockpaperscissors Bkk
5.Book&Belongings
หลายคนมักมีความเชื่อว่า สถานที่”ดี” มักไม่ได้วัดกันที่ขนาดหรือทำเลทองแต่เป็น “เรี่ยวแรง” ที่เจ้าของบรรจุไว้ในทุกตารางนิ้วของการคัดสรรและ ‘Book&Belongings’ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยบางจากย่าน South Sukhumvit ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น
ประตูติดโปสเตอร์ว่า “Read Books Buy Books Buy Local” และหนังสือที่เรียงรายรอให้ใครสักคนมาพลิกดู…บางครั้ง ชื่อของสถานที่ก็บอกอะไรเราได้มากกว่าที่คิด ร้านหนังสืออิสระแห่งนี้ตั้งใจเชื่อมโยงอย่างเป็นธรรมชาติระหว่าง”หนังสือ” (Book) ที่บรรจุความคิด กับ “สิ่งของ” (Belongings) ตามความหมายอย่างตรงไปตรงมา
สิ่งที่สัมผัสได้คือ ความสงบที่ถูกจัดวางอย่างตั้งใจ ทุกองค์ประกอบของร้านล้วนมีบทสนทนากับเราไม่ว่าจะเป็นแสงที่ตกกระทบ หนังสือที่นี่คือการเลือกแบบ “คนรักกัน” ไม่ใช่แค่เลือกตามกระแส แต่เลือกด้วยความเข้าใจและอยากส่งต่อสาระสำคัญ ตามความมุ่งหมายของ ‘โย-กิตติพล สรัคคานนท์’ เจ้าของร้าน
โย พยายามคัดสรรหนังสือคุณภาพจากทั่วโลก ทั้งหนังสือภาพ (ที่มีลายเซ็นและนัมเบอร์มาให้คนที่ชอบสะสม) หนังสือศิลปะ งานออกแบบ (Art Gallery Style) ไปจนถึงงานเขียนเชิงปรัชญา สังคมนอกจากนี้ก็ยังมีหนังสือทฤษฎีศิลปะ ภาพยนตร์ อาหาร ภาพถ่าย บทละคร วรรณกรรมคลาสสิกและความเรียงที่ชวนให้หยุดคิดถึงชีวิต รวมถึงหนังสือแนวเศรษฐศาสตร์ ดิจิทัล เทคโนโลยีตามความสนใจของผู้ร่วมก่อตั้งอีกคน
ใครที่เคยมาแล้วบ้างก็บอกว่า การมาร้านนี้บางทีก็เหมือนเข้ามาในอาร์ตแกลเลอรี่ที่ได้คัดเลือกงานต่างๆ ให้ผู้เข้ามาเยือนได้เข้าใจมูฟเมนต์ของศิลปะแขนงต่างๆ มากขึ้นและบางครั้งนเชลฟ์ยังซุกซ่อนหนังสือเก่าของเจ้าของร้านที่สะสมไว้มาสร้างเซอร์ไพรส์ให้ลูกค้ารื้อค้น แถมยังเป็นคอมมูนิตี้สเปซที่อบอุ่น เป็นกันเองสำหรับคนรักหนังสือและงานศิลปะด้วย
ที่ตั้ง : ซอยสุขุมวิท 95 แขวงบางจาก
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 19.00 น.
