เมนูเด็ดขึ้นชื่อของร้านไม่ควรพลาด เมี่ยงทอด ที่นี่ใช้ใบเมี่ยง ไม่ใช่แผ่นเปาะเปี๊ยะหรือแผ่นแป้ง สูตรดั้งเดิมของร้านจะเป็นไส้หมูสับผสมหอมหัวใหญ่และถั่วงอก ปรุงรสให้กลมกล่อม ห่อด้วยใบเมี่ยงแล้วทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวานและผักสด เคล็ดลับความอร่อยของร้านคือจะทอดจานต่อจานเท่านั้น (ราคาชุด 3 แท่ง 85 บาท /ชุด 5 แท่ง 130 บาท)

“ตั้งแต่เปิดร้าน คุณแม่ทอดอย่างนี้มาตลอด จะกำหนดว่าลูกค้าสั่งแล้วค่อยทอด ไม่ให้ทอดรอ ขายดีก็ไม่ให้ทำทิ้งไว้ ต้องทอดจานต่อจานเสมอ คุณแม่แนะนำว่า ใครอยากกินให้โทร.มาสั่งก่อน 20-30 นาที รับรองว่าเป็นการรอที่คุ้มค่า เพราะอร่อยกว่า ถ้าทอดไว้จะชืดและเหนียวขึ้น นี่คือเหตุผลว่าถ้าอยากกินต้องอดใจรอหน่อย”

ส่วน แหนมเนือง จะเตรียมวัตถุดิบตอนค่ำสำหรับทำขายตลอดวัน เลือกใช้หัวไหล่หมูที่มีความเหนียวเด้งนำมาปั้นด้วยมือแล้วนำไปย่าง ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้ม ซึ่งแต่ละร้านจะมีสูตรแตกต่างกัน ที่นี่ใส่แป้งมันสำปะหลังเป็นส่วนผสมหลัก ปรุงรสชาติให้หวานนำ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง ผักสด และแผ่นแป้งที่เหนียวหนึบ (ราคาชุด 3 ไม้ 150 บาท / ชุด 5 ไม้ 230 บาท)

อีกเมนูขึ้นหิ้งของร้านคือ พิซซ่าเวียดนาม (160 บาท) อย่างที่เกริ่นไว้ว่ามีการคิดรูปแบบการจัดจานให้คล้ายกับพิซซ่า ซึ่งก็แลกมาด้วยกรรมวิธีการทำที่ซับซ้อนขึ้น ต้องทำทีละชั้น ชั้นล่างสุดเป็นข้าวเกรียบผสมงาดำ โรยด้วยหมูสับ ต้นหอมซอย หมูยอ และหอมเจียว บนสุดท็อปด้วยไข่ เวลากินจะได้สัมผัสกรุบกรอบผสมกับนุ่มละมุนในคำเดียว เป็นอีกเมนูที่ต้องทำจานต่อจาน เพราะข้าวเกรียบเมื่อโดนความร้อนแล้วจะเปื่อยยุ่ยนั่นเอง

ยังมีเมนูเด่นอย่าง แหนมคลุก (75 / 130 บาท) นำข้าวมาปั้นคลุกเคล้ากับหมูสับและหนังหมู ปรุงรสเปรี้ยวนำ กินคู่กับใบชะพลู ผักกาดแก้ว และพริกทอดกรอบ จะเพิ่มรสชาติมากขึ้น ขนมปากหม้อ (60 บาท) ขึ้นแป้งเองด้วยส่วนผสมเฉพาะของร้าน นำมาละเลงลงบนผ้าขาวบางให้สุกด้วยไอน้ำร้อน ใส่ไส้หมูผัดกับต้นหอม แล้วม้วนเป็นแท่ง โรยหอมเจียว เสิร์ฟคู่กับหมูยอและน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน และ ขนมเบื้องญวน (80 บาท) แป้งบางกรอบอัดแน่นด้วยไส้หมูสับ เห็ดหอม แครอต กุ้งแห้ง ถั่วงอก กินกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวานโรยแตงกวา เป็นของเรียกน้ำย่อยได้ดี

“อาหารเวียดนามของอรุณีแหนมเนืองจะรวมเทกเจอร์กรอบและนุ่มในคำเดียว เราใส่ใจตั้งแต่รุ่นคุณแม่จนมาถึงรุ่นเรา และพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาหารเวียดนามเหมาะกับการกินเป็นกลุ่ม เป็นครอบครัว เหมือนเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกัน ทำให้เรารักการกินอาหารร่วมกัน” คุณนิชาดาบอกถึงเสน่ห์ของอาหารเวียดนาม

ไม่เพียงเท่านั้น อรุณีแหนมเนือง ยังยกระดับการทำร้านอาหาร ด้วยความใส่ใจและพิถีพิถันมากขึ้น ภายใต้แนวคิดการทำธุรกิจยั่งยืน ESG (Environment Social Governance) โดยเลือกใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นและชุมชนที่ได้รับมาตรฐานเป็นหลัก อย่างใบเมี่ยงและแผ่นแป้งจากชุมชนใน อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ถั่วงอกจากฟาร์มงอกงอย จ.อุดรธานี ที่ปราศจากสารฟอกขาว ซึ่งปลอดภัยต่อคนกิน

นอกจากนี้ ยังนำของเหลือทิ้งอย่างผักและเศษอาหารหมุนเวียนกลับมาทำปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อใส่ในแปลงผักของร้าน และส่วนหนึ่งแจกให้ลูกค้ากลับไปใส่ต้นไม้ที่บ้านด้วย โดยมีเป้าหมายสู่ Zero Food Waste และเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นตัวตั้ง จึงนับว่าเป็นร้านของดีแห่งเมืองอุดรธานีที่ควรค่าแก่การปักหมุดพิกัดความอร่อยอย่างแท้จริง