FB : Books & Belongings
Website https://booksandbelongings.com/
6.RCB Bookstore
ถ้าร้านหนังสือทั่วไป คือพื้นที่สำหรับจินตนาการ ‘RCB Bookstore’ ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาจักรแห่งศิลปะและของเก่าอย่าง ‘River City Bangkok’ ก็พยายามสร้างขึ้นเพื่อเป็นฮับ พร้อมเปิดรับศิลปะร่วมสมัย และทำหน้าที่เป็นเหมือนบรรณารักษ์แห่งพิพิธภัณฑ์ที่คัดสรรความรู้มาบรรจุไว้ในรูปแบบที่พกพากลับบ้านได้ด้วย
คอลเล็กชันที่ RCB Bookstore คัดมาส่วนใหญ่เป็นการสำรวจที่ลึกซึ้งในวงการศิลปะและวัฒนธรรม มีจุดยืนชัดเจนว่า นี่คือสวรรค์ของคนรัก Art Book และหนังสือหายากที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ เน้นหนังสือศิลปะ หนังสือประวัติศาสตร์ศิลป์และโฟโต้บุค รวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับโบราณวัตถุและวัฒนธรรมไทย-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลายเล่มถูกจัดพิมพ์อย่างประณีต หรือเป็นผลงานที่หาได้ยากจากนิทรรศการระดับโลก เราไป ‘River City Bangkok’บ่อยครั้ง เห็นด้วยเลยว่าการมีร้านหนังสือช่วยเติมเต็มบทสนทนาที่เกิดขึ้นในแกลเลอรีและพื้นที่จัดแสดง นิทรรศการต่างๆ ของ RCB ได้ดีขึ้นเป็นกอง
บรรยากาศของร้านที่โปร่งโล่ง แต่ไม่ได้มีกำแพงกั้น บรรยากาศของร้านจึงมีความสงบและทันสมัย เข้ากันได้ดีกับการเป็นพื้นที่ที่มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับงานศิลปะ แถมยังเป็นการย้ำเตือนว่า…ศิลปะไม่ได้เป็นเพียงสินค้าฟุ่มเฟือย แต่ยังเป็นความรู้พื้นฐานที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ผ่านปลายนิ้วสัมผัสและแผ่นกระดาษด้วยอีกทาง
ที่ตั้ง : River City Bangkok (เจริญกรุง 30 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา)
การเดินทาง : ท่าเรือสี่พระยา หรือ BTS สะพานตากสิน แล้วต่อเรือโดยสาร
FB : RCB Bookstore
Website https://rivercitybangkok.com/product-category/books/
7.Spacebar Zine
ก่อนหน้านี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเข้ามาของออนไลน์ทำให้ผู้คนในวงการสิ่งพิมพ์ นิตยสาร พ็อกเก็ตบุคเหวอกันใหญ่ การเดินทางมาถึงของอีบุค แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ทำเอาคนในวงการนี้หลายรายล้มตึงชนิดหงายท้อง ลุกไม่ขึ้น! แต่ก็ไม่ได้เหมารวมว่าจะหายไปทั้งหมด
ยังมีกลุ่มคนเล็กๆ ที่ยังมีแพชชั่น(ใหญ่) เต็มไปด้วยความเชื่อและความหวังอย่างน่าชื่นชม ในยุคที่ทุกอย่างเคลื่อนไหวอยู่บนหน้าจอ แต่ ‘Spacebar Zine’ กลับเลือกที่จะพาตัวเองและผู้มาเยือนย้อนกลับไปสู่เสน่ห์ของ ‘กระดาษ’ และชั้นเชิงของศิลปะทำหนังสือทำมือที่ถูกขับเคลื่อนโดยพลังบวกของคนทำที่เชื่อว่า Print is not dead, but boring print will.
นอกจากชั้นวางขาย ที่นี่ยังมี Zine Library ที่เจ้าของร้านซื้อสะสมไว้ เพื่อให้ผู้สนใจได้มาเห็นไอเดียที่หลากหลาย ทั้งรูปแบบการเล่าเรื่อง การเข้าเล่ม เลย์เอาท์ งานออกแบบ ภาพถ่าย งานคอลลาจ ฯลฯ นี่คือการตอกย้ำว่า แรงบันดาลใจคือสิ่งที่เราหาได้จากการ ‘เปิดดู’ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะสร้างสรรค์ซีนในรูปแบบของตัวเอง โดยมีพวกเขาคอยให้คำปรึกษาในการผลิตตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะพวกเขาเชื่อว่า ทุกคนสามารถมีสิ่งพิมพ์เป็นของตัวเองได้อย่างอิสระ และไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ Spacebar Zine เลือกที่จะปักหลักใน GalileOasis อยู่ร่วมกับแกลเลอรี โรงละคร และคาเฟ่ ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าหน้าร้าน แต่เป็น ‘คอมมูนิตี้’ ที่ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนไปด้วย
ล่าสุดแว่วมาว่าเดือนตุลาคมนี้ Spacebar Zine ได้ขยายไปวางเชลฟ์ ที่ FRIEND FRIEND เอมโพเรียม ชั้น 3 ด้วยนะ ใครสะดวกไปตำที่ไหนก็ตามไปได้เล้ย
ที่ตั้ง : (สาขาหลัก) GalileOasis (ซอยจุฬาฯ 5)
Pop-up Corner ใหม่: a zine corner : SPACEBAR ZINE ที่ร้าน FRIEND FRIEND, ชั้น 3, ดิเอ็มโพเรียม (สุขุมวิท)
เวลาทำการ : (สาขาหลัก GalileOasis): โปรดตรวจสอบทาง Social Media
FB : Spacebar Zine
IG : spacebarzine
8.Flobookstore
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลายคนคงพอจะรู้จัก FLOHOUSE คอนเซปต์สโตร์ที่รวมร้านเฟอร์นิเจอร์ คาเฟ่ ร้านหนังสือไว้ในที่เดียวกันกันมาบ้างแล้ว
แน่นอน เราขอเลือกโฟกัสที่ Flobookstore ร้านหนังสือดีไซน์ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 36 ส่วนหนึ่งของพื้นที่ ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมและคัดสรรหนังสือเกี่ยวกับงานดีไซน์โดยเฉพาะ ตัวร้านมีการออกแบบอย่างตั้งใจ ให้ความรู้สึกแบบสแกนดิเนเวียนที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยรสนิยม พื้นที่ภายในร้านถูกจัดวางอย่างดี โดยเจ้าของตั้งใจให้พื้นที่นี้กลายเป็น concept store แหล่งไอเดียใหม่ๆ สำหรับคนที่มาเยือน
ที่ผ่านมาหนังสือที่คัดสรร มีความหลากหลายตั้งแต่หนังสือดีไซน์ ศิลปะ ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมที่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่หนังสือที่ถ่ายทอดเรื่องผลงานของดีไซเนอร์และหนังสือที่เล่าเรื่องชีวิตของดีไซเนอร์เหล่านั้น รวมไปถึงหนังสือเล่มอื่นๆ ให้ทำให้คนอ่านเห็นความเชื่อมโยงของดีไซเนอร์แต่ละคนในแต่ละยุคสมัยอาทิเช่น หนังสือของดีไซเนอร์ระดับโลกอย่าง Dieter Rams และ Alvar Aalto แถมยังมีคอลเล็กชันที่นี่มีความพิเศษและเน้นเฉพาะทาง ตั้งแต่หนังสือเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ สถาปัตยกรรมภายใน ไปจนถึงการออกแบบตัวอักษร (typography) และทฤษฎีสี ไปจนถึงวารสารดีไซน์ หนังสือหายากจากสำนักพิมพ์อิสระในยุโรปหรือวารสารดีไซน์ของญี่ปุ่น ทำให้เป็นสถานที่ที่ครบครันสำหรับผู้ที่สนใจงานสร้างสรรค์ ที่ต้องการหาแรงบันดาลใจและเรียนรู้เรื่องราวเบื้องหลังของงานดีไซน์อย่างแท้จริง
ล่าสุดกำลังปรับปรุงพื้นที่ใหม่ พร้อมจะเผยโฉมต้อนรับผู้มาเยือนในเร็วๆ นี้ หลังวันที่ 10 ตุลาคมถ้าใครชอบแนวนี้แวะไปได้เลย
ที่ตั้ง : FLOHOUSE, สุขุมวิท 36, กรุงเทพฯ
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 10.00 – 19.00 น.
FB : Flobookstore หรือ Flo
9.Hardcover: The Art Book Shop
ท่ามกลางบรรยากาศที่โล่งกว้างบนชั้น 6 ของ Central Embassy ตรงส่วนที่เรียกว่า Open House จะพบกับอาณาจักรหนังสือที่ดูไม่ธรรมดาอย่าง Hardcover The Art Book Shop สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตา คือตู้หนังสือขนาดยักษ์ที่สูงตระหง่านท้าทายเพดาน การจัดวางที่ไม่คุ้นตานี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นเจตจำนงที่แสนละเอียดอ่อนของผู้ก่อตั้งอย่าง ‘เชน สุวิกะปกรณ์กุล’ เจ้าของร้านที่เชื่ออย่างหมดหัวใจว่า… ศิลปะควรเป็นเรื่องที่จับต้องได้
อีกความตื่นตะลึง คือ พวกเขาทั้งจงใจและตั้งใจจัดวางหนังสือปกแข็งเล่มใหญ่ ราคาหลักพันหลักหมื่นเหล่านั้นให้ดูเป็นมิตร ชวนผู้มาเยือนสามารถหยิบจับและเปิดดูได้โดยไม่ต้องเกรงใจ นี่คือการ ทลายกำแพงความเชื่อเดิมๆ ที่ว่าหนังสือศิลปะชั้นสูงต้องถูกเก็บไว้หลังตู้กระจกอย่างหวงแหน
ย้อนกลับไปการเดินทางของ Hardcover ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2012 เริ่มจาก Pop-up Shop ที่เซ็นทรัลเวิลด์ แล้วก็ทำอีกร้านที่ที่ BACC หรือ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในช่วงเวลาใกล้ๆ กัน กระทั่งในปี 2014 ย้ายมาเปิดที่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี จวบจนปี 2017 เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ชั้น 6 หรือ Open House ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ส่วนหนึ่งสเปซที่ลงตัวนี้ แต่ละมุมถูกออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกชื่อดัง ‘Klein Dytham’ Architecture (ผู้ออกแบบ Tsutaya ในญี่ปุ่น) ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวภายในร้านเป็นไปอย่างช้าๆ และเป็นการเดินทางค้นหาหนังสือน่าอ่านที่เต็มไปด้วยการค้นพบ หลายคนยกนิ้วให้พร้อมยกย่องว่า นี่คือร้านหนังสือสำหรับแวดวงศิลปะที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในบ้านเรา
เพราะหัวใจสำคัญของ Hardcover คือการเป็น ‘แหล่งรวม’ ขุมทรัพย์ทางปัญญาที่เจาะจงเฉพาะทาง ทั้งงานออกแบบ สถาปัตยกรรม แฟชั่น และภาพถ่าย ไม่ใช่แค่หนังสือที่เต็มไปด้วยรูปสวยๆ แต่เป็น Ecosystem ของวงการศิลปะ
ที่นี่จึงเป็นแหล่งสะสมความรู้และสุนทรียะของผู้คนหลายวงการ นับตั้งแต่ ศิลปิน สถาปนิก ภัณฑารักษ์ และนักออกแบบที่ต้องการค้นคว้าข้อมูลที่ลึกซึ้งไปกว่าสิ่งที่เห็นด้วยตา หนังสือแต่ละเล่มที่เลือกสรรมาจึงเต็มไปด้วยความหมาย อีกเครื่องมือสำคัญในการสร้างสรรค์โลกใหม่ๆ รวมถึงยังเป็นชั้นหนังสือที่พำนักของตำราข้อมูลเชิงวิชาการ ด้านศิลปะตั้งแต่เบาไปจนถึงการแหล่งค้นหาบริษัทประมูลงานศิลปะ หรือข้อมูลอ้างอิงทำสูจิบัตรจัดแสดงงานในพิพิธภัณฑ์เลยก็มี เรียกว่าเลือกเฟ้นคัดสรรอย่างลึกซึ้ง ใครตามหาหมวดไหนอยู่ หาเวลาว่างไปเถอะรับรองชุบชูใจ
ที่ตั้ง : Open House, ชั้น 6, Central Embassy
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 10.00 – 22.00 น.
Website http://www.hardcovershoponline.com/
10.Bookbrother
ร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งใจสื่อสารกับลูกค้าผ่านอินสตาแกรม ถ้าเราจะขออวยยศว่า ‘BookBrother’ คือเชลฟ์หนังสือแห่งรสนิยมที่รู้ใจคนรักบ้านและอาร์ตบุคก็คงไม่ผิดมั้ง โดยที่เหล่านักอ่านนักเสพย์หนังสือสวยอย่างคุณสามารถเลื่อนผ่านและซึมซับแรงบันดาลใจได้ทุกวัน
เราไปตามสืบมาพบว่า ร้านนี้เริ่มโพสต์ปรากฏอยู่บนฟีดตั้งแต่ 29 มกราคมที่ผ่านมา เสน่ห์และทีเด็ดของ BookBrother อยู่ที่การเลือกหนังสือที่เต็มไปด้วย ‘ลายเซ็น’ ชัดเจน พวกเขาไม่ได้เลือกตามกระแส แต่เลือกจากคุณภาพของเนื้อหาและดีไซน์ของตัวเล่มที่ทำหน้าที่เป็นงานศิลปะในตัวเอง ไม่เชื่อลองไถดูสิ…
หนังสือแต่งบ้านที่คัดมาพาเราไปไกลกว่าการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ แต่เป็นการสำรวจ ปรัชญาของการใช้ชีวิต ผ่านสถาปัตยกรรม การจัดแสง การเลือกวัสดุ และการสร้างพื้นที่ให้เกิดความรู้สึก หนังสือแต่ละเล่มที่เลือกมาจึงเป็นเหมือนคู่มือช่วย ‘ยกระดับ’ รสนิยมในการใช้ชีวิตประจำวันไปด้วยในตัว ส่วนอาร์ตบุ๊คพวกเขามองหาหนังสือภาพถ่ายหายาก หรือผลงานกราฟิกดีไซน์ที่มีความลุ่มลึก แต่ละเล่มควรค่าแก่การสะสมเพราะบางทีหนังสือเหล่านี้ไม่ได้มีไว้แค่อ่าน แต่มีไว้เพื่อเป็นองค์ประกอบของการตกแต่ง เป็นตัวแทนของรสนิยมที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะกาแฟหรือชั้นหนังสือในบ้านช่วยเปลี่ยนโหมด total look ให้ดูดีขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว
IG : bookbrother.th
11.Turn : Books
ปิดท้ายด้วยแหล่งมั่วสุมของคนรักหนังสือย่านชานเมือง ขอป้ายยาเอาไว้ว่าในวันที่ชีวิตต้องการการ ‘Turn’ หรือการหันเหไปสู่มุมที่สงบและมีแรงบันดาลใจ ให้แวะมาร้านหนังสือแห่งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้คนโหยหาความเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความหมาย เป็นเหมือนโอเอซิสเล็กๆ ที่มอบความสดชื่นและมุมมองใหม่ๆ ให้ความหวังกับคนรักหนังสืออาร์ตและศิลปะว่า ไม่จำเป็นต้องอยู่ใจกลางเมืองเสมอไป
ที่นี่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวและเป็นกันเองอย่างที่สุด ราวกับกำลังแวะมาเยี่ยมห้องสมุดของเพื่อนนักสะสมที่บ้าน แม้จะอยู่ในช่วงของการจัดเตรียมและยังอายๆ ที่จะเปิดตัว แต่ความรู้สึกของความตั้งใจนั้นชัดเจน มีทั้งหนังสือสำหรับนักอ่านที่หลงใหลในวรรณกรรมและองค์ความรู้ พวกเขาคัดสรร วรรณกรรมภาษาอังกฤษและหนังสือวิชาการคุณภาพดี ที่เหมาะสำหรับนักค้นคว้าและผู้ที่ต้องการความลุ่มลึกในเนื้อหา นอกจากนี้ยังมี Coffee Table Books ที่มอบให้อ่านฟรี แต่ความน่ารักที่แท้จริงคือหนังสือที่เจ้าของบ้านจัดเตรียมไว้ให้อ่านเล่น ด้วยอารมณ์ขันและใจกว้าง ทั้งหนังสือด้านงานออกแบบ นวนิยายภาพ ศิลปะ และ คุกบุ้ก
เอาเป็นว่าให้กำลังใจเจ้าของในการจัดร้านด้วยการรออย่างใจจดใจจ่อ…(ไม่กดดัน 555) แต่จะทักไปบ่อยๆ ว่าเข้าไปได้แล้วรึยังค่ะ?
เนื่องจากร้าน Turn : Books กำลังอยู่ในช่วงจัดเตรียมและเปิดให้บริการในลักษณะที่เป็นกันเอง จึงมีแนวทางปฏิบัติในการเข้าเยี่ยมชมที่เฉพาะเจาะจงตามที่เจ้าของร้านได้แจ้งไว้
ที่ตั้ง: ปทุมธานี
ต้องติดต่อผ่านเพจหรือเจ้าของร้านก่อน ไปที่ FB หรือ IG ” Turn : Books ” เพื่อส่งข้อความสอบถามและนัดหมายการเข้าเยี่ยมชมล่วงหน้า